ตอนที่6

1780 Words
ถึงจะไม่ได้เสียดายอะไรมาก แต่เอาเข้าจริงอารมณ์ของเคลเมนต์ก็ไม่ดีไปตลอดทั้งวัน พอเพื่อนสนิทอย่างเอลเลียต แบนครอฟต์ ซึ่งเป็นผู้บริหารของโรงพยาบาลและบริษัทยาในเครือแบนครอฟต์ได้เรียกเขาให้ออกไปสังสรรค์ด้วยกันชายหนุ่มก็ตกปากรับคำตามคำชวนนั้นทันที เพราะคืนนี้ไม่อยากอยู่คนเดียว เขาจึงยอมตอบตกลงไปในที่สุด “ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เอลเลียต แบนครอฟต์ ผู้บริหารหนุ่มของเครือแบนครอฟต์เอ่ยถามพร้อมกับยิ้มมุมปาก ท่าทีสุภาพเรียบร้อยของคุณหมอหนุ่มทำให้เพื่อนสนิทกันดีรู้สึกขัดหูขัดตา เพราะรู้ดีว่ามันเป็นภาพหลอกลวงที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น เคลเมนต์แกว่งแก้ววิสกี้ในมือ ก่อนจะตอบปฏิเสธ “ไม่มี” แต่คนเป็นเพื่อนกันไม่มีทางเชื่อคำปฏิเสธนี้เด็ดขาด “ไม่มีแต่มานั่งทำหน้าบึ้งแบบนี้ ใครก็รู้ว่ามีปะวะ” อันที่จริงเขาก็พอรู้ละนะ แต่ในเมื่อเคลเมนต์ไม่ยอมบอกออกมาสักที ก็นึกอยากถามไอ้ข่าวเมื่อเช้านี่เหมือนกันถึงได้นัดออกมา ใครจะไปคิดว่าหมอนี่จะยังไม่ยอมพูดอยู่ดี “ช่างมันเถอะ” เคลเมนต์ปฏิเสธ เอลเลียตยิ้มกริ่ม ไม่ ‘ช่างมันเถอะ’ กับอีกฝ่ายด้วยสักนิด “แล้วงานหมั้นของนายจะจัดวันไหนวะเพื่อน” เขาถามต่อไป และดูเหมือนเพื่อนสนิทจะยอมแพ้ เคลเมนต์ถึงยอมเอ่ยออกมาในที่สุด “ไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้น” “แต่นายเพิ่งบอกเองว่าจะหมั้นกับมิล่า เลวิส” เอลเลียตแย้ง เคลเมนต์เหยียดยิ้มหยัน “จะหมั้นได้ยังไง” “...” “ฉันไม่แย่งผู้หญิงของใคร” ดูท่าเขาคงไม่รู้เรื่องมากไปกว่านี้ แต่นั่นแหละ เอลเลียตก็ไม่ได้อยากรู้อะไรเท่าไรหรอก สิ่งที่เขาสนใจคือท่าทีของเพื่อนสนิท พอเห็นอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีอกหักเสียใจมากอะไร นอกจากหัวเสียไม่พอใจเขาก็พอใจแล้ว ไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังจะหมั้นกันมีอะไร แค่เพื่อนไม่เป็นอะไรมากก็พอ คุณหมอหนุ่มเลยหัวเราะ แล้วแกล้งแซะอีกฝ่ายพร้อมกับยกมือตบบ่าหนาของคนข้างๆ ไปหนักๆ สองสามี “แน่ว่ะ ในที่สุดก็มีผู้หญิงกล้าปฏิเสธคนอย่างนายด้วย” “หุบปากเหอะ” เคลเมนต์ก็รู้ว่าเพื่อนไม่ได้มีเจตนาจะกวนตีนอะไร อาจจะเป็นการปลอบใจในรูปแบบของหมอนี่ แต่ปัญหาคือ เขาไม่ได้ต้องการการปลอบใจอะไรน่ะสิ! พอเห็นเขาไม่พูด ไอ้หมอนี่ก็ชักจะได้ใจมากกว่าเดิม เพราะเล่นเปลี่ยนมาโอบคอเขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงปลอบประโลมที่ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ “แต่คนอย่างนั้น ปล่อยไปก็ได้นี่ ถ้านายจะชอบเธอแค่หน้าตา มันมีคนที่สวยกว่านี้อีกตั้งเยอะ” “...” “อย่างคนนั้น” อีกฝ่ายชี้ไปยังโต๊ะตรงหน้าพวกเขา ห่างไปไกลแต่ยังอยู่ในระยะสายตา ตรงนั้นมีหญิงสาวร่างเล็กนั่งอยู่เพียงลำพัง และจ้องมองมาทางพวกเขานานแล้ว “ฉันก็ว่าสวยดี แล้วดูจะสนใจนายด้วยนะ เพราะฉันเห็นเธอจ้องมองนายไม่วางตาเลย” “งั้นเหรอ” เคลเมนต์ถาม ดวงตาวูบหนึ่งเป็นประกายประหลาด เขากระดกแก้วดื่มเหล้าจนหมดจากนั้นจึงลุกขึ้นยืนโดยที่เอลเลียตไม่ทันตั้งตัว “เฮ้ย! จะลุกไปไหน” คุณหมอหนุ่มถามอย่างประหลาดใจ ขณะที่เคลเมนต์เหยียดยิ้ม ดวงตาสีไพลินเข้มของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ยังคงมองเขาอยู่ไม่วางตา แล้วพยักพเยิดหน้าตอบ “ไปหาผู้หญิงคนนั้นไง” เอลเลียตเกือบหัวเราะออกมาแล้ว เขาสบถในลำคอสองสามคำก่อนจะยอมปล่อยให้เสือร้ายออกล่าเหยื่อของตนเองอีกครั้ง “นายมันแน่จริงๆ ว่ะ!” ไอ้เวรนี่ ให้เขาเสียเวลาปลอบอยู่ตั้งนาน สุดท้ายเสือกมีแก่ใจอยากจะล่าเหยื่อใหม่เฉยเลย ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาเห็นอกเห็นใจมันอีกแล้วล่ะ! เอลเลียตยิ้ม ขณะที่มองตามร่างสูงใหญ่ของเพื่อนรัก ตรงดิ่งไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้วจึงเป็นฝ่ายเรียกเก็บเงินก่อนจะส่งข้อความบอกเคลเมนต์ว่าเขาจะกลับก่อน ส่วนหมอนั่น...อยากจะไปต่อที่ไหนก็เชิญตามสบาย! ๐๐๐ เคลเมนต์ ไวแอตเดินตรงดิ่งไปหาผู้หญิงที่จ้องมองเขาไม่วางตาคนนั้น อาจจะเพราะเหล้า หรือหงุดหงิดโมโหในใจลึกๆ ทำให้เขาหมดสิ้นความอดทน พอเห็นเธอไม่ยอมไปสักที ก็กลายเป็นเขาที่หมดความอดทนเข้ามาหาเธอเอง เขาจำเธอได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นเลขาฯ ที่มักจะติดตามแดเนียล เลวิสในทุกครั้งที่เขามีธุระติดต่อด้วย เธอมักจะอยู่เงียบๆ ทำเหมือนไม่มีตัวตน แต่เขาสังเกตเห็นเธออยู่ตลอดเพราะเธอดูมีแรงดึงดูดบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นรูปร่างหน้าตาเธอก็ไม่ใช่สเปกของเขาสักนิด เธอเป็นสาวเอเชียตัวเล็ก น่าจะสูงเพียงไหล่ของเขาเท่านั้น บอบบางเหมือนตุ๊กตากระเบื้องที่แตะนิดหน่อยเขาแจจะเผลอทำแตกหักได้ ผมดำตาดำ สีหน้าเรียบนิ่ง ทุกสิ่งที่ประกอบเป็นผู้หญิงคนนี้ไม่มีความชอบของเขาเลยสักนิด แต่กลับทำให้เขาสังเกตเห็นเธอทุกครั้ง ปกติเธอแทบไม่มองเขาด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้กลับจ้องมองเหมือนหาโอกาสเข้าหาอยู่ตลอด ซึ่งเขาเดาได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องวันนี้ที่เขาตัดการช่วยเหลือที่จะให้เดอะลิสต์อิเลคทริกแน่ๆ ...เงิน คือเหตุผลที่เธอมาอยู่ที่นี่ เขาไม่พูดอะไร จัดการลากหญิงสาวให้ลุกขึ้น ฉุดรั้งเธอให้ตรงไปยังโซนวีไอพีของคลับ เขาโบกมือให้พนักงานซึ่งรีบปรี่เข้าไปนำทางไปยังห้องว่างให้เขาทันที เมื่อเข้าไปอยู่ข้างในนั้น บรรยากาศและเสียงเพลงภายนอกก็ถูกตัดขาดทันที เคลเมนต์รั้งร่างเล็กไปยังโซฟาตัวนุ่มในห้อง เธอลงไปนั่งตรงนั้นโดยมีเขายืนอยู่ตรงหน้า “คุณ...มีธุระอะไรกับผม ถึงต้องตามมาถึงที่นี่” เคลเมนต์เอ่ยถาม เขามองหญิงสาวตรงหน้านิ่ง เพิ่งสังเกตเห็นตอนนี้เองว่าดวงตาของเธอนั้นดูกลมโตน่าสนใจมากแค่ไหน ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องมองเขานิ่ง ท่าทางเหมือนแมวไม่มีผิด “ฉันชื่อปาลินค่ะ เรียกฉันว่าแพมก็ได้ค่ะมิสเตอร์ไวแอต” เธอตอบเสียงราบเรียบ ไม่หนักไม่เบา แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ว่าเธอชื่ออะไร เคลเมนต์กอดอก พยักหน้า “มิสปาลิน คุณมีธุระอะไร” เขาถามเธอไปอีกครั้ง ซึ่งอันที่จริงก็พอจะรู้อยู่แล้วละว่าเธอติดตามเขามาถึงที่นี่ด้วยเรื่องอะไร และผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะอ่านอารมณ์ของเขาออก เธอไม่อ้อมค้อมให้เขาอารมณ์เสียมากขึ้น เพราะเลือกจะพูดตามตรงออกมา “ฉันอยากจะคุยกับคุณเรื่องข้อเสนอของทางเดอะลิสต์อิเล็กทริคอีกครั้งหนึ่ง” เคลเมนต์เหยียดยิ้ม นึกปรามาสแดเนียล เลวิสไม่มีปัญญาเจรจาเองสักครั้ง ได้แต่ส่งผู้หญิงมาอย่างนี้ ครั้งแรกลูกสาว ครั้งนี้เลขาฯ แต่ขนาดลูกสาวยังควบคุมไม่ได้ ส่งคนนอกมาจะเจรจาอะไรได้ “ไม่มีนัดหมายสำหรับเดอะลิสต์อีกต่อไป” เคลเมนต์ปฏิเสธ มองไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องเจรจาอะไรอีก “ไม่ว่าหน้าไหนก็ไม่มี” เขาเน้นย้ำประโยคสุดท้าย มองตาเธอให้เธอรู้ว่าไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ใจอ่อน แต่ผู้หญิงตรงหน้าดูมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ เขาสัมผัสได้จากท่าทีและสายตาที่เธอมองมา “ทางเราขอโทษที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นจริงๆ ค่ะ” “ผมไม่รับคำขอโทษ” คำขอโทษมันใช้อะไรได้ ไม่มีประโยชน์สักนิด อยากจะเจรจากับนักธุรกิจ สิ่งที่ไม่อยากได้ยินคือคำขอโทษ เพราะมันดูเหมือนปัดความรับผิดชอบไปส่งๆ อยากขอโทษ เอาผลประโยชน์มายื่นให้ดูดีกว่า ซึ่งดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้าจะเข้าใจกฎข้อนั้นดี เธอยืนขึ้น เงยหน้าขึ้นมองสบตาเขา “ถ้าอย่างนั้น...ไม่ทราบว่าทางเราต้องทำยังไงคะ ถึงจะเป็นการชดใช้ที่ทำให้คุณพอใจ” คราวนี้เคลเมนต์อยากจะหัวเราะ เขามองหญิงสาวด้วยสายตาประหลาดใจที่เธอกล้าพูดอย่างนี้ออกมา “คุณรู้หรือเปล่าว่าข้อเสนอนั้นคืออะไร” “ฉัน...” ปาลินจ้องมองเขา แน่นอนว่าเธอรู้ หญิงสาวเอ่ยออกมาเท่านั้นก็เงียบไป ไม่รู้ในใจรู้สึกอย่างไรเพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะถามขึ้น แน่นอนว่าท่าทางเป็นนัยอย่างนั้นเดาไม่อยากเลยว่าเคลเมนต์ ไวแอตต้องการอะไร ข้อเสนอเดิม... แต่จะทำได้อย่างไร ในเมื่อมิล่าได้แต่งงานไปแล้ว! แต่ดูเหมือนเธอจะคิดมากเกินไป หรืออันที่จริงคิดไม่ถึงมากกว่าเมื่ออีกฝ่ายเสนอขึ้นมาว่า “ถ้าอยากชดใช้แทนมากนัก ก็เข้ามา ถ้าผมพอใจผมจะพิจารณาสัญญาร่วมมือนั่นทันที โอเคไหม” “...” ปาลินอึ้งตะลึงงัน ขณะที่เคลเมนต์จ้องมองเธอนิ่ง เขาเหยียดยิ้มอย่างผู้ชนะ แวบหนึ่งในยามกวาดตามองหญิงสาวตรงหน้าก็นึกอยากรู้ว่าเธอจะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่บนเตียงของเขา มหาเศรษฐีหนุ่มจ้องมองเธอ ก่อนจะทรุดลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ทิ้งให้เธอยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น ขณะที่คิดว่าเธอคงจะจนมุมแล้วจากไป กลับพบว่าเธอทำให้เขาตะลึงเสียจนพูดไม่ออกเสียเองเมื่อเธอพูดว่า “ได้ค่ะ” “ว่าไงนะ!” เขาทวนถาม สีหน้าเหมือนได้ยินไม่ชัด ปาลินกลั้นหายใจ ตอบรับต่อไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและท่าทีแน่วแน่มากกว่าเดิม “ฉันพูดว่า...” “...” “ฉันตกลง” “...” “ฉันทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คุณช่วยเหลือเรา มันสำคัญมากจริงๆ ค่ะ ฉัน...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD