จากที่ใช้เวลาอยู่กับบิดาและมารดาในวันนั้น แม้ว่าคณาภัทรจะออกไปพบปะกับผู้หญิงของเขาแต่สุดท้ายแล้วรุ่งสางเขาก็ยังกลับมาเพื่อพาครอบครัวไปทานอาหารทะเลตามสัญญา อย่างน้อยก็ยังรักษาคำพูดกับใหญ่อยู่
หลังจากวันนั้นลันล์ลลิตก็พูดจากับสามีน้อยลง เธอเริ่มนิ่งเงียบ ไม่ค่อยอยากจู้จี้จุกจิกวุ่นวายกับชีวิตเขาอีกแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าคณาภัทรจะเป็นคนที่หงุดหงิดกับการเมินเฉยนี้ของเธอเสียมากกว่า หลังจากที่ทำงานเสร็จเขาก็ตรงดิ่งกลับมาบ้านก่อนหกโมงเย็น เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับลันล์ลลิต เพราะจะมีไม่กี่ครั้งที่เขาจะกลับมาเร็วมากขนาดนี้
"มีอะไรกินวันนี้ ฉันคงไม่ได้มาช้าไปหรอกนะ" เสียงทุ้มถามขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาภายในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เสื้อสูทที่ถูกถอดออกเขานำไปวางไว้บนโซฟาตัวยาว
"วันนี้ไม่ได้ทำอาหารค่ะ พอดีลันล์ไม่ค่อยหิว ไม่คิดว่าพี่จะกลับมาบ้านด้วย ก็เลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้"
"งั้นออกไปกินข้าวข้างนอกกันไหม เราไม่เคยได้ไปกินข้าวกันสองคนเลยนี่นา"
ลันล์ลลิตมองจ้องหน้าสามีเหมือนกับไม่เชื่อหูตัวเองเลยสักนิด ทำไมวันนี้เขาถึงอยากมาชวนเธอออกไปทานข้าวข้างนอกด้วยกันนะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง
"ทำไมวันนี้กลับเร็วจังล่ะคะ คนของพี่ไม่กักตัวพี่ไว้หรือยังไง?"
ดวงตาคมดุจ้องมองหน้าของคนที่ถามไม่หลบสายตา หลายวันมานี้เขารู้สึกสับสนและอยากใช้เวลาอยู่กับลันล์ลลิตมากกว่า เพราะเธอที่เปลี่ยนไปและเขาก็รู้สึกแปลกที่เธอไม่เหมือนเดิม เขายอมรับกับตัวเองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยสนใจ ไม่เคยใส่ใจภรรยาในสมรสเลยสักครั้ง ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกว่าหญิงสาวจะเป็นอยู่แบบไหนบ้าง อยู่ดีมีความสุขหรือมีความทุกข์มากกว่ากัน
"ไม่มีใครกักตัวฉันไว้ได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าฉันอยากอยู่กับใครฉันก็จะอยู่ ถ้าฉันไม่อยากอยู่ถึงจะถูกรั้งไว้ฉันก็จะไป"
"ค่ะ อันนี้ลันล์คิดว่าลันล์ทราบดี"
"เธอไม่อยากไปกินข้าวกับฉันหรือไง ฉันก็แค่อยากพาออกไปเปิดหูเปิดตาดูบ้าง อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันครบรอบ 2 ปีแล้วไม่ใช่เหรอ วันนั้นฉันอาจไม่ว่าง วันนี้ฉันก็เลยอยากถือโอกาสพาเธอออกไปกินข้าว เพราะฉันเองก็หิว แล้วเธอก็ไม่ได้ทำอะไรไว้ให้ฉันกินด้วย"
"ขอโทษค่ะ ถ้าพี่ภัทรบอกว่าจะกลับมากินข้าวที่บ้านลันล์ก็อาจจะทำไว้เผื่อ แต่เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาลันล์ทำไว้รอแต่สุดท้ายก็ต้องเททิ้งขยะทุกครั้งไป"
เป็นคำพูดที่เหมือนจี้แทงใจของคณาภัทรอยู่มาก เพราะปกติที่ผ่านมาเขาจะไม่เคยกลับมากินข้าวที่บ้าน ถึงจะกลับมาบ้านก็ดึกดื่นเที่ยงคืนหรืออาจจะไม่กลับเลยด้วยซ้ำ เป็นแบบนี้ตั้งแต่แต่งงานกันมาแล้ว เขาไม่มีอะไรให้ปฏิเสธเพราะทุกอย่างมันคือเรื่องจริง
"ฉันอุตส่าห์กลับบ้านมา ไม่อยากชวนทะเลาะด้วยหรอกนะ ออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินกัน เธออาจจะอารมณ์ดีขึ้นก็ได้"
"ก็ได้ค่ะ งั้นลันล์ขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ"
"ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ใส่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว มันไม่ได้พิเศษอะไรก็แค่จะพาไปกินอาหารร้านใกล้ ๆ หมู่บ้านนี้เท่านั้น ไม่ต้องพิธีรีตองมากมายหรอกนะ มันเสียเวลา"
ร่างสูงเดินนำหน้าออกไปก่อน ลันล์ลลิตมองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยความงุนงง ก่อนจะเดินตามหลังของเขาไปติด ๆ แม้จะไม่รู้สึกหิว แต่ก็ไม่อยากขัดใจอีกคนให้เขาต้องรำคาญใจ
@ร้านอาหารกลางสวน
บรรยากาศที่แสนสบาย ลมกำลังพัดโชยเบา ๆ อยู่รายรอบ ร้านอาหารที่มีดนตรีสดขับกล่อมเสียงเพลงเบา ๆ สบายอารมณ์ ลันล์ลลิตรู้สึกชอบกับบรรยากาศแบบนี้มาก เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแถวบ้านที่พักอาศัยอยู่ก็มีร้านอาหารแบบนี้ให้ได้นั่งชิลล์เหมือนกัน
"เวลาฉันไม่อยู่บ้าน เธอไม่ได้ออกไปไหนมาไหนบ้างเลยงั้นเหรอ?" เสียงทุ้มถามขึ้น เหมือนจะพยายามชวนคุย เพราะเห็นอีกฝ่ายเงียบและดูไม่อยากจะพูดกับเขาเท่าไหร่นัก
ลันล์ลลิตหันหน้ากลับมาจ้องมองสามีเหมือนกับมีคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวเขา เกิดอะไรขึ้น ทำไมมาวันนี้เขาดูสนใจชีวิตเธออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"ไม่ค่ะ ไม่อยากเข้าสังคม ไม่ชอบออกไปเที่ยว เบื่อค่ะ อยากทำงานอยู่เงียบ ๆ มากกว่า พี่ภัทรจำได้ด้วยเหรอคะว่าอีกไม่กี่วันจะถึงวันครบรอบแต่งงาน 2 ปีของเราแล้ว ลันล์ไม่คิดว่าพี่จะจำได้"
"อ๋อ...พอดีพ่อแม่ฉันเขาบอกมาน่ะ ลำพังฉันไม่จำอะไรพวกนี้หรอก มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย"
ที่แท้ถ้าไม่มีใครบอก ถ้าไม่มีคนเตือนความจำให้ เขาก็คงจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวันนั้นเลยสินะ มันไม่ได้สำคัญเพราะเธอไม่ใช่คนสำคัญในชีวิตเขา จะแปลกอะไรถ้าเขาจะไม่คิดเก็บมาใส่ใจเลย
ลันล์ลลิตพยายามฝืนยิ้มให้กับเขาเพียงเล็กน้อย คณาภัทรเองก็นั่งมองจ้องภรรยาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้เลยว่าความรู้สึกที่มีในตอนนี้มันคืออะไร
หวนนึกไปถึงสิ่งที่ตัวเองพูดคุยกับญาดาเมื่อสองวันก่อน ทั้งที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องพูดกับอีกฝ่ายแบบนั้นเลยสักครั้ง
"ดา ผมว่าผมควรให้เวลากับลันล์ลลิตเขาบ้าง ที่ผ่านมาผมไม่เคยสนใจเขาเลยนะ ทั้งที่เขาเป็นภรรยาแต่ง ผมว่ามันไม่แฟร์สำหรับเขา"
"ภัทรคะ นี่คุณกำลังจะบอกว่าคุณตกหลุมรักแม่นั่นหรือเปล่าคะ ดาไม่ยอมนะ! ไหนคุณบอกว่าคุณแต่งงานก็เพื่อธุรกิจของที่บ้านไงคะ คุณจะไปตกหลุมรักมันไม่ได้นะ แล้วดาล่ะ คุณจะเอาดาไปไว้ที่ไหน แค่ที่ดายอมให้คุณแต่งงานกับมัน ยอมเป็นเมียเก็บของคุณแบบนี้ ดาก็ช้ำใจมากพอแล้วนะคะ นี่คุณยังจะไปตกหลุมรักมันอีกใช่ไหม ตอบดามาเดี๋ยวนี้เลยนะคะภัทร!"
"มันไม่ใช่แบบนั้นนะดา ผมแค่...แค่คิดว่าผมควรจะทำดีกับเขาบ้าง เพราะถึงยังไงเขากับผมก็ไม่จบความสัมพันธ์กันเร็ว ๆ นี้หรอก"
"ภัทรรักเมียแต่งแล้วใช่ไหมคะ ไหนคุณว่าจะไม่มีวันรักมันไง ไหนคุณว่าจะไม่มีวันแตะต้องมันไง ได้กับมันแล้วใช่ไหม ทุกวันนี้ถึงไม่เหมือนเดิมเลย คุณเปลี่ยนไปมากนะภัทรคุณรู้ตัวเองหรือเปล่า?"
"ผมไม่ได้เปลี่ยนนะดา ผมยังรักดาเหมือนเดิม"
"รักดาเหรอคะ นี่มันก็ใกล้จะครบสองปีตามที่คุณสัญญากับดาแล้วว่าจะหย่าขาดจากมัน คุณอย่าลืมสัญญาของเรานะคะภัทร"
แน่นอนว่ามันเป็นคำพูดของเขาเพียงฝ่ายเดียว เพราะเรื่องนี้ลันล์ลลิตไม่ได้รับรู้หรือทำข้อตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องหย่าหรือสัญญาสองปีของเขาและเธอเลย มันเป็นสิ่งที่คณาภัทรรู้สึกหนักใจอยู่ไม่น้อย เพราะอีกไม่ถึง 1 อาทิตย์ข้างหน้าก็จะถึงสองปีที่ครบรอบการแต่งงานแล้ว แล้วเขาควรต้องทำอย่างไรดี
"ดาท้องค่ะ เผื่อภัทรจะตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น" คณาภัทรไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องมาให้ลำบากใจมากขนาดนี้เลยในชีวิต เพราะเขาไม่เคยนึกถึง ไม่เคยวางแผนเลยเกี่ยวกับเรื่องมีลูกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
"ดาต้องการความรับผิดชอบนะคะ ลูกดาต้องมีพ่อ"
"ดา ผมบอกให้คุมกำเนิดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมปล่อยให้มีได้ ผมยังไม่พร้อมจะมีลูกมาผูกมัดตอนนี้นะ ผมยังเลิกกับลันล์ลลิตไม่ได้"
"ก็ตอนนี้มีแล้วนี่คะ จะให้ดาทำไง เอาออกงั้นเหรอ ดาไม่ทำ! ถ้าคุณไม่จัดการหย่ากับเมียที่บ้านให้มันจบแล้วมาแต่งงานกับดา เรื่องนี้มันจะไม่รู้กันแค่เราสองคน!"
"พี่ภัทร พี่ภัทรคะ พี่ภัทร!"
ลันล์ลลิตพยายามเรียกชื่อสามีอยู่หลายต่อหลายครั้ง คนที่กำลังนั่งเหม่อถึงกับสะดุ้งตกใจขึ้นในทันที
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?"
"อ๋อเปล่าหรอก คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ เธอพูดว่าอะไรนะ?"
"ไม่ได้พูดอะไรค่ะ แต่เห็นพี่ภัทรเงียบไปนาน คิดอะไรอยู่กันคะ?"
"คิดเรื่องงานนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก อาหารมาพอดีเลย"
อาหารหลายเมนูถูกนำมาวางลงให้ตรงหน้า ลันล์ลลิตมองจ้องอาหารบนโต๊ะที่หน้าตาน่ารับประทานก็ชวนให้รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาอีกครั้งจนได้ จนต้องรีบยกฝ่ามือขึ้นปิดปากกับจมูกของตัวเองเอาไว้อย่างเร็ว
"ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ รู้สึกอยากจะอ้วก"
ยิ่งจ้องมองอาหารตรงหน้าก็ยิ่งรู้สึกมวนท้องแทบจะพุ่งออกมาตรงนั้น ถึงกับต้องรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว คณาภัทรได้แต่มองจ้องตามหลังด้วยความไม่เข้าใจ
"เป็นอะไรนะ เหมือนคนแพ้ท้องเลย" เสียงทุ้มพูดขึ้น แต่เมื่อนึกคิดว่าถ้าเกิดมันใช่อย่างที่ตัวเองคิดล่ะ แล้วควรจะทำอย่างไรต่อไป เขากลับรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่คิดว่าลัลณ์ลลิตอาจจะท้องลูกของเขาอยู่ในตอนนี้