SR : รุ่นพี่จะมาตลกอะไรตอนนี้
TB : ...
SR : ที่ไอ้แผ่นนั่นตกหน้าจอร้าวบอกแสนหนึ่งไม่ยอมลดราคาที่งี้จะมาฟรี
TB : คนละเรื่องอย่าเอามารวม
SR : ไม่รวมไม่ได้เดี๋ยวรุ่นพี่เปลี่ยนคำ
TB : ...
หน้าตาเขาตอนนี้ดูไม่เหมือนคนพูดเล่นสักนิด แต่ใครจะไปรู้จิ้งจอก 9 หางก็คือจิ้งจอก ต่อให้หล่อป่านเทพเจ้าก็ยังเจ้าเล่ห์อยู่ดี
SR : ถ้ารุ่นพี่ยอมเซ็นฉันจะรับไว้
TB : เอามา
ฉันรีบหาสมุดโน้ตที่เขียนวันที่ทำงานไว้เป็นหลักฐานในการหักลบกลบหนี้ แล้วเขียนหน้าใหม่ว่ามือถือฟรี 1 เครื่องห้ามทวง
SR : รุ่นพี่เซ็นเลยมุมล่างขอชื่อจริงกับเบอร์โทรด้วย
TB : เอาบัตรประชาชนด้วยไหม
SR : ได้ก็เอา
TB : จะเอาก็ไม่ยาก
SR : งั้นเอามา
TB : มีผู้หญิง 2 คนบนโลกที่จะได้
SR : ??
TB : แม่ กับ เมีย
ไอ้รุ่นพี่บ้าพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ฉันเลี่ยงพูดเรื่องบัตรประชาชนต่อเอาเป็นว่าฉันได้ลายเซ็นเขาเรียบร้อยก็รีบเอาสมุดเก็บใส่กระเป๋า ก็จะยืนเลือกสีมือถือไฮโซแต่ก็เลือกไม่ได้อาจจะเพราะฟรีฉันเลยแอบเกรงใจเขาด้วย
SR : รุ่นพี่
TB : ...
SR : เลือกสีให้หน่อย
TB : ขาว
SR : รุ่นพี่ชอบสีขาว?
TB : เปล่า
SR : เอ้าแล้วรุ่นพี่ชอบสีอะไร
TB : ดำ
ขาว-ดำหรออย่างกับสีคู่เลยแต่ช่างเถอะอะไรก็ได้จุดนี้ คืนนี้จะเล่นเกมให้ฉ่ำเลยให้สมกับความแพง ฉันหยิบกล่องที่เป็นสีขาวขึ้นมาก่อนจะหาที่นั่งเพื่อแกะดู เขาก็พยักหน้าให้ไปนั่งที่โซฟายาวตัวใหญ่กำมะหยี่สีดำ ส่วนเขายังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงาน มองแล้วก็ออกตะแปลกตาสีเสื้อช็อปดำกับกลมกลืนกับทุกอย่างในห้องนี้อย่างกับเป็นห้องเขาเอง
SR : เสียดายจัง
TB : เรื่อง
SR : ไม่ได้เอาซิมมา
TB : ...
เขาถอนหายใจก่อนจะลุกเดินมาหยิบซิมการ์ดจากประเป๋าออกมาวางให้ตรงหน้า
TB : เอามาให้แล้ว
SR : ขอบคุณค่ะ...รุ่นพี่ช่วยฉันหน่อยได้ไหม
TB : ...
SR : รักไม่รู้ว่าใส่ซิมตรงไหน
เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีเรื่องกันมาที่ฉันขอร้องเขา อาจเป็นเพราะตอนนี้เขาดูไม่ดุเหมือนทุกทีโดยเฉพาะวันนี้ เขาย่อตัวลงมานั่งข้างฉันต้องยอมรับนะว่าเขาหล่อจริง น่าจะมีเชื้อลูกครึ่งบ้างละฉันว่า ขนตางอนกว่าผู้หญิงบางคนซะอีกจมูกเอยปากเอย ฉันเผลอตัวมองเขาจนกระทั่งเขาหันกลับมา อยู่ดี ๆ ใจฉันก็เต้นแรงขี้นมาเฉยเลย คงเพราะตกใจไม่มีอะไรอื่นหรอก
TB : ??
SR : สะ เสร็จแล้วหรอคะ
TB : อืม
SR : เดี๋ยวรักลองเปิดเครื่องก่อน
TB : เอามือถือมาสแกน
SR : สแกนทำไม
TB : เวลาเธอหนีงานฉันจะได้ตาม
SR : ไม่หนีหรอค่ะถ้าหยุดเดี๋ยวแจ้งพี่ชัค
TB : พี่?
ผมไม่เคยระคายหูคำว่าพี่มาก่อนในชีวิต ส่วนตัวผมไม่เคยอนุญาตให้ใครมาเรียกพี่จะคุณจะรุ่นพี่ก็แค่นั้น จะเรียกทีบีก็ไม่ติด เพราะคนในครอบครัวเรียกทูบแต่ตอนนี้ไอ้คำว่าพี่ชัคนี่ทำผมหงุดหงิดจนอยากจะถีบเจ้าของชื่อซะตอนนี้
SR : ก็พี่เขาบอกว่าเรียกพี่ก็พอ
TB : สนิท?
SR : ไม่สนิทแต่เขาเป็นคนออกเงินคืนรุ่นพี่แทนรักก็ต้องเกรงใจเขามากหน่อย
TB : มันไม่ได้คืนเงินสักบาท
SR : แต่
TB : ฉันเป็นเจ้าหนี้ของเธอคนเดียวจำไว้
SR : เสียงดังใส่อีกละ
TB : กลับ
อยู่ ๆ เขาก็กลับเป็นคนเดิมนี่แหละหนาตัวตน ระหว่างเดินตามเขาไปที่ลิฟต์ ไอ้เราก็กำลังเห่อของแพงเดินไปก็กดนั่นนี่ไปจนไม่ได้มองทาง พอเขาหยุดฉันเลยชนเข้ากับแผ่ยหลังเบา ๆ ไม่เจ็บอะไรแต่ที่ชะงักเพราะเขาตัวหอมมากมากแบบตะโกน วันก่อนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ก็ว่าได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ไม่คิดว่าความจริงตัวเขาโคตรหอมเลย
TB : นี่
SR : ขอโทษค่ะ
TB : ...
SR : ปกติรุ่นพี่ชอบกินขนมไหม
TB : ขึ้นอยู่กับว่าขนมอะไร
SR : อ่อ
TB : ถามทำไม
SR : ถามไปงั้น
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นทำลายความเงียบระหว่างเรา หน้าจอแสดงผลว่าเป็นรุ่นพี่ชัค ฉันที่กำลังจะกดรับสายเพราะคิดว่าเขาน่าจะโทรมาเช็คว่ามือถือใช้ได้หรือยัง "หมับ"
TB : มีอะไร
CH : ทำไมเป็นมึงรับสายว่ะ
TB : เป็นกูแล้วทำไม
CH : กูโทรมาเช็คเฉย ๆ ว่ามือถือซ่อมเสร็จยัง
TB : แค่นี้
เขากดตัดสายไปโดยที่ฉันยังไม่ได้คุยกับคนโทรมาสักคำเดียว เนี้ยนอกจากจะขี้งก เจ้าอารมณ์ ก็ยังแถมเรื่องไม่มีมารยาทอีก
TB : ไม่ต้องคุยกับมัน ๆ มีเมียแล้ว
SR : เอ๊ะ...รักไม่ได้คุยแบบชู้สาวสักหน่อย
TB : ฉันสั่ง
SR : สั่งเก่งใช้หนี้หมดเมื่อไหร่คอยดู
ก่อนจะถึงคอนโดเขายังแวะซื้อเบอเกอร์เช็ตใหญ่ให้ฉันด้วย เอาจริงก่อนหน้านี้ฉันหิวมากเพราะก็ค่ำแล้วแต่พอเจอความรวยอลังของเขาเลยลืมหิวไปเลย
SR : ขอบคุณนะคะสำหรับมือถือ อาหาร
TB : ฉันหิว
SR : นี่ไงคะ...รุ่นพี่กินในรถก่อนเลย
TB : ฉันไม่กินอาหารในรถ
SR : แล้ว
TB : ห้องเธอ
SR : ห๊ะ
เขาดับเครื่องรถแล้วก็หยิบถุงเบอเกอร์ทั้งหมดออกไปยืนรอนอกรถ และฉันที่ทำอะไรไม่ถูกยังนั่งไม่ขยับจนเขาก้มลงมาถามว่า
TB : ถ้าไม่ขึ้นก็ไปบ้านฉัน
SR : ...