หลังจากที่ไคโรเดินผ่านหน้าไป แพรวาก็หมุนตัวตามมองไล่หลังร่างสูงโปร่งพร้อมไหล่ที่กว้างน่าซบนั่นของไคโรที่เดินจากไปสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มบางๆ ให้ตายเถอะ หน้าหล่อสะอาดตัวสูงโปร่งไม่พอ กลิ่นตัวยังหอมติดจมูกเป็นบ้าอีก
คนอะไรมันจะโดนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ว่ะ เฮ้อ~ คอยดูเถอะรอบนี้เธอจะต้องจีบและคว้าหัวใจแข็งๆ นั่นมาครอบครองให้ได้!
แพรวาพึมพำในใจคนเดียวจบเธอก็หมุนตัวเดินไปที่ห้องสมุดตามที่ได้บอกกับเพื่อนไว้ ก่อนหน้านี้เป็นเวลาพักเที่ยงหลังจากที่เธอและเพื่อนทานข้าวเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งไถโทรศัพท์เล่นแก้เบื่อแต่บนฟีดข่าวดันมีคนแชร์ว่าน้ำชาไข่มุกข้างตึกคณะวิศวะว่าอร่อยกันเต็มไปหมด เธอก็เลยได้เรื่องลากเพื่อนมานั่งแถวนี้ ส่วนหนึ่งก็ไม่ใช่เพราะอะไรเลยถ้าไม่ใช่เพราะว่าจะมาแอบดูคนที่ว่าเธอไร้สาระเมื่อกี้นี้
หึ ชอบมากเวลาที่โดนอีกฝ่ายดุด่าว่าหรือทำตาดุใส่ ได้เห็นแล้วมันหวิวๆ มวนท้องดี
ปัง!
เฮือก!
"อะไรของแกเนี่ยยัยตาล ตบโต๊ะเสียงดังทำไมเดี๋ยวก็โดนบรรณารักษ์ไล่ให้ออกไปหรอก" แพรวาว่าสีหน้ายุ่งหลังจากที่จู่ๆ เพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันอย่างน้ำตาลตบโต๊ะเสียงดังสนั่นไปทั่วห้องสมุด ทำเอาเธอสะดุ้งตัวโยนแถมนักศึกษาคนอื่นๆ แถวนี้ก็พากันหันมามองกันเป็นแถบอีก
"อะไรงั้นเหรอยะ ฉันต้องถามแกมากกว่า ว่าเป็นอะไรมากปะเห็นนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาสักพักละนะ"
"โธ่เอ้ยยัยตาล อาการนี้มันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะถ้าไม่ใช่กำลังตกหลุมรักใครบางคนอะ" เป็นยัยเพอร์ลี่ที่ตอบน้ำตาลพร้อมรอยยิ้มกริ่มติดแซวตอนที่เหล่ตามองเธอ
แต่เดี๋ยวนะ ตกหลุมรักงั้นเหรอ? ไม่นะ ไม่ได้! เธอจะเป็นฝ่ายตกหลุมรักก่อนไม่ได้สิ เรื่องนี้คนที่จะต้องเป็นฝ่ายตกหลุมบ่อที่เธอขุดไว้คือผู้ชายที่ชื่อไคโรต่างหากล่ะ จะเป็นเธอไม่ได้เด็ดขาดเชียว
"พวกแกเดากันมั่วไปหมดล่ะ ฉันไม่ได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะมีความรักค่ะ ฉันยิ้มเพราะฉันมีความสุขต่างหาก" แพรวาแก้ต่างพร้อมทำหน้าเชิดขึ้นก่อนจะทำเป็นเปิดหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้าต่อ
แต่...
"แพรวา"
ขวับ!
"เฮียไค?" ใช่แล้ว จู่ๆ คนที่เพื่อนๆ ของเธอกำลังพูดถึงก่อนหน้านี้ก็ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของเธอซะงั้น ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆ เต้นไม่เป็นส่ำเลยทีเดียว แถมเมื่อกี้นี้เขาก็เรียกชื่อของเธอด้วย แต่เดี๋ยวนะ ใดๆ คือ เขามาที่นี่เพื่อมาหาเธอโดยเฉพาะเหรอ?
มาทำไม มีอะไรหรือเปล่า?
"เฮียเรียกแพรเหรอ?" แพรวาเอี่ยวตัวเอ่ยถามคนตัวสูงข้างหลังตัวเองสีหน้างง บนใบหน้าสวยงามของเธอปรากฏเครื่องหมายตั้งคำถามเต็มไปหมด
เหตุใดนะ คนที่ชอบแสดงออกว่าไม่ชอบเธอถึงได้มาหาเธอแบบนี้
"อืม"
"มะมีอะไรกับแพรเหรอคะ"
"เธอทำไอ้นี่ตก"
ตายแล้ว!
หมับ!
ทันทีที่ไคโรโชว์สิ่งของที่บอกว่าแพรวาทำตกไว้ เจ้าของสิ่งของที่ว่าก็รีบพรวดพราดลุกขึ้นไปคว้ามาจากมือใหญ่ของคนหน้านิ่งเอามาซ่อนไว้ด้านหลังตัวเองทันที ก่อนจะทำหน้าอึกอักไปต่อไม่ถูก เพราะของที่คนตรงหน้าเธอเอามาให้คือ พวงกุญแจรูปหัวใจที่ทำจากผ้าสีแดงพองๆ พร้อมสติกเกอร์ใบหน้าของคนที่เอามาคืนให้แปะเด่นร่าไว้ไงล่ะ
และไอ้พวงกุญแจอันนี้เธอก็เคยเอาไปมอบให้คนตรงหน้าเมื่อสี่ปีก่อนด้วย แต่กลับถูกปฏิเสธ
"ขอบคุณมากค่ะ ที่เอามาคืนให้"
"อืม...งั้นฉันไปก่อนละกัน" ไคโรตอบอืมในลำคอเบาๆ พร้อมเสมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของแพรวาจบ ก็เอ่ยขอตัวไปก่อน ทำให้แพรวาที่เห็นคนตัวสูงตรงหน้าเดินพ้นสายตาไปแล้วถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
เฮ้อ~
ให้ตายเถอะ เขาจะคิดว่าเธอจมปลักกับเรื่องในอดีตไหมนะที่ไม่ยอมเอาของพวกนี้ไปทิ้งสักที!
"ยังไงวะแก เมื่อกี้เฮียเอาอะไรมาให้แกอะ" น้ำตาลถามขึ้นหลังจากที่เห็นเพื่อนเดินคอตกสีหน้าเหมือนคนวิญญาณหลุดมานั่งที่เดิม
ตุบ!
"เขาเอาไอ้หัวใจเน่าๆ ดวงนี้มาคืนให้ฉันไง"
"พวงกุญแจเหรอ?" เพอร์ลี่ถามพร้อมมองเจ้าพวงกุญแจหัวใจที่เพื่อนโยนลงบนโต๊ะสีหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะช้อนสายตามองเจ้าของมันที่กำลังทำหน้าจะร้องไห้อยู่ตรงหน้า
"เอาไงดีว่ะพวกแก เฮียเขาจะคิดว่าฉันยังจมปลักกับอดีตอยู่ไหม"
"ที่แกนั่งหลังขดหลังแข็งระบายสีหัวใจเมื่อสี่ปีก่อนเนี่ย เจ้าของคือเฮียไคเหรอวะแพร" น้ำตาลพูดพร้อมกับนึกถึงภาพเมื่อสี่ปีก่อนที่เพื่อนนั่งทำของขวัญวันวาเลนไทน์อย่างขะมักเขม้น ที่แท้เจ้าของสิ่งนั้นก็คือเฮียไคโรเองหรอกเหรอ
"อืม" แพรวาพยักหน้ามุ่ยตอบ
"แต่เฮียเขาปฏิเสธแกใช่ไหม" น้ำตาลถามต่อ เพราะจากสภาพเพื่อนและสิ่งที่เพื่อนบอกเมื่อกี้ ตอนนั้นน่าจะโดนปฏิเสธมาแน่นอน
"อืม"
"เพราะแบบนี้ แกเลยบอกฉันว่าไม่ค่อยชอบขี้หน้าเฮียไคตอนนั้น"
"อืม"
"เฮ้อ แล้วทำไมตอนนี้แกถึงบอกว่าจะจีบเขาล่ะ!" พอทุกอย่างมันชัดเจนได้คำตอบที่ต้องการ น้ำตาลก็เท้าเอวเม้มปากดุเพื่อนทันที มันน่านักนะ รู้ทั้งรู้ว่าฝั่งนั้นเป็นคนยังไง ก็ยังจะดื้อรั้นอีก
"ก็ฉันแค้นอะ ก็เลยอยากแก้แค้น อยากทำให้เฮียไคยอมสยบให้ฉัน" แพรวาตอบหน้ามุ่ย ก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะกระทืบเท้าปึงปังอยู่ใต้โต๊ะด้วยความหงุดหงิดตัวเองอย่างคนเสียสติ
"แกนี่มันบ้าได้อีกว่ะแพร" น้ำตาลกอดอกต่อว่าเพื่อนสีหน้าหงุดหงิด เพราะเพื่อนเธอมันดื้อ มันไม่รู้จักยอมแพ้ จ้องจะเอาชนะให้ได้เลย แล้วถามหน่อยเถอะจะเอาอะไรไปสู้กับฝั่งนั้น ปิดกั้นตัวเองขนาดนั้น ชาตินี้จะละลายหัวใจแข็งกระด้างนั่นสำเร็จไหมเถอะ เฮ้อ~
"เออ ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ ฉันขอตัวแป๊บนะ เดี๋ยวมา" เมื่อสมองฉุกคิดบางอย่างได้ แพรวาก็ดึงหัวตัวเองออกจากโต๊ะก่อนจะบอกเพื่อนไว้แล้วรีบคว้ากระเป๋าบนโต๊ะวิ่งออกไปจากห้องสมุดทันที
และใช่ค่ะ เป้าหมายของเธอตอนนี้คือร่างสูงสวมเสื้อช็อปสีแดงที่มาหาเธอก่อนหน้านี้
หมับ!
"เดี๋ยวค่ะ!" มือเล็กของแพรวาคว้าข้อมือของไคโรไว้ หลังจากที่เธอวิ่งตามร่างสูงตรงหน้าทัน ก่อนจะดึงมืออีกฝ่ายให้เดินตามตัวเองไปทางหลังตึกที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเท่าไหร่ เพื่อคุยกันสองคน
"มีอะไร" ไคโรถามเสียงห้วนพร้อมมองลงไปที่ข้อมือตัวเองซึ่งกำลังถูกฝ่ามือนุ่มของแพรวาจับไว้ ทำให้แพรวาที่เห็นแบบนั้นรีบสลัดมือตัวเองออกทันที ก่อนจะยืนตั้งสติไล่อาการเหนื่อยหอบก่อนหน้านี้ให้กลับมาหายใจเป็นจังหวะปกติ
"เฮียอย่าเข้าใจผิดคิดว่าแพรเก็บไอ้นั่นไว้เพราะไม่ยอมลืมเฮียนะ...แพรแค่เสียดายเพราะแพรตั้งใจทำมันด้วยมือตัวเองเฉยๆ ก็เลยไม่ยอมทิ้ง" แพรวาสะกดกลั้นความเหนื่อยของตัวเองไว้ แล้วโพล่งออกไปยาวเหยียดแบบที่เกือบจะเป็นลมเพราะหายใจไม่ทัน แต่เธอกลับได้คำตอบสั้นๆ จากคนหน้านิ่งตรงหน้าว่า
"อืม" ไคโรเอนหลังพิงกำแพงตึกล้วงมือในกระเป๋ากางเกงก่อนจะตอบอืมในลำคอสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่สายตากำลังจับจ้องใบหน้าสวยของแพรวาไปเงียบๆ
เขาไม่เคยยักจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เคยมาบอกชอบเขาเมื่อสี่ปีที่แล้ว จะโตมาสวยน่ามองขนาดนี้...
ใบหน้ารูปไข่ คิ้วเรียงสวย จมูกโด่งได้รูป ตาสวยมีเสน่ห์ ผิวขาวอย่างกับเกล็ดหิมะ ที่สำคัญริมฝีปากสีแดงระเรื่อนั่นที่กล้าขโมยจูบเขาไปเมื่อคืนก่อน...
สวยน่าจูบขนาดนี้เลยเหรอวะ
หมับ!
และเพราะความคิดสุดท้ายนั่นไคโรจึงไม่ทนมองให้เสียเวลาไปเฉยๆ จัดการดึงต้นคอเล็กของแพรวาเข้ามาใกล้ตัวเองจนเกือบจะสิงร่างกัน สบตาอีกฝ่ายนิ่งก่อนที่จะ...
จุ๊บ! ประกบริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากนุ่มของแพรวาเบาๆ แต่เนิ่นนานจนคนถูกจูบต้องดิ้นขลุกขลักเพราะเริ่มหายใจไม่ออก
"อื้อออ"
พลั่ก!
แพรวาผละออกจากคนร่างสูงตรงหน้าสำเร็จ ก็ตวัดมองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่พอใจกลับไปทันทีแต่คนถูกมองแรงอย่างไคโรกลับไม่สะทกสะท้านใดๆกลับมา เขาทำเพียงแค่ยืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ใช้นิ้วโป้งเช็ดลิปสติกของแพรวาที่ติดบนริมฝีปากตัวเองออกสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะพูดทิ้งท้ายว่า...
"เธอเคยบอกว่าต้องการจีบฉัน ฉันอนุญาตให้เธอจีบ ถ้าเธอจีบฉันติดในเวลาหนึ่งเดือนฉันจะยอมคบกับเธอแต่ถ้าไม่...เธอต้องไสหัวไปจากสายตาของฉัน"
ไคโรพูดจบแค่นั้นเขาก็เดินเลี่ยงออกไปทันที ทิ้งแพรวาที่ยืนนิ่งตาค้างกับคำพูดนั้นเมื่อกี้นี้อยู่ที่เดิมคนเดียว จนเวลาผ่านไปหลายวินาที คนที่เหมือนจะได้สติกลับมาอย่างแพรวาจึงเริ่มขยับมือด้วยการตบแก้มตัวเองเบาๆ เป็นการเรียกสติตัวเอง
"เมื่อกี้ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เขาอนุญาตให้ฉันจีบเขาได้...ใช่ไหม"
เฮ้ย! บ้าไปแล้ว ให้ตายเถอะเธอตั้งตัวไม่ทัน