“แกนึกยังไงเนี่ย”
เพลงเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ ไม่คิดว่านี่จะแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น เพราะปกติแล้วมีนาจะชอบไปที่บาร์นั่นตลอด
และใช่มีนากำลังหลีกเลี่ยงใครบางคนที่เธอไม่อยากเจออีก และเธอมั่นใจว่าเขาต้องอยู่ที่นีโอบาร์แน่นอน เพราะที่นั่นคือรังของพวกเขา เพื่อนสนิทเขาเป็นเจ้าของที่นั่น เธอรู้ดีเพราะวายุเคยไปเจอสายธารที่บริษัทอยู่บ่อยๆ เธอจึงพอจะรู้อยู่บ้างถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดก็เถอะ
"เปล่าซะหน่อยแก ถ้ามาดื่มๆแล้วก็กลับเองแก"
เธอเลือกที่จะปัดทิ้งด้วยการยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด แอลกอฮอล์ร้อนแล่นลงคอแทนคำตอบที่เธอไม่อยากให้ใครรู้
“จะอันตรายได้ยังไงพี่อยู่นี่ทั้งคน พี่ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเราหรอกน่ายัยเพลง”
เสียงอบอุ่นของพีดังขึ้น แต่ดวงตาคมกลับจับจ้องไปยังมีนาอย่างไม่วางตา ราวกับลืมไปแล้วว่าเจ้าของคำพูดนั้นตั้งใจจะปลอบใคร
“พี่พีคะ หนูอยู่ตรงนี้ค่ะ ตรงนั้นน่ะมีนาเพื่อนหนูค่ะไม่ใช่หนู”
เพลงรีบชี้นิ้วไปที่ตัวเอง พร้อมทำแก้มป่องใส่พี่ชายเหมือนเด็กน้อยที่โดนแย่งความสนใจ
"หึหึหึ! ก็เรามันไม่น่าดึงดูดไงล่ะ ดูสิเนี่ยน้องสาวพี่แต่งตัวตั้งนาน สุดท้ายก็สู้เพื่อนไม่ได้เลย”
พีหัวเราะเบาๆ แต่ก็ยังไม่วายปรายตามาที่มีนา
“โห! พี่พีเห็นผู้หญิงแล้วน้องหมดความสำคัญเลยนะคะ”
เพลงทำหน้างอนจ้องพี่ชายตาเขียวปั๊ด
“ฮืม...ใครบอกละคะพี่พี ยัยเพลงน่ะเสน่ห์แรงจะตายค่ะ ผู้ชายเข้ามาจีบตั้งเยอะค่ะ แต่นางแค่ไม่สนใจผู้ชายที่เข้ามาแค่นั้นเองค่ะ ไม่รู้สเปคเป็นยังไงถึงไม่ยอมคบใครเลยสักที"
มีนาหันไปยิ้มให้เพื่อน ก่อนจะพูดแหย่เล่นเหมือนเป็นการฟ้องพี่ชายไปด้วย
“อ้าว อย่างนี้แสดงว่ามีผู้ชายมาจีบน้องสาวพี่เพียบเลยสิเนี่ย”
พียื่นมือไปบีบแก้มเพลงเบาๆ ก่อนจะส่ายเบาๆอย่างหยอกล้อ
“โห...นี่น้องสาวของพี่จะขายออกแล้วเหรอ”
“โอ๊ย! พี่พีหนูเจ็บนะคะ”
เพลงรีบดึงมือพี่ชายออก ลูบแก้มตัวเองไปมาเบาๆ อันที่จริงเธอไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร แต่ต้องทำเหมือนว่าตัวเองเจ็บ ทั้งที่ความจริงแค่เรียกร้องความสนใจเท่านั้น
มีนามองภาพพี่น้องหยอกล้อกันด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ความรู้สึกโหวงในใจที่เธอเก็บซ่อนไว้ค่อยๆคลายลงนิดหน่อย
“น่ารักจังเลยนะคะ หนูเองก็อยากมีพี่ชายบ้างเหมือนกัน แต่ว่าดันมีแค่น้องสาว”
ทันทีที่คำพูดนั้นหลุดออกมา บรรยากาศก็เงียบลงเล็กน้อย มีนารู้สึกถึงความว่างเปล่าในอก ภาพพ่อแม่และน้องสาวของเธอผุดขึ้นมาในความคิด ความอบอุ่นแบบครอบครัวที่เธอเคยมี นานมากแล้วที่เธอรู้สึกเงียบเหงาเพราะคิดถึงคนที่รอ
“น่ารักอะไรล่ะแกพี่พีชอบแกล้งฉันจะตาย บางทีก็แกล้งแรงด้วยนะ ฉันช้ำไปหมดทั้งตัวแล้วแกรู้ไหม”
เพลงรีบเอ่ยขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความเศร้าที่กำลังเข้ามาปกคลุม และหันมามองเพื่อนรักมากกว่าพี่ชายของเธอด้วย
“แสดงว่าแกไม่ชอบมีพี่ชายใช่ไหมยัยเพลง”
มีนาหันมามองเพื่อนพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ใช่ฉันไม่ชอบเลยสักนิด พี่ชายชอบแกล้งตั้งแต่เด็กจนโต นี่ฉันเพิ่งได้สบายตอนพี่พีไปเรียนต่างประเทศนี่แหละ ก่อนน่านั้นฉันโดนแกล้งทุกวัน”
เพลงตอบทั้งที่ใจลึกๆก็แอบคิดถึงพี่ชาย แต่ไม่อยากแสดงออกให้เขาเห็น
“ถ้าแกไม่ชอบมีพี่ชาย งั้นให้พี่พีเป็นพี่ของฉันก็ได้นะ เพราะว่าฉันอยากมีพี่ชายมากๆ”
มีนาแกล้งเพื่อนพร้อมยิ้มร่าเริง
“ไม่ได้นะครับ พี่ไม่สามารถเป็นพี่ชายของน้องมีนาได้หรอก”
พีเอ่ยทันทีราวกับลืมตัวไป
“อ้าว…พี่พีไม่อยากมีสาวแบบหนูหรอกเหรอคะ”
เสียงมีนาเศร้าลงทันที เธอคาดหวังให้พีเล่นด้วย แต่กลับเจอความจริงที่ทำให้เธอรู้สึกหนักใจ
“ไม่ใช่แบบนั้นครับ พี่เพียงแค่ไม่ได้คิดอยากเป็นพี่ชายของน้องมีนา แต่พี่คิดไปมากกว่านั้นเท่านั้นเอง”
พีเอ่ยพร้อมจ้องตาของมีนาอย่างจริงจัง ทำให้เธอรีบยกแก้วขึ้นมาดื่มแก้เขินทันที
“อย่าบอกนะคะว่าพี่พีกำลังคิดจะจีบเพื่อนหนูแล้ว”
เพลงรีบเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะเธอเองก็อยากให้เป็นอย่างนั้น
“ยัยเพลงแกพูดอะไร ฉันกับพี่พีเพิ่งเจอกันครั้งแรก อีกอย่างฉันก็รู้สึกกับพี่พีเหมือนพี่ชายจริงๆ แกนี่ชอบพูดอะไรเรื่อยเปื่อย”
มีนาเอ่ยเสียงดุ เธอไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องอึดอัด รวมทั้งตัวของเธอเองด้วย
มีนาเผลอหัวใจเต้นแรงกับสายตาจริงจังของพี ในขณะที่เพลงก็ยิ้มเจ้าเล่ห์พอใจที่ได้เห็นปฏิกิริยาของทั้งคู่
“มาดื่มกันดีกว่าค่ะ”
มีนารีบเปลี่ยนเรื่องขึ้นทันที พร้อมยกแก้วชนกับคนทั้งสอง ก่อนจะกระดกเหล้าครั้งแล้วครั้งเล่าแทบไม่ยอมวางแก้ว เธออยากใช้มันบดบังใบหน้าตัวเองไม่ให้พีจ้องมองเธอขนาดนี้
“ดื่มค่ะ ดื่มค่ะพี่พี”
เพลงยกแก้วชนกับพี่ชายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เหมือนฉลองความสำเร็จที่พี่ชายได้เจอเพื่อนรักของเธอ และเพลงก็แอบส่งยิ้มให้กับพี่ชายด้วยความพอใจ
หลังจากนั้นทั้งสามนั่งคุยและดื่มไปกันเรื่อยๆ จนกระทั่งเพลงเริ่มเอนตัวพยุงตัวเองแทบไม่ไหว
“พี่พีคะ หนูว่าเรากลับกันเถอะค่ะ ดูเหมือนยัยเพลงจะไม่ไหวแล้ว”
มีนาเอ่ยพร้อมพยุงเพื่อนไว้
“เมื่อกี้ยังบอกว่าไหวอยู่เลย ดูสิเนี่ยสภาพดูไม่จืดเลย คออ่อนขนาดนี้ก็ยังเร่งชนแก้วไม่หยุด”
พีเอ่ยบ่นเบาๆ พลางมองน้องสาวด้วยความเอ็นดู
“นั่นสิคะ แต่ตอนนี้หนูว่าน่าจะไม่ไหวจริงๆแล้วแหละค่ะ”
มีนาเอ่ยพร้อมกับเริ่มพยุงเพลงไปด้วยตัวเอง เธอเองก็เริ่มมึนๆอยู่เหมือนกัน แต่ยังพยายามตั้งสติไม่ให้เมาเหมือนคืนนั้น
“อืม...เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวพี่อุ้มยัยเพลงเอง ส่วนเราก็ไปพร้อมพี่นี่แหละเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
พีหันมาพูดกับมีนาอย่างอบอุ่น เขาไม่อยากให้เธอต้องกลับคนเดียว และที่สำคัญเขาเองก็อยากไปส่งเธอด้วย
“เอ่อได้ค่ะพี่พี”
มีนาตอบรับพร้อมพยุงเพลงที่อยู่ในอ้อมแขนพี และเธอไม่ลืมที่จะหันมาคว้ากระเป๋าและโทรศัพท์ของเพื่อน แล้วเดินตามพีไปยังลานจอดรถทันที
-สายธาร-
“ท่านครับดูเหมือนว่ารถของเราจะยางรั่วนะครับ”
ตี๋รีบรายงานเมื่อเห็นความผิดปกติของรถ หลังจากลงไปตรวจสอบแล้วพบว่ายางรถรั่วซึมออกจนแบนแต๊ดแต๋
“อะไรนะ”
สายธารเอ่ยอย่างหัวเสีย นอกจากเขาจะไม่ได้เจอผู้หญิงที่เขาต้องการเจอแล้ว รถยังจะมาเสียตอนนี้อีก นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
“รถยางรั่วครับท่าน เดี๋ยวยังไงถ้านั่งรอในรถก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะตามช่างมาซ่อมเดี๋ยวนี้เลยครับท่าน”
ตี๋รีบแก้ไขสถานการณ์ รู้ดีว่าในตอนนี้อารมณ์ของนายไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งรออะไรแบบนี้
“รีบเลย”
“ครับท่าน”
ตี๋รับคำก่อนจะรีบโทรตามช่างให้มาเปลี่ยนยางทันที แม้จะเป็นช่วงเวลาตีหนึ่งช่างก็ต้องมาทำตามคำสั่งของสายธาร โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งนั้น
“หน้าหงุดหงิดจริงๆ”
สายธารพึมพำกับตัวเองด้วยความขุ่นเคือง เขานั่งรอภายในรถไม่นานสายตาก็สะดุดเข้ากับร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เพิ่งก้าวลงจากรถเก๋งคันสีดำสนิทฝั่งตรงข้าม
“นั่นมันเธอนี่”
เขาพูดกับตัวเองพร้อมหรี่ตามองเพื่อให้แน่ใจ ก่อนจะเลื่อนกระจกรถลงต่ำ สุดท้ายก็ยืนยันได้ว่าเธอคือผู้หญิงคนนั้นจริงๆ แต่ทว่าเธอกับอยู่กับผู้ชายอีกคน
“คงเป็นผู้ชายที่ทำให้เธอร้องไห้ฟูมฟายสินะ หึ! เธอนี่มันร่านใช้ได้เลยนี่"
พูดจบสายธารก็เปิดประตูรถ แล้วก้าวขาลงจากรถทันที
“ท่านครับ! ท่านจะไปไหนครับ”
ตี๋รีบเอ่ยเรียกถามขึ้นทันที เมื่อเห็นร่างสูงของสายธารยืนอยู่ริมถนน สายตาคู่นั้นมองไปอีกฝั่งด้วยสายตานิ่งเรียบ
“มึงรอกูตรงนี้แหละเดี๋ยวกูมา”
สายธารตอบเพียงแค่นั้น ทว่ากลับไม่หันไปมองตี๋แม้แต่น้อย สายตาของเขาจดจ้องไปที่ร่างบางในชุดสายเดี่ยวสีแดงเลือดหมู เธอยิ้มพลางพูดคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าเขาเพียงแค่มาส่งเธอแล้วก็จะจากไปเท่านั้น
“แต่ว่าท่านครับ รถใกล้เสร็จแล้วนะครับ!”
ตี๋ตะโกนตามหลังไปแต่สายธารก็ไม่สนใจ เขารีบวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่งทันที ก่อนจะก้าวช้าๆตามหลังผู้หญิงชุดแดงไป
มีนาไม่รู้เลยว่ามีใครกำลังเดินตามอยู่ด้านหลัง เธอรูดคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูอพาร์ทเม้นท์ แล้วเดินเข้าไปทันทีโดยไม่ได้สนใจ ว่ามีมือหนึ่งแทรกตามเปิดประตูเข้ามา โดยที่เธอก็ยังไม่ทันได้สังเกต เหมือนเป็นเพียงเงามืดเท่านั้น และห้องของเธออยู่เพียงแค่ชั้นสอง เธอจึงเลือกเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์
แคร็ก!!
มีนาไขกุญแจเปิดเข้าห้องโดยไม่หันไปมองข้างหลังแม้แต่น้อย เธอเปิดประตูเข้าไปและดันประตูให้ปิดลง แต่ประตูกลับแน่นสนิทราวกับมีแรงบางอย่างดันไว้
ทันใดนั้นสายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับร่างสูงของสายธาร เขายืนยกแขนดันประตูไว้อย่างตั้งใจ ดวงตาคมของเขาจับจ้องมาที่เธอ ดวงตากลมโตของมีนาเบิกกว้างทันที อาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์เหมือนหายไปในพริบตา
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก มือเล็กสั่นระริกด้วยความตกใจ ขณะที่ลมหายใจเริ่มติดขัด เธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ผู้ชายตรงหน้าคือท่านประธาน