หลายนาทีผ่านไป
ลันล์ลลิตทำธุระส่วนตัวภายในห้องน้ำจนแล้วเสร็จ เธอจึงเดินออกมาด้านนอก หยิบจับโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรไปหาเพื่อนสนิทที่เป็นหมอ อยากถามไถ่ถึงบางอย่างที่ตัวเองสงสัย แต่ทว่ากลับบังเอิญเดินชนเข้ากับร่างสูงของใครอีกคน
ตุบ!
"อุ๊ย! ขอโทษค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?"
คนแปลกหน้าถามขึ้น ก่อนที่หญิงสาวจะแหงนใบหน้าขึ้นจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา กำลังยิ้มทักทายอยู่ตรงหน้า อ้อมแขนแข็งแกร่งช่วยโอบประคองร่างบางเอาไว้ไม่ให้ล้มลงกับพื้น จนลันล์ลลิตต้องรีบผลักอกเขาออกอย่างแรง ก่อนจะรีบยืนขึ้นตัวตรงอีกครั้ง
"ขอโทษค่ะที่ฉันเดินชนคุณเข้า ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็ไม่ทันระวัง เอ่อ...คุณชื่อ..."
"ฉันขอตัวก่อนนะคะ พอดีมากับสามี ต้องรีบไปแล้วสามีฉันรออยู่ค่ะ"
ลันล์ลลิตรีบเดินก้าวขาหนีจากไปในทันที ชายหนุ่มหันไปมองจ้องตามแผ่นหลังบอบบางก่อนจะยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย
"น่าสนใจเป็นบ้าเลย เสียดายมีผัวซะแล้ว เฮ้อ..." พร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ และยิ้มออกมาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
"เป็นไงบ้างน่ะ ดีขึ้นหรือยัง เธอไม่สบายหรือเปล่า?" ทันทีที่เห็นหน้าภรรยาสาวเดินกลับมาถึงโต๊ะ คณาภัทรก็รีบถามไถ่ขึ้นเหมือนกับเป็นห่วงเธอมาก
"ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แต่ลันล์ว่าพี่ภัทรรีบกินเถอะนะคะ จะได้กลับบ้านกัน"
"แล้วเธอล่ะไม่กินหรือไง?"
"ลันล์ไม่ได้หิวค่ะ พักนี้กินอะไรไม่ค่อยได้ มันไม่หิว มันแน่นท้องชวนพะอืดพะอมตลอดเลย"
"ท้องหรือเปล่า? ถ้าไม่หายก็ไปตรวจดูหน่อยนะจะได้สบายใจ"
คำพูดของสามีทำเอาลันล์ลลิตฉุกคิดตามขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็แอบคิดว่าตัวเองอาจจะท้องจริง ๆ หรือเปล่า
ถึงกับยกฝ่ามือขึ้นเผลอลูบหน้าท้องที่แบนราบไปมาเบา ๆ แอบยิ้มให้กับความคิดและความหวังที่อาจจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ววันนี้ ถ้าเป็นแบบที่คาดคิดจริง ๆ ของขวัญวันแต่งงานครบรอบสองปีสำหรับเธอและเขาอาจจะเป็นเดอะเบสท์กิฟท์เลยก็เป็นได้
"แล้วถ้ามีจริง ๆ ล่ะคะ พี่ภัทรจะดีใจไหม?"
นั่นสินะเขาควรจะรู้สึกแบบนั้นไหม แต่อย่างน้อยพ่อแม่ของเขาก็คงต้องดีใจมาก ถ้าหลานคนแรกของตระกูลจะเกิดจากลันล์ลลิต ไม่ใช่ผู้หญิงที่พวกท่านไม่ชอบพออย่างญาดา
คณาภัทรดูเงียบและไม่มีคำตอบให้กับหญิงสาวเลยสักนิด ลันล์ลลิตชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าเขาจะยินดีไหมถ้าหากวันนี้เธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาจริง ๆ เพราะรู้ตัวเองดีว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่เขารักและอยากจะอยู่ด้วยไปทั้งชีวิต แต่อย่างน้อยลูกอาจจะดึงใจเขาให้เปลี่ยนได้ไม่มากก็น้อยเลย
"ก็ให้มันมีจริง ๆ ก่อน แล้วฉันจะตอบแล้วกัน"
"ค่ะ ถ้ามีจริงนี่ก็คงจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตลันล์เลยล่ะ เพราะอย่างน้อยเขาก็เกิดมาจากความรักของลันล์ที่มีให้กับพ่อของเขา"
เป็นคำบอกกล่าวที่ชวนให้หัวใจรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้จะรับรู้ดีว่าลันล์ลลิตรู้สึกกับตัวเองเช่นไรและบ่อยครั้งเธอก็จะบอกรักเขาแบบนี้อยู่เรื่อยเลย..
อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร
สายตาคมจับจ้องมองคนทั้งคู่อย่างไม่วางตา ผู้หญิงที่เขาเดินชนเมื่อครู่ เป็นภรรยาของคณาภัทรสินะ ทำไมผู้หญิงดี ๆ ที่ดูเพรียบพร้อมแบบนั้นถึงได้ลงเอยกับผู้ชายชั่วช้าสาระเลว
"กูรอวันที่จะเอาคืนอยู่นะไอ้ภัทร สักวันเถอะมึงจะไม่เหลืออะไรในชีวิตเลย กูสาบาน!"
แววตาที่อาฆาตแค้นมองจ้องหน้าของคนทั้งคู่ไม่วางสายตาเลยสักนิด จากที่สนใจลันล์ลลิตอยู่แล้ว ตอนนี้ 'ติณณภพ' ก็ยิ่งอยากได้เธอมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ความแค้น ความเกลียดชังที่เขามีมันรอเวลาที่จะชำระ แก้แค้นสิบปีก็ไม่สายเห็นจะเป็นจริงตามนั้น ฝ่ามือหนาหยิบยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเบา ๆ ดวงตายังจับจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยหวานคนที่ตัวเองนึกหมายปอง ทำไมต้องเป็นคณาภัทรที่ได้ครอบครอบผู้หญิงเช่นเธอคนนั้น เป็นเหมือนคนดี เหมือนเทพบุตรที่สาว ๆ ชวนใฝ่ฝัน แต่จะมีสักกี่คนที่ล่วงรู้ว่าเบื้องหลังเบื้องลึกของผู้ชายที่ชื่อคณาภัทรมันทำได้ทุกอย่างเพื่อถีบให้ตัวเองอยู่สูงเกินกว่าใคร ไม่ว่าบันไดที่ก้าวเดินขึ้นไปมันต้องเหยียบย่ำคนอื่นให้จมและตายคาตีนมาสักกี่คนแล้วก็ตาม
เช้าวันต่อมา
เสียงอาเจียนดังโอ้กอ้ากมาจากในห้องน้ำ คนที่เพิ่งจะลืมตาตื่นจึงรีบเดินเข้าไปดูภายในห้องน้ำ สภาพของลันล์ลลิตคือแทบจะนั่งกอดชักโครกเอาไว้เลยด้วยซ้ำ ทำให้คณาภัทรเดินเข้าไปช่วยพยุงขึ้นมา
"ฉันว่าเธอควรไปหาหมอวันนี้เลยนะลันล์ลลิต"
"ค่ะ ลันล์ก็ว่าจะไปหาวันนี้แหละค่ะพี่ภัทร พี่พาลันล์ไปหน่อยสิคะ เผื่อมันเป็นข่าวดีเราจะได้รู้พร้อมกันเลย"
ใบหน้าที่ดูอิดโรยพยายามฝืนยิ้มและบอกกับสามีออกไปด้วยหัวใจที่กำลังพองโต เพราะเธอมั่นใจเหลือเกินว่าร่างกายของเธอกำลังมีสิ่งเล็ก ๆ ก่อตัวขึ้นภายในครรภ์แล้วตอนนี้
"วันนี้ฉันต้องรีบไปทำงาน ให้คนขับรถที่บ้านพาไปก็แล้วกันนะ ฉันมีธุระด่วนจริง ๆ เอาไว้เธอตรวจเสร็จค่อยโทรมาบอกฉันก็ได้"
เป็นคำตอบที่ทำให้หญิงสาวต้องยิ้มเจื่อนขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกน้อยใจ รู้สึกเศร้าใจที่สามีไม่ว่างที่จะพาเธอไปโรงพยาบาลแบบนี้ เพราะเธอไม่สำคัญเท่ากับงานที่เขาทำอยู่ ชีวิตของเธอไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเขาเลยสักอย่าง แล้วเธอจะหวังอะไรกับเรื่องนี้..
สุดท้ายแล้วลันล์ลลิตทำได้เพียงพยักหน้าและฝืนยิ้มให้กับสามีอย่างจำยอม ไม่อยากเซ้าซี้เขา เอาไว้เธอแน่ใจค่อยทำเซอร์ไพรส์เขาทีเดียวเลยก็แล้วกัน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
คณาภัทรขับรถมารับญาดาถึงคอนโดที่พัก เพราะเขามีนัดกับเธอว่าวันนี้จะพาหญิงสาวไปตรวจให้แน่ใจอีกครั้ง ว่าสิ่งที่อีกคนพูดบอกกับเขาในวันนั้นมันคือเรื่องจริงหรือล้อเล่น แม้จะมีที่ตรวจครรภ์มายืนยันว่าญาดากำลังตั้งท้องจริง ๆ แต่เขาก็ยังอยากได้รับสิ่งที่ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรนั้นมากกว่า แม้จะยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึงก็ตาม
"รอนานไหมคะ ขอโทษทีนะคะที่ลงมาช้า" ทันทีที่ก้าวขาเข้ามานั่งภายในรถ หญิงสาวก็ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกับหอมแก้มทักทายคณาภัทรเหมือนเช่นทุกครั้งที่ชอบทำ
"ภัทรตื่นเต้นไหมคะ ดาตื่นเต้นมากเลยนะ แค่รู้ว่าคุณจะพาดาไปหาหมอวันนี้ ดาก็แทบนอนไม่หลับเลยเมื่อคืน ภัทรน่าจะมานอนค้างกับดานะคะเมื่อคืนนี้"
"คาดเข็มขัดสิครับ เราจะได้ไปกันเลย 10 โมงผมมีประชุมสำคัญไม่ใช่เหรอ ชั่วโมงกว่าก็น่าจะทันอยู่"
ญาดาทำตามอย่างว่าง่าย เธอรัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและลูกน้อย ก่อนที่รถยนต์คันหรูจะค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกจากคอนโดที่พักไปอย่างช้า ๆ
"ถ้าหมอให้ฝากครรภ์ ดาว่าดาจะฝากวันนี้เลยนะคะภัทร"
ญาดาหาเรื่องมาชวนคุยในระหว่างที่กำลังนั่งรถไปโรงพยาบาลอยู่ คณาภัทรชำเลืองสายตาหันมามองคนข้าง ๆ เพียงครู่ก่อนจะหันกลับไปมองจ้องถนนเช่นเคย
"เอาไว้ให้ชัวร์ก่อนเถอะดา แล้วเราค่อยพูดถึงเรื่องนั้น"
"อะไรกันคะ นี่คุณจะไม่ยินดีหรือดีใจที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกันเลยเหรอภัทร ดูคุณจะเครียดมากกว่ามีความสุขอีกนะคะ"
"ดา จริง ๆ ผมไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ขึ้นเลยนะ ผมรักคุณนะดา แต่เรื่องลูกผมยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบ"
"อะไรกันคะ นี่คุณกำลังจะบอกดา ว่าถึงดาจะท้องคุณก็จะไม่ให้ดาเก็บเด็กคนนี้ไว้ใช่ไหมคะ?"
คณาภัทรถึงกับต้องตบไฟเลี้ยวเพื่อชะลอรถเข้าจอดที่ข้างทาง
เอี๊ยด!
เสียงรถเบรกกึกกะทันหัน พร้อมกับใบหน้าหล่อที่ดูเคร่งขรึมหันกลับไปมองจ้องหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างกายนั้นอีกครั้ง ญาดาจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
"พูดแบบนี้คุณจะไม่รับผิดชอบดากับลูกใช่ไหมคะภัทร?"
"อย่างที่ผมบอก เรื่องของผมกับลันล์ลลิตมันยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนนะดา ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากรับผิดชอบดากับลูก แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้"
"แล้วมันต้องตอนไหนกันคะ ดาจะไม่ยอมให้คุณอยู่กับแม่นั่นต่อแล้วนะคะ ที่ดายอมให้คุณแต่งงานตามที่พ่อแม่คุณร้องขอมันก็มากพอแล้ว ก่อนแต่งงานพวกท่านบอกว่าอยากให้คุณมีลูกไม่ใช่เหรอคะ ในเมื่อสองปีแล้วแม่นั่นมันมีให้คุณไม่ได้แต่ตอนนี้ดาท้องแล้ว คุณก็มีข้ออ้างไปเลิกกับมันแล้วนะคะภัทร!"
"มันไม่ใช่แค่เรื่องลูกนะดา แต่มันเป็นเรื่องของธุรกิจ พ่อแม่ผมอยากได้หลานก็จริง แต่มันต้องเป็นลูกผมกับลันล์ลลิตเท่านั้น คุณก็รู้ว่าพ่อแม่ผมเขาพยายามกีดกันเราสองคนมากแค่ไหน ผมไม่อยากมีปัญหากับพ่อแม่นะดา คุณไม่เข้าใจผมเลย"
"ภัทรก็ไม่เข้าใจดาเหมือนกันนั่นแหละค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมรับลูกของดา ไม่ยอมรับดา ดาจะบุกไปที่บ้านคุณไปบอกกับพ่อแม่ของคุณเองว่าคุณทำดาท้อง ตอนนี้ในท้องของดาก็มีหลานของพวกท่านอยู่ ให้มันรู้กันไปเลยว่าดาจะไม่ได้รับความยุติธรรมกับเรื่องนี้!"
พูดจบญาดาก็รีบเปิดประตูรถออกพร้อมกับก้าวขาลงจากรถ วิ่งตรงไปยังรถแท็กซี่ที่จอดนิ่งอยู่ด้านหน้า ก่อนที่รถแท็กซี่คันนั้นจะขับเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว
คณาภัทรได้แต่มองจ้องตามหลังรถคันนั้นไปตาไม่กระพริบ เขาควรต้องทำอย่างไรกับทุกสิ่งที่มันกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะนับวันเข้าหัวใจเขาก็เอนเอียงไปทางอื่น ญาดาก็ยิ่งพยายามทำให้ต้องเลือกกับสิ่งที่เขาเลือกไม่สามารถที่จะเลือกได้เลย..