ภายในคาเฟ่ที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้ดอกไม้สีเขียวขจี
เพทายก้าวขาลงจากรถก่อนจะเดินดิ่งเข้าไปในคาเฟ่ ไม่นานหางตาก็สะดุดกับแผ่นหลังของใครบางคน สีผมแฟชั่นสวยเด่น ร่างบางที่แม้จะมองจากทางด้านหลังก็รู้ว่าต้องสวยมากส่งผลให้ฝีเท้าหนักๆ หยุดชะงักทันที
คุ้นเคยกันมาขนาดนี้ เห็นแค่ปลายเล็บเขายังจำได้เลย
“สวัสดีค่ะคุณทาย เอ่อ… มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ” พนักงานในคาเฟ่เอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจมากนัก ทุกคนเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันคือเจ้าของคาเฟ่หล่อและรวยมาก แต่จะมีใครรู้บ้างว่าเขาดุมากเช่นกัน
“ผู้หญิงคนนั้น….”
“อ่อ คุณนาราค่ะ มีนัดคุยธุระกับลูกค้า” ทุกคนรู้จักนาราในฐานะน้องสาวของเพื่อนสนิทเขา ที่จริงพวกเราไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด คนที่นี่รู้จักเธอเป็นอย่างดี
“นัดคุยธุระที่นี่น่ะเหรอ?”
“ค่ะ น่าจะรู้จักกันนะคะ ได้ยินคร่าวๆ ตอนไปเสิร์ฟเครื่องดื่มและเบเกอรี่เห็นว่าทางนั้นสนใจจองวิลล่าเพื่อการสัมนา และน่าจะดีลยาวหลายปีเลยค่ะ” เพทายรับข้อมูลคร่าวๆ ก่อนจะหันมองลูกค้าของเธอ หล่อครบ จบที่มองเธอตาเชื่อมตาหวาน แบบนั้นรู้เลยว่ามีอะไรในกอไผ่อย่างแน่นอน
“คุณทายจะรับกาแฟที่ห้องทำงานเลยไหมคะ”
“รับกาแฟ แต่ตามไปเสิร์ฟที่โต๊ะ” สุดสิ้นคำนั้น ขายาวๆ ก็เปลี่ยนทิศทางเดินเพื่อตรงดิ่งไปหาเจ้าของเส้นผมสีชมพูหวานแหววนั่นทันที
“เดี๋ยวยังไงนาช่วยดูโปรโมชันให้เป็นพิเศษเลยนะคะ”
“คุณนาเพอร์เฟคที่สุด ผมคิดไม่ผิดเลยนะที่เลือกที่นี่”
“ยินดีมากๆ ค่ะ ขอบคุณคุณปีเตอร์ด้วยนะคะที่ไว้ใจวิลล่าของนา เอางี้ค่ะ นาให้ส่วนลดคุณปีเตอร์สามสิบเปอร์เซ็น สำหรับสัญญาผูกขาดสามปีค่ะ”
“โหย ทั้งน่ารักและใจดีขนาดนี้ ผมหนีไปพักที่อื่นไม่ได้จริงๆ ครับ”
“สวัสดีครับ” เสียงทักทายจากบุคคลที่สามซึ่งน้ำเสียงทุ้มแบบนั้นนาราจำได้ขึ้นใจ ส่งผลให้รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าเมื่อสักครู่เลือนหายไปในทันที
“เพทายนะครับ เป็นเจ้าของที่นี่ และเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายนาที่เป็นเจ้าของวิลล่าที่คุณกำลังพูดถึงอยู่ครับ” เพทายฉีกยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะหย่อนตัวลงข้างนาราอย่างจงใจ
“อ๋อครับ ผมปีเตอร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณเพทาย”
“คุยอะไรกันอยู่ครับเนี่ยน่าสนุกเชียว”
“นาต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ” นาราตวัดสายตามองคนมาใหม่ เธอไม่ได้ยิ้มให้เขาด้วยซ้ำแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโต๊ะนี้ไม่ได้ยินดีต้อนรับต่อให้เขาจะเป็นเจ้าของที่นี่ก็ตาม
ที่จริงเธอไม่ได้อยากคุยกับลูกค้าที่นี่แต่พี่ชายของเธอเป็นคนเลือกที่นี่เพราะไม่อยากให้เธอไปกับลูกค้าสองต่อสองแบบไกลหูไกลตา
เธอไม่ได้อยากเจอเจ้าของที่นี่ ให้ห่างกันไปนานๆ ให้สาสมใจที่เขาต้องการเลยยิ่งดี
“เฮียเธอให้เฮียมาช่วยดูแลคุณปีเตอร์”
“เฮียรามสั่ง?”
“ใช่ เฮียเธอเป็นคนสั่ง เฮียเลยต้องทำตามคำขอของเพื่อนเพื่อไม่ให้มีปัญหาในภายหลัง”
“หนูจะคุยกับเฮียรามเอง เฮียทายไปเถอะค่ะ” หางคิ้วของเพทายกระตุกเบาๆ เมื่อเธอเรียกเขาว่าเฮีย ทั้งที่ตอนนี้เราสองคนไม่ได้อยู่ต่อหน้าพี่ชายเธอ
แบบนี้คือตีตนออกหากแล้วใช่ไหม และมันก็เป็นโอกาสดีของเขาแล้วใช่ไหมที่จะได้สลัดเธอออกไปให้พ้นทาง เรื่องระหว่างเราจะได้ไม่สร้างปัญหาในภายหลัง
ทั้งที่เขาควรโอเคที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนั้น แต่ทำไมตอนนี้หงุดหงิดวะ หงุดหงิดที่เห็นเธอยิ้มหวานให้คนอื่น ใช้เสียงสองเสียงสามเวลาคุยกัน แต่กับเขามองด้วยหางตา
ทำเหมือนลืมไปเลยนะว่าเมื่อก่อนเราลึกซึ้งกันมากแค่ไหน ทำเหมือนลืมว่าเมื่อก่อนเธอก็จะเป็นจะตายในตอนที่ขึ้นเตียงกับเขาเหมือนกัน
“เฮียไม่อยากมีปัญหากับเฮียเธอ” บอกให้รู้ว่าเขาไม่ยอมไปง่ายๆ แน่ รู้ว่าเธอดื้อ แต่เธอเองก็รู้เหมือนกันว่าเขาไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ
“หนูจะเคลียร์กับเฮียรามเอง”
“หาเรื่องอยู่กับผู้ชายสองต่อสองเหรอ” เพทายลดเสียงให้เบาลงขณะที่สายตาจับจ้องที่ใบหน้าจิ้มลิ้มอยู่แบบนั้น
“มันเรื่องส่วนตัว”
“แปลว่าใช่”
“ถึงใช่เฮียก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”
“ไอ้รามคงผิดหวัง”
“เรื่องอะไรคะ”
“มันหวงเธอแทบตาย ดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน ลับหลังมันเธอกลับคุยอี๋อ๋อกับผู้ชาย”
“เฮียทาย!”
“จะคุยธุระก็คุยไป เฮียแค่นั่งอยู่ด้วย ไม่ได้จะกวน” นารากระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ และจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสีหน้าในยามที่หันไปสบตากับปีเตอร์ที่มองเธอและเพทายด้วยสีหน้างงๆ
“คุยกันตรงนี้คงไม่สะดวกแล้ว เราไปที่อื่นกันดีกว่าไหมคะคุณปีเตอร์” คำถามของเธอส่งผลให้คนที่เป็นส่วนเกินหันขวับทันที
“นา….”
“นะคะคุณปีเตอร์ แถวนี้มีร้านอาหารที่น่าสนใจอยู่หลายร้าน นาขออนุญาตดูแลก็แล้วกันนะคะ”
“ยินดีครับ” ปีเตอร์ยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ต่างจากคนที่ถูกไล่ทางอ้อมที่ใบหน้าบึ้งตึง
————————————
ตึงทำไมคะพี่ทาย มีสิทธิ์อะไรมาตึงใส่กันเอ่ย 555555555
กดไลก์ + คอมเมนต์ + เก็บนิยายเข้าชั้น = กำลังใจที่ดีที่สุดนะคะ