ตอนที่ 2

1399 Words
ปาลินได้แต่เม้มปากแน่นด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ เธออยากจะกราดเกรี้ยวลุกขึ้นมาทวงสัญญาเสียงแข็งบ้าง แต่ตนเองก็ไม่ใช่คนมีนิสัยอย่างนั้น มิหนำซ้ำเอเลน่าก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน คาดว่าที่ไม่ยอมบอกน่าจะเป็นเหตุผลจำเป็นจริงๆ ที่ไม่อาจบอกเธอได้ “มันไม่มีทางเลยเหรอจ๊ะ” สุดท้ายเธอเลยได้แต่ประนีประนอม แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือเสียงถอนหายใจที่แสดงออกถึงความหนักใจ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดออกมา “ขอโทษด้วยนะ แต่มันคือทางที่ดีที่สุดแล้ว” ปาลินได้แต่เงียบ แล้วเผลอกอดเจ้าเบบี๋ในอ้อมกอดแน่น จนมันร้องแง้วประท้วงเหมือนเจ็บ จากนั้นจึงกระโดดลงจากตักของเธอเดินไปหาเอเดนที่กำลังเล่นอยู่ในคอกของตัวเอง ขณะที่พอเธอเงียบ เอเลน่าก็เอ่ยสำทับด้วยความรู้สึกผิดอีกครั้ง “เธออยู่ได้ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้นนะแพม” “อืม...ขอบคุณนะเอล่า” ปาลินจะตอบอย่างไรได้ เจ้าของบ้านบอกให้เธอย้าย เธอก็คงต้องไป แม้จะมืดแปดด้านอยู่ในเวลานี้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี บางครั้ง...บางครั้งเธอก็ได้แต่นึกเสียใจว่าตอนที่เดินจากเคลเมนต์มา เธอควรเห็นแก่เงินสักนิด เอาสมบัติที่เขายกให้ติดตัวมามากกว่านี้ หรือเห็นแก่ตัวอีกหน่อย ไม่ช่วยออกเงินค่ารักษาพยาบาลให้เอเลน่าก่อน แต่นั่นแหละ เธอก็รู้ดีว่าตนเองทำอย่างนั้นไม่ได้อยู่ดี ต่อให้ไม่มีเอเลน่า ปาลินก็ยังจะช่วยคุณยายแอนนี่อยู่เหมือนเดิม เป็นเพราะในระยะเวลาสี่ปีที่อยู่กับท่านมา ท่านช่วยเหลือเธอเอาไว้มากจริงๆ มากกว่าการให้ที่อยู่อาศัยหรือหางานให้ เธอได้สัมผัสความรักและความเอาใจใส่เหมือนคนในครอบครัวอย่างที่ไม่เคยได้รับมานานแสนนานอีกครั้ง นั่นเป็นกำลังใจที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อมาได้จริงๆ เอเลน่าถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่อยู่ในตอนที่ได้ยินคำขอบคุณที่ตนเองไม่สมควรได้รับ หล่อนละอายใจเกินกว่าจะไปสู้หน้ากับเพื่อน หญิงสาวไม่ได้อยากใจร้ายกับปาลินขนาดนี้ แต่หล่อนก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ หล่อนสูดจมูก รีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าลวกๆ ก่อนจะเอ่ยตอบปาลินกลับไป “ฉันขอโทษเธอจริงๆ แต่ว่าถ้าเธอไม่ไหวจริงๆ ทำไมไม่ลองกลับไปหาเขาดูล่ะ” สุดท้ายเธออดนึกถึงคนที่ปาลินบอกว่าเป็นพ่อของลูกชายตัวน้อยไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริงเคลเมนต์ ไวแอตก็ควรจะต้องรับรู้ถึงตัวตนของลูกชายสักที แน่นอนว่าในความเห็นของหล่อน ถ้าผู้ชายคนนั้นรู้ จะต้องไม่ใจดำกับลูกชายและแม่ของลูกแน่ๆ เขาร่ำรวยมหาศาลถึงเพียงนั้น จะใจดำกับทายาทตนเองได้อย่างไร “...” ทว่าคำตอบที่เอเลน่าได้รับกลับเป็นความเงียบ และเป็นความเงียบที่ชวนอึดอัด ทำให้หล่อนประดักประเดิด รู้สึกผิด เหมือนเป็นคนโง่ที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา และเพราะร้อนรนจึงได้แต่พยายามแก้ตัวออกมาอีกครั้ง “เขาควรจะรู้เรื่องเธอกับลูกนะ” ปาลินยิ้มเย็น ทั้งๆ ที่หัวใจร้อนรุ่ม ไม่เคยมีครั้งไหนที่เอเลน่าจะโน้มน้าวให้เธอกลับไปหาเคลเมนต์ แต่เพราะจนตรอกถึงได้คิดจะให้เธอไปเป็นมือที่สามของผู้ชายที่แต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ ให้ตายเธอก็ไม่ทำอย่างนั้น! “ไม่ดีกว่าจ้ะ ฉันไม่อยากให้เขารู้เรื่องนี้” หญิงสาวตอบปฏิเสธเสียงเรียบเฉย เอเลน่าซึ่งรู้แล้วว่าตนเองพลาดที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ก็ได้แต่พยายามหาทางออกอย่างดันทุรัง “เธอกลับไปหาครอบครัวพ่อเลี้ยงก็ได้นี่ เขาก็ดีกับเธอไม่ใช่เหรอ” ปาลินเงียบไปนานเสียจนเอเลน่าคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมตอบอะไรแล้วเสียอีก “ฉัน...ไม่สะดวกใจจริงๆ” คำตอบนั้นที่แสดงออกชัดว่าปฏิเสธที่จะขอความช่วยเหลือจากครอบครัวเดิมก็ทำให้เอเลน่าขมวดคิ้วด้วยความขัดใจไม่ได้ “แล้วจะทนให้ตัวเองกับลูกลำบากอย่างนั้นเหรอ เธอควรได้ค่าเลี้ยงดู! หรืออย่างน้อยเอเดนก็ควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด” “ฉัน...” พอโดนอีกฝ่ายพูดถึงลูก ก็ทำให้ปาลินถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับเคลเมนต์อีกต่อไป และความเงียบของเธอก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเอเลน่า ปลายสายสุดท้ายได้แต่ถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม และรู้ตัวว่าตนเองเมื่อครู่ชักจะล้ำเส้นเพื่อนมากเกินไป จึงได้แต่บอกเสียงอ่อยๆ ออกมาราวกับจะขอโทษว่า “แต่ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้ละนะ” “ขอบใจเธอมากนะเอล่าที่คอยช่วยฉันมาตลอด” ปาลินได้แต่ตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ในใจนั้นนึกหนักใจอยู่ว่าอนาคตเธอจะทำอย่างไรต่อไปดี ฝ่ายเอเลน่าเองก็ยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ คำขอบคุณนั้นบาดหูบาดใจเธอไปหมด “ไม่ต้องขอบใจหรอก” เธอตอบปฏิเสธเพราะรู้ดีว่าตนเองไม่เหมาะกับคำนั้น “เธออย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดเพราะเห็นแก่ตัวเลยแพม เธอจ่ายเงินค่ารักษาให้ยายไปจนหมด แต่ฉันกลับขายบ้านจนเธอไม่มีที่ไป” เธอยอมรับออกมาตรงๆ และเป็นอีกครั้งที่ร้องไห้ออกมา ซึ่งนั่นทำให้ปาลินใจอ่อนลงในที่สุด “ไม่หรอก...” เธอพึมพำปฏิเสธ ถึงแม้มันจะเป็นความจริงก็ตาม “ถ้าฉันได้เงินครบแล้ว ฉันสัญญา...สัญญาจริงๆ นะว่าฉันจะคืนเงินค่ารักษายายให้เธอ แต่ฉันขอโทษที่ต้องทำแบบนี้” โชคดีที่บ้านหลังนี้มีราคาเกินจากที่เป็นหนี้ พอขายบ้านได้เอเลน่าเองก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะคืนเงินค่ารักษาคุณยายแอนนี่ให้กับเพื่อนทั้งหมด และนั่นน่าจะทำให้ปาลินไม่ลำบาก ซึ่งสามีของหล่อนเป็นผู้จัดการขายบ้านให้ได้บอกแล้วว่าน่าจะได้เงินคืนบ้าง ยังไงหล่อนจะรีบถามอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด เผื่อจะได้เงินก่อนที่ปาลินย้ายออกไป จะได้ไม่ลำบากไปมากกว่านี้ “ไม่เป็นไร” ปาลินเองก็ได้แต่พึมพำตอบไปแกนๆ อย่างนั้น บอกตามตรงว่าถ้าได้เงินคืนก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร และน่าจะมีเงินมากพออยู่ได้เป็นปี เพราะเงินจำนวนนี้น่าจะทำให้เธอเช่าบ้านในทำเลดีๆ ได้ รวมถึงทำให้เธอตั้งธุรกิจเล็กๆ ของตนเองขึ้นมาเพื่อเลี้ยงตัว แทนที่จะหางานที่อื่นทำ “หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ย้ายมาอยู่บ้านฉันก่อนดีไหม” เอเลน่าเสนอขึ้นมาในที่สุด บ้านหล่อนถึงจะไม่มีห้องว่าง แต่ให้ลูกชายกับลูกสาวหล่อนย้ายไปอยู่ห้องเดียวกันก่อนได้ ค่อยให้ปาลินอยู่ห้องนั้นไปก่อน และยังมีห้องใต้หลังคาที่ไม่ได้ใช้อะไรนอกจากเก็บของ ปาลินอยู่ตรงนั้นได้หากต้องการความเป็นส่วนตัว ทว่าปาลินรีบปฏิเสธความหวังดีนั้นไปทันที “ไม่เป็นไร ฉันมีเด็กกับแมวด้วย สามีเธอแพ้ขนแมวนี่” เอเลน่าเพิ่งนึกถึงข้อนี้ได้ก็พลันชะงักไป สามีหล่อนแพ้ขนแมวขั้นรุนแรงจริงๆ นั่นแหละ “ขอโทษด้วยนะ” ปาลินได้แต่ตอบกลับเสียงอ่อน “บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะลองหาทางอีกที” “ถ้าได้เรื่องอะไรยังไงบอกฉันได้นะ” เอเลน่าสำทับเสียงหนัก “อืม” ปาลินรับปาก “จะบอกเธอนะจ๊ะ” “รักเธอนะ” เอเลน่าตอบเสียงแผ่วเบา ปาลินนิ่งไปนิด แล้วจึงตอบกลับไปในที่สุดก่อนจะวางสายไป “อื้อ รักเธอเหมือนกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD