อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยเป็นตัวเองขึ้นมา เพราะยอมทำตามที่เขาสั่งแบบไม่หือไม่อือเดินนำเขาขึ้นมาที่ห้อง ร่างสูงเดินตามหลังฉันมาด้วยเสียงฝีเท้าที่เบามาก ขนาดฉันเองยังเดินไม่เบาขนาดเขาเลยทั้งที่ตัวฉันเล็กกว่าเขาตั้งเยอะ เมื่อมาหยุดที่หน้าประตูห้องฉันเกิดอาการลังเลขึ้นมาเล็กน้อยเลยหันไปพูดกับเขา
SR : รุ่นพี่...เราลงไปกินที่ส่วนกลางดีกว่าห้องรักเล็กแล้วก็รกด้วย
TB : เปิด
SR : มันรกนะไม่มีที่นั่งหรอก
TB : เปิด
น้ำเสียงกดต่ำลงเรื่อย ๆ จนทำฉันขนลุกซู่ เลยหันกลับมากดรหัสประตูอย่างไวก็จะโดนคนขี้งกกินหัวก่อนกินเบอเกอร์ ความจริงห้องฉันก็ไม่ได้รกอะไรมากแต่ก็ไม่ได้เรียบร้อยจนไร้ที่ติ ก็ฉันอยู่คนเดียวห้องนี้พ่อแม่ซื้อไว้ให้จากเงินที่ฉันประกวดดนตรีมาตั้งแต่เด็ก แต่พอถึงจุดหนึ่งฉันไม่ได้อยากแข่งกับใครอีกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ฉันเห็นแบบนั้นเลยตัดสินใจเลือกเรียนต่อในสายนี้เพื่อจะสานต่อธุรกิจของที่บ้านและแบ่งเวลาไปวาดรูปที่ฉันชอบ ชีวิตฉันเรียบง่ายไม่ได้มีอะไรซับซ้อนจนกระทั่งมาเจอเขา
SR : รุ่นพี่นั่งก่อนเดี๋ยวรักหยิบน้ำจานให้
TB : เล่นเปียโน?
SR : อืม
TB : ...
ผมใช้เวลาไม่นานก็มองสำรวจทั้งห้องหมด หมวกกันน็อคสีดำที่ให้เธอวันนั้นวางอยู่บนตู้หนังสือใกล้กับเปียโนหลังใหญ่ ทั้งห้องแทบไม่มีอะไรมากมายมีครัวเล็ก ๆ กับห้องแยกซึ่งน่าจะเป็นห้องนอน เธอเดินมาพร้อมจานและน้ำเปล่า
SR : น้ำอัดลมพี่ดื่มเลยรักไม่ดื่ม
TB : ทำไม
SR : เจ็บคอ
TB : อืม
เธอเป็นคนที่กินอาหารได้เรียบร้อยผิดกับบุคลิกช่างเถียงช่างพูด เมื่อกินเสร็จเธอก็จัดการเก็บจานบนโต๊ะออกไปวางที่อ่างล้างจาน แล้วก็เปิดตู้เย็นหยิบกล่องใส่ผลไม้ออกมาวางตรงหน้า มันเป็นกล่องแบบที่ใช้ซ้ำไม่ใช่กล่องแบบซื้อมาจากร้านค้า ที่รู้จักเพราะแม่นิชาของผมก็จัดแบบนี้ให้คนเอามาส่งที่คอนโดผมทุกอาทิตย์
SR : ฝรั่งรุ่นพี่กินไหม
TB : ปลอกเอง?
SR : ใช่สิ...ไม่งั้นใครจะทำกินเสร็จรุ่นพี่ก็รีบกลับเถอะมืดแล้ว
TB : ไล่
SR : รักต้องทำรายงานอีกไม่ว่างมาคอยรับใช้รุ่นพี่นะ
TB : งั้นฉันกลับเลย
เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีแต่ก่อนออกไปเขาคว้าเอากล่องฝรั่งของฉันติดมือไปด้วย ฉันมองกล่องกับหน้าเขาสลับกันไปมาเพราะไม่เข้าใจว่าเขาจะเอาไปทำไม แต่ก็ช่างเถอะเขาอาจจะชอบกินแล้วเห็นว่าฉันออกปากไล่ทางอ้อมเลยจะเอาไปด้วย ฉันกำลังจะปิดประตูมือหนาก็ดันไว้ก่อนจะสั่งว่าต่อไปฉันต้องตอบข้อความเขาทุกครั้ง ฉันก็พยักหน้ารับปากไปแบบไม่ใส่ใจเพราะอยากจะอาบน้ำทำรายงานแล้ว
AN : เป็นไงแก
SR : ไม่เป็นไงได้มือถือใหม่มา
AN : แวะซื้อตอนไหน
SR : เปล่า...รุ่นพี่ทีบีให้มา
AN : ห๊ะ
SR : แต่ฟรีนะยอมเซ็นชื่อด้วยว่าให้ฟรี...แปลกไหม
AN : มาก
SR : แล้วแกอะ...รุ่นพี่ฮิวโก้ยังไงกัน
AN : วุ่นวายมากแกเดินตามจนถึงรถแล้วก็ขอติดรถไปลงรถไฟฟ้า สุดท้ายฉันต้องวนไปส่งที่หน้าคอนโดเพราะเขาบ่นว่าปวดขา
SR : แล้วแกก็เชื่อ
AN : ก็ไม่รู้ว่าเขาจะโกหกฉันเพื่ออะไรนี่
SR : ระวังไว้หน่อยก็ดีเนเน่บอกเขาก็ร้ายใช่ย่อยนะ...
AN : พ่อฉันเรียกอะเดี๋ยวว่ากันพรุ่งนี้นะรัก
SR : เค ๆ
ฉันกดวางสายแอนนี่แล้วหันมาพิมพ์รายงานต่อ ก็มีข้อความเข้ามาจากเจ้าหนี้ขี้งก ตอนแรกฉันก็ไม่เปิดอ่านแต่ข้อความมันก็ดันมาตลอดจนฉันต้องตอบไม่งั้นคงยาว แล้วเดี๋ยวตอนเจอกันฉันจะโดนเขาบ่นหนักกว่าเดิม
SR : ว่า
TB : ตอบช้า
SR : อยู่ในห้องน้ำเพิ่งออกมา
TB : ให้มันจริง
SR : รุ่นพี่มีอะไร
TB : พรุ่งนี้เอาหมวกกันน็อคมาด้วย
SR : เออ...ได้
TB : เรียนกี่โมง
SR : 10:00 โมง
ข้อความสิ้นสุดเพียงแค่นี้คนอะไรนึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป ฉันรอข้อความอีกสักพักเมื่อไม่มีอะไรมาสั่งเพิ่มฉันก็จัดการงานที่เหลืออีกนิดหน่อยแล้วก็รีบเข้านอน ฉันไม่ใช่คนนอนดึกออกจะเป็นคนนอนเก่งมากกว่า พอว่างก็จะนอน ๆ ได้ทั้งทั้งคืนวันหยุดกลับบ้านสอนเด็กเสร็จฉันก็กินแล้วก็นอน แม่ชอบบอกฉันสันหลังยาวนอนกินบ้านกินเมืองตลอด
เช้านี้ฉันทำโรลไก่อบใส่กล่องไปเพื่อแอนนี่ด้วย กับกาแฟดำหวานเยอะของฉัน ชาร้อนไม่หวานของแอนนี่ ฉันจะทำอาหารบ้างถ้าอยากกินแล้วก็จะทำเผื่อแอนนี่ด้วย แต่ส่วนมากจะไปกินพร้อมกันที่โรงอาหารมหาลัยก่อนขึ้นเรียนคาบเช้า ถ้าคาบบ่ายก็จะไปกินร้านข้างรั้วมหาลัยเปลี่ยนรสชาติบ้าง เดินลงมาพร้อมเจ้าดำที่เขาสั่งวันนี้เลยว่าจะเรียกรถผ่านแอพ กลัวว่าเดินทางแบบปกติหมวกจะไปโดนอะไรเป็นรอยก่อน
TB : ลงมาช้าชิบ..
SR : รุ่นพี่!!
TB : ขึ้นรถ
SR : ไปไหนแล้วรุ่นพี่มาทำไม
TB : แค่ผ่านมา
SR : ...
TB : นั่นอะไร
SR : มื้อเช้า
TB : กินเยอะ?
SR : ของแอนนี่ด้วย
TB : เป็นหนี้เพื่อนด้วยหรอต้องทำอาหารให้
SR : อยากให้เพื่อนได้กินไม่ใช่เป็นหนี้
TB : เอามาฉันหักหนี้ให้ 500
SR : จะกิน?
TB : บอกให้เอามาก็เอามา...ถามมากจริง