“เกิดอะไรขึ้น!!”
จู่ๆ ก็มีเสียงจากด้านหลังก็ดังขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องต่างหันมาสนใจนาวเองก็ชะงักมือไว้ ก่อนจะค่อย ๆ คลายมือออกเพราะดูจากบรรยากาศแล้วคนที่มาเยือนคงจะไม่ใช่คนธรรมดา
(คุณคีย์แกน! คุณต้องจัดการอีพนักงานคนนี้ให้ฉันนะ ดูที่มันทำกับฉันสิ!!) นามิรีบตะคอกชายที่พ่อตัวเองสั่งให้มาคุยธุรกิจแทน
“เธอพูดว่ายังไง” คีย์หันไปถามล่ามข้าง ๆ
“เธอบอกว่าให้คุณคีย์แกนจัดการพนักงานคนนี้ดูที่ทำตัวเอง”
“บอกเธอว่าคนที่ทำร้ายคุณต้องได้รับโทษ แต่ผมขอลงโทษเองได้ไหม...และเป็นการขอโทษในครั้งนี้บ้านพักตากอากาศที่คุณนามิเคยขอผมจะจัดการโอนเป็นชื่อของเธอ”
ล่ามรีบแปลตามที่ผู้ว่าจ้างบอก ซึ่งมันก็เหมือนจะได้ผลอารมณ์ของหญิงสาวสงบลงบ้าง
(ข้อเสนอของคุณไม่เลวฉันตกลง แต่ว่าคุณต้องจัดการอีนี่อย่าให้มันได้โผล่หน้ามาให้ฉันกับสามีเห็นอีก) นามิตอบตกลงอย่างง่ายเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับคนที่พ่อกำลังจะทำธุรกิจด้วย ถ้าการคุยธุรกิจล้มเหลวแล้วพ่อรู้เรื่องเธออาจจะเดือดร้อน
“ครับ คราว อติ พาผู้หญิงคนนี้เข้าไปรอฉันในห้องเดี๋ยวฉันไปจัดการ”
“ครับ” เสียงขานรับพร้อมกันก่อนที่นาวจะถูกกระชากลากถูออกไปจากตรงนั้น ก็ไม่รู้หรอกนะคำว่าจัดการของเขาคืออะไรแต่ดูจากสถานการณ์แล้ว การทำงานวันแรกของเธอคงเป็นวันสุดท้ายด้วย
พลั่ก...ตุ้บ...
แรงผลักอย่างแรงทำให้คนร่างเล็กถลาลงไปนั่งอยู่บนโซฟา นาวมองไปรอบๆ ห้องด้วยความสงสัยของทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างดีตกแต่งอย่างเรียบหรูแต่ก็ดูแพง ห้องสีขาวสะอาดตาควรทำให้รู้สึกสงบ แต่สำหรับเธอตอนนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย
'ทำงานวันแรกก็มีเรื่องซะแล้วยัยนาว แล้วไอ้อีสองคนนั้นจะโผล่มาทำไมวันนี้ ถ้าเธอถูกไล่ออกแล้วหาเงินจ่ายค่าเทอมให้น้องไม่ได้สาบานเลยว่าจะตามจองล้างจองผลาญให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยคอยดู'
แกร๊ก!! หลังจากที่นั่งอยู่ในห้องนี้โดยมีผู้ชายตัวใหญ่สองคนเฝ้ามาสักพักก็ดูเหมือนว่าคนที่ออกคำสั่งจะกลับเข้ามาแล้ว
“อติ! คราว! ออกไปได้แล้ว”
“ครับบอส”
ทั้งสองคนพอได้รับคำสั่งของเจ้านายก็รีบเดินออกไปทันที ส่วนนาวตอนนี้แทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาใหม่ เธอรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้สองคนที่พาตัวเองเข้ามาออกไป แล้วก็ต้องสะดุ้งเพราะตกใจอีกครั้งกับสูทราคาแพงที่ถูกพาดไว้ที่ขอบโซฟาข้างเธอ ก่อนจะมีคนเดินผ่านไปนั่งฝั่งตรงข้ามอีกฝ่ายนั่งไขว้ขาอย่างสบาย
“เงยหน้าขึ้น”
เสียงทุ้มของคนที่กำลังพูดทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาแม้เขาจะไม่ได้ตะคอกหรือพูดข่มขู่แม้แต่น้อยแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังรู้สึกหวั่นๆ ในใจ ในที่สุดนาวก็เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย แต่เพียงแค่สบตากันเธอก็จำได้ทันทีว่าเขาคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เพื่อนร่วมงานพิเศษร้านเก่าเอาให้ดู คีย์แกน วิษุรารัตน์ ลอยเซนลาจ ในรูปว่าดูดีแล้วแต่ตัวจริงดีกว่าในรูปมาก ผมสีทอง ตัวสูง อกผายไหล่ผึ่ง เป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าจับตัวได้ยาก
“เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป”
คีย์แกนถามคนตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจยาว มือเขาเอื้อมขยับเนคไทตัวเองเล็กน้อยเพื่อไม่ให้อึดอัดมากเกินไปและมองคนตรงหน้าที่ทำท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เมื่อกี้ยังทำเป็นเก่งตบตีกับลูกค้าคนสำคัญของเขาอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้มาทำเป็นกลัวแล้วล่ะ
“คือฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนมาหาเรื่องฉันก่อน”
จากที่ได้ฟังมาตอนนี้เขาไม่แปลกใจหรอกนะที่ลูกค้าสาวชาวญี่ปุ่นจะออกอาการหึงหวงสามีกับเธอคนนี้ ก็สวยขนาดนี้มันก็ต้องมีระแวงบ้างแหละ ดูปากเธอสิแดงระเรื่อ จมูกโด่ง ผิวแม้จะไม่ได้ขาวมากเหมือนที่ผู้หญิงสมัยชอบแต่ก็ดูมีเสน่ห์ ตัวเล็ก ใบหน้ารูปไข่ แถมหน้าอกหน้าใจภายใต้ชุดฟอร์มทำงานมันยังดูใหญ่แทบจะล้นออกมา
“แต่ฉันได้ยินว่าเธอไปนัวเนียกับสามีของลูกค้า”
“ไม่จริงค่ะ ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่เข้ามาวอแวฉัน”
“แต่เธอก็ปฏิเสธได้นิ”
“ฉัน...” เธอเองก็พยายามปฏิเสธแล้วแต่ไอ้บ้านั่นมันไม่ยอมปล่อยนะสิ
“ช่างเถอะว่าแต่เธอชื่ออะไร ทำงานมานานหรือยัง”
“ฉันชื่อนาวค่ะทำงานวันนี้วันแรก”
ปัง!!! คีย์แกนทุบมือลงบนโต๊ะอย่างแรงจนเกิดเสียงดังขึ้น ทำเอานาวที่ไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งตกใจ
“เธอบอกว่าตัวเองทำงานวันแรกงั้นเหรอ”
“ใช่คะ”
“ทำไมทำงานชุ่ยแบบนี้ว่ะ คราวเข้ามาหาฉันหน่อย”
เสียงเรียกหาจากเจ้านายทำให้ไม่นานลูกน้องคนสนิทที่ยืนรออยู่ด้านนอกรีบเปิดประตูเข้ามาก่อนจะรีบเดินมาหยุดใกล้ๆ
“ไปตามดูว่าใครเป็นคนให้เด็กคนนี้มาทำงานต้อนรับลูกค้าวีไอพี เสร็จแล้วก็ไล่ออกซะ”
“ครับ ผมจะรีบไปจัดการให้เดี๋ยวนี้” พูดจบคนที่เพิ่งเดินเข้ามาก็เดินหลับออกไปอีกรอบ
“คือว่าแบบนี้แปลว่าเจ้านายรู้แล้วใช่ไหมคะว่าฉันไม่ผิด” นาวรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากได้ยินว่าเขาจะไล่คนอื่นออก
“เรียกฉันว่าคีย์ก็พอ”
“ค่ะคุณคีย์” นาวรีบทำตามที่เขาบอก
“เธอรู้ไหมว่าเมื่อกี้สิ่งที่ทำเกือบทำให้ฉันสูญเงินไปเกือบพันล้าน แล้วแบบนี้ยังจะบอกไม่ผิดได้อีกไหม”
“แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะแค่ป้องกันตัว ฉันเองก็เป็นผู้เสียหาย” พอได้ยินจำนวนเงินที่คนตรงหน้าบอก ก็ทำเอาเหงื่อเธอผุดออกมาทันที
“เรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่การที่เธอคิดว่าการทำแบบนั้นมันคือการแก้ปัญหาที่ถูกต้องแล้วเหรอ”
ใช่มันไม่ถูกต้อง ปกติเธอไม่ใช่คนชอบใช่ความรุนแรงหรอกนะ แต่ว่ามันอดสั่งสอนคนแบบนั้นไม่ได้จริงๆ
“เอ่อ...ฉันขอโทษคะ คุณคีย์จะไล่ฉันออกไหม”
“ส่วนหนึ่งมันก็เป็นความผิดของคนที่พาเธอขึ้นมาโดยไม่ถามก่อนจะโทษเธอฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันคงไม่ไล่เธอออกหรอก”
นาวมองหน้าคนตรงหน้าอย่างดีใจ ผู้ชายคนนี้ดูเป็นคนดีและมีเหตุผลกว่าที่คิด
“ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณนะคะ” นาวรีบยกมือไหว้เขาอย่างดีใจ
“แต่...ฉันจะหักเงินเธอครึ่งหนึ่งจากเงินที่เธอจะได้เป็นเวลา 3 เดือนโอเคไหม”
“โอเคค่ะไม่มีปัญหาเลย” นาวรีบตอบรับอย่างน้อยก็ดีกว่าเธอถูกไล่ออกตั้งแต่ทำงานวันแรก
“อืม งั้นออกไปทำงานเธอต่อเถอะ”
"ค่ะ"
นาวลุกเดินออกไปทันที โดยไม่ทันสังเกตเลยว่าเจ้าของห้องนั่งมองตามเธอด้วยแววตาปรารถนาบางอย่าง
'เหมือนจะหาของเล่นฆ่าเวลาได้แล้วสินะเรา'