วันต่อมา…
@มหาวิทยาลัย
ลานม้าหินอ่อน...
“เมื่อคืนเป็นไงบ้าง ตกลงโดนเฮียไคไล่ตะเพิดออกมาไหม”
“เออๆ ใช่ แกเล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะยัยแพรว่าเมื่อคืนเป็นไงบ้าง”
กะว่าจะทำเป็นนั่งสวยๆ ดูดชานมไข่มุกที่ถ่อสังขารไปซื้อก่อนหน้านี้ชิวๆ แล้ว แต่ไหงยัยเพื่อนตัวดีทั้งสองคนของเธอถึงได้ถามเรื่องที่เธอพยายามที่จะลืมไปได้แบบนี้!
มีใครจะรู้บ้างไหมว่าเมื่อคืนกว่าที่เธอจะข่มตาหลับได้ใช้เวลากี่ชั่วโมง เพราะไอ้แผงอกติดเรทบ้าๆ นั่นของเฮียไคโร เธอก็เลยดูไม่สดชื่นจนต้องพึ่งพาชานมไข่มุกสองแก้วแบบนี้ แต่ดูเพื่อนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรของเธอเลยเถอะ จู่ๆ ก็ถามถึงบุคคลที่มีผลต่อใจเธอแบบนี้อีกแล้ว
หัวใจเธอจะบ้า!
"ไม่เล่าได้ไหม" แพรวาตอบก่อนจะนั่งดูดชาไข่มุกที่เพิ่งเดินไปซื้อมา
"อย่ามาค่ะนังแพร แกเล่ามาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ วินาทีนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าเรื่องของแกกับรุ่นพี่วิศวะอย่างพี่ไคโรสุดหล่อแล้วค่ะ เล่ามา!" ยัยเพอร์ลี่ ยัยนี้นี่ ก่อนจะอยากรู้เรื่องเมื่อคืน เธอควรสังเกตใต้ตาเพื่อนแล้วแสดงความห่วงใยก่อนจะยากรู้เรื่องนั้นก่อนเถอะ
"โอเค ฉันเล่าก็ได้ ก็คือว่า...ฉันตามเฮียเขาไปถึงห้องแล้วบอกเขาว่าฉันจะจีบเขา จะจีบจนกว่าเขาจะยอมเป็นของฉัน"
"อุต๊ะ! ช่างกล้า แกมันกล้าหาญเกรียงไกรเลิศเลอลูกพระเจ้าตากมากยัยแพร...ยัยบ้าเอ้ย นั่นเฮียไคไงแกลืมไปแล้วเหรอ" น้ำตาลว่าขึ้นพร้อมด้วยมือไม้ที่ทำท่าเหมือนเชียร์ลีดเดอร์ทันทีที่ได้ยินเพื่อนรักตอบกลับมาด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจแบบนั้น
พลางคิดในใจว่าเพื่อนของเธอคงลืมไปแล้วแน่ๆ ว่าบุคคลที่เข้าไปยุ่งด้วย เขาเปรียบเสมือนงูที่มีพิษร้ายแรงขนาดไหน ถ้าให้พูดละก็ว่าที่พี่เขยของเพื่อนเธอที่ว่าโหดยังไม่เท่าความโหดเงียบๆ ของเฮียไคโรเลย
เพราะสองตระกูลนี้เขาเลื่องลือความโหดมากๆ เพราะเป็นว่าที่นายใหญ่ในอนาคตทั้งคู่ ยัยแพรนะยัยแพร เอาชีวิตลงไปเสี่ยงเล่นชัดๆ
"ฉันไม่ได้ลืมค่ะตาลเพื่อนรัก" แพรวาตอบสีหน้าราบเรียบ ท่าทางไม่ค่อยแยแสเท่าไหร่
"ถ้าไม่ลืมก็สมองเสื่อมแน่ๆ"
"เดี๋ยวนะ ต่างกันตรงไหนเหรอ" เพอร์ลี่ถามแทรกสีหน้าสงสัยกับคำพูดของน้ำตาล ลืมกับสมองเสื่อมมันก็ไม่ได้ต่างกันไม่ใช่เหรอ อะไรของพวกมันว่ะ
"เออๆ ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะยัยเพอร์ เอาเรื่องยัยบ้าแพรวาก่อน"
"ตาลค่ะ ฉันไม่ได้บ้าค่ะ ฉันแค่ต้องการจีบเฮียไคเฉยๆ"
"แต่แกไม่กลัวเหรอยัยแพร" น้ำตาลถึงกับถอนหายใจออกมากับความดื้อดึงของเพื่อนที่ยืนกรานว่าจะจีบไคโรบุคคลอันตรายคนนั้นต่อไป เธออยากจะรู้มากว่าอะไรดลใจให้เพื่อนเธอทำหน้าทำตาอยากจีบไคโรด้วยความเด็ดเดี่ยวขนาดนี้
"ขนาดความเร็วที่ฉันเคยกลัว ฉันยังดับความกลัวนั้นด้วยการพาตัวเองไปเป็นนักแข่งรถเลยตาล แล้วทำไมฉันจะต้องกลัวที่จะจีบเฮียไคโรด้วยอะ แกเชื่อใจฉันเถอะ ฉันจะทำให้ผู้ชายคนนั้นสยบภายใต้หัวใจของฉันให้ได้"
"เด็ดเดี่ยว! เริ่ด! แกมันเริ่ดมากยัยแพร เอาค่ะ ฉันชอบเวลาที่แกเริ่ดแบบนี้ เอาเลยฉันเป็นกองเชียร์ให้แกเองเพื่อน" เพอร์ลี่ว่าขึ้น หลังจากที่เห็นความตั้งใจและความมุ่งมั่นอย่างเด็ดเดี่ยวจากสีหน้าและสายตาของเพื่อน
เธอชอบมากเวลาที่เห็นแพรวาออกอาการมุ่งมั่นแบบนี้ เพราะมันเป็นอาการเดียวกันกับตอนที่เพื่อนบอกจะลงเป็นนักแข่งรถในสนามแข่งของพ่อตัวเองเมื่อสามปีที่แล้ว ซึ่งเพื่อนเธอทำสำเร็จ
"เฮ้อ เอากันเข้าไป โอเคถ้าพวกแกรวมหัวกันแบบนี้แล้ว ฉันก็ต้องเอาด้วย" น้ำตาลถอนหายใจอีกครั้ง ปลงตกกับความดื้อดึงของเพื่อนในที่สุด ถึงแม้ว่าใจหนึ่งไม่เห็นด้วยที่เพื่อนจะทำแบบนั้นแต่อีกใจหนึ่งก็อยากตามใจเพื่อนเพราะรู้อยู่แล้วว่าเวลาที่เพื่อนมีความตั้งใจจะทำอะไร มักจะสำเร็จเสมอ
คราวนี้ก็ขอให้คว้าหัวใจของเฮียไคโรสำเร็จด้วยละกัน หวังว่าโลกจะได้เป็นสีชมพูไม่ใช่สีแดงเลือดสาดซะก่อน
"ขอบใจแกมากตาลที่เชื่อใจฉัน" แพรวากุมมือน้ำตาลพร้อมตอบกลับสีหน้ายิ้มด้วยความดีใจที่เพื่อนรักเข้าใจและพร้อมจะอยู่ข้างๆ ตัวเอง
"อืม แต่ถ้าเมื่อไหร่แกเห็นสัญญาณเตือนเรดโค้ดจากเฮียไคอะ แกต้องรีบวิ่งออกมานะเว้ย" เรดโค้ด เป็นโค้ดลับของพวกเธอสามคนคือ เธอ แพรวา และพีพี สร้างขึ้นมาเพื่อดูอาการที่น่ากลัวและท่าทางที่ไม่ดีของพี่ๆ อย่างนักรบ มาร์ติน ไคโร พราวฟ้า และลูกพีช ถ้าเหล่าพี่ๆ ออกอาการเรดโค้ดเมื่อไหร่ พวกเธอจะรีบชิ่งหนีไปก่อนทันที
ตอนเด็กๆ เรดโค้ดมักได้เห็นบ่อยๆ ก็กับพี่นักรบและพี่ลูกพีชนี่แหละเพราะสองคนนี้ชอบกัดกันมาก เหมือนหนูกับแมวไม่มีผิด
"โอเค"
"ไอ้ไค!"
ขวับ!
"เป้าหมายแกมาทางนี้ว่ะแพร" เพอร์ลี่ว่าขึ้นทันทีที่หันไปเห็นหนุ่มเสื้อช็อปสีแดงเจ้าของชื่อไคโร บุคคลที่อยู่ในวงสนทนาของพวกเธอเมื่อกี้นี้กำลังเดินไปทางร้านชาไข่มุกแต่ต้องหยุดเดินกะทันหันเมื่อเพื่อนดันเรียกชื่อซะก่อน
และใช่เขาหล่อมาก หล่อจริงๆ ถ้ายัยเพื่อนตัวดีของเธอจีบติดละก็ บุญวาสนามันมากที่ได้แฟนหล่อรวยสูงยาวเข่าดี เป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวเองขนาดนั้น
ฮึ่ย! คิดแล้วก็อิจฉาเพื่อนอยากแข่งกันจีบถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นลูกมาเฟียชื่อเสียงเรียงนามเลื่องลือด้านความน่ากลัว
"พี่เขาหล่ออะไรเบอร์นั่นวะพวกแก" ปากพูดแต่สายตายังไม่ยอมละไปจากร่างสูงของไคโรที่กำลังหันไปหาเพื่อนที่เรียกก่อนหน้านี้ "หล่อจนใจเจ็บอะ หล่อแบบกระแทกเบ้าตามาก เฮ้อ อยากได้แฟนเรฟแบบนี้อะ อยากได้!"
หมับ!
"หุบปากแกไปเดี๋ยวนี้เลยยัยเพอร์ จะเสียงดังไปทำไมวะ เดี๋ยวเฮียไคก็หันมาทางนี้หรอก" น้ำตาลใช้ฝ่ามือนุ่มของตัวเองปิดปากเพื่อนไว้ ก่อนจะเอ็ดเพื่อนหน้าดุที่เผลอเสียงดังจนนักศึกษาคนอื่นๆ แถวนี้พากันหันมาทางโต๊ะของพวกเธอกันหมดและหวังว่าคนที่เพื่อนหมายถึงจะไม่หันมามอง แต่มันก็ไม่ทันแล้วเพราะตอนนี้คนที่ถูกชมระยะเผ่าขนได้หันมามองที่โต๊ะของพวกเธอแล้ว
"ไม่ทันแล้วละ เขาหันมามองที่โต๊ะของพวกเราแล้ว" แพรวาพูดขึ้น ขณะที่สายตาก็จ้องมองคนที่กำลังสบตากับเธอไปด้วย ไคโรจ้องมองยัยตัวแสบกึ่งน่ารำคาญเมื่อคืนสายตานิ่ง เขาไม่ยักจะรู้ว่าเดี๋ยวนี้เด็กปีหนึ่งคณะแพทย์จะถ่อสังขารมานั่งแถวลานคณะวิศวะแบบนี้ด้วย กล้าดีแหะ
"นั่นมันกลุ่มน้องไอ้นักรบกับพราวฟ้านี่หว่า มานั่งทำอะไรแถวนี้ว่ะ" พระพายเพื่อนสนิทของไคโรถามขึ้นพร้อมมองไปยังโต๊ะที่มีสาวๆ จากคณะแพทย์นั่งอยู่ตรงนั้นสีหน้าสงสัย
โดยปกติแล้วเด็กจากคณะแพทย์จะไม่ค่อยชอบมานั่งแถวลานวิศวะเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภัยเนื่องจากตึกวิศวะเลื่องลือด้านความโหดดิบ แต่คงไม่ใช่กับกลุ่มน้องสาวของเฮดว้ากอย่างนักรบละมั้ง
เพราะมีพี่ชายเป็นถึงเฮดว้ากของที่นี่ จะไปกลัวอะไร
"มานั่งดูดน้ำชาไข่มุกที่มึงกำลังจะไปซื้อไง" ไคโรพยักพเยิดไปทางแก้วน้ำสีชาเย็นสองแก้วในมือของแพรวาให้พระพายดู
เรียนหนักหรือไงวะถึงได้ดูดน้ำทีเดียวสองแก้วแบบนั้น
"ฮึ กูว่าแล้วว่าไอ้เฟรนชายน์น้ำชาไข่มุกข้างๆ คณะเรามันต้องอร่อย โคตรดีเลยวะเรียกแขกสาวๆ มากันเยอะๆ เลยจะได้เป็นอาหารตาให้กู" พระพายว่าพร้อมรอยยิ้มมีความสุขแบบเปิดเผย แต่ไม่วายเกือบโดนนิ้วเรียวยาวของไคโรจิ้มตาเกือบบอด "หยุดมองสาวบ้างก็ได้นะมึงไอ้พาย"
"หยุดมองได้ไงเล่า มึงดูอย่างน้องสาวพราวฟ้าดิ โคตรสวยจัดอะ...อะไรมึงจ้องหน้ากูแบบนั้นทำไมว่ะ" เพราะคำชมที่ว่าแพรวาสวย ก็เลยเรียกสายตาคมดุจากไคโรให้หันไปจ้องหน้าด้วยสาตาไม่สบอารมณ์ได้ดี จนพระพายที่เห็นแบบนั้นขมวดคิ้วเข้ากันอย่างไม่เข้าใจ
"คือห้ามชมเหรอวะ กูไม่ได้ชมน้องน้ำตาลนะ กูชมน้องแพรวา" พระพายพยายามแก้ให้ไคโรเข้าใจ เพราะเขารู้ดีว่าถ้าเป็นน้องสาวของนักรบแล้ว เพื่อนในกลุ่มคือห้ามยุ่งห้ามแตะต้องเด็ดขาดเพราะพี่ชายอย่างนักรบได้สั่งขั้นเด็ดขาดไว้แล้ว ถ้ามีใครแหกกฎละก็ได้ตายสถานเดียวแน่นอน เพราะไอ้พี่ชายจอมดุและหวงน้องสาวยิ่งกว่าอะไรอย่างนักรบมันจะตามไปเด็ดหัวออกจากบ่าถึงเตียงไงล่ะ
"จะแพรวาหรือน้ำตาลมึงก็ห้ามยุ่งเด็ดขาด ไม่งั้นมึงโดนแน่ไอ้พาย" พูดจบไคโรก็เดินล้วงมือในกระเป๋ากางเกงออกไปจากจุดที่หยุดรอพระพายก่อนหน้านี้ทันที แต่ไม่วายก่อนไปได้หันไปสบตานิ่งๆกับแพรวาอีกครั้ง
"เมื่อกี้เฮียเขามองแกด้วยอะแพร" น้ำตาลบอกแพรวาหลังจากที่เห็นว่าไคโรมองเพื่อนสนิทตัวเอง
"อืม...เออเมื่อกี้พวกแกบอกว่าจะไปที่ห้องสมุดใช่ไหม งั้นพวกแกไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป" บอกกับเพื่อนเสร็จ แพรวาก็รีบหยิบกระเป๋าสะพายไหล่ใบใหญ่แบรนด์ดังพาดไหล่ทันที จากนั้นก็รีบเดินไปทางร่างสูงของไคโรเดินไปก่อนหน้านี้ด้วยความเร่งรีบ
ทำเอาเพื่อนทั้งสองคนที่เห็นท่าทางนั้นถึงกับนั่งกอดอกถอนหายใจออกมา
"รู้เลยว่ามันจะไปไหน" น้ำตาลว่าพร้อมกับส่ายหน้าเอือมระอากับความกล้าหาญของเพื่อนที่รีบวิ่งตามไคโร
.
.
ตึกตึกตึก
กึก!
"เดี๋ยวก่อนสิคะ" แพรวาตามไคโรทันจนสำเร็จก็รีบดักข้างหน้าคนตัวสูงกว่าพร้อมกางแขนออกไม่ให้อีกฝ่ายเดินหนีในขณะที่ตัวเองกำลังหายใจหอบเหนื่อยแทบจะเป็นลม
ที่เธอรีบตามมาไม่ได้มีอะไรหรอก แค่อยากวิ่งมาหยอดคนหน้านิ่งสักหน่อย เห็นจ้องหน้าเธอดีนัก ก็ต้องมาทักทายกันสักหน่อย
"มีอะไร" เสียงห้วนของไคโรถามแพรวาพร้อมจ้องมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"เสียงห้วนจังเลยนะ แพรก็แค่อยากเห็นหน้าเฮียให้ชื่นใจอะ ก็เลยวิ่งตามมา"
"ไร้สาระ" ไคโรว่าพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่นที่ไม่ใช่หน้าของแพรวา ทำเป็นไม่อยากมองหน้าอีกฝ่ายทั้งๆที่แอบชำเลืองมองอยู่เป็นระยะๆ
"ใช่สิ แพรมันไร้สาระ"
"เดี๋ยวนะ มีใครเห็นผมยืนอยู่ตรงนี้ไหมครับ" พระพายที่เดินมาพร้อมกับไคโรยกมือแทรกขึ้นเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางของทั้งสองคนที่คุยกัน นี่เขากำลังตกข่าวอะไรหรือเปล่านะ
เพื่อนผู้นิ่งขรึมดั่งพระจำศิลอย่างไคโรแอบกุ๊กกิ๊กกับน้องสาวเพื่อนตัวเองเหรอเนี่ย?
"อะเอ่อ...ขอโทษทีค่ะที่หนูเสียมารยาทไม่ทักทายพี่" แพรวาตกใจเล็กน้อยที่พระพายเอ่ยแทรกขึ้น ซึ่งต้องบอกเลยว่าเธอลืมไปเสียสนิทว่าไคโรเดินมากับเพื่อน
"ไม่เป็นไรครับ พี่ชื่อพระพายครับเป็นเพื่อนไอ้ไค" พระพายแนะนำตัวสีหน้าอาบรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
"อ่อค่ะ หนูชื่อแพรวาค่ะ เป็นน้องสาวพี่พราวฟ้าเพื่อนเฮียไคค่ะ"
"ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" พระพายว่าพร้อมกับยื่นมือจะทำความรู้จักกับแพรวา แต่กลับโดนสายตาคมดุของไคโรตวัดมองแรงซะก่อน ก็เลยรีบชักมือกลับอย่างเร็วแสง "กูแค่อยากรู้ว่ามือน้องเขานุ่มไหม" ก่อนจะขยับตัวกระซิบบอกไคโรเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน แต่ไม่วายโดนไคโรกระซิบตอบกลับไปว่า "งั้นลองจับตีนกูไหม" เท่านั้นแหละพระพายสีหน้าเจื่อนลงทันที
"ไม่ดีกว่าวะเพื่อน กูเดินนำไปก่อนนะ" ไคโรไม่ตอบแต่พยักหน้าเบาๆ กลับไปแทน ก่อนจะหันไปสนใจแพรวาต่อ...
"มานั่งแถวนี้ทำไม" เสียงทุ้มของไคโรเอ่ยถามแพรวาสีหน้าราบเรียบ เพราะแถวนี้มันเป็นถิ่นของเด็กคณะวิศวะซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความน่ากลัวไม่ค่อยมีเด็กจากคณะอื่นมานั่งเล่นแถวนี้สักเท่าไหร่ แต่กับเด็กคณะแพทย์อย่างแพรวาที่เพิ่งสอบเข้ามาเรียนได้ไม่ถึงเดือน ทำไมถึงได้กล้ามานั่งแถวนี้
"มานั่งไม่ได้เหรอคะ"
"ไม่เชิงว่าไม่ได้ แต่แถวนี้เด็กคณะอื่นไม่ค่อยมานั่ง"
"ทำไมอะ แถวนี้น่านั่งจะตาย น้ำตาลบอกว่าหนุ่มๆ คณะนี้หล่อๆ ทั้งนั้น พวกแพรก็เลยมานั่งกัน เจริญหูเจริญตามากเลยมีแต่คนหล่อๆเดินกันให้ควั่ก"
"หึ นิสัยบ้าผู้ชายนี่แก้ไม่หายเลยใช่ไหม" แพรวาถึงกับอ้าปากพะงาบๆ ทันทีที่โดนว่าบ้าผู้ชาย มันไม่ใช่ความจริงเลยสักนิด เธอไม่ได้บ้าผู้ชายสักหน่อย สี่ห้าปีที่แล้วผู้ชายคนเดียวที่เธอติดตามก็มีแต่คนที่ยืนทำหน้าเอือมระอาเบื่อหน่ายใส่เธออยู่ตอนนี้คนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะมาว่าเธอบ้าผู้ชายไม่ได้นะ
"เฮียปากร้ายมาก ว่าแพรแบบนี้ได้ไง แต่จะว่าไปผู้ชายคณะนี้มันก็หล่อและน่าจีบจริงๆ นั่นแหละ เฮียว่าไหม" เมื่อสมองฉุกคิดได้จังหวะหยอดความแพรวพราวใส่คนตรงหน้าพอดี แพรวาก็ไม่รอช้ารีบขจัดความขุ่นมัวในใจก่อนหน้านี้ไปแล้วจัดประโยคเสียวพร้อมเล่นหูเล่นตาแทนทันที ซึ่งก็ได้รับการตอบรับมาจากไคโรด้วยสายตาดุๆ มาหนึ่งแมทซ์ ทำเอาแพรวายิ้มพอใจกับท่าทางนั้นของไคโร
"ไร้สาระ" แต่ก็ไม่วายโดนคนตัวสูงตรงหน้าต่อว่ากลับมาอีกตามเคย ก่อนจะเดินหนีไปหาเพื่อนอย่างพระพาย
ไคโรเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดไร้สาระของแพรวาที่พูดพร้อมรอยยิ้มไร้สาระนั่น เพราะมันไม่ได้ก่อประโยชน์ให้เขาเลยสักนิด มีแต่สร้างความน่ารำคาญและน่าเบื่อหน่ายเต็มไปหมด
แต่แม่งเอ้ย! มุมปากของเขาจะแอบอมยิ้มทำไมวะเนี่ย