๑.๐๓
เหตุการณ์ที่จะกล่าวนี้เกิดขึ้นก่อนคุณเสาวลักษณ์จะชวนคุณศรีรัตน์ไปเที่ยวบ้านเธอที่อำเภอสามพราน
หลังคุณเสาวลักษณ์เห็นโตโต้ครั้งแรกที่โรงเรียนสอนดนตรี ก็เกิดอาการร้อนรุ่มจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก ด้วยใจครุ่นคิดถึงแต่นัยน์ตากลมโตและท่าเสยผมของโตโต้
ค่ำคืนนั้น คุณเสาวลักษณ์รื้อหาอัลบั้มภาพถ่ายลูกชายที่เสียชีวิตเมื่อแปดปีที่แล้ว นำกลับมาพลิกดูไปมาหลายเที่ยวด้วยน้ำตานองหน้า หากย้อนอดีตได้ เธอจะไม่ขวนขวายเปิดโรงเรียนสอนดนตรีที่กรุงเทพฯ หรอก และแน่นอน เหตุการณ์สุดแสนเลวร้ายก็จะไม่เกิด หรือเป็นเพราะชาติก่อนเธอทำอกุศลไว้มาก จึงต้องชดใช้เวรกรรมในชาตินี้ แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดเป็นแน่ เพราะกุศลกรรมดีแต่ชาติปางก่อนด้วยกระมัง ส่งผลให้ได้สามีแสนวิเศษและบุตรชายสุดแสนประเสริฐ ที่เธอยังคิดถึงและอาลัยรักยิ่งสิ่งใดบนโลก
เมื่อวานก่อนบ่ายโมง คุณเสาวลักษณ์รีบออกจากห้องสำนักงาน ไปรอคุณศรีรัตน์ที่เก้าอี้โซฟาโรงเรียน ด้วยกระหายจะเห็นหน้าโตโต้ให้เต็มตา และไม่ผิดหวังเมื่อเห็นคุณศรีรัตน์เดินเข้ามาพร้อมโตโต้ สายตาเธอแทบไม่กระพริบจ้องมองทุกอิริยาบถของเด็กน้อยนี้ โดยเฉพาะท่าเอามือซ้ายเสยผมเมื่อถูกเธอจ้อง ทำให้เชื่อมั่นสิ่งที่คิดยิ่งขึ้น
เมื่อได้จังหวะเหมาะที่คุณศรีรัตน์ส่งโตโต้เข้าห้องเรียนกลับมานั่งรอในห้องรับรองแขก คุณเสาวลักษณ์จึงเดินเข้าหาคุณศรีรัตน์พร้อมอัลบั้มรูปถ่ายที่เตรียมมา
“สวัสดีค่ะ คุณแม่น้องโตโต้ใช่ไหมคะ ดิฉันเสาวลักษณ์แม่ของน้องชาช่าค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ดิฉันศรีรัตน์ค่ะ” คุณศรีรัตน์ยิ้มให้พร้อมนึกขึ้นได้ “น้องชาช่าที่ตัวเล็กสุดใช่ไหมคะ โตโต้เคยพูดถึงบ่อยค่ะ บอกน้องน่ารักมาก”
“ขอบคุณค่ะ ...น้องโตโต้เรียนอยู่ชั้นไหนแล้วคะ”
“เปิดเทอมนี้จะขึ้นเกรดสอง ...เอ่อ! คือโตโต้เรียนโรงเรียนนานาชาติค่ะ”
“อีกไม่นานชาช่าก็ต้องเรียนชั้นประถม กะให้เข้าโรงเรียนนานาชาติเหมือนกัน แหม...ถ้าอยู่โรงเรียนเดียวกันก็ดีนะ จะได้ฝากโตโต้ช่วยดูแลน้องด้วย”
“โตโต้คงดีใจค่ะ เพราะพูดบ่อยว่าอยากได้น้องสาว” คุณศรีรัตน์ยิ้มพลางกล่าวต่อ
“รีบมีสิคะ โตโต้จะได้ไม่เหงา” คุณเสาวลักษณ์กล่าว
“โอย... กว่าจะมีโตโต้ได้ต้องเสียเงินเสียทองไม่รู้เท่าไหร่” จากนั้นคุณศรีรัตน์ขยายความต่อ “ศรีรัตน์มีลูกยากค่ะ แต่เพราะเราอยากมีลูกกันมากจึงต้องไปทำกิ๊ฟท์ ตอนนี้อยากมีอีกคนก็คงไม่ได้เพราะแฟนศรีรัตน์เสียแล้วค่ะ”
“โอ๊ย ตายจริง ขอโทษค่ะ” คุณเสาวลักษณ์พูดต่อ เสียงสั่น “เราสองคนเหมือนกันเลย แฟนเสาวลักษณ์เสียไปแปดปีแล้ว และชาช่าก็ไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อด้วยซ้ำ”
“เสียใจด้วยค่ะคุณเสาวลักษณ์ โตโต้อาจดีกว่านิดนึง ตรงที่ได้เล่นได้กอดกะพ่อเขาถึงอายุสามขวบ”
“งั้นเราสองคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกันสินะ” คุณเสาวลักษณ์พูดด้วยรอยยิ้มเศร้า ๆ
ดูเหมือน single mom ทั้งสองจะคุยถูกอัธยาศัยกันดียิ่ง ต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนเล่าเรื่องของตน จนตอนหนึ่งคุณเสาวลักษณ์เอ่ยเล่าว่า เคยมีลูกชายชื่อเทวเนตรที่ตายขณะอายุย่างสิบห้าในอุบัติเหตุรถคว่ำพร้อมพ่อเขา และเมื่อสองวันมานี้ ชาช่านำรูปเทวเนตรวัยเจ็ดขวบมาให้เธอดู บอกมีเพื่อนที่เรียนดนตรีด้วยกันชื่อโตโต้หน้าเหมือนพี่ชายในรูป
จากนั้นคุณเสาวลักษณ์ก็ไม่ได้ใส่ใจคิดอะไรอีก กระทั่งเมื่อวานต้องออกจากห้องทำงานมารับชาช่ากลับบ้านก่อนเวลา ถึงกับต้องสะดุดตกใจเมื่อเห็นโตโต้จ้องเธอ เพราะมันคือนัยน์ตาของเทวเนตรที่จ้องมองเธออยู่ชัด ๆ และต้องตกใจซ้ำสอง เมื่อโตโต้ใช้มือซ้ายเสยผมแบบเดียวกับเทวเนตรที่ทำเป็นนิสัยเวลาเขิน จากนั้นหยิบอัลบั้มรูปถ่ายเทวเนตรในวัยเด็กให้คุณศรีรัตน์ พูดว่า
“ดูตาของเทวเนตรตอนนั้นสิคะ เหมือนตาของโตโต้ตอนนี้มากเลย”
หลังเพ่งพินิจรูปถ่ายเทวเนตรซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความฉงน คุณศรีรัตน์ให้ความเห็น
“ดูจากรูปก็คล้ายมากนะคะ ต่างกันตรงเทวเนตรไว้ผมสั้นทรงนักเรียน”
“ตอนนี้โตโต้แอบมองพวกเราอยู่ เสาวลักษณ์ไม่อยากให้เขาเสียสมาธิเรียน เราออกไปหาอะไรข้างนอกดื่มกันดีไหมคะ”
“ได้กาแฟร้อน ๆ สักถ้วยคงดีค่ะ” คุณศรีรัตน์ตอบรับ
ทั้งสองใช้เวลาไม่นานเลย เพราะร้านกาแฟสดอยู่ติดกับโรงเรียนสอนดนตรีของคุณเสาวลักษณ์ ระหว่างจิบกาแฟ คุณศรีรัตน์ถาม “น้องเทวเนตรเป็นอะไรเสียชีวิตคะ”
“อุบัติเหตุรถคว่ำขณะเทวเนตรไปกับพ่อเขาเพื่อรับเสาวลักษณ์กลับบ้าน ตอนนั้นเพิ่งทราบว่าท้องได้สิบสัปดาห์แล้ว แต่ต้องแท้งเพราะจิตใจไม่ปกติจากการสูญเสียสามีและลูกชายค่ะ”
“แล้วน้องชาช่าเกิดจากคนละพ่อเหรอคะ ...ขอโทษนะคะที่ถาม”
“พ่อเดียวกันแหละค่ะ ก่อนหน้านั้นเราอยากมีลูกคนที่สองกันมาก แต่ไม่มีสักทีเพราะเสาวลักษณ์อายุมากแล้ว คุณหมอจึงแนะให้ตั้งท้องโดยกรรมวิธีทำเด็กหลอดแก้ว และได้นำอสุจิของพ่อเทวเนตรก่อนหน้าไปแช่แข็งเผื่อไว้หลายหลอด”
“แล้วไงต่อคะ” คุณศรีรัตน์ถามด้วยสนใจใคร่รู้
“หลังเสาวลักษณ์หายจากโรคซึมเศร้า จึงขอให้คุณหมอนำหลอดอสุจิแช่แข็งมาทำเด็กหลอดแก้วอีกครั้ง”
“แสดงว่าก่อนเสียชีวิต เทวเนตรไม่ทราบว่ามีน้องแล้ว”
“ไม่ทราบค่ะ”
“แล้วที่เล่ามาทั้งหมดนี่ คุณเสาวลักษณ์มีประเด็นอะไรคะ”
“เสาวลักษณ์ต้องการทราบว่าเทวเนตรมาเกิดใหม่แล้ว ได้อยู่กับครอบครัวที่ดีคอยดูแล และสำคัญสุดอยากทราบว่าเทวเนตรใช่โตโต้กลับมาเกิดใหม่หรือไม่”
“ศรีรัตน์คงตอบไม่ได้หรอกว่าใช่หรือไม่ แต่น่าจะเป็นเหตุบังเอิญมากกว่านะคะ”
“วันหยุดราชการนี้ไปเที่ยวสามพรานกันไหม หาอะไรอร่อย ๆ ทานกัน” คุณเสาวลักษณ์เอ่ยปากชวน
“เพื่อหาความจริงให้โตโต้เหรอคะ” คุณศรีรัตน์ถามกลับ
“เพื่อหาข้อพิสูจน์ให้เราสองคนมากกว่าค่ะ”
เป็นคำตอบที่คุณศรีรัตน์ต้องตอบตกลง
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นในวันที่คุณศรีรัตน์และโตโต้ ไปเที่ยวบ้านคุณเสาวลักษณ์ครั้งแรกตามคำเชิญ
ระหว่างเดินเล่นในห้างหลังทานพิซซ่ามื้อเที่ยง โตโต้เดินจูงมือชาช่านำหน้าคุณเสาวลักษณ์และคุณศรีรัตน์ เปิดโอกาสทั้งสองได้คุยกันตามลำพัง
คุณเสาวลักษณ์แสดงความมั่นใจอย่างมาก ว่าโตโต้คือเทวเนตรลูกชายเธอที่กลับชาติมาเกิด เพราะมีหลายสิ่งเหนือคาดคิด เช่น ...คุณสมานคนขับรถเล่าเรื่องโตโต้เกิดอาการสั่นสะท้านเหมือนมีไข้เมื่อรถผ่าน กม. ๒๕ อันเป็นจุดเกิดเหตุที่เทวเนตรเสียชีวิต ...การที่โตโต้คุ้นเคยสถานที่ภายในบ้าน เดินเข้าไปนอนร้องไห้บนเตียงนอนของเทวเนตร ...หลังรับกีตาร์ด้วยอารามดีใจสุด ๆ และโตโต้ดีดเกาเพลง‘ชาวดง’อันเป็นเพลงโปรดของเทวเนตร ...และประจักษ์ชัดเจนมากสุดจากปากคำชาช่า ว่าโตโต้เปล่งคำ“พ่อ”เมื่อเห็นรูปถ่ายสามีเธอ
“ยิ่งตอนได้กอดโตโต้และโตโต้สนองตอบโดยโอบกอดคอเสาวลักษณ์นั้น กอดแบบนี้มีเพียงเทวเนตรเท่านั้นที่ทำกับแม่เขาค่ะ” คุณเสาวลักษณ์เสริมเน้นความเชื่อของเธอแก่คุณศรีรัตน์
คุณศรีรัตน์พยักหน้าตอบ “แรก ๆ ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่ แต่เมื่อนึกถึงโตโต้เกิดอาการแปลก ๆ บริเวณพุทธมณฑล กม. ๒๕ ศรีรัตน์ก็เกิดอาการขนลุกเหมือนกันค่ะ ...ตอนนี้ทำตัวไม่ถูกแล้ว”
“เราสองคนคงต้องทำตัวปกตินะคะ อย่าให้โตโต้สับสนกว่านี้ เค้ายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจค่ะ”
“เห็นด้วยค่ะ ศรีรัตน์เองก็ต้องการให้โตโต้มุ่งอนาคตมากกว่าจมปลักอยู่กับอดีต”
“โตโต้ต้องเปลี่ยนมาเล่นกีตาร์แทนเปียโนแน่เลย” คุณเสาวลักษณ์เปลี่ยนบทสนทนา
“ต้องแล้วแต่โตโต้ค่ะ อนาคตเป็นของเค้าที่ต้องตัดสินใจเอง”
“แต่ยังไงเราห้ามขาดการติดต่อกันนะคะ เสาวลักษณ์อยากเห็นอนาคตโตโต้ว่าหลังอายุสิบห้าแล้วจะเป็นอย่างไร และอยากเห็นเทวเนตรหลังเสียชีวิตว่าจะหล่อสู้โตโต้ได้ไหม”
คุณศรีรัตน์กุมมือคุณเสาวลักษณ์ “หากเทวเนตรกลับชาติมาเกิดจริง เทวเนตรก็คงอยู่ในตัวโตโต้และจะเป็นลูกชายคุณเสาวลักษณ์ตลอดไปค่ะ”
คุณเสาวลักษณ์น้ำตาคลอ พร้อมคิด “วาดภาพไม่ออกจริง ๆ หลังเทวเนตรอายุสิบห้า”
**********