มินตราเดินออกจากลิฟต์ผ่านบริเวณล็อบบี้และกำลังจะเดินออกหน้าประตูโรงแรมก็เป็นจังหวะเดียวกับที่รถยนต์เมอร์ซิเดสเบนซ์สีดำมันวับเลี้ยวเข้ามาจอดด้านหน้าประตูโรงแรม พนักงานรีบกุลีกุจอไปเปิดประตูให้และคนที่ก้าวเท้าลงมาคนแรกก็ทำให้เธอต้องรีบหลบเข้ามุมทันที อนาวินในชุดสูทสุดเนียบสีดำสนิททำให้เขาดูหล่อและมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาจนแม้แต่แขกสาวๆ ที่นั่งอยู่บริเวณล็อบบี้ยังหันไปมองและซุบซิบกัน
‘เธอ นั่นมันคุณอนาวินนี่นา ตัวจริงโคตรหล่อเลย’
‘ใช่จริงๆ ด้วย ว่าแต่เขามาทำอะไรที่นี่นะ’
‘นั่นคุณหญิงอรดีแม่ของเขานี่ คงมางานเปิดตัวลูกสาวไฮโซเจ้าของห้างสรรพสินค้าแน่ๆ ฉันได้ยินว่าเขาจัดงานต้อนรับลูกสาวกลับจากเมืองนอกวันนี้’
‘อ้อ คงกะเปิดตัวลูกสาวและมองหาลูกชายของตระกูลดังๆ ไปด้วยในตัว คุณวินก็คงเป็นหนึ่งในนั้นแน่ๆ ฉลาดเหมือนกันนะ ได้ทั้งเปิดตัวลูกสาวได้ทั้งเล็งว่าที่ลูกเขย’
‘พวกคนรวยก็แบบนี้แหละเธอ จะไปแต่งกับคนจนๆ ทำไมให้อับอายคนในวงสังคม แถมสมัยนี้เงินต่อเงินเท่านั้นคือคำตอบ แบบเราๆ ก็เป็นหมาเห่าเครื่องบินกันต่อไป’ มินตราไม่ได้อยู่ฟังจนจบพอเห็นว่าอนาวินและมารดาเดินเข้าลิฟต์ไปแล้วจึงจ้ำอ้าวออกจากประตูไปทันที
ดูเหมือนจุดประสงค์ของเจติยาและมารดาจะสัมฤทธิ์ผล เพราะหลังจากงานเปิดตัวเจติยาผ่านไปได้เพียงสองอาทิตย์ก็เริ่มมีข่าวของทั้งคู่ออกมาตามคอลัมน์ซุบซิบในหนังสือพิมพ์ว่าสองทายาทตระกูลดังกำลังเดทกัน โดยมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนอย่างเต็มที่ มินตราเห็นภาพแอบถ่ายของทั้งคู่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งที่ร้านอาหารและสถานบันเทิงแถมช่วงนี้อนาวินก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับบรรดานางแบบที่ได้ร่วมงานด้วยเหมือนเคย เธอสังเกตเห็นว่าช่วงนี้เขารับโทรศัพท์บ่อยๆ และหลังจากเสร็จงานก็เดินทางกลับทันทีไม่ได้อ้อยอิ่งคุยกับทีมงานหรือรอไปส่งเธอเช่นเคย
แม้จะเตรียมใจมาตลอดแต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ เธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้เสียใจได้ หญิงสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ซึมออกมาและวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ หลังอ่านข่าวในคอลัมน์ซุบซิบที่เป็นรูปแอบถ่ายของอนาวินและ เจติยาในภาพทั้งสองกำลังเต้นรำด้วยกันที่ผับของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ฝ่ายหญิงเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานในขณะที่อนาวินก็ก้มลงมองและส่งยิ้มตอบเช่นกัน ช่างเป็นภาพที่หวานชื่นและเหมาะสมกันยิ่งนัก
มินตราพยายามทำงานให้ยุ่งเข้าไว้เพื่อจะได้ไม่มีเวลามาคิดฟุ้งซ่าน เธอรับงานเยอะเท่าที่จะทำได้และทำงานทุกวันโดยไม่มีวันหยุด การทำงานหนักและนอนไม่ค่อยหลับกอปรกับทานอะไรไม่ค่อยลงในช่วงนี้ทำให้ร่างกายเริ่มประท้วง เช้านี้เธอตื่นขึ้นมาด้วยอาการวิงเวียน แต่เพราะมีงานแต่งหน้านายแบบให้กับกองถ่ายนิตยสารเล่มหนึ่งเธอจึงต้องฝืนลุกขึ้นมาด้วยสภาพเหมือนคนป่วย หญิงสาวรีบแต่งหน้ากลบอาการซีดเซียวของตัวเองและเดินทางไปยังสถานที่นัดหมาย เมื่อมาถึงสถานที่สำหรับทำงานในวันนี้ มินตราก็สูดหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกพลังกายให้ตัวเองและรวบรวมสมาธิเนื่องจากคนที่เธอต้องแต่งหน้าให้ในวันนี้ก็คือนายแบบที่เคยส่งข้อความมาจีบจนอนาวินตอบกลับข้อความแทนเธอไปวันนั้น หลังจากนั้นเขาก็หายเงียบไป จนกระทั่งมีโอกาสได้มาเจอกันในวันนี้ สาเหตุที่เธอรับงานนี้ทั้งที่รู้ว่าต้องมาเจอเขาเพราะไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน อีกอย่างหากปฏิเสธงานเธอก็เสียดายรายได้ที่จะเสียไป
“สวัสดีครับ ดีใจที่ได้เจอคุณอีกนะครับมินนี่” มิกซ์นายแบบลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มแบบที่สาวๆ เห็นจะต้องละลายแต่ไม่ใช่สำหรับเธอ
“สวัสดีค่ะ”
“ผมอยากขอโทษเรื่องนั้น”
“เรื่องอะไรคะ” มินตราถามในขณะที่มือก็ทำการเปิดกระเป๋าคู่กายเพื่อเตรียมลงมือทำงาน
“เรื่องที่ผมไลน์ไปจีบคุณ” มือเรียวชะงักกับคำตอบที่ตรงไม่มีอ้อมค้อม
“ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าคุณมีเจ้าของ แต่ตอนนี้คุณกับเขาคง…” มิกซ์เบนสายตาไปทางตากล้องคนดังที่กำลังพูดถึงพลางแบมือและยักไหล่แทนคำบอกเล่าว่าเขารู้ข่าวเรื่องที่อนาวินและเจติยากำลังคบหากันอยู่
“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณและไม่มีวันคิดด้วย” มินตราหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อคนตรงหน้าหัวเราะอกมาหลังได้ยินคำตอบของเธอ
“คุณหัวเราะอะไร”
“หัวเราะกับความตรงและหนักแน่นของคุณ รู้ไหมมันยิ่งทำให้ผมชอบคุณมากขึ้นไปอีก แต่โอเค ในเมื่อคุณไม่ชอบผมเราเป็นเพื่อนกันก็ได้ จริงๆ นะ คุณมีบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกภาษาไทยเรียกอะไรนะ อืม…ถูกชะตาใช่ คำนี้แหละ ผมรู้สึกว่าคุณไม่เหมือนใคร ในเมื่อคุณยืนยันว่าไม่มีวันชอบผมงั้นเราเป็นเพื่อนกัน ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณ รับรองว่าผมจะไม่ทำให้คุณต้องลำบากใจ อนาคตหากคุณจะเปลี่ยนใจผมก็ยินดี แต่ถ้าไม่ผมก็ขอให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจะได้ไหมครับ” มินตราสบตาคนตรงหน้าสิ่งที่เธอมองเห็นในดวงตาของเขาคือความจริงใจและความรู้สึกของเธอมันบอกว่าเขาไว้ใจได้
“ก็ได้ค่ะ”
“ขอบคุณนะครับ ยินดีสำหรับมิตรภาพของเรา” มิกซ์ยื่นมือมาให้เธอจับ
“นี่ไม่ใช่การหลอกแตะอั๋งฉันใช่ไหมคะ” คำถามนั้นทำให้มิกซ์หัวเราะเสียงดังอย่างถูกใจจนเธออดหัวเราะตามไม่ได้
“คุณนี่พูดออกมาแต่ละทีเล่นเอาผมแทบหงายเงิบ” มินตราขำกับคำศัพท์ที่เขาใช้
“ไม่อยากเชื่อว่าคุณจะรู้จักคำนี้ด้วย”
“ผมได้ยินทีมงานคนไทยพูดบ่อยๆ เลยจำมาใช้บ้าง” เสียงหัวเราะของสองหนุ่มสาวทำให้อนาวินที่กำลังเช็กกล้องอยู่ตวัดสายตามองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เขาจำได้ว่านายแบบคนนี้คือคนที่ส่งไลน์มาจีบมินตราจนเขาต้องออกโรงช่วยไล่ไปให้พ้น แต่วันนี้กลับหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างสนิทสนมซะอย่างนั้น ไม่รู้ว่าแอบไปสนิทกันตอนไหน เขาพยายามไม่สนใจและเพ่งสมาธิไปกับการเซ็ทกล้องเพื่อเตรียมถ่ายงาน แต่เสียงของทีมงานที่ซุบซิบกันก็ยังมาเข้าหูจนได้
‘เธอๆ เธอว่ากองเราจะให้กำเนิดคู่รักคู่ใหม่ไหม’
‘ใครอะ’
‘เอ้า ก็คุณมินนี่กับคุณมิกซ์ไง ฉันได้ยินวงในเม้าท์กันมาว่าคุณมิกซ์ประกาศว่าชอบคุณมินนี่และจะจีบมาเป็นแฟนให้ได้’
‘เหรอ ถ้าจริงฉันก็เชียร์นะ หล่อสวยเหมาะสมกันมาก คุณมิกซ์ก็ล๊อหล่อ คุณมินนี่ก็สวยแถมยังเซ็กซี่กว่านางแบบบางคนซะอีก ถ้าเป็นแฟนกันจริงจะดีมากเลย ลูกออกมาคงน่ารักมากแน่ๆ’
‘เวอร์ เอาแค่ให้เขาเป็นแฟนกันก่อนเถอะ คุณมินนี่ใจแข็งจะตาย ที่ผ่านมามีผู้ชายจีบตั้งเยอะแยะเคยสนใจที่ไหน ทั้งดารานายแบบไฮโซ ฉันเห็นยอมยกธงขาวกันทุกราย’
‘แต่คนนี้มีสิทธิ์’
‘เธอรู้ได้ไง’
‘เอ้า เธอเคยเห็นคุณมินนี่หัวร่อต่อกระซิกสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนแบบนี้ไหมล่ะ ฉันเคยทำงานกับคุณมินนี่บ่อยๆ ยังไม่เคยเห็นเลย คุณมิกซ์นี่คนแรก’
‘เออ จริงของเธอ งั้นเราต้องเตรียมติดแฮชแท็กมินนี่มิกซ์ไหม ต๊าย ขนาดชื่อยังคล้องจองกันเลย’ ปัง! เสียงวัตถุบางอย่างกระแทกลงบนโต๊ะทำให้สองสาวหยุดเม้าท์กันทันทีและมองไปยังที่มาของเสียงนั้นคืออนาวินนั่นเอง สองสาวมองหน้ากันอย่างงงๆ กับท่าทางราวกับไปกินรังแตนมาจากไหนของไฮโซหนุ่มหล่อที่พวกเธอสมัครเป็นแฟนคลับอยู่เงียบๆ เช่นกัน
‘เธอไปกันเถอะ แถวนี้ท่าทางบรรยากาศไม่ดีแล้ว’
‘เออ ไปๆ’ สองสาวเดินตัวลีบไปทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่พูดอะไรอีก อนาวินมองตามสองสาวทีมงานไปและตวัดสายตาคมกริบไปยังมินตราและมิกซ์ที่ยังนั่งคุยหัวเราะกันอยู่มุมหนึ่งด้วยอารมณ์หงุดหงิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนเขาต้องเดินออกไปสงบสติอารมณ์นอกสตูดิโอ
“วันนี้ท่าทางคุณช่างภาพของผมอารมณ์ไม่ค่อยดีแฮะ น่าแปลกทั้งๆ ที่ตอนนี้กำลังอินเลิฟนาจะอารมณ์ดีมีความสุข แต่ไหงหน้าบอกบุญไม่รับอย่างนั้น” ระหว่างที่พูดมิกซ์ก็ลอบสังเกตคนตรงหน้าและเขาก็ทันได้เห็นแววตาไหววูบก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้วค่ะ คุณไปเตรียมตัวเถอะ” มินตราเลือกที่จะไม่ออกความเห็นอะไรและเตรียมเก็บเครื่องสำอางที่ไม่ใช้แล้วลงกระเป๋า