ตอนที่ 4 เตโช (4)

1538 Words
เตโช เมื่อผมและเด็กหนุ่มวัยละอ่อนต่างชิมความหวานจากริมฝีปากของกันและกันจนสมใจ ผมจึงออกคำสั่งให้น้องเขาเข้าห้องน้ำไปทำภารกิจอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมลงไปทานอาหารเช้าด้วยกันแต่เด็กหนุ่มกลับไม่ยอม ได้ลากผมเข้าไปอาบน้ำร่วมกับเขาด้วย ที่สุดเราทั้งสองก็ไม่พ้นที่จะปรนเปรอความสุขให้แก่กันอีกรอบ ไม่รู้เลยว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ระหว่างเราสองคนตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลานี้ หลังจากที่เราอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยจึงลงมาด้านล่าง น้องเขาเดินนำหน้าผมไปที่โต๊ะทานอาหารเช้าประจำบ้านหลังใหญ่ เมื่อผมเดินมาถึงยังโต๊ะทานอาหารเช้าก็ได้ยินเสียงเหมือนกำลังมีคนปรุงอาหารอยู่ในห้องครัว ด้วยความที่ไม่รู้ว่าคนที่ปรุงอาหารอยู่นั้นเป็นใครจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปยังห้องครัวก็พบเข้ากับนายอิฐที่กำลังปรุงอาหารอย่างกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วซึ่งดูต่างจากบุคลิกที่ผมได้สัมผัสเมื่อคืนนี้ จากบุคลิกนิ่งๆค่อนข้างจะไปทางเยือกเย็นเสียมากกว่า บางมุมก็ดูเคร่งขรึม เชยๆ อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องนอนก็แทบจะไม่มีเครื่องมือไฮเทคอะไรเลย โทรศัพท์มือถือก็จอสีธรรมดา ส่วนโทรทัศน์ก็เป็นเครื่องเก่าๆไม่ใช่จอ Lcdเหมือนในห้องของเด็กหนุ่ม ดูๆ แล้วเขาเป็นคนรักสันโดษเลยก็ว่าได้แต่ขณะนี้สิ่งที่ผมเห็นท่วงท่าและการปรุงอาหารของเขาดูมีลีลาคล่องแคล่วเหมือนอย่างเชฟมาเอง ผมยืนมองเขาด้วยความสงสัย ความสงสัยของผมได้เลือนหายไปเมื่อกลิ่นหอมๆของอาหารที่เขาทำลอยมาเตะจมูกผมอย่างจัง มันเป็นกลิ่นอาหารที่ไม่ต้องชิมอไม่ต้องรับประทาน รู้ได้ทันทีเลยว่าอร่อยมากขนาดไหน ผมไม่รอช้าเพื่อถือโอกาสนี้ได้เข้าไปใกล้ชิดกับนายอิฐแม้จะอยู่ใกล้เพียงคืบเดียวผมก็พอใจ ในขณะที่น้องเขาได้เดินแยกไปนั่งดูทีวีที่ห้องรับแขกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เช้าวันนี้เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดคอวีสีเทา กางเกงเลสีดำ ทำไมผมต้องรู้สึกมีอาการแปลกๆทุกครั้งที่มาอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ด้วย ความหื่นกระหาย ความอยากครอบครอง  ความต้องการของผมได้ประดังประเดเข้ามาในความรู้สึกของผมอีกครั้งหนึ่งแต่เช้านี้ผมกลับรู้สึกว่าความรู้สึกเหล่านั้นมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนผมรู้สึกกลัวกับความรู้สึกตัวเอง กลัวว่าหากผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และทำในสิ่งไม่ดีกับนายอิฐลงไป เขาจะมองผมยังไง ไม่อยากบอกเลยว่าผมรู้สึกอยากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาเสียเหลือเกิน ผมควรจะทำยังไงถึงจะได้เขามาครอบครอง ได้เขามาคลอเคลีย มามีความสุขกับผม ความรู้สึกทุกอย่างยิ่งถาโถมรุนแรงขึ้นยากเกินกว่าผมจะคุมมันได้ ผมจึงตัดสินใจสลัดหัวแรงๆก่อนรีบเดินออกมาจากห้องครัวมานั่งที่เก้าอี้ทานอาหารแทนเพื่อให้ความรู้สึกเหล่านั้นลดน้อยลงแต่สิ่งที่ผมทำมันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด ทุกอย่างเริ่มพร่ามัวคล้ายกับคนจะเป็นลม ผมเป็นอะไรตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน ขณะที่เด็กหนุ่มวัยละอ่อนของผมลุกจากโซฟาห้องรับแขกเดินออกไปยังสวนหลังบ้านโดยไม่รู้เลยว่าผมกำลังจะเป็นลมหมดสติอีกครั้งด้วยอาการแปลกๆเหมือนเมื่อคืน ครั้งนี้อาการมันหนักและรุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก ผมควรจะทำยังไงดี สายตาเริ่มพร่ามัวมากขึ้นจิตใจเริ่มไหวๆเหมือนกำลังจะขาดใจแล้วมือผมก็ไปคว้าเอาแก้วใบใสร่วงลงแตกกับพื้นก่อนที่ผมจะ...... "เผล๊งงง!... พี่เต พี่เตเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ผมได้ยินเสียงแว่วเรียกถามผมอยู่ข้างหูอยู่ตลอดเวลาแต่ผมกลับไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ ผมรู้สึกหมดแรง อ่อนเพลีย เสียงนั้นผมจำได้ว่าเป็นเสียงของเด็กหนุ่มที่เขาทั้งรักและปรารถนาดีกับผมมากแค่ไหน ผมอยากลุกขึ้นแล้วกอดขอบใจน้องเขา อยากลุกขึ้นเพื่อบอกน้องเขาว่าอย่าร้องไห้ อย่าขี้แย ผมทำอะไรได้เลยในตอนนี้แม้แต่แรงที่จะลืมตาขึ้นมองผมเองแทบจะไม่มีหรือผมจะต้องตาย มือใหญ่ของเด็กหนุ่มวัยละอ่อนคอยจับประคองมือเล็กของผมอยู่ตลอด ผมรับรู้ถึงความอบอุ่นและความปรารถนาดีที่ถูกส่งผ่านมือใหญ่นั้นมาให้ผม ผมเฝ้าพยายามที่จะลืมตาอยู่หลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ ผมกำลังเป็นอะไรกันแน่หรือว่าผมกำลังเผชิญกับโรคร้ายที่ใครๆต่างรังเกียจและหวาดกลัว ไม่ได้ผมจะเป็นโรคนั้นไม่ได้ ที่สำคัญผมจะเป็นได้ยังไงในเมื่อทุกครั้งที่ผมมีความสุขกับใครก็ตามผมจะป้องกันตัวเองอยู่เสมอ ผมครุ่นคิดกับตัวเองกระทั่งเสียงสวรรค์ที่ผมปรารถนาอยากจะได้ยินมานานถูกเปล่งออกมาจากปากคนที่ผมอยากได้ยินมากที่สุด  "คุณเตเป็นยังไงบ้างครับ...คุณรู้สึกดีขึ้นหรือยังครับ ผมรู้ว่าคุณดีขึ้นแล้วแต่ยังอ่อนเพลียอยู่ใช่ไหมครับ คุณชอบผมใช่ไหมครับ ที่คุณเป็นแบบนี้เพราะคุณชอบผม คลั่งไคล้ผม ต้องการผม ผมมองออกว่าคุณคิดแล้วรู้สึกยังไงกับผม ผมขอบอกเลยนะว่าผมไม่ชอบคุณ ไม่ต้องการที่จะมีใครตอนนี้ ถึงผมอยากมีก็ไม่ใช่ผู้ชายด้วยกันหรอกครับ ที่สำคัญผมไม่อยากมีแฟนอายุมากกว่าคราวพ่อแบบนี้ หากเป็นไปได้ผมชอบที่จะอยู่คนเดียว ขอโทษครับที่ต้องพูดตรงๆเพราะผมไม่อยากให้ความหวังใคร ปกติผมไม่ใช่คนพูดมากหรอกนะ เท่าที่ผมเห็นอาการของคุณแล้วผมรู้สึกไม่ดีที่มีคนมาทำอาการแบบนี้กับผม ผมขอเถอะครับสายตาหื่นกามแบบนั้นอย่ามาใช้กับผม ผมไม่ชอบมันทำให้ผมรู้สึกสมเพชในตัวคุณ ผมไม่ใช่วัตถุทางเพศนะครับที่จะเอาไว้ระบายความต้องการของใคร คุณจะมอง คุณจะชอบหรือคุณจะยังไงก็ได้ผมไม่รู้แต่อย่าทำให้ผมเห็น ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องมาบ้านนี้อีก ส่วนเรื่องเมื่อคืนที่ผมช่วยคุณ ผมก็ช่วยเพราะถือว่าคุณเป็นคนๆก็เท่านั้นอย่าคิดอะไรมากนะครับ เมื่ออาการของคุณดีขึ้นแล้วรบกวนกลับบ้านไปเถอะครับ ผมรู้ว่าคุณได้ยินคำพูดของผมทุกคำได้โปรดเข้าใจและจำเอาไว้ด้วยนะครับว่าผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก" นี่หรือคือเสียงสวรรค์ที่ผมปรารถนา นี่มันฟ้าผ่าชัดๆ ฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ ด้วยซ้ำ มันผ่าเปรี้ยงลงมากลางหัวใจของผมอย่างไม่ทันตั้งตัว มันเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่ผมคาดหวังและต้องการ ทำไมถึงเป็นแบบนี้มันจะพังตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นเลยหรือ คำพูดทิ้งท้ายว่านายอิฐไม่ต้องการจะเจอหน้าผมอีกมันได้แปรสถานะเป็นพลังงานไฟฟ้าแรงสูงชาร์ตหัวใจของผมให้มีแรงฮึดสู้ควบคุมผมให้ลืมตาขึ้นและทำตามความต้องการของหัวใจอย่างรวดเร็ว ผมลุกขึ้นนั่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นกอดสอดประสานบนลำคอขาวของนายอิฐก่อนดึงเข้ามาประทับริมฝีปากเรียวบางของผมลงบนริมฝีปากหนานุ่มของเขาอย่างดูดดื่มรุนแรงมากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้สึกได้ นายอิฐมีอาการช็อกตาค้างเผยอปากขึ้นด้วยความตกใจผมจึงใช้โอกาสนี้สอดชิวหาน้อยของผมเข้าไปล่วงล้ำภายในปากที่จัดจ้านของเขาเพื่อไปสัมผัสความหอมหวานจากปากของเขาอย่างที่ใจปรารถนาอยู่นาน คงจะนานพอสมควรจนกระทั่งนายอิฐและเด็กหนุ่มวัยละอ่อนของผมที่มองด้วยอาการช็อกได้สติคืนมา ทันทีที่นายอิฐได้สติผมเองต้องกลายเป็นฝ่ายที่ช็อกเองเสียบ้างเพราะเขาได้ปล่อยหมัดรัวๆที่มุมปากของผมแทบนับครั้งไม่ได้ ลิ้นผมสัมผัสได้กับเลือดสดๆที่กำลังไหลอยู่ในกระพุ้งแก้มไม่หยุด ผมยกมือขึ้นประคองบาดแผลมุมปากด้วยอาการชาๆ หูผมดับโดยไม่มีสาเหตุ เห็นแต่เพียงเด็กหนุ่มวัยละอ่อนที่พยายามเข้ามาห้ามนายอิฐไม่ให้เขาเข้ามาทำร้ายผม พี่น้องต่างยื้อยุดไปมากระทั่งเด็กหนุ่มต้องเข้ามากอดผมไว้ไม่ให้ถูกผู้เป็นพี่ชายเข้ามาทำร้ายผมอีกก่อนจะประคองผมออกไปจากบ้านกันสองคน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD