8

1125 Words
เมื่อคืนนี้ พีรดาเพิ่งขึ้นมาถึงกรุงเทพฯ เนื่องจากว่าต้องมาคุยกับนักธุรกิจที่สนใจว่าจะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจโรงแรมของครอบครัว แต่แล้วความเหงา ความเศร้าก็ถาโถมเข้ามาใส่หัวใจดวงน้อยทำให้เธอตัดสินใจออกไประบายความหดหู่ในใจตามสถานบันเทิง โดยใช้แอลกอฮอล์กล่อมสติให้เมามัวจะได้ลืมเรื่องเก่าๆ แม้จะแค่ชั่วคราวก็ยังดี แต่ดูเหมือนโลกใบนี้จะกลมเป็นลูกฟุตบอล ต่างกันก็แค่มันหนักเกินกว่าจะเตะออกไปไกลๆ จึงพาให้พบเจอกับผู้ชายที่เป็นต้นเหตุของความเศร้าทั้งหมดกำลังนั่งดื่มอยู่ในร้านเดียวกัน เธอพยายามมองข้ามเขาไป แต่สภาพของอีกฝ่ายนั้นแทบดูแลตัวเองไม่ได้ จนไม่สามารถปล่อยเฉยผ่าน จำต้องเข้าไปช่วยเหลือ “ไม่ต้อง! ไม่ต้องทำเครื่องดื่มให้เขาแล้ว!” พีรดาพูดกับบาร์เทนเดอร์ที่กำลังจะชงเครื่องดื่มให้ปริญอีกแก้ว ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ ชายหนุ่มซึ่งแทบจะไม่มีสติหลงเหลือกับตัว เขาหันมองมาที่เธอด้วยดวงตาหรี่ปรือพร้อมรอยยิ้มเหมือนเย้ยหยันอะไร หรือใครสักคนอยู่ “ปริญ เป็นบ้าอะไรทำไมเมาขนาดนี้” หญิงสาวเขย่าตัวคนเมามายอย่างแรงเพื่อเรียกสติ ตั้งแต่รู้จักกันมา เธอไม่เคยเห็นปริญเมาขนาดนี้ หรืออาจเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนาน เขาก็อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็เป็นได้ “อือ…เธอนี่ตามมาหลอนฉันเรื่อยเลยนะ” ปริญพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้และเนิบช้าในลำคอ แต่ก็พอให้จับความได้ แล้วหันกลับไปทางเดิม “หลอนอะไรของนายเนี่ย พอได้แล้ว!” พีรดาเอ็ดเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าปริญพยายามจะยกแล้วแก้วเหล้าที่ตอนนี้ไม่มีหลงเหลือแม้แต่หยดเดียวขึ้นดื่ม บ่งบอกให้รู้ว่าเขาตอนนี้ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะใดๆ เธอเอื้อมไปคว้าแก้วเครื่องดื่มจากมือเขาอย่างรวดเร็ว แล้ววางมันลงบนเคาน์เตอร์ด้านหลังตนเอง “น้อง รู้ไหมทำไมเขาดื่มหนักขนาดนี้” พลางหันไปเอ่ยถามกับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม เพราะบางที คนที่มานั่งดื่มคนเดียวเช่นนี้ก็มักจะระบายความในใจให้ใครสักคนฟัง “ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ เห็นว่าพูดแต่ว่า เมื่อไหร่จะลืมใครสักคนนี่แหละครับ คิดว่าพี่เขาน่าจะอกหักเพราะมีผู้หญิงสวยๆ มาขอนั่งด้วยก็ไม่สนใจใครเลย” บาร์เทนเดอร์หนุ่มพูดในสิ่งที่รับรู้แล้วคาดคะเนไปแบบนั้น และนั่นก็ทำให้พีรดาถึงบางอ้อทันที “อกหักงั้นเหรอ? แค่อกหักถึงกับต้องปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนี้เลยหรือไง ปริญ” พีรดาเขย่าแขนคนตัวสูงอีกครั้ง แต่เขากลับหันมามองหน้าเธอด้วยความงุนงง “พาย…ไม่ใช่หรอก เธอไม่มีทางมาอยู่ตรงนี้” ปริญพูดพร้อมกับเอามือมาจับใบหน้าของพีรดาอย่างถือวิสาสะ ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจไม่น้อย รีบคว้ามือใหญ่ไว้แน่นก่อนที่มันจะป่ายแปะต่ำลงไปจับส่วนอื่น แม้จะรู้ว่า ‘เพื่อนรัก’ ไม่ได้มีนิสัย ‘ปากว่า มือถึง’ และเป็นสุภาพบุรุษมากแต่ไหน จากตอนสมัยเรียนด้วยกันก็แทบจะไม่เคยสัมผัสตัวเธอหากไม่จำเป็นจริงๆ แต่ปัจจุบันจะเอาอะไรมารับประกันว่านิสัยของปริญไม่ได้เปลี่ยนจากเดิม หรือเพิ่มเติมคำว่า ‘สุดหื่น’ ต่อท้ายตวามเป็นสุภาพบุรุษในวันวานเข้าไป หญิงสาวเม้มปากแน่นขึ้น จ้องคนร่างสูงตรงหน้าอย่างประเมิน ปริญคนนี้ราวกับไม่ใช่ ‘เพื่อนรัก’ ซึ่งแสนดีคนเดิมของเธออีกต่อไป ดูจากเมื่อกี้ที่จู่ๆ ก็เอามือมาจับหน้าเธอ แถมตอนนี้ เขายังเมามากเสียด้วย! “ก็ฉัน พาย ตัวจริงเสียงจริงไง จะใครล่ะ มีสติหน่อยสิ เดี๋ยวฉันจะพานายกลับ โอเคไหม” พีรดาถามปริญที่ตอนนี้ส่งสายตาหยาดเยิ้มมาให้แบบที่เธอไม่เคยได้เห็น และมันช่างร้อนแรงจนหญิงสาวต้องหลบมันก่อนจะหันไปพูดกับบาร์เทนเดอร์แทน “ผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนพี่เอง ช่วยประคองเขาไปที่รถที เดี๋ยวพี่จะไปส่งเขา” หันไปบอกบาร์เทนเดอร์ ในขณะที่หนุ่มรุ่นน้องมองกลับมาอย่างพิจารณาราวกับไม่ไว้วางใจ “เอ่อ ผมจะมั่นใจได้ไงครับว่าพี่รู้จักกับผู้ชายคนนี้จริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับ เพราะว่าผู้หญิงในร้านหลายคนต้องการจะหิ้วพี่เขากลับบ้าน เลยต้องถามเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าวีไอพี” บาร์เทนเดอร์หนุ่มใช้คำพูดสุภาพนุ่มนวลอย่างผู้ใส่ใจในการให้บริการ พีรดายังนึกชื่นชมมาตรการดูแลความปลอดภัยของลูกค้าของที่นี่ รวมถึงการอบรมพนักงานที่ดีเยี่ยมด้วย แต่ตอนนี้ หญิงสาวก็ต้องลำบากในการหาหลักฐานมายืนยันความเป็นเพื่อนของเธอกับปริญ “เฮ้อ! ฮอตขนาดนั้นเลยเหรอผู้ชายคนนี้เนี่ย” พีรดากลอกตามองบน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือตนเองออกมาเปิดรูปคู่กับปริญที่ถ่ายด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียน แม้จะไม่ได้ติดต่อกันแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะลบรูปพวกนี้ออกจากมือถือ “นี่เป็นรูปสมัยเรียนของฉันกับเขา หลักฐานแค่นี้พอไหม” เอ่ยถามออกไปอย่างรอฟังคำตอบ เพราะหากบาร์เทนเดอร์ต้องการหลักฐานมากกว่านี้ เธอคงไม่มีให้ “เอ่อ แค่นี้ก็พอครับ มาครับ เดี๋ยวผมช่วยประคองพี่เขาไปที่รถ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มยอมออกมาช่วยแต่โดยดีหลังเห็นหลักฐาน ก่อนจะช่วยกันประคองร่างสูงใหญ่ของปริญมาที่รถอย่างทุลักทุเล เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ขอตัวไปทำงานต่อ “เฮ้อ! อยากจะบ้าตาย มีสติหน่อยได้ไหม ปริญ” พีรดาพูดขึ้นเมื่อนั่งอยู่ฝั่งคนขับ ในขณะที่ปริญนอนหลับตาพริ้มอยู่ที่เบาะด้านข้าง “เดี๋ยวฉันจะพานายกลับคอนโดฯ นาย หวังว่าพอถึงแล้ว นายจะเปิดห้องให้ฉันได้นะ” รำพึงกับตัวเองเท่านั้น พีรดาก็เคลื่อนรถออกไปจากลานจอด มุ่งหน้าไปที่คอนโดฯ ของปริญ สมัยที่ยังสนิทกัน เธอเคยเข้าไปนั่งเล่นในคอนโดฯ ของเขา และก็ยังจำเส้นทางไปที่นั่นได้อย่างแม่นยำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD