แอบมองแค่วินาที

1871 Words
ตอนที่ 3 ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมริมน้ำเจ้าพระยา เวลา 17.45 น. ภายใต้แชนเดอเลียร์คริสตัลขนาดยักษ์ ที่ส่องแสงระยิบระยับ เสียงเครื่องสายแล่นเพลงบรรเลงคลาสสิกเบาๆ ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกไม้สดที่ประดับทั่วห้อง แขกผู้มีเกียรติ ทยอยเดินเข้างาน ชุดราตรีเรียงรายประดับอัญมณีละลานตา บริเวณทางเข้าห้องจัดเลี้ยง พิพัฒน์เจ้าบ่าวในสูททักซิโด้ตัดพิเศษสี midnight blue จาก Armani ยืนเคียงข้างเมญ่า เจ้าสาวในชุดแต่งงานทรงเมอร์เมด สีงาช้าง ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศส ปักด้วยคริสตัลนับพันเม็ด ผมถูกรวบครึ่งศรีษะ ประดับด้วยปิ่นเพชรรูปดอกมะลิ รอยยิ้มของเธออ่อนโยน และมั่นใจ ทั้งคู่ยืนเคียงกันอย่างสง่างาม หน้าฉากแบ็กครอปที่ตกแต่งด้วยดอกกุหลาบขาวสีชมพูอ่อน โลโก้ M&P ตัวเขียนสีทองสะท้อนไฟ สวยงามราวเทพนิยาย แขกคนแรกเดินเข้ามา คุณหญิงกุลนิชาหันหน้าไปกระซิบเบาๆ ยิ้มไว้ลูกหน้าปก HiSo Wedding Magazine อยู่ตรงนั้นแล้ว เมญ่ายกมือไหว้ ขณะที่พิพัฒน์โค้งศรีษะนิดๆ ขอบพระคุณเป็นอย่างมากเลยนะคะ ที่ให้เกียรติมาร่วมงานของเราสองคนในคืนนี้ หญิงสาวเอ่ยเสียงขอบคุณ แขกที่มาร่วมงานยินดีมากๆ ค่ะ กล้องรัวถ่ายแฟรช เสียงชมดังขึ้นจากแขกหลายคน เจ้าสาวสวยมาก เหมือนเจ้าหญิงเลย พิพัฒน์ก็หล่อสมฐานะ ขนาดยืนข้างกันยังไม่มีใครเด่นกว่าใครเลยนะเนี๊ย ตัดมาบนรถหรูสีดำมุ่งหน้าสู่งานแต่งงานพี่ชาย ยศวินนั่งหลังพวงมาลัย ในสูทสีดำทรงเฉียบเนี๊ยบ ทุกกระดุม ริมฝีปากนิ่งสนิท ดวงตาคอมทอดมองถนนข้างหน้าอย่างไม่หวั่นไหว เบาะหลังมี ธาม คามิน และรณภพ นั่งนิ่งเงียบกริบเหมือนกลัวพลาดละครสด รณพภเหลือบมองยศวินเล็กน้อย พร้อมเอ่ยเสียง ใครไม่มามึงมา...คนทั้งงานต้องสะดุดรองเท้าตัวเองแน่ๆ แม่งคนอะไรหล่อยังกะเทพบุตรซาตาน คามินพึมพำเบาๆ เหมือนอัดอั้นมานาน วิน กูถามจริงนะ มึงยัง..... คามินแค่เอ่ยปากยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลย ยศวินตัดบททันที งานแต่งพี่ชายกู กูไปเพื่อยินดี น้ำเสียงเขานุ่มเรียบ...แต่หนาวพอจะทำให้ทั้งคันรถเงียบกริบ เมื่อรถเลี้ยวเข้าหน้าโรงแรมหรูระดับห้าดาว เสียงเปิดไฟเลี้ยวดังขึ้นในความเงียบ ติ๊ก...ต๊อก...ติ๊ก...ต๊อก... รณภพพึมพำเบาๆ ราวกับกลั้นไม่อยู่ พระเอกมาแล้ว..พร้อมชุดเต็มสูบ และอดีตที่ไม่ได้รับเชิญ ยศวินไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่ปลดเข็มขัดนิรภัยออก เปิดประตู...และก้าวลงอย่างสงบนิ่ง สูทเข้ารูป ดำขลับกับเงาแสงไฟ ความหล่อเรียบสงบของเขา แค่ยืนเฉยๆ ยังเหมือนตบคนทั้งงาน ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา หลังจากที่ยศวินเดินเข้าสู่โถงงาน ทิ้งไว้เพียงกลิ่นโคโลญและความนิ่งลึกที่ยากจะสังเกต เพียงครู่เดียว...เสียงฝีเท้าชัดๆ ดังตามมา กึก...กึก...กึก... คามิน ธาม และรณภพ เดินเรียงกัน เข้ามาในสูทหรูแบรนด์ดัง แววตาไม่ธรรมดา เหมือนพระรองสามคน ที่ไม่ตั้งใจจะแย่งซีน แต่ก็ยากจะมองข้าม หล่อๆ กันทั้งแก๊ง สวัสดีครับ พี่พิพัฒน์ พี่เมญ่า คามินยิ้มละมุนจนเจ้าสาวต้องเก็บมือไว้แน่น ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับพี่...งานหรูจนผมดูจนไปเลยครับ ธามว่าอย่างจริงใจ พร้อมยกมือไหว้แบบคนเรียบร้อย( ชั่วคราว) เจ้าบ่าวเจ้าสาววันนี้ดูดีมากเลยครับ แต่ก็ต้องยอมรับครับ...วินแม่งตบคนทั้งงานด้วยความหล่อเฉยเลย รณพภกระซิบยิ้มมุมปาก ก่อนรีบเสยผมตัวเองรัวๆ พิพัฒน์หัวเราะเบาๆ เพื่อนแกนี้ปากดีหมดเลยนะวิน คามินยกมือขอโทษแทนทันที ขอโทษครับพี่...แต่มันจริง !!" เมญ่ายิ้มรับท่ามกลางเสียงหัวเราะ แต่ในใจยังวูบวาบกับคำว่า "วินแม่งหล่อจนตบคนทั้งงาน" แบบไม่มีเสียง เพราะในแวบหนึ่ง...เธอก็เผลอคิดว่า เขาอาจไม่ได้มาแค่เพื่อแสดงความยินดี แต่เขามาเพื่อบอกลาเงียบๆ ขณะที่รถยนต์ของแขกที่มาร่วมงาน แต่ละคันจอดเรียงราย สลับเสียงทักทาย กับเสียงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะทยอยกันเดินเข้าสู่งานแต่ง ที่อบอวนไปด้วยความรัก เสียงดนตรีอ่อนๆ ที่บรรเลงอยู่เบาๆ ในห้องบอลรูม บรรยากาศงานแต่งหรูหรา แขกต่างแต่งตัวกันอย่างดี ในชุดสูท และเดรสหรู แต่แล้วทุกสายตาก็หันไปทางประตูใหญ่ เมื่อ อวาโรส ก้าวเข้ามา พร้อมกับคุณพ่อโจเจอร์ เธอเดินเข้ามาในชุดเดรสสีทองเบาๆ ที่เน้นให้เห็นช่วงเอว และสะโพกได้อย่างจัดเจน ชุดนี้ตัดเย็บอย่างพอดีตัว คลุมช่วงคอลึกเล็กน้อย แต่ไม่โป๊ เผยให้เห็นเนินอกที่สวยงาม และเรียบเนียน เธอดูสง่า แต่ก็เต็มไปด้วยความเซ็กซี่ ที่ใครๆ ต้องสั่งเกต"เธอสายมาก...ดูดีจริงๆ" เสียงกระซิบจากกลุ่มคนในงานที่ยื่นอยู่ใกล้ๆ ในขณะที่ ยศวิน ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาก็แอบเหลือบตา มองเธอ แค่เพียงเสี้ยววินาที ไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ ที่เขาหันไปมองหญิงสาว แต่สายตาของอวา กลับไม่ได้จับจ้องไปที่เขาอย่างชัดเจน เธอยิ้มให้กับคนรอบข้าง เหมือนคนที่มีความสุข และมั่นใจในตัวเอง ขณะที่อวาโรส เดินเข้ามาใกล้ถึงพิพัฒน์ และเมญ่า แววตาของเมญ่าเธออ่อนโยนลงทันที ที่หันไปเห็นน้องสาวกำลังเดินเข้างาน มาพร้อมกับบิดา"น้องสาวฉัน...คืนนี้ เธอคือนางฟ้าอีกคนในงานนี้เลยล่ะพิพัฒน์ยิ้มและโค้งให้...Welcome back, Ava. ขอบคุณที่มาทันวันสำคัญของเราน่ะ อวาโรสยิ้มให้พิพัฒน์บางๆ ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวเท้าเข้ามาสวมกอดพี่เมญ่าเบาๆ หญิงสาวอวยพรให้ทั้งคู่น้ำตาคลอ อวาขอแสดงความยินดี กับพี่เมญ่า และพี่พิพัฒน์ ด้วยนะคะ ขอให้รักครั้งนี้เต็มไปด้วยความเข้าใจ และความสุข May your love be as enduring as a golden staff and as strong as a diamond-tipped scepter. Wishing you a lifetime of happiness together. ต่อไปเราจะได้อยู่ด้วยกันไม่จากไปไหนแล้วนะ?" กลุ่มเพื่อนของยศวิน ธาม คามิน และรณภพ ที่ยื่นอยู่ใกล้ๆ ต่างก็แอบพูดถึงเธออย่างเงียบๆโอโห...คนนี้มาแรงนะวิน คามินเอ่ยเสียง จริงเลยยิ่งเห็นยิ่งสะดุดตา พร้อมพยักหน้า นั่นใคร ลูกสาวบ้านโรสเบิร์กเหรอ...นางฟ้าชัดๆ ทรงดู อึ๋มตัวเล็กจิ๋ว ชุดทองโคตรสวย แย่งซีนเจ้าสาวไหมเนี๊ย...รณภพสะกิดเพื่อน เฮ้ย วิน มองดิ..." รณภพกระซิบเบาๆ ข้างหูชายหนุ่ม เพื่อหวังจะให้เพื่อนลองมองหญิงสาวตรงหน้าดู คนนี้สวยจริง สวยแบบมองไม่เบื่อเลย มึงมองนิดเดียวก็ยังดี รณภพเสริม คามินถึงกับยกแก้วไวน์ขึ้นบังหน้า อย่างแกล้งทำใจ แต่ยศวินเขาแค่เหลือบตา มองไปที่อวาอีกครั้ง แล้วไม่พูดอะไรเลย ชายหนุ่มแค่ยิ้มให้ตัวเองเบาๆ และหันหน้าไปทางอื่นทันที เขากำลังช้ำใจ ไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้ใคร แต่มุมมองที่เขามีต่อเธอในตอนนี้ มันเหมือนแปลกใหม่โดยที่เขายังไม่รู้ตัว ในขณะที่อวาโรส ยิ้มให้คนรอบข้างและทักทายกับทุกคน อย่างเป็นธรรมชาติ เธอไม่รู้เลยว่า ยศวินกำลังหลีกเลี่ยงการมองเธอ แต่เธอก็ไม่สนใจ เพราะเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำให้ใครหลงใหล แต่ชายหนุ่มยังคงนั่งในท่าเดิม ไม่ขยับ ไม่หัน สายตายังคงทอดมองที่ปลายนิ้วตนเอง ที่ไล้ขอบแก้วเบาๆ ไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้นดู เหมือนกับชายเกือบจะครึ่งห้อง ที่ไม่ละสายตา จากอวาโรสเลย วินมึงไม่มองจริงเหรอ...." ธามถามเบาๆ เหมือนหมั่นใส้ ยศวินถอนหายใจเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะเอ่ยเพียงแค่คำเดียว "เสียงดังกันจังเท่านั้นเอง" เสียงเขาเรียบนิ่ง เย็นชาไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแววตาสนใจ แม้จะรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้า คือน้องสาวของเจ้าสาวที่เพิ่งปรากฏตัว กลางงานราวกับนางฟ้าจำแลง เขายังเหมือนเดิม เงียบ เย็นชา ไม่พูดถึงเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนกับว่า...เธอไม่มีผลอะไรกับเขาเลย แต่ไม่มีใครรู้...ภายใต้ดวงตานิ่งเรียบคนนั้น...กำลังกลั้นบางอย่างเอาไว้อยู่เงียบๆ ตัดมาห้อง VIP ของโรงแรมห้าดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศอวลไปด้วยกลิ่นไวน์ชั้นดี และเสียงพูดคุยอย่างสุภาพ ของแขกระดับเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ บนโซฟาหนังเรียบหรูกลางห้อง เจ้าสัวธนานั่งไขว่ห้าง รอยยิ้มบนใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขใจ วันที่เจ้าสัวรอคอยมานาน...วันแต่งงานของลูกชายคนโต เจ้าสัวธนากล่าวกับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาฯ ที่มาร่วมแสดงความยินดีด้วยน้ำเสียงนิ่ง แต่ทรงพลัง วันนี้ข้าคงพูดได้เต็มปากเต็มคำ...ว่าถึงเวลาแล้ว เจ้าสัวยกแก้วไวน์ขึ้นเล็กน้อย เป็นเชิงทักทายก่อนจะว่างลง ข้าจะวางมือจากทุกอย่างเสียที อายุอานามก็ใช้ว่าจะน้อย แล้วอยากมีเวลารออุ้มหลาน รอเห็นชีวิตอีกช่วงที่ไม่ใช่แค่ตัวเลขในบัญชี เสียงฮือฮ่าเบาๆ ด้วยความยินดีดังขึ้น ก่อนที่เจ้าสัวจะหันหน้าไปยังพิพัฒน์ เจ้าบ่าวในชุดสูทหรูเรียบ ที่กำลังยิ้มให้เมญ่าเจ้าสาวคนสวยกลางงานเลี้ยง จากนี้ไปพิพัฒน์จะรับช่วงต่อ ข้าส่งเขาไปเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ เตรียมว่างรากฐานให้เขาอย่างดีตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจแต่ รวมถึงการเป็นผู้นำเป็นหัวหน้าครอบครัว เจ้าสัวถอนหายใจเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย ส่วนนั่น...ยศวิน ! ลูกชายคนเล็ก กำลังเรียนวิศวกรรมศาสตร์ปีสี่ ข้าไม่คาดหวังให้เขามารับช่วงต่อ เขารักการออกแบบ ชอบคิดโครงสร้างมากกว่านั่งประชุม ข้าก็ให้เขาไปตามทางที่เขาชอบ เจ้าสัวยิ้มเล็กน้อย ขณะมองลูกชาย และลูกสะใภ้ ที่จูงมือกันเดินขอบคุณแขกไปทีละโต๊ะ' วันนี้ข้าไม่ได้แค่ส่งมอบธุรกิจ แต่ส่งมอบความสุขความมั่นใจ ว่าอนาคตเขาจะดี แม้ไม่มีข้าอยู่ควบคุมเหมือนเมื่อก่อน ข้างๆ มีคุณหญิงอรรถยา ผู้เป็นภรรยา สวมชุดผ้าไหมพอดีตัว ดวงตามีความสุขพลางยิ้มเบาๆ ขณะที่ โรเจอร์ บิดาของเมญ่า ที่มาจากสายธุรกิจต่างประเทศโดยตรง กำลังร่วมวงสนทนาด้วยเช่นกันเขาไม่พูดอะไรมากแต่ ทุกคำที่พูดล้วนสร้างความน่าเกรงขาม ในฐานะหุ้นส่วนเบื้องหลังของหลายดีลใหญ่ในเอเชีย...ข้างๆ มีคุณหญิงกุลนิชา มารดาของเจ้าสาว นั่งสนทนากับคุณหญิงอรรถยา เชิงหัวเราะเบาๆ อย่างสง่างาม แสงไฟระยิบเล่นกับแววตาของเจ้าสัวธนา ที่เต็มไปด้วยความรักความโล่งใจและความพร้อมจะเป็น "คุณตาอย่างเต็มตัว"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD