ตอนที่ 7 คุณแม่มือใหม่

1217 Words
“แล้วตาธรณ์เป็นยังไงล่ะลูก พอรู้ว่าแม่เค้ากลับมาแล้วน่ะ” “ก็ดูจะดีใจนะครับ แต่ไม่กล้าแสดงออกเท่าไหร่ คงเพราะยังทำตัวไม่ถูกน่ะครับ” “ก็น่าอยู่หรอกนะ โตมาแบบคนที่มีแค่พ่อมาตลอด พอวันนึงมีแม่เดินเข้ามามันก็ต้องมีเกร็งๆ กันบ้างแหละ ก็ขอให้ผู้หญิงคนนั้นรักลูกของเธอด้วยใจจริง อย่ามาหวังอะไรจากลูกก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นคนที่เสียใจที่สุดก็คือหลานพ่อนั่นแหละ” “ผมจะไม่ยอมให้เธอทำให้ลูกเสียใจครับ” “แล้วทำไมลูกถึงตัดสินใจบอกน้องธรณ์ล่ะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแม่ของเค้า ไม่คิดว่ามันเร็วไปเหรอจ๊ะ” วาสิตาถามต่อ “จะเร็วหรือช้าเค้าก็ต้องรู้อยู่ดีครับ อีกอย่าง...ผมรู้ว่าลูกอยากเจอแม่ของเค้ามาตลอด ผมก็แค่อยากให้ลูกรู้ว่าเค้าเองก็มีแม่เหมือนคนอื่น ต่อให้แม่ของเค้าจะเป็นคนดีหรือไม่ แต่เธอก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแม่ของน้องธรณ์อยู่ดี” “เฮ้อ...ก็ขอให้เธออย่านำปัญหาอะไรมาให้ลูกละกันนะ” ธรรศกรถอนหายใจด้วยความกังวล แต่เท่าที่ฟังลูกชายเล่ามา ดูเหมือนผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้ต้องการเงินเพราะไม่อย่างนั้นเธอคงรับเงินร้อยล้านที่ลูกชายเสนอให้แล้ว แต่ไม่ว่ายังไงก็คงยังวางใจไม่ได้ จนกว่าพวกเขาจะได้รู้ความเป็นมาของผู้หญิงคนนั้นให้มากกว่านี้ก่อน ภีมพิมลนั่งรอลูกชายของเธออยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านหลายชั่วโมงแล้ว หลังจากที่เธอเดินสำรวจรอบๆ บ้านจนทั่วและรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง แถมเธอยังไปเข้าครัวทำขนมเอาไว้รอลูกอีกด้วย เพราะเธอถามสาวใช้มาหมดแล้วว่าลูกชายชอบกินอะไรบ้าง รวมถึงพ่อของลูกด้วย ใช่ว่าเธออยากผูกมิตรกับเขา เพราะรู้ว่าเขาคงไม่ได้อยากผูกมิตรด้วย แต่เธอก็ต้องทำเพราะมันคือหน้าที่และเธอก็อยากให้เขาเมตตาปล่อยให้ลูกกับเธอได้อยู่ด้วยกันตามลำพังบ้างเท่านั้น กระทั่งเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้านในเวลาเกือบสี่โมงเย็น หญิงสาวก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปรอที่หน้าประตูบ้านอย่างรวดเร็ว เมื่อรถจอดสนิท เธอก็เอื้อมมือไปเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ ก่อนจะปลดสายคาดคาร์ซีทออกแล้วช่วยอุ้มลูกชายลงจากรถอย่างอ่อนโยนซึ่งเขาก็ยอมให้คนเป็นแม่อุ้มอย่างไม่อิดออด แม้จะไม่ได้พูดอะไรด้วยแม้แต่คำเดียวก็ตาม “มาทำอะไรตรงนี้ ฉันบอกให้เธอรออยู่ในห้องไม่ใช่เหรอ” เขาเอ่ยถามขึ้นก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ลูกชาย “คือแบมไม่อยากอยู่ในห้องเฉยๆ น่ะค่ะ ก็เลยออกมาสำรวจบ้านแล้วก็ไปทำขนมเอาไว้รอลูกด้วย ได้ยินว่าลูกชอบกินคุกกี้เนยโรยอัลมอนด์ใช่มั้ยคะ” “อืม ทำเป็นเหรอ หรือว่าให้พวกสาวใช้สอนทำ” “แบมทำเป็นค่ะ ไม่ว่าจะอาหาร หรือขนม แบมก็ทำเป็นทั้งนั้น” “เก่งดีนี่ งั้นเย็นนี้ทำอาหารให้เราสองคนกินหน่อยสิ” “ได้ค่ะ คุณอยากกินอะไรคะ” “ไปถามสาวใช้ดูว่าฉันกับลูกชอบกินอะไร ก็ทำอันนั้นแหละ” “อ๋อ งั้นแบมก็รู้แล้วค่ะว่าจะทำอะไรดี คือ...แบมถามพวกเค้ามาหมดแล้วค่ะ ว่าคุณกับลูกชอบกินอะไรบ้าง” “ก็ดี งั้นก็ไปทำสิ ฉันจะพาลูกไปที่ห้องทำงาน” “เอ่อ...” “มีอะไรอีก” “คือ...ขอแบม...ขอแบมอยู่กับลูกบ้างได้มั้ยคะ แบมอยากคุยกับเค้าบ้าง” “ยังไม่ถึงเวลาของเธอ ฉันจะให้เธออยู่กับลูกก็ต่อเมื่อฉันมั่นใจว่าเธอจะไม่คิดร้ายกับเค้าเท่านั้น” “คิดร้าย? เค้าเป็นลูกของแบมนะคะ แบมไม่คิดร้ายกับเค้าหรอกค่ะ” “กับคนที่ฉันไม่รู้จัก ฉันไม่ไว้ใจทั้งนั้นแหละ ไปครับน้องธรณ์ไปช่วยคุณพ่อทำงานดีกว่า” แล้วเขาก็จูงมือลูกชายเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้เธอได้แต่มองตามหลังลูกไปด้วยความรู้สึกเศร้าใจ “สักวัน...ฉันจะทำให้คุณรู้ว่าฉันไม่เคยคิดร้ายกับคุณและลูกเลยสักครั้ง...คุณหมอ” ภีมพิมลเดินแยกไปทางห้องครัวด้านหลัง ก่อนจะเริ่มทำอาหารเย็นด้วยตัวเองทุกเมนูอย่างตั้งใจ จนกระทั่งได้เวลาตั้งโต๊ะอาหารตอนหกโมงเย็น เธอก็ยังช่วยสาวใช้ยกอาหารทุกอย่างไปจัดเรียงอย่างเรียบร้อย ไม่นานสองพ่อลูกก็พากันเดินเข้ามา เธอจึงได้รีบเลื่อนเก้าอี้ให้ลูกชายก่อนจะอุ้มเขาขึ้นไปนั่งอย่างเอาใจ “วันนี้แม่ทำไข่ตุ๋นกุ้งใส่แครอทกับต้นหอมซอยให้น้องธรณ์นะครับ ส่วนของคุณมีแกงเผ็ดเป็ดย่าง แกงเขียวหวานไก่แล้วก็แกงส้มชะอมกุ้งค่ะ แถมไข่เจียวหมูสับให้ด้วยนะคะ” เธอหันไปบอกเขา “อืม” “เอ่อ...ปกติแล้วต้องป้อนลูกมั้ยคะ” “ไม่ต้อง เค้ากินเองได้” “อ๋อค่ะ” เธอพยักหน้ารับแล้วมองลูกชายใช้ช้อนตักไข่ตุ๋นเนื้อเนียนขึ้นมาชิมไปคำหนึ่ง “อร่อยมั้ยครับลูก” “อร่อยครับ” หนุ่มน้อยพยักหน้ารับ รอยยิ้มน้อยๆ ของเขาทำให้เธอหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง “ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ นะครับ ไว้พรุ่งนี้เช้าแม่จะทำข้าวต้มกุ้งให้กินนะ หรือว่าอยากกินโจ๊กหมูเด้งดีล่ะครับ” “โจ๊กหมูเด้งก็ได้ครับ” “ได้จ้ะ แล้ว...คุณล่ะคะ พอกินได้รึเปล่า” เธอหันไปถามพ่อของลูกที่เหมือนจะชิมอาหารครบทุกเมนูแล้ว “ก็พอใช้ได้” “พอใช้ได้ก็ยังดีค่ะ ถ้าจะรับข้าวเพิ่มก็บอกนะคะ น้องธรณ์ด้วยนะลูก ถ้ากินไม่อิ่มก็บอกนะครับ เดี๋ยวแม่ตักข้าวเพิ่มให้” “ลูกกินแค่นั้นก็พอแล้ว กินเยอะไปเดี๋ยวจะท้องอืดเปล่าๆ” เขาพูดขัดขึ้น “แต่ที่ตักมาก็ไม่ได้เยอะเลยนะคะ แบบนี้ลูกจะไม่อิ่มรึเปล่า” “ฉันเลี้ยงเค้ามาแบบนี้ อย่าทำมาเป็นรู้ดีให้มากนัก เธออาจจะทำร้ายเค้าโดยไม่รู้ตัวนะ” “แต่ฉันแค่...แค่กลัวเค้าไม่อิ่มเท่านั้นเองค่ะ” เห็นเธอหน้าเศร้าๆ ลูกชายก็เลยต้องพูดขึ้นมา “ผมกินแค่นี้ก็อิ่มครับ” “จริงเหรอลูก อิ่มจริงๆ ใช่มั้ยคะ” เธอถามให้แน่ใจ ไม่รู้ว่าเขาเลี้ยงลูกมาแบบไหน แต่ดูแล้วเขาคงวางกรอบให้ลูกพอสมควร แล้วแบบนี้ลูกจะอึดอัดรึเปล่านะ? “ครับ ผมอิ่มจริงๆ เคยกินเยอะกว่านี้แล้วมันปวดท้อง คุณพ่อก็เลยให้กินแค่นี้ครับ” “อ๋อ งั้นก็ได้ค่ะ” เธอส่งยิ้มบางๆ ก่อนจะนำผ้าเช็ดปากมาคอยเช็ดแก้มที่เลอะให้ตลอดเวลาที่ลูกกินอาหารของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD