บทที่หก

2043 Words
“เสร็จงานอาทิตย์นี้ดิฉันขอลาออกนะคะ” นางพยาบาลที่คอยดูแลมารดาเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย ท่าทางเจ้าหล่อนเล่นเอาเหมือนไหมมึนงงชั่วขณะ “ทำไมล่ะคะ หรือค่าแรงที่ฉันให้คุณมันน้อยไป” เธอถามกลับอย่างตรงไปตรงมา ด้วยไม่รู้ว่าการกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะเหตุใดที่ผ่านมาทำงานร่วมกันก็ราบรื่นตลอด แต่มาขอลาออกดื้อ ๆ มันค่อนข้างน่าสงสัยพอสมควร “หรือคุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่าบอกไหมตรง ๆ ได้นะ ยินดีรับฟัง” มือนุ่มคว้าแขนเจ้าหล่อน น้ำเสียงฟังดูเว้าวอนเสียเต็มประดา “แต่อย่าเพิ่งไปตอนนี้ได้มั้ยคะ ไหมหาคนไม่ทันคุณก็รู้แม่อาการแย่แค่ไหนท่านช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไหมทำงานส่วนน้องสาวก็ยังเรียนอยู่” “นั่นเป็นปัญหาของคุณค่ะไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันบอกล่วงหน้าเพื่อให้รับรู้ ขอตัวนะคะ” แต่อีกฝ่ายกลับไม่แยแสด้วยซ้ำ นางพยาบาลใจร้ายสะบัดตัวออกห่าง หล่อนหมุนปลายเท้าหันหลังเมินเฉยต่อสีหน้ากังวล ครั้นเงินมหาศาลเฝ้ารออยู่ตรงหน้าไม่รีบรับไว้ก็โง่เต็มทน ริมฝีปากได้รูปขบกัดกันจนห้อเลือด ทำไมชีวิตเธอต้องเผชิญเรื่องแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า พอดีขึ้นก็เจอพายุสาดใส่กลืนความสุขอันน้อยนิดจางหายไป คนเป็นทุกข์เวียนว่ายกลับมาจมอยู่ที่เดิม มือนิ่มทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งข้อความหารุ่นพี่พยาบาลซึ่งรู้จักให้หล่อนช่วยหาคนมาดูแลนภา ส่วนตนเองก็ไม่เพิกเฉยรีบโพสต์ลงกลุ่มหางานหวังว่าจะมีใครสักคนบังเอิญเห็นและติดต่อเข้ามา ติ๊ง! ติ๊ง! ฉับพลันทาวน์เฮาส์สองชั้นถูกกดระรัวด้วยบุคคลปริศนา เหมือนไหมปาดน้ำตาลวก ๆ ปรี่เท้าเร็วรี่เพราะเกรงเสียงดังกล่าวอาจรบกวนมารดาจนท่านตกใจ หญิงสาวเปิดรั้วบ้านพลันปรากฏรถตู้สีดำขลับซึ่งไม่คุ้นตาเท่าไรนัก ชั่ววินาทีประตูบานนั้นเลื่อนออกเผยให้เห็นถึงที่บุคคลข้างใน…เจ้าสัวภูวเดช ท่านมาทำอะไรที่นี่! “ขึ้นมาสิหนู ฉันมีธุระสำคัญจะคุยด้วย” “คะ…” แววตาคู่งามระริกสั่นไหว สุ้มเสียงทุ้มต่ำแม้ไม่ฉายชัดร่องรอยโกรธเคืองใด ๆ ท่านเลือกซ่อนอารมณ์ไว้มิดชิด “เรื่องภควัต” เสียงกดต่ำสามารถทำเลือดในกายหญิงสาวร้อนผ่าวราวคนกลัวความผิด เหมือนไหมกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ หรี่สังเกตชายฉกรรจ์เบื้องหลังวูบหนึ่ง ก่อนก้าวขึ้นรถเพราะท้ายที่สุดต่อให้พยายามขัดขืนเพียงใด ภูวเดชก็บังคับเธออยู่ดี รถตู้มุ่งสู่นอกหมู่บ้านขับเพียงไม่นานล้อพลันหยุดหมุนบริเวณร้านกาแฟแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลกัน ริมฝีปากแห้งผากเสียจนเธอเผลอเลีย สมองคิดสะระตะกระทั่งปวดหัวขณะจดจ้องแผ่นหลังคนเบื้องหน้า จะว่าอคติหรือเปล่า…ทำไมแอบสังหรณ์ใจว่าท่านไม่ได้มาดี โต๊ะซึ่งภูวเดชเลือกอยู่ตรงห้องกระจกห่างไกลลูกค้าราวจงใจ ท่านกวักมือเรียกพนักงานอีกฝ่ายก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ กาแฟสองแก้วลำเลียงเสร็จสรรพ เหมือนไหมยังหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเหตุใดถึงโง่นั่งตรงนี้ ทั้งที่ปรายหางตาคมกริบหยามศักดิ์ศรีขนาดนั้นก็ยอมทนคงเพราะใคร่รู้กระมัง… ริมฝีปากกระจับจิบเครื่องดื่มร้อนก็ขมวดคิ้วฉับพลัน กาแฟแก้วนี้รสชาติประหลาด หนำซ้ำไม่ต่างกับแบบสำเร็จตรงร้านสะดวกซื้อ “ไม่อร่อยหรือ ?” คนมีอายุกว่าเลิกคิ้วถามทันใด ทั้งยังไม่ลืมจ้องลึกสำรวจดวงตาคู่งาม “พอทานได้ค่ะ” เหมือนไหมไม่เฉลยโดยตรงเพราะไม่อยากเสียมารยาทกล่าวหาร้านที่ท่านเจ้าสัวเลือก “หนูชอบกาแฟแก้วนี้หรือเปล่า ถ้าดื่มทุกวันจะเบื่อรสชาติมันมั้ย” “คะ…” พลันรู้สึกวูบโหวงแล่นก่อกวนก้อนเนื้อในโพรงอกข้างซ้าย “ไหมไม่รู้สิคะไม่ได้เป็นคอกาแฟขนาดนั้น แต่รู้สึกว่าแก้วนี้เหมือนกาแฟแถวบ้านที่คุณแม่ไหมชอบดื่มเมื่อก่อน” “ที่หนูดื่มน่ะกาแฟซองหาซื้อได้ทั่วไปนั่นแหละ” ภูวเดชว่าพลางแย้มยิ้มหยัน “แต่รู้มั้ยทำไมคนถึงยังชอบดื่มทั้งที่รสชาติก็ไม่ได้เรื่องขนาดนั้น” “…” “เพราะมันหาซื้อง่ายจนต้องแวะชิมบางครั้งคราวเพื่อดับความอยาก” หญิงสาวชาวูบทั่วเรือนกายคำว่าง่ายและถูกแท้จริงคงไม่หมายถึงกาแฟ แต่ปรารถนาสื่อแทนตัวเธอต่างหาก “แต่ถ้าถือออกข้างนอกถ่ายลงโซเชียลอวดยังไงกาแฟชงตามแฟรนไชส์หรู ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่คนชอบโชว์มากกว่ากาแฟง่าย ๆ แก้วนี้หนูว่ามั้ย” “ท่านเจ้าสัว” เสียงเรียกคนตรงหน้าแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน “ฉันจะพูดไม่อ้อมค้อมแล้วนะ ลูกชายฉันกำลังจะแต่งงาน วันนี้เขาเพิ่งไปเลือกแบบการ์ดกับว่าที่เจ้าสาวตัวจริงมา ถ้าหนูยังพอมีสำนึกอยู่บ้างก็เลือกเอาว่าจะเดินออกไปจากชีวิตเขาดี ๆ หรือยอมเป็นเมียน้อยก็แล้วแต่ฉันไม่เคยห้าม” “…” “ยังไงเสียภาคมันคงไม่ตัดหนูหรอก อาจจะเก็บหนูไว้แก้เหงาเวลาเบื่อเมีย ถ้าพูดในฐานะผู้ชายก็เข้าใจสันดานมันได้อยู่” “…” “เพราะตัวหนูเองก็ไม่ต่างกับกาแฟสำเร็จพวกนี้” ถ้อยคำดูถูกคล้ายแส้เส้นใหญ่ฟาดลงกลางใจ หากถามว่าเจ็บไหม เหมือนไหมเจ็บจนจุก เพราะทุกอย่างที่ว่านั่นคือเรื่องจริง… ลำคอตีบตันปฏิเสธไม่ได้ ก็เธอง่ายอย่างที่ท่านเจ้าสัวปรามาส “ค่าเสียเวลา ขอให้แม่หนูหายดีไว ๆ” มือย่นหยิบกระดาษวางทิ้งมันไว้ ก่อนผุดกายเหลือเพียงความว่างเปล่า ก้มต่ำมองก็เห็นว่าภูวเดชตอกย้ำเหมือนไหมอย่างเลือดเย็นด้วยเช็คมูลค่ามหาศาล… หนึ่งล้าน… ท่านตัดสินแล้วว่าชีวิตเธอสามารถซื้อได้ด้วยเงิน! คู่ชีวิตของภควัตควรเป็นคนที่เหมาะสมมากกว่าผู้หญิงธรรมดาเช่นเธอ ก็ชายหนุ่มเป็นถึงลูกเจ้าสัวใหญ่นี่นา แค่นาฬิกาเรือนเดียวของเขาอาจมีมูลค่ามากกว่าเงินเก็บเธอทั้งชีวิตด้วยซ้ำ คนตัวเล็กก่นด่าตนเองในใจ… ที่ผ่านมาเธอหวังอะไรกันแน่เหมือนไหม ? การพยายามถีบตัวเองเพื่อควรคู่กับไฮโซหนุ่มผู้สูงเสียดฟ้า เมื่อตกลงมาคงเจ็บเป็นธรรมดา รสชาติความขื่นขมกับกาแฟห่วย ๆ แก้วนี้ควรค่าแก่ตัวเธอ กดส่งข้อความหาณดล บางทีการพบเจ้าสัวครั้งนี้เหมือนไหมควรลืมตามองความจริงบ้างว่าต่อให้ตนพยายามแค่ไหน สุดท้ายอาจตกอยู่ในสถานะเมียน้อยอยู่วันยังค่ำ เหมือนไหมรับไม่ได้ เธอไม่อยากเป็นชู้ใคร… ทว่าใจดื้อรั้นปรารถนาถามภควัตครั้งสุดท้ายว่าจะเลือกผู้หญิงคนนั้นหรือตัวเอง คนตัวเล็กโบกรถแท็กซี่ปลายทางคือเพนต์เฮาส์สุดหรูซึ่งภควัตอาศัยประจำ ถามมือขวาคนสนิทของฝ่ายชายณดลมีท่าทีอึกอักทำให้สามารถจับพิรุธได้ทันที เวลานี้ชายหนุ่มคงอยู่ที่นั่นกับว่าที่เจ้าสาวสินะ! เธอไม่โวยวายพวกเขาหรอก แค่อยากคุยกับคนใจร้ายเพราะอย่างไรฝ่ายหญิงก็ไม่เกี่ยวข้องด้วย ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงปลายทาง… ร่างบอบบางยื่นแบงก์สีม่วงจ่ายค่าโดยสาร ก่อนเร่งฝีเท้าผ่านแนวบานเลื่อนกระจก “คุณไหม…” ณดลลุกลี้ลุกลนปรี่เข้ากระชากเรียวแขนขาวบังคับปลายเท้าเหมือนไหมทางทิศซึ่งผู้เป็นนายสั่งไว้ เขากดน้ำหนักกระทั่งคนตัวเล็กจมลงกับโซฟารับแขก หนำซ้ำยังส่งสายตาแข็งกร้าวไม่เหลือมาดสุภาพครั้นอดีต หึ… คงเพราะบัดนี้เหมือนไหมเป็นตัวปัญหาของชีวิตภควัตสินะ ณดลถึงเหี้ยมโหดเช่นนี้ พวกเขาเลือดเย็นจนเธอรู้ซึ้งเวลาภควัตสั่งมือขวากำจัดศัตรูขวางหน้า…และศัตรูที่ว่าคือตัวเธอเอง! “ถ้าคุณภาคไม่นัดคุณก็ไม่ควรมาที่นี่” “จะบอกว่าตอนนี้ไหมเป็นส่วนเกินใช่มั้ยคะ” ริมฝีปากกระจับเหยียดยิ้มถาม “ไหมขัดจังหวะเขากับว่าที่เจ้าสาวหรือไง คุณถึงได้โวยวายไหมขนาดนี้” น้ำเสียงราบเรียบต่างจากแววตาวาวโรจน์ข้างในลิบลับ “ตอนนี้คุณกำลังไร้สติอยู่ กลับไปเถอะครับเชื่อผม ถ้าไม่อยากให้ทุกอย่างมันพังยิ่งกว่านี้” “ไหมไม่กลับค่ะ เพราะตอนนี้ไหมก็พังจนไม่รู้จะพังยังไงแล้วเหมือนกัน ไหมอยากคุยกับเขาให้รู้เรื่อง!” “คุณจะพาลแบบนี้ไม่ได้นะครับ ที่ผ่านมาคุณเองก็ยอมรับเงื่อนไขทุกอย่างตลอด” “ไหมรู้ เพราะไหมเคยคิดว่าความดีของไหมจะเปลี่ยนผู้ชายคนนั้นได้ไงคะ” ดวงตาหม่นหมองฉายชัดว่าเจ็บร้าวกับวันวาน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและนักธุรกิจหนุ่มจริงอยู่ว่าบางครั้งทุกข์ แต่ที่ผ่านมาหญิงสาวเลือกมองความสุขมากกว่า… เธอหลงใหลขุมเสน่หา กว่าจะรู้ตัวความละโมบอยากให้เขารักตอบกำลังจะฆ่าตัวเองตายทั้งเป็น ตอนมหาวิทยาลัยเหมือนไหมเคยเห็นเพื่อนบางคนยอมโง่เพราะบูชาความรัก หลับหูหลับตาเชื่อคนหลอกลวงพวกนั้นจนบางครั้งน่าสงสาร แต่บัดนี้เธอเข้าใจพวกเขาเหล่านั้นแล้ว… เพราะรักมันหอมหวานใช่ไหม ? ทุกคนถึงโหยหาอยากลิ้มลองกระทั่งขาดไม่ได้ในที่สุด กว่าจะย่ามกายความเจ็บร้าวพลันมาเยือน! “งั้นคุณก็รอที่นี่อย่าสร้างปัญหา คุณภาคกำลังคุยธุระข้างบน ผมไม่กล้ารับประกันนะว่าจะนานแค่ไหน” ณดลสะบัดกายลุกขึ้นพาตนไปยังโซฟาอีกด้านหนึ่ง มือขวาหนุ่มคอยสังเกตการณ์เงียบ ๆ ไม่อยู่ใกล้เหมือนไหมตามคำสั่งผู้เป็นนาย เพราะท่านเกรงว่าอรลดาอาจสงสัย ด้านหญิงสาวเพียงระบายลมหายใจเหนื่อยล้า ก้มหน้ารับชะตากรรมอัปยศ รอแล้วรอเล่ากระทั่งล่วงเลยกว่าสามชั่วโมงคนซึ่งเธอเฝ้าคอยก็ลงมาพร้อมกับเจ้าสาวตัวจริง ภควัตไม่แม้แต่ชายตามองเธอ เขาเดินไปส่งผู้หญิงคนนั้นขึ้นรถเปิดประตูให้อีกฝ่ายอย่างสุภาพ หนำซ้ำยังระบายยิ้มอ่อนโยนบอกลากัน การกระทำดังกล่าวมีอานุภาพทำลายล้างรุนแรง ถ้าชายหนุ่มอยากให้เหมือนไหมเจ็บจนสาแก่ใจ… เขาก็ทำสำเร็จ เพราะตอนนี้เธอรวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก หัวใจคล้ายถูกรุมทึ้งซ้ำไปซ้ำมา ส่วนสำคัญของร่างกายแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี “ตามมา” ดวงตาคมกริบจดจ้องราวกินเลือดกินเนื้อ เรียวปากหยักทิ้งเพียงคำพูดแสนสั้น หมุนปลายเท้าหันหลังทั้งใบหน้าฉายชัดว่าสุดรำคาญ ท่าทางเย็นชาทำเอาใจดวงน้อยวูบโหวงกระนั้นก็ยังอุตส่าห์ตามชายหนุ่มราวว่าง่ายเสียเต็มประดา หากบัดนี้เหมือนไหมไม่ต่างกับระเบิดเวลา เพราะความอดทนอันน้อยนิดใกล้สิ้นสุดลง! ลิฟต์ส่วนตัวพาทั้งคู่มายังเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดซึ่งชายตรงหน้าเป็นเจ้าของ ระบบสแกนม่านตาเลื่อนบานประตูฉับพลัน เหมือนไหมก้าวไปข้างในนั้น… ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นดินแดนความรักระหว่างสองเรา นัยน์ตาเหลือบสังเกตก็พบว่าธุระเมื่อครู่คือการดินเนอร์กับเจ้าสาวตัวจริง อาหารยังเกลื่อนเต็มโต๊ะสี่เหลี่ยมลายหินอ่อน ไวน์ราคาแพงพร้อมเครื่องเสียงบ่งบอกว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาทั้งคู่สุขใจแค่ไหน… ยิ่งจินตนาการว่าภควัตเสพสุขทั้งที่ใจเธอทุกข์ขีดเส้นอดทนน้อยนิดพลันขาดผึงทันใด! คนใจร้าย… เคยคิดว่าภควัตเลือดเย็นแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะไร้หัวใจเพียงนี้ หรือบางทีมันอาจจะยังเต้นอยู่หรอกเพียงชายหนุ่มไม่คิดใช้กับเธอ หัวใจเขา… ไม่มีเพื่อรักเธอเหมือนไหม! เพราะอะไรรู้ไหม… ก็การ์ดแต่งงานซึ่งเจ้าสัวภูวเดชกล่าวถึงวางแผ่หลาอยู่บนโต๊ะเช่นกัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD