ตอนที่3

1540 Words
เอเลน่าได้แต่กุมขมับหลังจากที่วางสายกับปาลินแล้วด้วยความรู้สึกกลัดกลุ้มใจ รวมถึงรู้สึกผิด หล่อนเองก็พอรู้ว่าปาลินน่ะไม่มีที่ไป แถมตอนนี้ก็เหลือเงินไม่มาก ไม่อย่างนั้นคนนิสัยอย่างนั้นจะโทร.มาขอร้องหล่อนเรื่องบ้านหรือ ทว่าหล่อนในเวลานี้ได้แต่เห็นแก่ตัว ช่วยเหลืออะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลยเพราะตนเองก็กำลังลำบากมากเช่นกัน สุดท้ายหล่อนก็ได้แต่กลัดกลุ้มใจจนน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ และท่าทางนั้นก็ทำให้ดีน สามีของหล่อนซึ่งกลับมาจากซื้อของข้างนอกและทันเห็นเอเลน่ากำลังคุยโทรศัพท์กับปาลินก็เข้ามานั่งข้างๆ แล้วจึงมือเล็กของภรรยาเข้ามากอบกุมเอาไว้แน่น “เพื่อนเธอโทรมาทวงเงินเหรอเอล่า” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเกือบกึ่งจะไม่ชอบใจ แต่ก็พยายามข่มเอาไว้ นังเอเชียนั่นถือดีอะไรกล้ามาทวงเงิน เงินนั่นที่ยืมไปก็เหมือนให้หล่อนจ่ายค่าเช่าบ้านที่อยู่อย่างถูกๆ มาตลอดสามสี่ปี มีอะไรไม่พอใจอย่างนั้นหรือถึงกล้ามาทวงเงินเมียเขา แต่ถึงอย่างนั้นดีนก็ไม่กล้าแสดงออกมากนัก เนื่องจากเมียเขารักเพื่อนคนนี้มาก รวมถึงเขาเองก็มีชะนักติดหลังเรื่องความผิดจากหนี้สินจากการติดการพนันอยู่ ยังไม่รวมถึงว่าเขาแอบเอาบ้านนั่นที่เอเลน่าถือครอง หลอกหล่อนเซ็นเอกสารยกบ้านหลังนั้นให้พวกเจ้าหนี้ไป แล้วโกหกว่าขายบ้านได้และมีเงินเหลือพอจะใช้หนี้อีกด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ความจริง...ไม่มีเงินอะไรทั้งนั้นแหละ! “แพมไม่ได้ทวงเงินหรอก” เอเลน่าตอบปฏิเสธ หล่อนมีสีหน้าอึดอัดกลัดกลุ้มในยามมองหน้าสามี “แต่ฉัน...เราจำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ เหรอดีน” ดีนกระชับมือที่กุมมือภรรยาแน่นขึ้นไปอีก เขาตีหน้าเศร้าโศกสำนึกผิดขณะที่เอ่ยขอโทษหล่อนอีกครั้งหนึ่ง “ผมขอโทษที่ติดการพนัน แต่ผมหมดทางไปจริงๆ” “...” “ถ้าไม่ใช้หนี้ พวกไวแอตก็คงเอาชีวิตผมแทน” เดอะไวท์กาสิโนมีเคลเมนต์ ไวแอตเป็นเจ้าของ ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่ใครจะเบี้ยวหนี้คนอย่างเขาได้ เคลเมนต์ ไวแอตเกือบจะได้ชื่อว่าเป็นมาเฟียอยู่แล้ว เขาเป็นนักธุรกิจเจ้าของอาณาจักรไวแอต อินดัสทรีส์ที่ครอบคลุมกิจการเกือบทุกอย่างเท่าที่เงินจะเอื้อมไปถึง ไม่มีกิจการไหนที่เอ่ยชื่อขึ้นมาแล้วจะไม่มีพวกไวแอตเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ธุรกิจหลักของไวแอตก็ยังเป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ กาสิโนและวงการบันเทิง แต่ที่ทำให้เคลเมนต์ ไวแอตน่ากลัวยิ่งกว่าใครก็เห็นจะเป็นเพราะตระกูลฝั่งมารดาของเขานั้น ถือครองบริษัทผลิตอาวุธสงคราม คู่ค้าที่สำคัญย่อมต้องเป็นกองทัพ คนที่เป็นสีเทาถึงขนาดนี้ ต่อให้เขาไม่เห็นลูกหนี้อย่างตนเองอยู่ในสายตา แต่ดีนก็ไม่กล้าเบี้ยวหนี้เคลเมนต์ ไวแอตอย่างแน่นอน! เขามีเพื่อนที่ติดหนี้เดอะไวท์กาสิโน หนีหนี้...และสุดท้ายก็จบชีวิตมาแล้ว ดีนยังรักตัวกลัวตาย คนอื่นจะลำบากก็เรื่องของคนอื่น แต่ตัวเขาจะต้องมีชีวิตรอดเท่านั้น! “แต่ฉันสงสารแพม ยังไงเธอก็ช่วยเหลือฉันกับยายมาตลอด แล้วตอนนี้เธอก็ไม่มีทางไป” เอเลน่าพูดด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ ดีนลอบกลอกตาให้กับความแม่พระของภรรยา แล้วจึงรีบปลอบไม่ให้หล่อนคิดมากในทันที “แพมเอาตัวรอดได้ คุณบอกเองไม่ใช่เหรอจ๊ะว่าพ่อของลูกเธอเป็นเจ้าของไวแอตอินดัสทรีส์น่ะ” ตอนแรกที่เขาได้รู้ก็ไม่อยากจะเชื่อหรอก เคลเมนต์ ไวแอตเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับโลก ในท็อปไฟว์มีชื่อของคนตระกูลไวแอตแน่ๆ ซึ่งก็คือเขา แล้วคนอย่างนั้นจะมีทายาทกับนังเอเชียโง่ๆ แถมยังทอดทิ้งลูกไปอย่างนี้ได้ยังไง แม่เพื่อนรักของเมียเขาจะต้องโกหกแน่ๆ หล่อนจนออกขนาดนี้ จะเอาปัญญาที่ไหนไปเจอกับเคลเมนต์ ไวแอตได้ เขาละอยากจะรู้จริงๆ! “ใช่” เอเลน่าตอบรับ “เคลเมนต์ ไวแอตเป็นพ่อของเอเดน แต่แพมกับเขาจบกันไม่ดี เธอถึงไม่เคยบอกเรื่องลูกกับเขา” หล่อนเชื่อเรื่องที่เพื่อนเล่าร้อยเปอร์เซ็นต์ ปาลินไม่มีวันโกหก พวกหล่อนรู้จักกันมาตั้งแต่ยังเล็ก และท่าทีในยามที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตนั้นก็ยังติดตรึงอยู่ในหัวใจของเอเลน่าเสมอ ความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมานั้นทำให้หล่อนเชื่อมั่นว่านี่คือความจริง ดีนลอบเหยียดอยู่ในใจ แล้วอดประชดประชันออกมาไม่ได้ “เธอไม่บอก แต่พวกเราบอกได้นะ...” “คะ?” เอเลน่าชะงัก มองหน้าสามีอย่างไม่เข้าใจ คราวนี้ดีนแสร้งยิ้มอ่อนโยนออกมา แล้วจึงกล่อมภรรยาของตนเองด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง “คุณอยากช่วยเธอไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอไม่กล้า เราก็ต้องเป็นคนบอกทางนั้นเอง” “แต่ว่า...” เอเลน่าลังเล หล่อนผิดสัญญากับปาลินไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่อยากผิดสัญญาเรื่องนี้อีกด้วยการบอกคนอื่น ทั้งๆ ที่หล่อนได้พลั้งเผลอบอกคนเป็นสามีไปแล้ว “คุณจะได้สบายใจเรื่องบ้านด้วยไงเอล่า” ดีโน้มน้าวเมียของตน “...” “ยังไงเคลเมนต์ ไวแอตก็รวยพอจะเลี้ยงเมียเก่ากับลูกได้ทั้งชีวิต แต่เรามีแค่บ้านหลังนั้นนะ ไม่อย่างนั้นชีวิตพวกเราทุกคนลำบากแน่ๆ” “ฉัน...ฉันขอคิดก่อนนะคะ” เอเลน่าพึมพำ ขณะที่มีสีหน้าคิดหนักเพราะเหตุผลที่สามีให้มานั้นมันหนักแน่นมากจริงๆ และสุดท้ายหล่อนก็พ่ายแพ้ให้กับตนเองจนได้ ในเมื่อระหว่างต้องเลือกทางรอดของตนเองกับคนอื่น เอเลน่าก็ย่อมอยากให้เป็นตนเองที่อยู่รอดได้ ...ไม่ใช่คนอื่นที่จะอยู่รอด หล่อนยังมีลูกอีกสองคนต้องเลี้ยง รวมถึงครอบครัวจะเสียดีนไปไม่ได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหล่อนบอกเรื่องนี้กับเคลเมนต์ ไวแอต บางทีต่อให้ไม่ได้อะไรตอบแทน ก็ยังถือว่าได้ช่วยให้ปาลินได้มีชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเอเดน...ก็จะได้มีพ่อที่มีเงินมากพอจะให้แกใช้ได้ไปจนชั่วชีวิตอีกด้วย มันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวหรอก...เอเลน่าปลอบตนเองตามที่สามีชี้แนะ ...หล่อนไม่ได้เห็นแก่ตัว แต่หล่อนกำลังช่วยเพื่อนทำในสิ่งที่ควรจะทำตั้งแต่สี่ปีก่อนแล้วต่างหาก! ๐๐๐ ถึงจะทุกข์ใจมากแค่ไหน แต่ปาลินก็ไม่มีเวลาให้กับตรงนั้นมากนัก เพราะเธอยังต้องใช้ชีวิตต่อไป อย่างน้อยก็ยังมีลูกกับแมวที่ต้องดูแลอยู่ ข้อดีคือมันช่วยให้เธอไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ใจของตนเอง แต่มันเป็นพลังด้านบวกที่ทำให้เธอพยายามต่อสู้ต่อไป อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ ยังมีลูกกับแมวที่ต้องเลี้ยงดูอยู่ หลังจากวางสายกับเอเลน่า ปาลินก็ต้องลุกขึ้นไปอุ้มเอาลูกชายวัยสามขวบของตนเองออกมาจากคอก โดยมีเบบี๋คอยเดินตามพันแข้งพันขาเธอมาด้วย ปาลินวางร่างลูกชายวัยสามขวบบนโซฟาตัวนุ่ม เจ้าเหมียวสีครีมกระโดดผลุงไปนั่งข้างๆ ซึ่งทำให้เด็กชายเอเดนคว้าเอาเจ้าเหมียวเพื่อนเล่นตั้งแต่เกิดของตนเองหมับทันที พอปาลินเห็นอย่างนั้นจึงเดินไปยังห้องครัวเล็กๆ เพื่อเอาอาหารมื้อเที่ยงให้ลูกชาย ซึ่งเจ้าตัวเล็กเหมือนจะรู้ เพราะร้องเรียกเธอเสียงดังลั่นมาจากห้องนั่งเล่น “มัมมี้ๆ หม่ำ หนูหิวแล้ว” “เอเดนหิวแล้วเหรอครับ” ปาลินเดินออกมา แล้วจึงพบว่าตอนนี้ลูกชายตัวน้อยของเธอกำลังกลั่นแกล้งเบบี๋ด้วยการอ้าปากอมใบหูเจ้าเหมียว เธอเห็นอย่างนั้นถึงกับทำตาโตแล้วรีบดึงแมวออกจากลูกชายทันที “หนูปล่อยหูพี่บี๋ก่อนนะคะลูก หนูจะหิวจนกินพี่บี๋ไม่ได้นะคะ” เห็นภาพเจ้าตัวแสบแกล้งแมวมานับไม่ถ้วน นับวันยิ่งแกล้งหนักเข้าไป ทว่าถึงอย่างนั้นเบบี๋ก็ดูจะไม่ว่าอะไรที่โดนคนน้องแกล้งทุกวัน “หนูจากินๆ” เด็กชายเอเดนประท้วง ขณะที่ได้แต่ทำหน้าปาลินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ แล้วจึงกล่อมให้เจ้าตัวแสบซึ่งยังคงกอดเบบี๋เอาไว้แน่นให้คลายอ้อมกอดออก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD