14. แอบย่อง

2235 Words
ดึกสงัดแล้วแต่จิวซูยังมิอาจข่มตาลงได้เลย นางยังคงกระสับกระส่ายร้อนรุ่มในใจ จะมิให้เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเตียงกว้างที่เคยนอน ยามนี้คงมีสองร่างเปลือยเปล่ากอดเกี่ยวกันอยู่แทนที่ตนเป็นแน่ ใจดวงน้อยสั่นไหวเมื่อนึกถึงตรงนี้ทีไร หยดน้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามมิได้ รู้สึกมากก็เจ็บมากเช่นนี้ ต่างจากคนที่มิเคยใส่ใจนาง ยามนี้คงมีความสุขกับสตรีที่เขารอคอย “เลิกคิดถึงเขาได้แล้วฟู่หรง บุรุษเช่นนี้มิคู่ควรให้เจ้าเสียน้ำตาให้เลยซักนิด” เสียงสั่นเครือดังขึ้น พร้อมกับฝนที่หลงฤดูมาเพราะอากาศวันนี้มันร้อนอบอ้าวเช่นใจคน ราวกับบนสวรรค์นั้นร้องไห้ให้นางเช่นกัน ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มเย้ยหยันตนเอง ที่หลงมัวเมาไปกับคำลวงของคนโตกว่าก่อนนี้ นึกถึงยามใดก็เจ็บรวดร้าวจนเอ่ยสิ่งใดมิออก ก่อนนี้หากมิสูญเสียความจำไป เรื่องราวคงมิเลยเถิดจนกลายมาเป็นเช่นนี้ โชคชะตาช่างเล่นตลกกับชีวิตนางเหลือเกิน “หึ! ข้ามภพมาเพื่อสิ่งใดกัน ทำไมถึงได้ลำบากยากเย็นถึงเพียงนี้ฟู่หรง มันเป็นชะตาเจ้าหรือข้ากันแน่ที่ต้องชดใช้ ถูกตามล่ายังไม่พอ มีผัวก็นอกใจอีก มีอะไรดีบ้างนอกจากชาติกำเนิด ห๊ะ!ฟู่หรง” เสียงตำหนิก่นว่าตนเองดังขึ้นภายในห้องแข่งกับเสียงฝนและฟ้าด้านนอก แต่ถึงกระนั้นนางก็นึกขอบใจที่มันช่วยกลบเสียงของเรือนที่อยู่ห่างออกไป “ยามนี้ท่านคง” แม้จะคิดและเอ่ยแล้วทำให้ตนเจ็บปวด แต่ฟู่หรงก็ยังคงเอ่ยมันออกมาอยู่เช่นนั้น นางนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนเตียงราวเด็กที่กำลังตื่นกลัว นัยน์ตาสวยยามนี้มันแดงก่ำจนน่าใจหาย โดยมิทันได้สังเกตว่ามีใครบางคนปีนหน้าต่างเข้ามา ร่างสูงยามนี้เปียกปอนจนดูมิได้ เขายืนนิ่งมองคนตัวเล็กสะอื้นเป็นระยะ ก่อนจะเดินมาหยุดข้างเตียง พร้อมกับเอ่ยเรียกเสียงอ่อนโยน “ฮูหยินเจ้าเป็นอะไรไป” ใบหน้างามเงยขึ้น พร้อมกับอาการตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าคนที่นึกถึงมายืนตัวเปียกอยู่ข้างเตียง “ท่านพี่ อ่ะ นายน้อยทำไมมาอยู่ที่นี่เจ้าคะ” “มีผ้าเปลี่ยนหรือไม่พี่หนาว” เสิ่นอวี้มิตอบคำถามอีกฝ่าย จิวซูมองหน้าสามีที่ยืนตัวสั่นอยู่ นางลังเลมิรู้จะเชื่อเขาดีหรือไม่ คนเช่นเสิ่นอวี้จะหนาวเป็นด้วยหรือ แล้วหากเป็นเช่นนั้นไยเขามิกลับห้องตนไปเพื่อเปลี่ยนอาภรณ์ “ที่นี่มิมีสิ่งที่นายน้อยต้องการหรอกเจ้าค่ะ ไยท่านมิกลับไปเปลี่ยนที่เรือนละเจ้าคะ” “ถ้าเจ้ามิมีเช่นนั้นพี่ก็จะถอดกองไว้ตรงนี้แหละ” เสิ่นอวี้ยังตีมึนมิใส่ใจคำพูดของคนน้อง เขาถอดอาภรณ์ที่เปียกโชกออกจนเหลือเพียงกางเกงตัวเดียว ซึ่งมันอยู่ด้านในสุดจึงมิถูกฝน ฟู่หรงมองการกระทำอีกฝ่ายนิ่ง มิรู้ว่าเขาต้องการสิ่งใดอีกจึงได้มาที่นี่ เมื่อปลดเปลื้องอาภรณ์แล้วร่างสูงก็ปีนขึ้นเตียงทันที พร้อมกับรั้งคนตัวเล็กเข้ามานอนกอดแล้วห่มผ้าด้วย “คิดถึงเจ้าเหลือเกิน” คำพูดที่เขาเอ่ยออกมา หากเป็นแต่ก่อนฟู่หรงคงดีใจมิน้อย แต่ยามนี้คนตรงหน้ามิอาจทำให้นางเชื่อได้อีกแล้ว นางดันอกแกร่งออกทันที แต่ก็ยังคงถูกคนโตกว่ารั้งเอาไว้ “ขออภัยเจ้าค่ะ ข้ามิเชื่อคำพูดท่านอีกแล้ว ช่วยออกไปจากห้องข้าด้วย หากฮูหยินท่านตื่นขึ้นมามิเห็นคงมิดีนัก” “พี่ก็อยู่กับฮูหยินแล้ว เจ้าจะให้พี่ไปหาใครอีก” “หึ! อย่าได้เอ่ยถ้อยคำน่าขบขันนักเลยเจ้าค่ะ ข้าฟังแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน ปล่อยได้แล้วหากท่านยังทำเช่นนี้ ข้าจะไปจากที่นี่เสีย” “จิวซูเจ้าเป็นเมียพี่ หากมิให้ไปเจ้าก็มิมีสิทธิ์” เสิ่นอวี้เอ่ยด้วยถ้อยคำหนักแน่น และมิเพียงเท่านั้นที่เขาทำ บุรุษรูปงามซบหน้าลงที่อกอวบของฮูหยินตนอย่างหวงแหนอีกด้วย ทำเอาใจดวงน้อยนี้เต้นรัวจนเขาได้ยิน “เจ้ายังรักพี่อยู่ ไยถึงคิดจะหนีห่างไกลกันอีก” “ข้าเคยรักท่าน เคยโง่เขลาให้ท่านหลอกใช้ แต่ยามนี้ข้าตาสว่างแล้ว จิวซูคนเดิมมิมีอีกแล้ว” เสิ่นอวี้เงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็ก ซึ่งยามนี้นางเองก็จ้องเขามิหลบเช่นกัน เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่ายเอาไว้ มือแกร่งรวบแขนเล็กสองข้างไว้ด้านบน “หึ! ต่อให้เจ้ามิใช่จิวซูคนเดิม อย่างไรเสียร่างกายนี้ก็เป็นของพี่ และที่หนีมิได้ก็คือเจ้าเป็นคนของสกุลจางแล้ว มิมีทางเปลี่ยนไปได้แน่” “ปล่อยข้านะ ท่านมิมีสิทธิ์มาข่มเหงข้าอีกแล้ว” “แน่ใจหรือ ร่างกายเจ้ายังต้องการพี่มิเชื่อก็ลองดู” เอ่ยเพียงเท่านั้น เสิ่นอวี้ก็ซุกไซร้ซอกคอหอม ยามนี้เขามิฟังเสียงท้วงใดๆ ทั้งสิ้น ในหัวมีแต่เรื่องของคนใต้ล่างจนมิอาจข่มตาลงได้ จึงต้องฝ่าฝนมา ก่อนนี้ซินลี่ก็รั้งเขาเอาไว้ ซ้ำยังเปลือยกายหวังจะร่วมหลับนอนกับเขา แต่ไฉนเลยท่อนลำถึงมิตื่นขึ้นแม้แต่น้อย เสิ่นอวี้เคยคิดว่านางคือสตรีที่รักมั่นปักใจ แต่ยามนี้มันมิใช่แล้ว คนที่หัวใจคิดถึงตลอดอยู่ใต้ล่างนี้ต่างหาก “จางเสิ่นอวี้!! ปล่อยข้า!! ข้าเกลียดท่าน” ใต้เท้าหนุ่มชะงักไปในทันที เขาเงยหน้าจากซอกคอเล็ก เพื่อมองหน้าอีกฝ่าย ซึ่งยามนี้มีหยดน้ำใสไหลรินลงมา สร้างความปวดใจให้กับตัวเขาเองมิน้อย “อย่าเอาร่างกายที่แปดเปื้อนหญิงอื่นมาแตะต้องข้า ข้ารังเกียจและสะอิดสะเอียนมัน ไปให้พ้น” ร่างแกร่งยังคงทาบทับมิจากไปไหน ใจเขายามนี้มันก็วูบโหวงอย่างมิเคยเป็นมา แม้ในตอนที่ซินลี่จากไป มือเรียวยกขึ้นลูบใบหน้าที่อาบน้ำตา เขาเกลี่ยมันออกเบาๆ พร้อมกับจุมพิตลงที่พวงแก้มราวกำลังปลอบ ก่อนจะขยับกายแล้วกอดคนตัวเล็กไว้แนบอก “พี่จะไม่รังแกเจ้า มิใช่เพราะร่างกายนี้แตะต้องสตรีอื่นอย่างที่เจ้าเอ่ย พี่มิได้ทำสิ่งอื่นกับนางนอกจากที่เจ้าเห็น พี่รู้ว่ามันยากที่จะทำให้เจ้าเชื่อ เพราะพี่คงเลวในสายตาเจ้าไปแล้ว แต่ตรงนี้มิมีใครนอกจากเจ้าจิวซู” เสิ่นอวี้เอื้อมจับมือเล็กมาวางยังจุดหัวใจของตน ซึ่งยามนี้มันเต้นรัวจนจิวซูก็สัมผัสได้ “ท่านต้องทำถึงเพียงนี้เพื่อให้ข้าเชื่อหรือ เพียงเพราะต้องการร่างกายนี้ที่ท่านยังมิเบื่อ” เสียงสั่นเครือเอ่ยออกมาอย่างที่ใจคิด นัยน์ตาสวยยังคงมีหยดน้ำตาไหลรินลงมาราวหยาดฝน ทำเอาใจแกร่งอ่อนยวบลงอีกครั้ง เขามิรู้ต้องทำสิ่งใดให้คนน้องเชื่อ แต่ก็นั่นแหละการกระทำที่ผ่านมา มันก็สมควรแล้วที่เป็นเช่นนี้ “แต่ก่อนคงใช่ แต่ยามนี้พี่ต้องการจิวซู คนที่รักพี่และมิดื้อ แต่เอาเถอะจากนี้พี่จะไม่ข่มเหงเจ้าอีก จนกว่าเจ้าจะยอมอภัยในความโง่เขลาของพี่ นอนเถอะวันพรุ่งพี่ต้องเดินทางไปสืบข่าวที่เมืองหยางอีก อยู่ที่นี่ระวังตัวอย่ายุ่งเกี่ยวกับซินลี่เด็ดขาดเข้าใจหรือไม่” “หึ! เป็นห่วงนางถึงเพียงนี้ไยถึงมิพาไปด้วยเลย” จิวซูดันกายหันหลังให้สามี เพราะมิอยากเห็นใบหน้านี้อีก เมื่อนึกถึงการกระทำของเขากับคนรัก “เอ่ยเช่นนี้ หึงหรือหวงกันล่ะ หรือว่าทั้งสองอย่าง” “ใครจะไปคิดเช่นนั้นกับบุรุษที่มักมากเช่นท่าน กลับไปได้แล้วข้าจะนอน เดี๋ยวคนรักท่านตื่นมามองไม่เห็นคงได้โวยวายเสียงดังลั่นเรือนเป็นแน่” “พี่มิได้นอนห้องเดียวกับนางเสียหน่อย ยามนี้มีเมียก็ต้องนอนกับเมียสิ นอนเถอะพี่ง่วงแล้ว” “ท่านก็กลับไปสิ” “จิวซูอย่าดื้อนะ พี่ขอจัดการเรื่องงานให้แล้วเสร็จเสียก่อน ยามนั้นจะบอกเจ้าทุกเรื่อง เชื่อใจพี่นะ” เสียงทุ้มอ่อนโยนดังขึ้นข้างหู พร้อมกับริมฝีปากอุ่นจูบซับลงที่ซอกคอ ทำเอาร่างเล็กสั่นสะท้านจนขนลุกซู่ อ้อมแขนแกร่งกระชับกอดฮูหยินของตนเอาไว้ แม้นางจะดิ้นขัดขืนอยู่บ้าง แต่ความเหนื่อยล้าและอากาศที่มันเย็นสบายเพราะฝนตก ก็ทำให้เสิ่นอวี้หลับไปโดยง่าย เพราะในใจนั้นรู้สึกผ่อนคลายลงบ้างนั่นเอง จิวซูเงียบไปเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่าย นางก้มมองวงแขนแกร่งที่กอดรัดตัวเอาไว้ ในใจนั้นสับสนมิใช่น้อย คำพูดของคนตัวโตจะให้ตนเชื่อได้เช่นไร ในเมื่อการกระทำนั้นสวนทางทุกอย่าง “ข้าควรทำเช่นไร ข้ามิอาจทำใจเชื่อท่านได้อีกแล้ว” เสียงในใจดังขึ้นประท้วงคำพูดของสามี นางจำต้องข่มตาหลับไปทั้งอย่างนี้ แต่ดูเหมือนจะหลับง่ายกว่าคราแรกที่ต้องนอนคนเดียว เพราะอย่างน้อยจิวซูก็รู้ว่าเขายังอยู่กับนาง ถึงแม้จะเพียงชั่วครู่ก็เถอะ แต่อย่างไรล่ะในเมื่อสตรีมิว่าชาติภพใด หากรักบุรุษแล้วก็ต้องอยากอยู่กับเขาเพียงผู้เดียว มิอยากแบ่งปันกับผู้ใดเป็นแน่ ยิ่งสมัยปัจจุบันด้วยแล้วการมีบ้านเล็กบ้านน้อยแทบไม่มีให้เห็น แล้วคนที่อยู่ในร่างนี้ดันมาจากยุคปัจจุบันอีก มีหรือจะไม่คิดมาก แม้จะเข้าใจขนบธรรมเนียมสมัยนี้ก็เถอะ แต่อย่างไรก็มิอาจทำใจยอมรับได้ จึงทำได้เพียงรอเวลาจากไปจากตรงนี้เท่านั้น รุ่งอรุณของวันใหม่สว่างจ้าขึ้นมา เสียงนกเสียงคนงานในสวนต่างก็ดังขึ้นตามปกติ แต่คนที่บอกจะไปสืบข่าวกลับยังคงนอนกอดฮูหยินอยู่เช่นเดิม ทำเอาจิวซูอดมิได้ที่จะตีลงที่แขนแกร่งเพื่อปลุก แต่พอสัมผัสลงก็พบว่าอีกฝ่ายตัวร้อน จึงรีบดันตัวออกเพื่อตรวจดู “นายน้อยป่วยหรือเจ้าคะ คงเพราะตากฝนเมื่อคืนเป็นแน่ ข้าจะไปบอกท่านแม่” “อย่า! ถ้าเจ้าบอกทุกคนเช่นนั้น นางก็จะรู้ว่าพี่อยู่กับเจ้า พี่มิอยากให้เกิดเรื่อง” จิวซูชะงักไป ในใจก็คิดว่าเขาคงกลัวว่าสตรีอันเป็นที่รักจะเสียใจเป็นแน่ และเสิ่นอวี้ที่พยายามลืมตาขึ้นมาเพราะเห็นคนน้องเงียบไปก็อดยิ้มมิได้ ก่อนจะรั้งนางลงมากอดแนบอกแกร่งเอาไว้ พร้อมกับเอามือลูบหัว “คิดมากอีกแล้ว ที่พี่มิอยากให้นางรู้เพราะเกรงว่าจะมาหาเรื่องเจ้า มิใช่เพราะกลัวนางเสียใจ สิ่งที่เจ้าเห็นยามที่พี่อยู่กับนางมิใช่ความจริง นางแค่เคยเป็นสตรีที่พี่รัก แต่ยามนี้มิใช่แล้ว จะให้บอกหรือไม่ว่าเพราะอะไร” จิวซูเงยหน้ามองอีกฝ่ายราวกับมิเชื่อหู มันก็ควรจะเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ในเมื่อการกระทำมันต่างจากที่เอ่ย “คนเช่นท่านไยถึงคิดว่าจะพูดให้ผู้อื่นเชื่อได้อีก” จิวซูเอ่ยจบก็ดันอ้อมแขนนี้ออก เสิ่นอวี้ก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ให้คนน้องลุกยืนข้างเตียง “ตามเฟยหยางให้พี่ที” เสียงทุ้มเอ่ยบอกในขณะที่คนน้องยืนมองอย่างหมั่นไส้ เมื่อเห็นสายตาที่เขาส่งมาอย่างออดอ้อน “จะให้ตามฮูหยินคนใหม่ด้วยหรือไม่เจ้าคะ” ยิ้มร้ายผุดขึ้นเมื่อเห็นคนน้องยังคงมิหยุดเอ่ยถึงสตรีอีกคน เขาเอื้อมมือดึงแขนเล็กให้ล้มลงมาทับร่าง พร้อมกับกอดรัดไว้แน่น จิวซูตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “หึงเก่งนะเจ้าเนี่ย เช่นนี้ยังบอกว่าเกลียดพี่อีกหรือฮึ” “ข้าเปล่าเสียหน่อย” เสียงหวานตอบออกมาทันที ทำเอาคนพี่อดเอ็นดูมิได้ มือเรียวรั้งท้ายทอยคนน้องลงมาเพื่อมอบสัมผัสวาบหวามให้ หลังจากที่มันห่างหายกันไปหลายวัน ยามนี้จิวซูเองก็มิอาจปฎิเสธความรู้สึกโหยหาที่มีได้เช่นกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD