บทที่ 1 อิสรภาพ 2

751 Words
“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้แอบตามฉันมา” กัญจน์ถามเยาะ หวังจะเห็นสีหน้าหรือแววตาเจ็บปวดให้สาแก่ใจอย่างเช่นทุกที แต่มธุมาสเพียงเลิกคิ้วนิดๆ ยิ้มหน่อยๆ แล้วย้อนถามเขากลับนิ่มๆ ว่า “สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ท่าทีไม่ใส่ใจเข้าขั้นไร้อารมณ์ทำให้กัญจน์ยิ่งหัวเสีย หน้าเขาตึงเปรี๊ยะ แถมยังมืดครึ้มราวกับเมฆฝนตั้งเค้า มือกำกล่องไม้แกะสลักแน่นจนเกือบเผลอจะบีบมันแตก ก่อนยัดมันใส่มือมธุมาสด้วยกิริยากระแทกกระทั้น “เอาของขวัญชิ้นนี้ไปให้คุณย่าด้วย บอกว่าเป็นของที่เธอตั้งใจเตรียมมามอบให้” มธุมาสยิ้มเยาะ สายตาที่มองเขายิ่งเต็มไปด้วยการถากถาง เขานี่มันเป็นผู้ชายขี้ขลาดจริงๆ แม้แต่ของขวัญที่คนรักอุตส่าห์ดั้นด้นเอามาส่งให้ถึงที่ ก็ยังไม่มีความกล้าที่จะมอบให้กับคุณย่าเองกับมือ ต้องอาศัยไหว้วานให้เธอช่วยเป็นสื่อกลาง น่าสมเพช! “พิมพ์รวีอุตส่าห์ลำบากหอบลูกในท้องเอาของขวัญมาให้คุณย่าแท้ๆ ทำไมคุณถึงไม่ช่วยทำให้เธอสมหวัง เดินเข้าไปมอบให้ท่านด้วยตัวเองล่ะคะ ไม่แน่นะ...ถ้าพวกคนสามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันพูดดีๆ บางทีคุณย่าอาจจะใจอ่อน ยอมยกพริมให้เป็นภรรยาออกหน้าออกตาของคุณก็ได้นะคะ” เธอแกล้งผ่อนแรงที่มือเหมือนคนไม่มีเส้นเอ็น ไม่ยอมรับของจากเขา ถ้ากัญจน์ดึงดันจะให้เธอถือ มันก็จะหล่นตกแตกเสียของไปเสียเปล่าๆ กัญจน์หยุดมือที่ยื้อยุดแล้วประคองกล่องไม้เอาไว้ แต่สายตายังคงบีบบังคับให้มธุมาสรับของจากเขาไป ทว่าสายตารังเกียจที่สบตอบกลับมาทำให้ใจเขาวูบไหว แม้จะปัดมันทิ้งไปทันควัน แต่ในใจก็ยังรู้สึกโหวงๆ คล้ายมีชนักปักหลังตอนที่เธอพูดถึงเรื่องลูกขึ้นมา เลยพานยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด สีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่บูดบึ้งจนใครเห็นก็ต้องถอยหนี “อย่ามาทำเป็นเรื่องมาก เธอควรจะรู้ตัวดีกว่าใครว่าตำแหน่งภรรยาที่ถูกต้องที่ฉันยอมรับมีแค่พริมเท่านั้น ในเมื่อเธอกล้าแย่งของๆ พริมไปอย่างน่าไม่อาย เธอก็ต้องสวมบทหลานสะใภ้ของคุณย่าฉันแทนพริมให้ดีที่สุด” เขายัดกล่องไม้แกะสลักใส่มือเธออีกครั้ง และยังคว้ามือเธออีกข้างมาช่วยประคองกล่องไม้ให้มั่นคงยิ่งขึ้น “ถือให้ดีๆ อย่าให้หล่นเด็ดขาด ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้าเธอก็แล้วกัน” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูปเกือบจะชนกัน โชคดีที่มธุมาสเบี่ยงหลบทัน ลมหายใจร้อนระอุของเขาจึงเป่ารดที่ใบหูของเธอแทน มันร้อนวูบวาบทำให้เธอรู้สึกขนลุกซู่ไปหมด โดยเฉพาะตอนที่เขากระซิบเสียงเย้ายวน แต่ติดแววเหี้ยมเกรียมว่า “แล้วก็...ทางที่ดีเธอควรสงบปากสงบคำให้มากๆ อย่าก่อเรื่องวุ่นวายในงานของคุณย่าจะดีกว่านะ ฉันบอกให้ทำอะไร เธอก็ต้องทำตาม อย่าดื้อด้านทำตัวเป็นคนโง่ไปหน่อยเลย เธอก็รู้ดีนี่ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” มธุมาสกำกล่องในมือแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด มองหน้าผู้ชายที่เอ่ยขุ่มขู่และคุกคามเธออย่างเลือดเย็น ไม่ได้คิดจะประทับคนที่เธอรู้จักรักใคร่มาร่วมสิบปีเอาไว้ในความทรงจำอะไรเทือกนั้นหรอกนะ เธอกำลังค้นใจล้วงลึกลงไปในความรู้สึกของตัวเองว่ายังมีเยื่อใยอาลัยอาวรณ์เขาอยู่อีกไหม แล้วคำตอบที่ผุดขึ้นชัดอยู่กลางใจก็คือ หมดแล้ว... ไม่มีเหลือแล้วจริงๆ ผู้ชายที่ชื่อ กัญจน์ วัสวัตธาดา ได้ตายไปจากหัวใจเธอแล้วอย่างสนิทใจ! เห็นเธอจ้องเขาแน่นิ่ง ร่างกายไม่ไหวติง ไม่มีคำพูดยอกย้อนเชือดเฉือนเหมือนทุกครา กัญจน์ก็ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ เขาเอื้อมมือโอบไหล่บางแล้วสั่งการเสียงเฉียบ “จัดการอารมณ์ของเธอให้ดี เข้าไปได้แล้ว” เขากระชับอ้อมแขนแนบแน่น สัมผัสได้ถึงร่างกายที่โอนเอนว่างเปล่าของคนในวงแขน คล้ายกับเธอหมดใจกับใครบางคนหรืออะไรบางอย่าง... หมดใจ... กับใคร? เขาหรือ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD