บทที่ 3 คนนี้กูจะเอา

1722 Words
บทที่ 3 คนนี้กูจะเอา ต้นหอมรออยู่นานพวกเขาก็ยังไม่กลับมา เธอเดินไปเดินมาอย่างร้อนรนใจ เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาว่าไม่น่าให้ภูผาและอชิไปเลย พวกเขายังเด็กจะสู้กับผู้ใหญ่ร่างยักษ์ได้อย่างไร นึกโทษตัวเองที่เมื่อครู่เอาแต่หวาดกลัว ในตอนนั้นเองประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของภูผาและอชิ ใบหน้าคมคายมีรอยช้ำที่มุมปากเล็กน้อย แถมเสื้อผ้ายังยับยู่ยี่ ต้นหอมรีบวิ่งไปดูภูผาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะกวาดสายตาสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเหลือบสายตาไปหาอชิที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรตรงไหน มีเพียงภูผาที่บาดเจ็บ …อ่า นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ให้เด็กคนนี้ออกไปเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้เถื่อนได้ยังไง!?... “ภูผา พี่ขอโทษ” ปลายนิ้วนุ่มนิ่มสัมผัสที่มุมปากของชายหนุ่มอย่างร้อนรน แววตาของเธอฉายชัดถึงความเป็นห่วงและรู้สึกผิด “เจ็บมากมั้ย?” “แค่มดกัดน่ะ” ชายหนุ่มยักไหล่อย่างไม่สนใจเท่าไหร่ “อชิล่ะ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า พี่ขอโทษนะ” เธอไม่ลืมที่จะหันไปหาอชิด้วย เจ้าตัวส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มแทนคำตอบ “ทำไมยังไม่อาบน้ำครับ? คงไม่ได้จะเบี้ยวใช่มั้ย?” อชิพูดขึ้น ขณะสาวเท้าก้าวเดินมาใกล้ต้นหอม ดวงตาของชายหนุ่มดูเจ้าเล่ห์ชอบกล มือหนายกขึ้นสัมผัสที่ปอยผมซึ่งเรื่องหล่นลงมาอยู่ที่ข้างหูของเธอ เขาเกลี่ยเส้นผมนั้นทัดที่ใบหูให้อย่างแผ่วเบา “ปะ เปล่า พี่แค่… เห็นว่าพวกนายไม่กลับมาสักที…” “เป็นห่วงเหรอ?” คราวนี้ภูผาเผยรอยยิ้มกว้าง ทำให้ต้นหอมนึกถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก ภูผาเป็นน้องชายที่สดใสร่าเริง ซุกซนอยู่เป็นประจำ แล้วมักจะยิ้มแบบนี้ให้เธออยู่เสมอ เว้นเสียแต่วันที่เธอย้ายบ้าน เขาเอาแต่ร้องไห้จนตาปูดตาบวม “อื้อ เป็นห่วงสิ” เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหูของชายหนุ่มทั้งสองก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ การได้ยินคำตอบที่อยากได้ยินจากคนที่ชอบ มันรู้สึกดีเหลือเกิน “เอาเวลาเป็นห่วงผมไปเตรียมตัวเถอะ วันนี้ผมจะให้พักผ่อนก่อน แต่วันหยุดนี้พี่ต้องเป็นของพวกผมนะ” “อะ อื้อ…” ต้นหอมพยักหน้าอย่างว่าง่าย ถึงอย่างไรก็ให้สัญญาไปแล้ว แม้จะน่าอายแค่ไหนแต่สัญญาก็คือสัญญา ยังดีที่ภูผาและอชิให้เวลาเธอทำใจ ถึงแม้ว่าสายตาของอชิในตอนนี้พร้อมที่จะขย้ำเธอแล้วก็ตาม “งั้นวันนี้นอนที่นี่แหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกผมไปส่งเปลี่ยนชุดที่ห้อง” “อ่า งั้นรบกวนด้วยนะ” แม้จะรู้สึกเกรงใจที่ต้องรับความช่วยเหลือจากภูผาและอชิ แต่จะให้เธอกลับไปที่ห้องตอนนี้มันก็น่ากลัวเกินไป ภูผาพาต้นหอมไปแนะนำห้อง ทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เธอสามารถใช้ได้ เมื่อชายหนุ่มออกไป ต้นหอมก็ได้อยู่กับตัวเอง เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้านอน ตอนแรกก็กลัวว่าจะนอนไม่หลับเพราะมันต่างที่ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าก่อนหน้านี้ พอทุกอย่างถูกคลี่คลายลงได้ด้วยดีเธอก็หลับไปทันที วันต่อมา… ชายหนุ่มทั้งสองพาต้นหอมมาส่งที่หอพัก เมื่อเธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เห็นว่าสองหนุ่มยังคงจอดรถรออยู่ ภูผาซึ่งเป็นคนขับเปิดกระจกรถแล้วโยกมือเรียก “มาสิพี่ เดี๋ยวสายนะ” “เอ่อ…” แม้จะรู้สึกแปลกใจอีกทั้งยังเกรงใจ แต่ต้นหอมก็ยอมเดินขึ้นรถไปกับชายหนุ่ม “ไม่เห็นต้องรอเลย ฉันไม่รู้ว่าพวกนายรอก็เลยช้า” “ไม่ซีเรียสครับ ผมเข้าใจผู้หญิง” เป็นอชิที่ตอบกลับมา ขณะที่ภูผาขับรถออกไปพลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี เมื่อมาถึงมหาวิทยาลัย ต้นหอมกระวนกระวายใจเล็กน้อยที่ต้องลงจากรถของภูผา เพราะใครๆ ต่างก็รู้จักภูผาและอชิ รวมถึงจำรถของพวกเขาได้ดีอีกด้วย ถึงอย่างนั้นถ้าไม่รีบลงไปเธอจะสายจริงๆ แล้ว อีกอย่างจะยิ่งตกเป็นเป้าสายตา สู้รีบลงทันทีที่รถจอดแล้วรีบขึ้นตึกไปจะดีกว่า ทว่าเมื่อต้นหอมลงจากรถ อชิกลับลดกระจกลงแล้วตะโกนเรียกชื่อของเธอ “พี่หอม!” เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก สองเท้าที่ก้าวเร็วๆ ชะงักค้างอยู่กับที่ เธอยังไม่ยอมหันไปแต่โดยดี ภูผาถึงเรียกชื่อของเธอรัวๆ “พี่หอม พี่หอม พี่หอม ได้ยินผมมั้ย!?” “เฮ้อ!” ท้ายที่สุดต้นหอมจึงต้องปั้นหน้ายิ้มแล้วหันไปหาพวกเขา “มะ มีอะไรเหรอ?” “เดี๋ยวตอนเย็นพวกผมมารับนะ รออยู่ที่คณะ อย่าไปไหนนะครับ” อชิว่าพลางยิ้มบางเบา ในขณะที่ภูผายิ้มกว้างเห็นฟันครบทุกซี่ จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไป… ในขณะเดียวกันนั้นต้นหอมก็กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคน!! เมื่อภูผาขับรถออกมา อชิก็ยังคงมองร่างบอบบางจากกระจกมองหลังจนลับสายตา จากนั้นก็หันกลับไปมองเพื่อนที่ขับรถอย่างอารมณ์ดีกว่าทุกวัน “เป็นเพราะมึง ไม่งั้นเมื่อคืนกูได้เผด็จศึกพี่หอมแล้ว” “มึงก็ใจร้อนเกิน ให้เวลาพี่หอมทำใจหน่อยสิวะ” ภูผาว่าพลางเดาะลิ้นเป็นจังหวะอย่างใจเย็น ภาพลักษณ์ภายนอกของสองหนุ่มนั้นแตกต่างกันมาก ภูผาดูใจร้อน ออกจะเถื่อนๆ เสียด้วยซ้ำ แต่ภายในกลับเป็นคนใจเย็นกว่าที่คิด ในเรื่องบางเรื่องน่ะนะ ในขณะที่อชิมีภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูใจเย็น สุขุม ให้ความรู้สึกเหมือนคุณชาย แต่กลับเป็นคนใจร้อน โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง แต่ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เหมือนกับว่าอชิจะใจเย็นอยู่บ้าง “สำหรับพี่หอม กูใจเย็นมามากพอแล้ว” การแอบชอบมานานข้างเดียว โดยที่ไม่เคยเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ สำหรับอชิถือว่าเป็นเรื่องที่ใจเย็นที่สุดแล้ว แม้ที่ผ่านมาจะใจเย็น แต่ในเมื่อโอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ทำไมเขาถึงจะต้องใจเย็นต่อไปด้วย? “เอาน่า เสาร์นี้มึงได้เผด็จศึกพี่หอมแน่ แต่ว่ากูต้องเป็นคนแรกของพี่หอมนะเว้ย มึงอะบีสอง” ภูผาว่าพลางยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เอ่ยยกเรื่องการ์ตูนฝาแฝดกล้วยในวัยเด็กขึ้นมาแซว “มึงคิดว่าพี่หอมไม่เคยมีแฟน โสด ซิงมาจนถึงทุกวันนี้?” “เออ! กูรู้จักพี่หอมดีกว่ามึง” เมื่อภูผาอ้างเรื่องนี้ขึ้นมา อชิถึงกับมองตาขวางใส่ มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่อชิสู้ภูผาไม่ได้ หากพูดถึงในเรื่องอื่นไม่ว่าจะด้วยรูปร่างหน้าตา หรือแม้กระทั่งฐานะนั้นสูสีกัน บ้านภูผาปล่อยเงินกู้ ส่วนบ้านอชิทำธุรกิจบังกะโลแถวภูเก็ต แล้วตอนนี้ทั้งสองจับมือกันปล่อยเงินกู้และกำลังสร้างผับ แต่ภูผาอ้างถึงเรื่องช่วงเวลาวัยเด็กที่เขาเจอต้นหอมทีหลัง “ไอ้สัส!” “หึหึ" “เอาเถอะ ซิงไม่ซิงไม่รู้ แต่คนนี้กูจะเอา” “ดีล!” ชายหนุ่มยกกำปั้นขึ้นชนกันเบาๆ พลางหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์ ในอีกด้านหนึ่งนั้นต้นหอมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อย่างไรชอบกล ปัง! “ว้าย!” ต้นหอมอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ เรียกความสนใจจากเพื่อนๆ ในห้อง แต่คนที่ทำให้เธอตกใจไม่ได้สนใจเลยสักนิด “เมื่อเช้าแกมากับภูผา อชิเหรอ!?” “อะ อืม…” ตอบเสียงเบา สำหรับต้นหอมแล้วกับเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ปิดบัง เว้นเรื่องข้อแลกเปลี่ยนของสองหนุ่มก็แล้วกัน จะให้บอกเพื่อนสนิทว่าเอาตัวเข้าแลกเงินเพื่อใช้หนี้ แบบนั้นไม่ต่างอะไรจากการขายตัวเลย แต่ว่าแล้วอย่างไรล่ะ เธอไม่มีทางเลือกจริงๆ นึกถึงชายฉกรรจ์คุกคามตัวเองเมื่อคืนนี้แล้ว ต้นหอมก็อดรู้สึกหวาดหวั่นไม่ได้ หากต้องขายตัวเธอก็ขอขายให้กับภูผาและอชิดีกว่า “เธอไปยืมเงินพวกนั้นมาเหรอ?” คราวนี้เป็นเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนหนึ่ง เจ้าตัวขมวดคิ้วยุ่งและมองมาที่เธอ สาวเจ้าตัวพยักหน้าเบาๆ ทั้งสามคนต่างเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมต้นจนถึงมัธยมปลาย และตอนนี้ก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ก็ยังตามกันมาเรียนแถมยังอยู่คณะเดียวกันด้วย ด้วยเหตุผลนั้นพีชและต้นกล้าจึงรู้สถานะครอบครัวของต้นหอมดี แต่พวกเขาก็ไม่มีกำลังพอที่จะช่วยเหลือเธอ อีกอย่างหากเข้าไปยุ่งมากๆ ก็กลัวว่าจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย เพราะเจ้าหนี้เคยมาทวงหนี้ที่โรงเรียน ในความทรงจำของทั้งสองคน เจ้าหนี้พวกนั้นน่ากลัวมาก ถึงอย่างไรพวกเขาก็รักตัวกลัวตาย ห่วงชีวิตของตัวเองมากกว่า “อันที่จริงแล้วฉันรู้จักภูผากับอชิมาก่อนน่ะ” “หา!?” “สมัยเด็กบ้านเราอยู่ใกล้กัน ก็เลยเล่นด้วยกันบ่อยๆ เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” “เฮ้อ… ถ้างั้นก็ดี ฉันกลัวว่าเธอจะไปเจอคนแปลกๆ น่ะสิ” ต้นกล้าลูบหัวต้นหอมเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ เหมือนอย่างที่เขาเคยทำอยู่เป็นประจำ “แปลกอะไร ภูผาตอนเด็กน่ารักจะตาย เดินตามฉันต้อยๆ เลย” “นึกภาพไม่ออกเลยแฮะ จะแสดงว่าภูผาจะต้องไว้ใจเธอมากเลยนะถึงให้ยืมเงินง่ายๆ แบบนี้” พีชหัวเราะพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ภาพลักษณ์ของภูผาที่พีชเคยเห็นนั้นดูร้ายๆ เถื่อนๆ นึกภาพไม่ออกเลยตอนที่เดินตามผู้หญิงต้อยๆ …ก็ไม่ง่ายหรอกนะ… ต้นหอมตั้งแต่คิดอยู่ในใจ เธอไม่กล้าบอกพวกเขาว่าภูผาและอชิต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน แล้วก็ไม่คิดที่จะบอกด้วย ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะปิดบังเรื่องนี้ไว้ตลอดไป โดยเฉพาะกับต้นกล้า…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD