บทที่ห้า

1954 Words
สองวันผ่านไป… รถคันหรูแล่นสู่คฤหาสน์ด้วยคนขับส่วนตัวหลังเสร็จกิจกรรมฉลองยอดขายทะลุเป้าช่วงไตรมาสสุดท้าย ปลายเท้าเหยียบพื้นพลางก้มดูนาฬิกาข้อมือยี่ห้อดัง จมูกโด่งรั้นอดพ่นลมหายใจเสียไม่ได้เพราะวันหยุดแบบนี้บิดาคงไม่ออกไปไหน ภควัตไม่อยากเจอท่านเอาซะเลย! “คุณท่านรออยู่ เชิญค่ะ” แม่บ้านเก่าแก่นามว่า นมยิ้ม ผายมือบริเวณทิศทางประตู หล่อนเลี้ยงดูเขาตั้งแต่มารดาไม่อยู่บนโลกนี้ก็มีแต่หญิงชราคนนี้นี่แหละที่คอยเติมความอบอุ่นทำให้ภควัตไม่รู้สึกขาด “แต่ภาคยังอยากอยู่กับนมนี่ครับ ไม่อยากเข้าไปเลย” “โธ่คุณหนู อย่ามาอ้อนดิฉันเลยค่ะ คุณท่านรอนานแล้วเห็นว่ามีเรื่องสำคัญจะคุย” นมยิ้มระบายยิ้มบางเบา มือย่นตบบ่ากว้างเชิงปลอบใจ หล่อนพอรู้แหละว่าภควัตกับบิดาไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไรนัก และวันนี้ท่าน ‘ภูวเดช’ เรียกบุตรชายมาพบ ประเด็นที่เจรจาคงสำคัญไม่น้อย ปลายเท้าจ้ำอ้าวผ่านพรมราคาแพงหรี่สังเกตยังห้องนั่งเล่นก็พบว่าผู้เป็นพ่อไขว่ห้างคอยอยู่ไม่ไกล “แปลกนะครับ สงสัยวันนี้พระอาทิตย์คงขึ้นทางทิศตะวันตก เพราะร้อยวันพันปีพ่อไม่ยักอยากคุยกับผมเท่าไร” เสียงทุ้มเอ่ยยียวน ไม่รักษามาดท่านประธานผู้เคร่งขรึมเลยสักนิด “ได้ข่าวว่าแกขอเลื่อนงานแต่งหนูอร” ท่านถามขณะดวงตาคู่คมอ่านหนังสือในมือ ภูวเดชไม่คิดเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตาลูกชาย “ครับ แล้ว” คนเป็นลูกเลิกคิ้วก่อกวนไม่ต่างกับเด็กน้อยเรียกร้องความสนใจ “ฉันไม่อนุญาต” “พ่อมีสิทธิ์อะไร” “ฉันเป็นพ่อเจ้าบ่าวมีสิทธิ์มากพอมั้ย นอกจากฉันไม่ให้แกเลื่อนออกแล้ว ฉันยังจะคุยกับฝ่ายนู้นเพื่อให้งานแต่งเลื่อนเข้ามาอีก” “นี่คุณกำลังล้ำเส้นผมอยู่รู้ตัวหรือเปล่า!” ร่างสง่าสั่นเทิ้ม นัยน์ตาวาวโรจน์ปรากฏเพลิงโทสะเปลี่ยนสรรพนามระหว่างตนกับท่านทันใด “ผมยอมแต่งไม่ใช่อยากช่วยคุณเรื่องหน้าที่การงาน แต่เพราะน้องอรเป็นผู้หญิงที่น่ารักและผมก็รู้สึกดีกับเธอ คุณก็รู้ว่าบังคับอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว” แท้จริงบิดาวางมือจากธุรกิจเหตุผลเพราะกำลังอยากลงสนามการเมือง ท่าน ‘ศาสตรา’ บิดาอรลดาคือนายตำรวจยศสูง อีกฝ่ายมีเส้นสายรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่พอสมควรด้วยฉากหน้าลูกหลานผู้ดีเก่า งานวิวาห์ครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ การต่อยอดทางธุรกิจ และหน้าตาทางสังคมมหาศาล ศาสตราเหมือนสะพานผลักดันภูวเดชสู่เก้าอี้รัฐมนตรี “หึ… แต่แกก็ทำท่าเหมือนอยากเปลี่ยนใจนี่ ยายนั่นคือต้นเหตุหรือไง ผู้หญิงที่แกคั่วมาหลายปีน่ะ” “คุณ!” “แกจะมีใครกี่คนฉันไม่เคยห้ามไม่เคยสนใจ” ท่านผุดลุกเผชิญหน้าลูกชาย “แต่ขออย่างเดียวมีสมองด้วย” ปลายนิ้วลงน้ำหนักบริเวณขมับข้างขวา “ปกติแกฉลาดตลอด เพราะฉะนั้นอย่าทำตัวโง่ ๆ เพื่อผู้หญิงคนเดียว เท่าที่ฉันดูยายนั่นก็ไม่ได้มีค่าอะไรกับแกขนาดนั้นไม่งั้นคงเปิดตัวว่าคบไปนานแล้ว” “…” นัยน์ตาดำขลับแดงก่ำ ภควัตคิดว่าตนเองเลือดเย็นพอสมควร แต่บิดานั้นยิ่งกว่าเพราะนอกจากท่านไร้หัวใจก็ไม่สนใครหน้าไหนทั้งสิ้น ท่านเห็นแก่ตัวคิดถึงแค่อำนาจบารมีของตน “แต่งงานกับหนูอรตามคำสั่ง ส่วนผู้หญิงคนนั้นแกอยากให้เป็นเมียน้อยหรืออะไรก็ได้เรื่องของแก แต่ต้องไม่ใช่ลูกสะใภ้ฉัน!” “เหมือนที่คุณชอบทำมาตลอดใช่มั้ยครับ” “อย่าปากดี!” ภูวเดชกำหมัดแน่นแต่ไม่อาจลงไม้ลงมือกับภควัตเหมือนวัยเด็กได้อีก “ถ้าธุระมีแค่นี้ผมขอตัว” วูบหนึ่งแววตาคมกริบพลันเศร้าโศกแต่ชายหนุ่มเก็บซ่อนมันไว้ด้วยท่าทางแข็งกร้าว เขาจ้ำอ้าวพาตนเองมายังห้องนอนชั้นสอง เอนกายแนบเตียงนุ่มข่มตาหลับลงเพื่อนึกถึงบทสนทนาครั้นสองวันก่อน ระหว่างเขากับอรลดา… แท้จริงไม่ใช่ทะเลาะเบาะแว้งอย่างที่ใครร่ำลือ! ‘พี่ภาคเป็นไง อรใส่ชุดนี้สวยไหม’ อรลดาเอ่ยเสียงใส กรอบหน้าหวานซ่อนบางอย่างไว้ลึกยากเกินกว่าจะคาดเดาออก ทีแรกหล่อนได้รับข้อความจากว่าที่เจ้าบ่าวนัดตนเองมาริมสระ หว่างคิ้วขมวดมุ่นสงสัยเล็กน้อยแต่ไม่ได้ซักไซ้จนดูมากเรื่อง ‘เมื่อวานอรใกล้พี่เพราะทำตามคำสั่งคุณลุงใช่มั้ย’ ปกติทั้งคู่มักเว้นระยะห่างเสมอ อรลดาค่อนข้างหวงเนื้อหวงตัวพอสมควร ทริปสวีตซึ่งใครต่อใครต่างเลื่องลือแท้จริงหล่อนหนีบมารดาติดกาย ‘เปล่า พี่เอาอะไรมาพูด’ ‘คิดว่าพี่รู้ไม่ทันเราหรือไงตัวแสบ!’ มือหนาขยี้เรือนผมสลวยอย่างที่ชอบทำ แววตาแข็งกร้าวพลันอ่อนวูบลงเพียงใกล้ชิดผู้หญิงคนนี้ ‘พี่เห็นเรามาตั้งแต่เด็กนะ อรชอบพี่ตอนนั้นคงไม่…’ ‘แล้วถ้าพี่คิดว่าอรไม่ชอบทำไมถึงกล้าจีบอรต่อล่ะ คาสโนวาอย่างพี่น่าจะรู้สึกว่ารำคาญอรบ้างนะ’ ริมฝีปากเจือสีหวานยิ้มกริ่ม วาจาหล่อนมักมีลูกล่อลูกชนสยบเขาได้เสมอ น้องน้อยฉลาดพูดตั้งแต่วัยเยาว์ แม้อดีตติดภาพลักษณ์สาวหวานก็ตาม ทว่าบางครั้งภควัตก็สงสัยเช่นกัน เหตุใดอรลดาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ หญิงตรงหน้าเขาผิดกับหล่อนราวคนละคน ‘เพราะพี่อยากปกป้องอรไง’ ‘ฮะ ปกป้อง ?’ หล่อนยกมือขึ้นทาบอกพลางหัวเราะคิกคัก ‘อย่ามาตลกใส่พี่รู้นะ คุณลุงชอบดุอรบ่อย ๆ’ ‘พี่ภาค…’ ‘วันหนึ่งพี่จะพาอรออกจากที่นั่น บ้านหลังนั้นไม่เหมาะกับอรหรอกเชื่อเถอะ’ ภควัตรู้ซึ้งถึงการเติบโตท่ามกลางระเบียบและกฎเกณฑ์ หน้าตาวงศ์ตระกูลต้องเป็นที่หนึ่งจะแพ้ใครไม่ได้เป็นอันขาด แม้หยาดน้ำตาเด็กพวกนั้นรินไหลไม่ต่างจากสายเลือด บุพการีใจร้ายก็ไม่ยี่หระ ‘พูดแบบนี้พี่อยากได้อะไรจากอรดี’ ‘อรจะโกรธพี่ไหม ถ้าพี่จะบอกว่าตอนนี้พี่ยังไม่…’ ‘ไม่พร้อมแต่งงาน’ หล่อนแทรกพลางเลิกคิ้วล้อเลียน ‘อรรู้ อรก็ดูออกเหมือนกันนะพี่ภาค แต่ถ้าพี่จะให้อรพูดกับพ่อ อรคิดว่าคงไม่สำเร็จ พี่ก็รู้นี่ว่าอรไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร’ ‘เดี๋ยวพี่คุยกับท่านเอง’ ‘ถ้าพี่สบายใจแบบนั้นอรก็ไม่ขัด แล้วแต่พี่เลยค่ะ’ ‘ขอบคุณนะที่เข้าใจ’ ภควัตคว้ามือนุ่มนิ่มมากอบกุม ‘พี่สัญญาจะไม่ปล่อยให้อรรอนาน แต่ขอเวลาหน่อย ให้พี่เคลียร์หลาย ๆ เรื่องกวนใจ’ เรียวปากหยักระบายยิ้มเบา ๆ หนำซ้ำยังฉวยโอกาสกอดร่างบอบบาง อรลดาสัมผัสแผ่นหลังกว้างอย่างอ่อนโยน ภควัตคงเครียดหลายเรื่องหล่อนเองก็เช่นกัน สองหนุ่มสาวคุยกันอยู่พักใหญ่ ร่างสง่าจูงมือว่าที่เจ้าสาวปล่อยหล่อนรับลมเย็น ๆ ริมสระว่ายน้ำ ทว่าเครื่องมือสื่อสารหล่อนดังขัดจังหวะ อรลดาหน้าซีดเผือดทันควัน กระบอกตาร้อนผ่าวหลังได้รับข่าวร้ายที่สุดในรอบหลายปีนั่นคือมารดาพลัดตกบันได ร่างบอบบางสั่นเทาราวลูกนกปีกหัก ส่วนภควัตก็รีบพาอรลดาไปส่งที่รถตู้ ทั้งยังไม่ลืมกำชับให้คนของตนส่งอีกฝ่ายจนกระทั่งถึงปลายทางปรารถนา ไม่มีเรื่องราวแตกหักอย่างที่ใคร ๆ เขาว่า มีเพียงสองหนุ่มสาวซึ่งเข้าใจกันสุดหัวใจ! @Claw lounge ตะวันคล้อยตกดินผันเปลี่ยนเป็นยามราตรี ลัมโบร์กีนีสีเงินเมทัลลิกหยุดบริเวณลานจอดรถ ณ เลานจ์ใจกลางเมือง ‘Claw lounge’ คือแหล่งอโคจรลับ ๆ ซึ่งเหล่าไฮโซ นักธุรกิจ คนมีชื่อเสียงมักมุ่งหน้ามาดื่มด่ำความสำราญเช่นสวรรค์บนดิน รสนิยม ‘นรัณกร’ เพลย์บอยตัวฉกาจไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง ที่นี่รวมทั้งพนักงานหน้าตาดี ไซด์ไลน์เกรดเอ หนำซ้ำยังเปิดประมูลหญิงสาวสุดพรีเมียม อดีตภควัตไม่ต่างกับเหล่าลูกค้าพวกนั้น ครั้นพอได้สานสัมพันธ์ลับ ๆ กับเหมือนไหมจึงหยุดชะงักลง ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าผ่านการ์ดหน้าร้านมุ่งตรงยังโซนวีไอพีซึ่งเพื่อนสนิทสิงสถิตประจำ นรัณกรยกแก้ววิสกี้ขึ้นเชิงทักทาย เรียวปากหยักได้รูปยียวนตั้งแต่ประโยคแรกที่พบหน้า “วันนี้ลมอะไรหอบมึงมาได้วะ” หางตาเพื่อนเหลือบหาพนักงาน ย่อกายนั่งเพียงไม่นานเครื่องดื่มสุดโปรดปรานก็วางตรงหน้า “กูแค่เบื่ออยากดื่มเงียบ ๆ แต่มึงเสือกเรียกเด็กมานั่งเต็มโต๊ะเนี่ยนะ” สีหน้าเรียบตึงพอ ๆ กับเสียงเข้มที่บอก เล่นเอานรัณกรหลุดหัวเราะ “น้อง ๆ ไปก่อนก็ได้ หลัง ๆ มานี่เพื่อนพี่มันกลัวเมีย” เจ้าพ่อหนุ่มเย้าหยอกตามประสาคนอารมณ์ดี “ไอ้ห่านี่!’ ปลายเท้าภควัตกระดิกแทบทันที ดูสายตาน้อง ๆ กับไอ้เพื่อนนี่สิทำเอาแทบเขามุดแผ่นดินหนี ไม่อยากยอมรับว่ากลัวใครบางคนเข้าใจผิดจริง ๆ “กูแกล้ง จริงจังไปได้ มึงนั่นแหละเป็นไรวะหน้าเครียดฉิบหายหรือเพราะข่าว” นรัณกรเปิดประเด็นประหนึ่งรู้ทันเขาเสียทุกอย่าง ทั้งสองสนิทสนมกันเนิ่นนาน อ่านสีหน้าเพื่อนพริบตาเดียวก็กระจ่างทันที “น้องอรดูจริงจังกับมึงมากขึ้นนะ ทำไมไม่ดีใจเหรอวะ เขาเป็นรักแรกมึงนี่” “ไม่รู้ว่ะกูอธิบายไม่ถูก” ภควัตเอ่ยพลางกระดกเครื่องดื่มรวดเดียว “หรือเพราะไม่รู้สึกเหมือนเดิมแล้ว” คำถามเพื่อนเล่นเอาท่านประธานหนุ่มชะงัก เรียวปากหยักเม้มแน่นไม่ต่างกับเวลาหาวิธีเอาชนะศัตรูทางธุรกิจ สมองประมวลหาเหตุผลมากมาย ทำไม… ทำไมถึงยังตัดเหมือนไหมจากชีวิตไม่ได้ ? จะว่ารักเห็นทีคงไม่ใช่เมื่อความรู้สึกนั้นมอบให้อรลดานี่นา หรือเพราะหลงเสน่ห์ เสพติดเซ็กซ์เร่าร้อนจึงไม่อยากปล่อยเธอไป “หรือมึงรักผู้หญิงคนนั้นวะ” “เพ้อเจ้อ กูไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับไหม กูแค่ชอบตอนอยู่ด้วยกันหรืออาจจะติดใจตอนมีอะไรกับเขาก็แค่นั้นแหละ” “มึงอยากเลิกสับสนมั้ยล่ะ” “ทำไม หรือมีวิธีดี ๆ อะไรแนะนำกู” “อืม กูจะช่วยมึงเอง” นัยน์ตาคมกริบมองเขาอย่างมุ่งมั่น “ว่า” “นอนกับคนอื่น” ถ้อยคำเพื่อนรักผลักดันให้ลังเล หรือเขาควรเปลี่ยนรสชาติบ้าง บางทีอาจเพราะไม่ได้สานสัมพันธ์ทางกายกับหญิงอื่นนอกจากเธอเลยติดบ่วงสวาทเช่นนี้ “สนไม่สน น้อง ๆ กูพร้อมนะถ้ามึงต้องการ เดี๋ยวกูเปิดห้องวีไอพีให้เลยรับรองเด็ดจนลืมไม่ลง” “…” เรียวปากหยักเม้มเป็นเส้นตรงครู่หนึ่ง “หรือมึงแคร์ไหมวะ กลัวเขารู้แล้วเสียใจใช่ปะ” เจ้าพ่อหนุ่มกระตุกยิ้มบาง ๆ เสียงทุ้มกึ่งขำกึ่งแซวจนภควัตเหมือนโดนลูบคมซึ่งหน้า “จัดผู้หญิงให้กูคนหนึ่ง” น้ำเสียงแข็งบอกอย่างเด็ดขาดลองวิธีที่หมอนี่ว่าคงไม่เสียหายกระมัง ครั้นหญิงสาวไม่ใช่ที่รักแค่สานสัมพันธ์ลับด้วย อย่างไรคืนนี้เขาก็ต้องขจัดเหมือนไหมออกจากสมองให้จงได้!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD