บทที่ 2 คนชอบแกล้ง

2108 Words
หลังจากลงจากหอสมุดกลางได้เกือบ 10 นาทีเธอเลิกสนใจเมสเซนเจอร์ไปแล้ว และไม่พิมพ์บอกใครในนั้นด้วยว่าเธอขอตัวกลับก่อน เธอจะดัดสันดานพวกชอบเบี้ยวนัด แล้วให้เธอต้องรอเกือบชั่วโมงแต่ก็ไม่มีใครมาสักคน นาฬิกาบนโทรศัพท์บอกเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง แดดข้างนอกที่สะท้อนลงมายังเจิดจ้าจนแสบผิวไปหมด แต่ก็ยังโชคดีที่ลมยังพัดผ่านทำให้ไม่ร้อนเกินไปในตอนที่เธอเดินผ่านตึกคณะต่างๆ เพื่อนั่งรถสองแถวกลับบ้านโฮสต์ ระยะทางระหว่างหอสมุดกลางกับหน้ามหาวิทยาลัยค่อนข้างไกลพอสมควร เพราะมหา’ลัยที่เธออยู่ค่อนข้างมีพื้นที่เยอะ และใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัด ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังก้าวเดินหมายจะเดินข้ามทางม้าลายไปอีกฝั่ง กลับมีรถบิ๊กไบค์คันใหญ่แล่นมาด้วยความเร็ว จนเธอที่กำลังจะข้ามถนนต้องรีบถอยกลับแบบไม่คิดชีวิต เกือบจะหงายหลังอยู่แล้ว แต่โชคยังดีที่สามารถทรงตัวได้ มิหนำซ้ำไอ้บ้านั่นมันยังมาจอดเทียบฟุตพาทอยู่ตรงหน้าเธออีกด้วย "นี่! ขับรถไม่ดูคนข้ามถนนหรือไง ตาบอดเหรอ" คนตัวเล็กชี้หน้าด่าไปอย่างเหลืออด นี่มันเขตมหา’ลัยนะ ไม่ใช่ลานแข่งรถที่จะขับแบบไม่ดูอะไรเกิดโดนชนขึ้นมาจะทำยังไง ร่างกำยำที่นั่งคร่อมบิ๊กไบค์คันโต โดยสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบบดบังใบหน้า เสื้อที่สวมใส่อยู่ก็เป็นชุดนักฟุตบอลแขนสั้น หมอนั่นหันมามองเธอทั้งที่ยังคงสวมหมวกนิรภัย ก่อนที่เขาจะยกแขนล่ำนั่นมาถอดหมวกออกในที่สุด "เห็นไง เลยต้องรีบขับมาขวาง" เขาเอ่ยด้วยใบหน้าที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมที่เปียกชื้นเพราะเหงื่อที่ไหลซึมออกมา ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงกรี๊ดสลบ แต่นี่เธอไงเลยไม่อินกับความหล่อของเขา "นายเป็นบ้าเหรอ ถ้าเกิดนายชนฉันขึ้นมาจะทำยังไง" นี่เขาสมองกลับหรือไง แล้วยังมีหน้ามาเซตผม พร้อมกับมองกระจกข้างรถโดยไม่สนใจเธอแม้แต่นิดเดียวอีก สายขิมได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงกับตัวเองเท่านั้น เธอได้ข่าวมาแว่วๆ ว่าเขาเป็นหนุ่มติสท์ ไม่ค่อยแคร์อะไรใคร แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นถึงขนาดนี้ เห็นแล้วโคตรหงุดหงิดเลยโว้ยยย! ร่างกำยำเมื่อรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่กระจายออกมาจากคนตัวเล็ก ก็เหลือบสายตาจากที่มองกระจก หันมาจ้องเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆ "นี่ก็ยังไม่ชนไง เธอยังสบายดีอยู่เห็นๆ ไม่บุบสลายหายไปตามกาลเวลาเสียหน่อย" "ฉันแค่สมมุติย่ะ นายเข้าใจอะไรบ้างไหมเนี่ย : (" เธอแค่พูดให้เขาคิด ไม่ได้ให้เขามายอกย้อนเธอสักหน่อย "ถ้าฉันทำเธอเจ็บ เดี๋ยวรับผิดชอบเองไง" ใบหน้าหล่อดุนกระพุ้งแก้มนิดๆ ในตอนที่เอ่ยประโยคนี้ "อ้อ นี่ถ้าฉันเกิดพิการเพราะการกระทำของนาย แบบนี้นายจะทำงานให้ฉันไหม หาเงินให้ไหม เลี้ยงดูไหมล่ะ : (" เธอยังต้องเลี้ยงพ่อกับแม่นะ ถึงตอนนี้พวกเขาจะส่งเงินมาให้อยู่ก็ตาม แต่อนาคตเธอจะเปิดธุรกิจเล็กๆ แล้วส่งเงินให้พวกท่านแทน แต่ถ้าเธอมาเกิดอุบัติเหตุกับความกวนประสาทของไอ้บ้าเจย์อาร์ หมอนี่ต้องส่งเงินให้เธอกับพ่อแม่ซะ!! คนตัวเล็กได้แต่ส่งสีหน้ามู่ทู่อย่างไม่พอใจเขาอย่างถึงที่สุดไปให้ จนเขาที่มองมาถึงขั้นถอนหายใจออกมาเบาๆ "เออ จะยอมรับผิดชอบไปชั่วชีวิตเลย แบบนี้พอใจปะ" ถึงแม้จะคิดว่าเขาประชด แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมามันไม่ได้มีความประชดประชันอยู่ในนั้นเลย "..." สายขิมผ่อนสีหน้าลง แต่ก็ยังเคืองๆ เขาอยู่ ใบหน้ามู่ทู่ของเธออยู่ในสายตาเขาตลอด ยิ่งตอนที่ทำแก้มป่องเพราะโกรธเขา ก็ยิ่งน่า... "ได้คำตอบที่พอใจแล้วนี่ งั้นก็ขึ้นรถ" เขาสะบัดไล่ความคิดที่ตีกันอยู่ในหัว ก่อนจะใช้ฝ่ามือแกร่งตบลงบนเบาะรถข้างเขา ที่มีไว้สำหรับคนซ้อนข้างหลัง "ไปไหน" "ก็ไปทำรายงานดิ เธอหนีพวกฉันมาทำไม" อ้อ ที่ตามมาเพราะอยากให้เธอไปทำรายงาน? "นายไม่ได้อ่านแช็ตหรือไง ฉันบอกว่าถ้าให้ฉันรอเกินครึ่งชั่วโมง ฉันจะกลับ" เธอคิดว่าบอกพวกเขาไปชัดแล้วนะ เขาอ่านภาษาไทยไม่แตกฉานหรือไง "แต่ฉันยังไม่อนุญาต เธอก็ยังกลับไม่ได้ว่ะ" คำพูดของเขาทำเธอคิ้วกระตุก อยากจะตะกุยใบหน้าหล่อๆ ของเขาเสียจริง!! "นายมันกวนประสาทแล้ว" หน้ากวนไม่พอ นิสัยยิ่งกวนเข้าไปใหญ่ เธอไม่ไปไหนกับเขาทั้งนั้น เธอจะกลับบ้าน! : ( ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กหมายจะหลบรถเขาที่จอดขวางการเดินขึ้นและลงของเหล่าบรรดานักศึกษาที่ข้ามทางม้าลายอยู่แถวนั้น แต่เมื่อเธอจะเดินเลี่ยงไปฝั่งขวาเขากลับใช้ร่างหนาๆ เข้ามาขวางเธอเอาไว้ และเมื่อคนตัวเล็กจะเบี่ยงซ้ายเขากลับเดินมาขวางอีก "นายจะเอายังไงกับฉันเนี่ย : (" เพราะเหนื่อยกับเขาแล้ว คนตัวเล็กถึงได้ถอยไปตั้งหลัก ก่อนจะยืนมองเขาด้วยสายตาเหนื่อยใจ "ขึ้นรถมาซะ ก่อนที่ฉันจะจับเธออุ้มขึ้นรถ" เขาเอ่ยอีกครั้งก่อนจะชี้นิ้วไปยังรถบิ๊กไบค์คันโต และสายตาเขามันบอกว่าให้เธอขึ้นไปบนรถของเขาเดี๋ยวนั้น "นายมีสิทธิ์อะไรมาบังคับฉันแบบนี้" ไม่ไปโว้ยยยยย ไอ้คนผิดนัด เธอไม่อยากคุยด้วย : (เขาเองไม่ใช่เหรอที่ปล่อยให้เธอรอคนเดียว แล้วแบบนี้คิดจะบังคับเธออีกเหรอ คนตัวเล็กทำแก้มป่องอีกครั้ง รู้สึกอยากจะดื้อดึงจนทำเขาเสียอารมณ์บ้าง เธอเลยแข็งข้อโดยการเชิดใบหน้ารั้นๆ ใส่เขาพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกตัวเอง ดูสิคนแบบเขาจะทำอะไรเธอได้! มาเลย!! "จิ๊! จะขึ้นดีๆ ไม่ได้ใช่ไหม ดื้อแบบนี้โคตรชอบเลย.." เสียง 'จิ๊' ปากดังแว่วเข้ามาพร้อมกับใบหน้าหล่อที่ดูเข้มขึ้น และไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ เขากลับก้าวขายาวๆ เข้ามาหาเธอด้วยความรวดเร็ว เพียงครู่เดียวร่างสูงก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ สายขิมชะงักตัวเผลอกระโดดถอยหลัง หนีห่างจากเขาที่เข้ามาจู่โจมร่างกายเธอ "นี่นาย จะทำอะไรน่ะ!" /ชี้หน้ามัน : ( "ไม่ขึ้นโดนฉันอุ้มแน่ อุ้มรอดไม่รอดค่อยว่ากัน..." เขาเอ่ยพร้อมกับจ้องมองรูปร่างเธอที่อยู่ในชุดนักศึกษาตัวใหญ่เกินตัวอย่างหยาบคาย เสียงกระซิบพูดนั้นคิดว่าเธอไม่ได้ยินเหรอประโยคหลังน่ะ! : (นั่นปากเหรอฮะ! เธอแค่ใส่เสื้อโอเวอร์ไซซ์ไม่ได้อ้วนสักหน่อย ไอ้คนมีตาหามีแววไม่ "มีปัญหากับน้ำหนักฉันมากหรือไง" โมโห! "ขึ้นรถซะ..." แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจคำพูดของเธอมากนักเพราะเขายังคงใช้สายตาบังคับเธอให้ขึ้นรถเขา คิดว่าพูดจาแบบนั้นแล้วเธอจะยอมขึ้นเหรอ "พูดแบบนี้แล้วคิดว่าฉันจะยอมขึ้นรถหรือไง" เออ! อย่าไปยอมมัน เขามันคนขี้เก๊กเธอเองก็จะเล่นตัวด้วย "จิ๊! ฉันไม่มีเวลาแล้วนะ ขึ้นซะ" เขาเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าเขาไม่มีความล้อเล่นแม้แต่น้อย อีกทั้งสายตาเขายังบอกเธออีกว่า 'ถ้าไม่ขึ้นรถโดนฉันแน่...' ลอยมา "นายไม่กลัวฉันทำรถนายยางแบนหรือไง" คนตัวเล็กเอ่ยถามเขาเสียงแผ่ว ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นสาวอ้วน เธอก็จะใช้ข้ออ้างนี้ในการไม่ขึ้นรถไปกับเขา แต่คำพูดของเธอก็ทำเขาชะงักไป ใบหน้าหล่อมองเธอนิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา "ก็ไม่ได้อ้วนขนาดนั้นปะ แต่ถึงจะอ้วนก็ไม่ได้มีปัญหาสักหน่อย นี่รถแพงนะต้องแข็งแรงอยู่แล้วดิ" "เดี๋ยวพังนะ" คนตัวเล็กเอ่ยบอกเขาเสียงค่อย เพราะก่อนหน้านี้เขาเอาแต่พูดว่าเธออ้วน "พังก็ซ่อมได้ไง" "นายขับไหวเหรอ" ก็เมื่อกี้บอกอุ้มไม่ไหวด้วยนี่นา "ดูถูกฉันหรือไง ฉันอุ้มเธอได้แล้วกันลองไหมล่ะ" เขาทำท่าทางว่าจะเดินเข้ามาอุ้มเธอจริงๆ คนตัวเล็กจึงยกมือห้ามเขาทันทีทันใด "มะ ไม่ต้อง! ฉันขึ้นเองก็ได้" โอเคยอมแล้วก็ได้ เจย์อาร์ขับรถคู่ใจพร้อมกับเธอที่นั่งซ้อนหลังเขา ในตอนแรกก็คิดว่าเขาจะพาเธอไปหอสมุดอย่างที่ตกลงไว้ แต่เธอคิดผิดเพราะเขาดันขับเข้าไปยังโซนคณะบริหาร และในที่สุดรถบิ๊กไบค์คันโตของเขาก็เข้ามาจอดหน้าสนามฟุตบอลหลังคณะฯ เสียงเฮฮาของเหล่าบรรดานักศึกษาคณะต่างๆ ที่รวมตัวกันเพื่อเล่นฟุตบอลดังสนั่น สายขิมได้แต่ลอบมองหุ่นล่ำๆ ของบรรดานักศึกษาเหล่านั้น ก่อนจะหันกลับมามองเจย์อาร์อีกครั้งอย่างสงสัย...เขาพาเธอมาที่นี่ทำไม "นี่! ไหนบอกจะไปทำรายงานไง" เมื่อลงจากรถได้คนตัวเล็กก็เดินมาเท้าสะเอวใส่ จ้องหน้าเขาอย่างต้องการคำตอบ นี่ไม่ได้จะมากวนประสาทเธอหรอกใช่ไหม ก็ตรงหน้าเธอมันสนามฟุตบอลที่มีบรรดานักศึกษาจากคณะเขากำลังลงเล่นฟุตบอลกันอยู่ มองยังไงก็ไม่ใช่สถานที่ที่ใช้ทำงานได้เลย "ก็พามาทำอยู่นี่ไง" เขายักไหล่แบบไม่ได้แคร์อะไร ก่อนจะเดินนำหน้าเธอเข้าไปยังสนามฟุตบอล แล้วหยุดอยู่ด้านล่างอัฒจันทร์ "แต่ฉันเห็นแต่สนามฟุตบอลนะ ไม่เห็นสมุด หนังสือ หรือแม้แต่โต๊ะที่ใช้ทำงานได้เลย" คนตัวเล็กขมวดคิ้วมองเขานิ่ง รู้สึกร้อนผ่าวไปหมดเพราะความหงุดหงิดที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก มันร้อนจนแทบจะปะทุ ออกมาจากอกเธอแล้ว ถ้าเขาคิดจะกวนประสาทกันเธอก็จะกลับ เธอไม่มีเวลามากพอมาเล่นลิ้นกับคนอย่างเขานะ แต่เขากลับตอบมาด้วยใบหน้านิ่ง พร้อมกับที่ชี้นิ้วเรียวยาวไปยังอัฒจันทร์ด้านหลังของพวกเธอที่มีบรรดาสาวๆ จากหลายคณะที่ตามมานั่งดูหนุ่มๆ เตะบอลกันหลายคนเลยทีเดียว บางคนถึงขั้นส่งสายตาแพรวพราวมาให้เจย์อาร์เป็นช่วงๆ แต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยสนใจอะไรมากนัก "ก็ทำข้างล่างอัฒจันทร์นี่ไง ง่ายจะตาย" "พวกเราจะทำรายงานที่นี่จริงเหรอ?" นี่เขาพาเธอมาทำรายงานบนอัฒจันทร์แทนที่จะเป็นหอสมุดงั้นเหรอ? เหลือเชื่อกับหมอนี่เลย จะมีอะไรที่เซอร์ไพรส์ไปมากกว่านี้ไหม แต่เขา... "ไม่ใช่พวกเราดิ" เขาเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แขนเหยียดขึ้นเพื่อบิดขี้เกียจ "แล้ว?" ไม่ใช่พวกเราแล้วหมาที่ไหนจะทำรายงานคะคุณเจย์อาร์ เพราะคิ้วของเธอที่ขมวดแทบจะเป็นปมอยู่แล้ว เขาจึงใช้ปลายนิ้วจิ้มระหว่างหัวคิ้วเธอพร้อมกับเอ่ยเสียงนิ่งเรียบ... "เธอต่างหากที่ต้องทำ เพราะฉันต้องไปเล่นฟุตบอลว่ะ :) " "ฮะ?" Whatttttt!! นี่ล้อเล่นเหรอ!! โอเค เธอมีเรื่องเซอร์ไพรส์จากหมอนี่อยู่ตลอด เขามันไม่ใช่คนติสท์ แต่เป็นคนที่ประสาทแดกค่ะ!!! ขอบอกตรงนี้ว่าเธอไม่เคยเจอใครที่ทำนิสัยแย่เท่านี้มาก่อนในชีวิตเลย ไอ้บ้าเจย์อาร์เธอจะสาปเขาคอยดู มีที่ไหนมาตามเธอไปทำรายงานแต่ตัวเองดันไปเตะบอลกับเพื่อนแบบนี้!! เกลียดมันอ่า!! เกลียดมันนนนน!!! : (
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD