บทที่สาม

1860 Words
เมื่อตัดสินใจมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ นี่เป็นวันแรกที่ดาริกาเดินทางเข้ามาในมหาวิทยาลัย หญิงสาวใช้เวลาร่วมเดือนกว่าจะปรับตัวให้ชินกับการอยู่คนเดียว หลังวันที่ขอยกเลิกสถานะงานหมั้น หลายสัปดาห์หลังจากนั้นก็วุ่นอยู่กับการทำเรื่องเอกสารต่าง ๆ ที่ทำเอาปวดหัวไปพักใหญ่ แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่งก็ดีเหมือนกัน เพราะตนจะได้ไม่มีเวลาคิดถึงอาคิราให้ปวดใจ เวลานี้เธอโฟกัสอยู่ที่อนาคตตัวเองมากกว่าคนในอดีตเช่นเขา ดาริกาเดินไปยังม้านั่งใต้คณะเพื่อที่จะไปเจอกับ ‘ฟากฟ้า’ และ ‘น้ำมนต์’ เพื่อนใหม่ร่วมแก๊งที่ดาริกาเพิ่งทำความรู้จักช่วงเข้ามารายงานตัว ทั้งสามสาวมีเลขรหัสนักศึกษาใกล้เคียงกัน แถมยังมารายงานตัวพร้อมกันอีกด้วย บวกกับดาริกาเป็นคนอัธยาศัยดี แถมยังเข้ากับคนอื่นง่ายจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะมีเพื่อนสนิทอย่างรวดเร็ว “มาแต่เช้าเลยนะพวกแก” ดาริกาเอ่ยทักเพื่อนทั้งสองคนที่ นั่งรออยู่แล้วบริเวณจุดนัดหมาย ทั้งฟากฟ้าและน้ำมนต์นั้นเป็นนักเรียนทุนและอาศัยอยู่ในหอพักที่ทางมหาลัยฯ เตรียมไว้ให้ แต่ดาริกานั้นต่างออกไป นับว่าเป็นโชคดีที่บิดาเดินทางเข้าเมืองกรุงอยู่บ่อย ๆ ท่านจึงซื้อคอนโดไว้โดยปริยาย ทว่าถึงฐานะสองสาวจะผิดกับดาริกาลิบลับ แต่ทั้งสามคนเข้ากันได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่เธอเป็นคนง่าย ๆ มีนิสัยไม่เหมือนพวกลูกคุณหนูเอาแต่ใจ ที่ส่วนใหญ่มักจะเลือกคบเพื่อนจากฐานะไม่ใช่นิสัย “นี่น้ำมนต์มันเตรียมอะไรมาอะฟ้า เอาช็อกโกแลตมาทำไมเนี่ย กล่องใหญ่มาก เอามาแบ่งดาวเหรอ” ทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อนกลางคณะก็เห็นช็อกโกแลตกล่องใหญ่วางอยู่ตรงหน้า ด้วยความขี้สงสัยประกอบกับท่าทีตื่นเต้นของเพื่อนสาวตัวดีทำเอาดาริกาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ มือบางเอื้อมหยิบกล่องสีทองมองแค่ผ่านตาก็พอจะรู้ว่ามูลค่าน่าจะแพงเอาเรื่อง แต่ยังไม่ทันสำรวจเพิ่มเติมน้ำมนต์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกลับตีมือเธอสุดแรง “อะไรอะมนต์ ดาวเจ็บนะ” ดาริกาแสร้งร้องอวดครวญคล้ายเจ็บปวดเสียเต็มประดา และทั้งสามคนรู้ดีว่าท่าทีทั้งหมดเพียงหยอกล้อกันสนุกสนาน “สมน้ำหน้า ก็ดาวอยากมือซนไปแตะต้องของขวัญใจยายมนต์ทำไม” ฟากฟ้าที่เห็นสีหน้าเจ็บปวดของดาริกาแซวขึ้นมา “ขวัญใจยายมนต์ ใครอะ หรือมีแฟนแล้วเก็บเงียบไม่ยอมบอกกัน” เมื่อได้ยินเรื่องที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อนทำเอาเธอหูผึ่งต่อมอยากรู้อยากเห็นทำงานอย่างหนักหน่วง ขวัญใจน้ำมนต์คือใครกันนะ คงพิเศษมากเพราะช่วงปรับพื้นฐานกระทั่งปัจจุบันยังไม่เคยเห็นเพื่อนสาวปลื้มใคร เห็นจะมีบ้างที่ฟากฟ้าเอ่ยชมผู้ชาย แต่สาวหวานอย่างน้ำมนต์น่ะไม่เคยได้ยิน นี่คงเป็นเหตุผลที่หล่อนไม่สนใจคนอื่น เพราะมีหนุ่มในดวงใจแล้วนั่นเอง “แก ๆ มาแล้ว” ยังไม่ทันที่น้ำมนต์จะไขข้อกระจ่าง ความสนใจทั้งหมดของทั้งสามถูกเบี่ยงไปยังหนุ่มหล่อกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งเดินเข้ามาในคณะและผ่านหน้าพวกเธอ “คนไหนฟ้า” ดาริกาสะกิดมือเพื่อน ตาคู่งามประกายขึ้นฉายแววสนอกสนใจ “นั่นไงคนนั่นที่ขาวสุดในกลุ่ม หล่อออร่าแรงที่สุด รีบไปสิมนต์เดี๋ยวพี่รบเดินไปก่อนนะ” ฟากฟ้าส่งเสียงเชียร์ เมื่อเห็นเป้าหมายที่เพื่อนหมายตากำลังจากไปดื้อ ๆ ก็เร่งปฏิกิริยาน้ำมนต์ทันที ส่วนดาริกาน่ะไม่รู้เรื่องอะไรกับใครหรอก เธอเพียงมองตามทิศที่ว่ากระทั่งสะดุดตากับใครคนหนึ่ง เขาคือเจ้าของร่างสูงที่น้ำมนต์มุ่งหน้าไปหา ชายหนุ่มหน้าตาดี ที่ตอนนี้สวมใส่เครื่องแบบนักศึกษาค่อนข้างผิดระเบียบ แต่สามารถดึงความสนใจผู้คนบริเวณนั้นให้หยุดมองที่เขาในพริบตาเดียว “นั่นไงนักรบหรือพี่รบ ขวัญใจยายมนต์” เจ้าร่างสูงที่ฟากฟ้าเอ่ยมีใบหน้าหล่อแบบหนุ่มลูกครึ่ง นัยน์ตาคู่เรียวคมเข้มเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ หากเผลอจ้องตาสีน้ำตาลอ่อนใกล้ ๆ อาจโดนดึงดูดจนเผลอหวั่นไหวแน่ แม้เขามีผิวขาวจัดแต่ก็เผยให้เห็นเลือดฝาดตามประสาคนชอบออกกำลังกาย เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้ำมนต์ถึงตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ ‘นักรบ’ หรือ พี่รบ ที่เพื่อนเธอพูดมีเสน่ห์สามารถดึงความสนใจเพศตรงข้ามได้มากจริง ๆ แต่ทว่าความรู้สึกทุกอย่างกลับต้องหยุดชะงักเปลี่ยนเป็นตกใจแทน เมื่อดาริกาเห็นว่านักรบนั้นปัดกล่องช็อกโกแลตที่น้ำมนต์ยื่นให้พร้อมกอดอกไม่ไยดี ท่าทีรังเกียจจากเขาเล่นเอาน้ำมนต์ที่ตื่นเต้นอยู่แล้วตัวสั่นขวัญกระเจิงยิ่งกว่าเดิม เขาคลี่ยิ้มเย็นก่อนไหวไหล่บอก “เธอนี่กล้าใช้ได้เนอะถึงเอาของแบบนี้มาให้ฉันกลางคณะ ไม่อายบ้างหรือไง” เสียงเนิบ ๆ เอ่ยถาม ภายนอกชายหนุ่มดูดีทุกกระเบียดนิ้วแต่นัยน์ดุเข้มนั่นไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ไม่ว่าจะเป็นคำพูดลามมาถึงการกระทำแม้ดูสง่าแค่ไหน แต่แฝงไออันตรายเสมอ “อะ…เอ่ออ..คะ..คือ มนต์แค่ปลื้มพี่… หวังว่าพี่จะรู้ความรู้สึกข้างในของมนต์ค่ะ” “ฮ่า ๆ เฮ้ยรบน้องกลัวหมดแล้ว… มึงก็รับรักแล้วนัดน้องไปคุยต่อที่ผับคืนนี้ดิวะจะได้เคลียร์” เพื่อนในกลุ่มชายหนุ่มนึกสนุกจึงโพล่งแซวทำสาวน้อยอายแทบมุดแผ่นดินหนี ปากบอกให้รับรักและหยุดเหตุการณ์วุ่นวาย แต่ใจน่ะนึกสนุกเพราะไม่เห็นอะไรเด็ด ๆ แบบนี้มาสักพัก “หึ…เห็นอย่างนี้กูก็เลือกนะ…โทษทีว่ะแต่อย่างเธอไม่ใช่สเป็กฉัน” นักรบแค่นยิ้มหยันพลางพ่นวาจาร้ายเล่นเอากลุ่มเพื่อนข้างกายหัวเราะไม่หยุด บ้างก็ปรบมือและผิวปากแซวราวมาดูตลก “ฮะ..ฮึก” น้ำมนต์หน้าเสีย ร่างบางยืนตัวสั่นกัดปากสะอื้น เพราะไม่เคยคิดว่าคนที่ปลื้มจะใจร้ายขยี้หัวใจจนแหลกลาญ ถึงนักรบไม่รักไม่ชอบอย่างไรเสียก็ควรรักษาน้ำใจหล่อนบ้าง ชายหนุ่มโหดร้ายและร้ายกาจสมคำร่ำลือ คนอย่างนักรบ เจริญกิจธาราไม่เคยเห็นหัวใคร! ด้านดาริกาทันทีที่เห็นเพื่อนน้ำตานองก็โกรธตัวสั่น ยิ่งนักรบทำเหมือนจะเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเหยียดหยามเธอยิ่งโมโห หมอนี่คงไม่รู้จักว่ามารยาทสะกดแบบไหน เพราะแค่ปฏิเสธอย่างสุภาพเขายังทำไม่ได้ ภาพจำที่เธอมีต่อนักรบตอนนี้ คือเขาดูถูกหัวใจน้ำมนต์และเหยียบมันไม่ต่างกับสิ่งของไร้ค่า เพียงชั่วครู่ที่อีกฝ่ายหันหลังกลับ ดาริกาเดินเข้าไปใกล้ตัวน้ำมนต์ ก่อนก้มเก็บกล่องช็อกโกแลตที่ชายหนุ่มโยนทิ้งปากระแทกแผ่นหลังกว้างสุดแรง ทำเอาคนสารเลวหันกลับมาทันควัน ปึก! และการกระทำดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับนักศึกษารอบข้าง เพราะทุกคนรู้ดีว่านักรบและกลุ่มเขามีอิทธิพลที่สุดในมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มคือหลานชายคนเดียวของผู้สนับสนุนรายใหญ่ของที่นี่ เรียกได้ว่าถ้าไม่อยากมีปัญหา อย่าริอ่านมีเรื่องกับนักรบ “ทำบ้าอะไรวะ” เจ้าของร่างสูงตวัดสายตาไปยังตัวต้นเหตุ ที่เห็นตรงหน้าคือร่างบางที่มีความสูงต่ำกว่าเขาราวยี่สิบเซนติเมตร เธอตัวเล็กนิดเดียวแต่ใจกล้าบ้าบิ่นจนน่าหมั่นไส้ ใบหน้าหวานเชิดขึ้นอวดดีไม่ต่างกับประกาศไปในตัวว่าถ้าอยากมีเรื่องต่อก็เข้ามาได้ “ทำไมโกรธเหรอหรือกำลังอาย แต่ที่นายทำเมื่อกี้มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรนะ” เธอเลิกคิ้วถาม แววตาจ้องเขม็งชัดเจนว่าไม่พอใจเช่นกัน “เธอเป็นใคร ยุ่งอะไรด้วยวะ” “ฉันคือเพื่อนผู้หญิงที่นายทำตัวแย่ ๆ ใส่เมื่อกี้ไงเป็นปลาทองหรือไงถึงความจำสั้น หรือทำเลวกับคนอื่นไว้มากเลยจำไม่ค่อยได้” “ยัยนี่พูดกับฉันแบบนี้บ้าไปแล้วใช่ไหม” “ฉันยังสติครบดีแต่คนที่เป็นหมาบ้าน่าจะเป็นนายมากกว่านะ ว่าง ๆ ก็ไปตรวจบ้างจะได้ไม่มาเพ่นพ่านกัดคนอื่นไปทั่ว” “ด่าฉันเป็นหมาแบบนี้มันมากเกินไปแล้วนะ เธอเกี่ยวอะไรด้วยขนาด คนที่สารภาพรักเขายังไม่เดือดร้อนเลย หรืออยากมีแสงแทนเพื่อน อยากให้ฉันสนใจว่างั้น” นักรบกำหมัดพลางทำทีจะก้าวมาขย้ำดาริกา ยิ่งเขาทำเหมือนตัวเองถูกต้องเสียเต็มประดายิ่งน่าโมโห คนนิสัยเสียควรโดนตอกกลับให้รู้สำนึกซะบ้าง ไม่เช่นนั้นก็คงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวังวนโสมมอย่างเดิม “เฮอะ ผู้ชายอย่างนายไม่เห็นน่ายุ่งด้วยสักนิด ความจริงที่ฉันลุกขึ้นมาด่าก็เพราะเมื่อกี้นายทำตัวแย่ต่างหาก ถ้าไม่ชอบแค่ปฏิเสธเฉย ๆ มันจะตายหรือไง หรือคิดว่าที่ทำอยู่มันเท่ ทำนิสัยทราม ๆ ใส่ผู้หญิงนายภูมิใจเหรอ!” “นี่เธอ!” ยังไม่ทันที่นักรบจะถึงตัวดาริกา เพื่อนในกลุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบรวบตัวไว้เพราะกลัวเหตุการณ์บานปลาย การฟิวส์ขาดกลางคณะไม่ใช่ภาพที่น่าอภิรมย์นักสำหรับคุณชายตระกูลดัง “ทำไม อยากเข้ามาทำร้ายฉันเหรอ เอาสิทำเลยทุกคนจะได้รู้ว่าผู้ชายอย่างนายมันเก่งแค่ทำผู้หญิงอย่างเดียว” เธอพูดชัดถ้อยชัดคำ “ไม่รู้จักฉันจริงก็อย่าปากมากระวังเหอะเธอจะ…” “พอ ๆ ไอรบกลับ” คำขู่และแววตาโกรธเคืองแทบเผาร่างบางกลายเป็นจุณ แต่ดูแล้วไม่น่ากลัวสักนิดในสายตาดาริกา สำหรับเธอถ้าเลือกอ่อนข้อให้วายร้าย ชายหนุ่มคงมีแต่จะได้ใจมากกว่า เพราะเท่าที่ผ่านมายังไม่เห็นรู้สึกผิดสักนิด เพราะก่อนหันหลังให้ดวงตาคมเข้มคู่นั้นยังฉาดแววว่าอยากฉีกร่างเธอเป็นชิ้น ๆ อยู่เลย ซ้ำร้ายก็แผ่เสียงโวยวายลั่นทางเดิน เมื่อคล้อยหลังคนนิสัยไม่ดี หญิงสาวรีบเข้าไปหาเพื่อนทันที ใบหน้าเปื้อนน้ำตาก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาผู้คนรอบข้าง ชัดเจนว่าน้ำมนต์คงอายน่าดู มือเธอแตะเบา ๆ ลูบไหล่ปลอบโยนเพื่อนจากนั้นก็ประคองกันจากไป ดาริกาสาบานในใจว่าจะไม่มีทางยอมให้หนุ่มร้ายกาจคนไหนย่ำยีหัวใจเพื่อนอีก! ผู้ชายเจ้าชู้นิสัยไม่ดี เธอเกลียด… เกลียดที่สุด!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD