หลังจากนั้นฉันรีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว พอพ้นสายตาของพี่ซัน พี่เจเจก็รีบตามเข้ามากระชากแขนฉันไว้แรง ๆ
“นี่…คือเหตุผลที่เธอต้องห่อตัวเองไปกินเหล้าถึงพัทยาเลยหรอ” น้ำเสียงของเขาแฝงทั้งความห่วงใยและความเข้มงวด
“แล้วพี่มีอะไรไม่ทราบล่ะ” ฉันถามสวน พลางพยายามสะบัดแขนออก แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองโดนจับแน่นเกินไป
“ก็เปล่า…แต่เธอโอเคใช่ไหม” เขาถามต่อ น้ำเสียงจริงจังราวกับต้องการให้ฉันตอบ
“แล้วทำไมแจมต้องไม่โอเคล่ะ” ฉันตอบพร้อมขมวดคิ้ว
“ฉันหมายถึง…น้องสาวเธอน่ะ หายเจ็บแล้วใช่ไหม” พี่เจเจเอ่ยพร้อมก้มมองต่ำลงมาระหว่างขาของฉัน
ฉันแทบจะปิดปากพี่เจเจทันที ใจเต้นแรงจนเกือบกรี๊ดออกมา ดีหน่อยที่ตรงนี้ไม่มีใครได้ยิน
“อีพี่เจเจ! อีบ้า ใครใช้ให้พูดเรื่องนี้! ห๊ะ! เดี๋ยวพี่แทนไทมาได้ยินจะทำยังไง”
พี่เจเจยักไหล่ ช้อนคิ้วมองฉันด้วยสายตาเย็น ๆ แต่ยังแฝงรอยยิ้มบางเบา “ไม่เห็นต้องทำยังไง พี่ก็แค่…ทักทายพี่เขย”
“พี่เขยบ้านพี่สิ เราตกลงกันแล้วไงว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ แจมยังไม่เคลียร์เรื่องที่พี่ไปบอกพี่แทนว่าแจมไปกินเหล้าที่พัทยาเลยนะ”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงครึ่งขู่ครึ่งห่วง ตาคมมองเขินเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงความกังวลเล็ก ๆ ที่เขาพยายามซ่อน
“ทำไม ก็แค่บอก ไอแทนก็พี่เธอ มันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” เขาตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่แฝงความห่วงใย
“แล้วพี่มายุ่งอะไรด้วยเนี่ยย” ฉันทำหน้าตาเซ็ง ๆ พลางย่นคิ้ว
“แหมม เรื่องของเมียทั้งคน” น้ำเสียงของเขาเจือความเย้าแหย่ ทำให้ฉันแทบอยากกลิ้งตา
“ไอพี่เจ เมียบ้าบออะไรอย่ามาพูดมั่ว ๆ นะ” ฉันเถียงกลับอย่างหัวร้อน แต่หัวใจก็เต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้
“ก็เรื่องจริง พี่เอาเธอแล้ว ก็ต้องเป็นเมียนั้นแหละถูกแล้ว” เขาพูดอย่างมั่นใจ ดวงตาคมของเขาจับจ้องฉันแน่น
ฉันขมวดคิ้วขำปนเขิน “หึ…เมีย! พี่นับแจมเป็นเมียคนที่เท่าไรละ ไหนจะเชอร์รี่อะไรนั่นอีก”
เขายักคิ้ว มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “พูดแบบนี้…หึงหรือจ๊ะ”
ฉันแทบอ้าปากค้าง แต่ในใจกลับเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศรอบตัวเหมือนร้อนขึ้นทันตาเห็น จากคำพูดเล็ก ๆ ของเขา
“โอ๊ย…หึงกับผีสินะ พี่จะไปยุ่งกับผู้หญิงกี่คนก็เรื่องของพี่ แจมไม่สนหรอก เพราะมันไม่ใช่เรื่องของแจม” ฉันพูดพลางหันหลัง แล้วก้าวเท้าออกจากเขาอย่างตั้งใจ
แต่อยู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นข้างหลัง ทำให้ฉันหยุดเท้ากะทันหัน หัวใจเต้นแรงขึ้นราวกับถูกหยุดด้วยสายตา
“ถ้าพี่บอก…ว่าพี่จะเคลียร์ทุกอย่างเพื่อเธอล่ะ
ฉันหยุดชะงักทันที ร่างกายเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ มือที่ยกขึ้นจะก้าวเดินก็หยุดค้างกลางอากาศ หันไปมองหน้าเขาด้วยสายตาสงสัยและระคนความตื่นเต้น
ลมหายใจฉันเริ่มสั่นเล็กน้อยจากความตกใจ “หมายความว่า…ไง?” ฉันถามเสียงแผ่ว ปนกับความไม่เชื่อ
พี่เจเจยืนตรง ดวงตาคมจ้องมาที่ฉันแน่วแน่ แววตาเต็มไปด้วยความจริงจังจนฉันอดใจไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง
“พี่…พี่จะเคลียร์ทุกอย่าง เรื่องผู้หญิง เรื่องวุ่นวายทั้งหมด…เพื่อเธอคนเดียว” เสียงทุ้มของเขาตรงและมั่นคง ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงราวกับจะกระแทกอก
“พี่เจเจ…” ฉันเรียกชื่อเขาออกมาเบา ๆ พร้อมสายตาอ่อนโยนที่พยายามอ่อนโยน แต่ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นสายตาแข็งกร้าว “พี่เป็นบ้าป่ะเนี่ย ลองหาเวลานอนซะบ้างนะ ช่วงนี้พี่ดูเบลอ ๆ”
น้ำเสียงของฉันเต็มไปด้วยความห่วงใยผสมความหมั่นไส้เล็ก ๆ พูดจบ ฉันรีบก้าวเท้าออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด
รู้สึกเหมือนแรงดึงดูดบางอย่างยังคงดึงฉันไว้ด้านหลัง แต่ฉันก็ต้องหนีออกมาให้พ้นสายตาเขาให้เร็วที่สุด
เมื่อฉันรีบเดินมาถึงตึกเรียน สายตาก็สะดุดกับแก๊งเพื่อนสาวของฉันที่ยืนรวมกลุ่มเมาส์กันอย่างครึกครื้น เสียงหัวเราะ เสียงแซว และเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้ว
“นี่ไง พูดถึงก็มาละ” แบมแบมเห็นฉันกำลังเดินเข้ามา เลยเอ่ยเรียกเพื่อน ๆ ให้หันมาสนใจ
“อีแจมมม มานี่เลยมึง เล่าค่ะ พี่ซันอะไรนั่น มึงไปแอบคุยกันตอนไหน” นุ่นเดินเข้ามาลากแขนฉัน พร้อมถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นจนแทบหอบ
“แหมมม ทีเรื่องตัวเองปิดเงียบเลยน้าา” น้ำหวานแซว พลางหัวเราะเบา ๆ แววตาเป็นประกายช่างซักถาม
ฉันถอนหายใจยาว ๆ ก่อนตอบ “กูก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิด แต่แบบ…อยากให้ชัวร์ก่อนน่ะ” มือกำกระเป๋าแน่น ขณะพยายามรวบรวมสติ
“แล้วเป็นไงล่ะ?” เมย์สวนขึ้นทันทีด้วยสายตาสงสัยและตั้งใจฟังอย่างเต็มที่
“โดนหลอกไงค่ะ แม่ง…เสียค่ารู้ให้มันตั้งหลายบาท เซ็งชิบหาย!” ฉันพูดเสียงร้อนรน พลางยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเหมือนยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะเพื่อน ๆ รอบตัวพากันหัวเราะเบา ๆ ราวกับเอ็นดูความซวยของฉัน
“โห…สงสารอยู่หรอกนะ แต่ก็ขำจนหยุดหัวเราะไม่ได้เลยอะ” นุ่นส่ายหัว พลางทำหน้าเหมือนยังตกใจอยู่
แบมแบมยิ้มตื่นเต้น “เออ แบบนี้ต้องให้พี่แทนไทลงมือจัดการให้แล้วล่ะ ใครมันกล้ามาหลอกแจมเพื่อนรักกูได้เนี่ย!”
ฉันถอนหายใจพลางส่ายหน้า “พอเลย ก็ที่มาช้าเพราะไปห้ามอีพี่แทนไทมา”
น้ำหวานเอียงคอมองอย่างสงสัย “ทำไมอ่ะ… อย่าบอกนะว่าพี่แทนไทไปหาเรื่องคนชื่อซัน?”
นุ่นพยักหน้ารับ “ใช่ค่ะ กูนี่วิ่งไปห้ามผัวกูแทบไม่ทัน ไอฝั่งเราน่ะยังพอทน แต่ฝั่งนั้นสิ… โดนพี่เจเจซัดเข้าหน้าไปเต็ม ๆ”
นุ่นยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะ พลางส่ายหัวไปมา ราวกับยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองกับความโหดของพี่เจเจ
เสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ ดังไปทั่วมุมตึก สลับกับความโล่งใจที่เรื่องราววุ่นวายจบลงโดยไม่มีใครเป็นอันตรายมากนัก
——
- เจเจ -
“ไอเจ มือมึงโอเคป่ะวะ” กองทัพเอ่ยถามเสียงขรึม แววตาเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเห็นสันหมัดของเจเจแดงเถือก บวกคราบเลือดที่ยังติดอยู่เล็กน้อย
เจเจยกมือขึ้นพลิกดูไปมา ก่อนหัวเราะหึในลำคอ “สบายมากเว้ย แค่นี้จิ๊บ ๆ”
แทนไทที่ยืนกอดอกอยู่ใกล้ ๆ แสยะยิ้ม มุมปากกระตุกขึ้นอย่างสะใจ “ขอบใจมึงมากนะ ที่ต่อยแทนกู ไอเหี้ยนั่นมันก็สมควรแล้วจริง ๆ”
เจเจเหลือบสายตาคมไปทางแทนไทที่ยังยืนกอดอก ใบหน้าเคร่งเครียดเต็มไปด้วยความโกรธไม่ต่างจากเขา
“น้องมึงก็เหมือนน้องกูแหละ” เจเจเอ่ยเสียงเรียบ น้ำเสียงดูจริงใจราวกับไม่คิดปิดบังอะไร
แทนไทพยักหน้าเบา ๆ เหมือนรับรู้และเชื่อสนิทใจ แต่ในขณะเดียวกัน เจเจกลับเบือนหน้าหลบเล็กน้อย ความคิดในหัวแล่นวาบขึ้นมา น้องมึง… แต่เมียกู
ริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ ที่แฝงความหมายบางอย่าง ก่อนจะรีบเก็บอาการให้เป็นปกติ ราวกับไม่เคยคิดอะไรในใจเมื่อครู่เลย
กองทัพที่ยืนมองอยู่ข้าง ๆ แอบขมวดคิ้วเล็กน้อย สังเกตความผิดปกติของเจเจได้ทัน แต่เลือกที่จะไม่เอ่ยถามออกไป เพียงแค่เก็บไว้ในใจ…เหมือนกำลังรอเวลาให้ความจริงค่อย ๆ ปรากฏเอง