ตอนที่ 2 แผนการ

1436 Words
ตอนที่ 2 แผนการ ศิลาขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดของปันปันหลังจากที่เขาพลาดสติหลุดทำอะไรที่ไม่ควรทำลงไป ใบหน้าคมคายหันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งหลับอยู่ข้างๆด้วยความอึดอัดใจ เพราะชุดที่สวมใส่มามันโชว์สรีระของเธอแทบทุกสัดส่วน หากปล่อยเอาไว้แบบนี้เรื่องอาจจะแย่ลงกว่าเดิม “ปันตื่นได้แล้ว ถึงห้องแล้ว” ศิลาเรียกปันปันเพื่อให้เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ผล เมื่อเธอแค่เพียงลืมตามาแวบหนึ่งก่อนจะผล็อยหลับต่อ และเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเธอก็ทำให้เขารู้ว่าเธอนั้นหลับจริงๆ คงจะเป็นผลจากการดื่มแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่ร่างกายรับไหว “เฮ้อ ไหนบอกโตแล้วไง ดื่มแค่ไม่กี่แก้วยังหลับสนิทขนาดนี้” ศิลาบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนจะขับรถวนไปจอดใต้ลานจอดรถคอนโด ศิลาเอื้อมมือไปหยิบเสื้อสูทที่เขาพาดเอาไว้หลังรถมาคลุมต้นขาเธอเอาไว้แล้วเปิดประตูรถลงไปฝั่งที่นั่งข้างคนขับพร้อมกับอุ้มร่างไร้สติของปันปันมาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง ศิลาหยิบคีย์การ์ดห้องของปันปันในกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดประตูห้อง ร่างบางถูกวางลงบนที่นอนนุ่มที่ถูกสั่งทำมาพิเศษโดยเฉพาะ ศิลากระชับผ้าห่มมาคลุมตัวร่างเล็ก ก่อนจะเดินไปเปิดเครื่องปรับอากาศให้เธอ เพื่อที่จะได้นอนสบายๆ ก่อนที่เขาจะกลับออกไป เช้าวันถัดมา ปันปันตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพความทรงจำเมื่อวานที่เกิดขึ้นภายในรถ ถึงแม้เธอจะทำไปโดยไม่ได้สติ แต่เธอก็รับรู้ และจำภาพเหตุการณ์ทุกอย่างได้เป็นอย่างดี “เฮียศิลาต้องแอบชอบแกแน่ๆ เลยยัยปัน” ปันปันพูดกับตัวเองพลางยกหมอนขึ้นมาปิดหน้า พร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดลงไปด้วยความตื่นเต้น และความดีใจ “แล้วต้องทำอะไรต่อล่ะทีนี้” ปันปันครุ่นคิดแต่ก็ไม่ได้คำตอบ สุดท้ายจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์เธอไม่มีเรียน ปันปันยืนเช็กเครื่องหน้าตัวเองอยู่หน้ากระจกวันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้าจัดเต็มมากนัก เพราะชุดที่เธอเลือกใส่เป็นครอปเอวลอยแขนสั้น กับกางเกงยีนทรงกระบอกขาม้าที่ช่วงนี้วัยรุ่นฮิตใส่กัน ก่อนจะโทรศัพท์ออกไปหาเป้าหมายของเธอที่กำลังจะไปหาในตอนนี้ “ฮัลโหล จิมมี่ ฉันกำลังจะไปหาแกที่คอนโดนะ” ปันปันบอกเพียงแค่นั้นก่อนจะกดวางสายไป ไม่ได้รอฟังคำตอบรับใดๆ จากคนปลายสายเลยสักนิด สามสิบนาทีต่อมา ปันปันมาถึงคอนโดของจิมมี่เพื่อนสาวของเธอหลังจากโทรบอกเจ้าของเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ โดยเธอกดรหัสผ่านเข้าห้องของจิมมี่ไปอย่างถือวิสาสะ “นังบ้ามาทำอะไรแต่เช้าเนี่ย” จิมมี่เจ้าของห้องเดินเสยผมออกมาจากห้องนอนโดยมีผ้าขนหนูที่ปกปิดเพียงแค่ช่วงล่างเท่านั้นกล่าวคำทักทายเพื่อนรักอย่างไม่เต็มใจนัก “มีเรื่องจะเมาท์ และก็มีเรื่องจะปรึกษา” “แหกตาดูนาฬิกาบ้างไหมยะหล่อน นี่มันพึ่งเก้าโมง” “เก้าโมงแล้วเถอะ ไม่ใช่พึ่งเก้าโมง” “ฮัลโหลหล่อน ฉันตื่นบ่ายโมงย่ะ แต่ต้องแหกขี้ตาตื่นมาเพราะผู้บุกรุกอย่างแกเนี่ย” “กับเพื่อนอย่าใจร้ายนักเลยหนา ทีผู้ชายนะกี่โมงก็สแตนด์บายรอ” “ความสำคัญมันต่างกัน เรื่องนั้นแกรู้ดีอยู่แก่ใจ เมื่อวานก็ทิ้งพวกฉันไปหาเฮียศิลามาไม่ใช่รึไง” “ก็สายโทรมาบอกว่าเฮียศิลาไปที่ผับ ฉันก็แค่ไปเฝ้าตามประสาคนรัก” “เรียนเอกบริหาร หรือเอกมโนจ๊ะ” จิมมี่ประชดประชันอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะเธอรู้ดีว่าปันปันตามจีบตามหวงศิลามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนอยู่มัธยมปลายอายุยังเข้าผับไม่ได้ ก็ไปนั่งรอศิลาหน้าผับจนศิลาเอือมระอาไม่ไปที่ผับอีกเลย เพราะไม่อยากให้ปันปันไปนั่งเฝ้าหน้าผับดึกๆ ดื่นๆ คนเดียว และเป็นที่แน่นอนว่าคนที่ต้องไปนั่งเป็นเพื่อนปันปันหน้าผับก็คือเธอ แต่พอโตมาอายุเข้าผับได้ก็โชคดีหน่อย เพราะปันปันตามไปเฝ้าในผับด้วยตัวเอง ไม่ต้องมาเป็นภาระเธออีก “แล้วไง มีเรื่องอะไรไหนเล่ามา” จิมมี่กระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาพลางเอนหลังหลับตาพักสายตาไปด้วย “เมื่อวาน...เฮียศิลาจูบฉัน” “ในฝัน?” “ในรถ” “เรื่องจริง?” จิมมี่เงยหน้าขึ้นมาถามย้ำด้วยความแปลกใจจากที่ตอนแรกไม่คิดว่าเรื่องที่ปันปันพูดมาจะเป็นเรื่องจริง “จริงสิถึงฉันจะเป็นฝ่ายรุกก่อนก็เถอะ” “ยังไงไหนเล่าซิ” จิมมี่กระเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งรอฟังด้วยท่าทางจริงจัง “เมื่อคืนฉันเมา แล้วฉันก็เผลอไปจูบเฮียศิลา คำว่าแรดทะลุหน้ามาเลยนะ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้เฉยๆ หรอกน่า” ปันปันเบะปากมองจิมมี่ที่ส่งสายตามาที่เธออย่างเปิดเผย “ไงต่อ” “แล้วทีนี้พอฉันถอนจูบออก เฮียศิลาก็มากระชากฉันเข้าไปจูบแบบรุนแรง เร่าร้อน เร้าใจ โอ๊ยฉันเขินอะแกทำไงดีๆ” ปันปันกระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความเขินอายในขณะที่จิมมี่ยังคงอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ปันปันเล่ามา เพราะถ้านับตั้งแต่รู้จักกันตอนมัธยมต้นปันปันก็ตามจีบศิลามาเกือบจะสิบปีได้แล้ว แต่ศิลาก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเลย “โอ้ มาย ก๊อด ฉันไม่อยากจะเชื่อ เร่าร้อนขนาดไหนขยายความซิ” “หยุดความคิดของแกไว้ตรงนั้นเลยนะ เฮียศิลาของฉันมายุ่งสุ่มสี่สุ่มห้าแม่ตบนะพูดเลย” ปันปันมองส่งสายตาฟาดฟันให้จิมมี่เพื่อเรียกสติเพื่อนรัก หลังจากที่เธอเผลอหลุดสีหน้าเพ้อฝันออกมา “ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเร่าร้อนขนาดไหน” “มากกกกก ใจฉันนะเต้นตุบๆ ขนาดตื่นมาความรู้สึกยังติดอยู่ตรงปากฉันอยู่เลย” ปันปันบอกพลางยกมือเรียวขึ้นมาแตะริมฝีปากบางเบาๆ “แกก็ลองรุกมากกว่านี้ดูสิ เผื่อเหยื่อจะติดเบ็ด” “ยังไงอะ” “ก็ถ้าเมาแล้วได้จูบ ก็ลองเมาอีกสักทีจะเป็นไรไป” “แต่นิสัยเฮียศิลาคงห้ามไม่ให้ฉันดื่มอีกแน่” “ดื่มกับเขาไม่ได้ก็มาดื่มกับฉัน เมาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง แล้วก็โทรให้เฮียศิลามารับ หลังจากนั้นก็...” “เผด็จศึก” “เริ่ด!” จิมมี่บอกด้วยสีหน้ามั่นใจว่าแผนการเขายังไงก็ต้องสำเร็จ เพราะดูเหมือนตอนนี้ศิลาจะเริ่มแพ้ให้กับกลิ่นหอมหวานของสาวแรกแย้มแล้ว “แต่ว่า...ถ้าเกิดเฮียศิลาไม่รับผิดชอบล่ะ” “ยังไงเฮียศิลาก็ต้องรับผิดชอบแกอยู่แล้ว” “แต่ไม่ใช่เพราะรัก เป็นเพราะฉันเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อเขา?” “จะแบบไหนแกจะสนใจทำไมแกอยากได้เขาไม่ใช่เหรอ” “ฉันไม่ได้อยากได้แค่ตัว แต่อยากได้หัวใจด้วย ฉันรักของฉันมาตั้งนาน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ คงจะกลายเป็นสถานการณ์กระอักกระอ่วนมองหน้ากันไม่ติดมากกว่า” “งั้นแผนนี้ไม่ได้ผล ล้มกระดานเดินเกมใหม่” จิมมี่ตัดบทอย่างไม่เรื่องมาก เพราะหากต้องการความรักการทำแบบนั้นคงไม่ทำให้ปันปันได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ “เดินยังไง” “ค่อยๆ เต๊าะไปไง ถ้าได้เลยก็จะดูไม่ได้มีค่า ไม่รู้สึกอะไร ค่อยๆ อ่อยเหยื่อ ทำให้หึงทีละนิด ค่อยๆกระตุ้นให้เขารู้ว่าแกสำคัญ เขาอาจจะยอมเปิดใจมากขึ้นก็ได้” “เอาแบบนั้นเหรอ” “เออ ตามนี้แหละ แล้วถ้าจะอยู่ห้องฉันต่อก็อยู่เงียบๆ ฉันจะไปนอนต่อแล้ว” จิมมี่บอกพร้อมกับลุกเดินกลับไปที่ห้องนอน ปันปันจึงได้แต่นั่งตกตะกอนความคิดกับแผนการจิมมี่อยู่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD