จะหย่าเมื่อได้สินสมรสคืน

1370 Words
ขวัญพิชชามาถึงบ้านแม่ของเธอ สั่งให้สาวใช้เอากระเป๋าไปเก็บ เมื่อเดินมาถึงห้องโถง ภาพที่เห็น แพรมุกกำลังเอาเสื้อผ้าของเธอออกมาทาบที่ตัว " ชุดนี้สวยเหมาะกับแพรมั้ยคะพ่อ " " สวยมากลูก ลูกพ่อสวยใส่ชุดไหนก็สวย " คุณเกรียงไกรยิ้มอย่างเอ็นดูรักใคร่ ทั้งรอยยิ้มและคำพูดของผู้เป็นพ่อนั้น ขวัญพิชชาไม่เคยได้รับเลยตั้งแต่แม่เสียไป " ทำอะไร " ขวัญพิชชาเดินเข้ามาด้วยท่าทีเอาเรื่อง " การที่ฉันไม่ได้อยู่บ้าน ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเอาของฉันมาใช้ได้ตามใจชอบนะ " แพรมุกมองอย่างไม่พอใจ ปรี่เข้ามายืนประชันหน้ากับขวัญพิชชาแบบไม่เกรงกลัว " ทำไมฉันจะใช้ไม่ได้ " อรจิราแสร้งทำเป็นเดินมาห้ามลูกสาวตัวเอง " อย่าแพรมุก ยังไงเธอก็เป็นพี่ " จากนั้นอรจิราก็หันไปพูดกับขวัญพิชชา อีกไม่กี่เดือน จะถึงวันเกิดน้องแล้ว น้าก็เลยอยากเอาชุดของหนูขวัญให้น้องลองเพื่อใส่วันเกิด หนูก็รู้ว่าน้องไม่ค่อยมีชุดสวยๆใส่ แล้วน้องก็อยากได้ชุดของหนูขวัญ " " ฉันไม่เคยมีน้องสาว " ขวัญพิชชาพูดออกมาทันที " ยัยขวัญ ยังไงแกก็ควรเกรงใจน้าอรบ้างนะ เค้าดีกับแกขนาดนี้ " " ทำไมต้องเกรงใจคะ พอดีว่าหนูเป็นคนตรงๆ คิดยังไงก็พูดออกไปอย่างนั้น ไม่ได้ตอแหลเก่งเหมือนใครบางคน " คำพูดสุดท้าย ขวัญพิชชาจงใจหันไปมองหน้าอรจิรา อรจิรามองอย่างไม่พอใจ แต่ก็เก็บอาการ แสร้งทำเป็นห้ามสามี " ไม่เป็นไรหรอกคะ เธอไม่มีแม่คอยสอนก็เลยอาจจะก้าวร้าวไปบ้าง " ขวัญพิชชาโกรธ เธอไม่ชอบให้ใครมาพูดถึงแม่เธอ " อย่ามาพูดถึงแม่ฉันแบบนี้นะ บ้านหลังนี้มันบ้านแม่ฉัน อย่าคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ " " หยุดเดี๋ยวนี้นะ มาถึงก็มาก่อเรื่อง แล้วแกกลับมาทำไม " " ขวัญจะหย่า จะกลับมาอยู่บ้าน " เธอพูดหน้าตาเฉย " อะไรนะ ผัวรวยขนาดนั้นแกยังคิดจะหย่า แกโง่รึป่าวยัยขวัญ " ขวัญพิชชามองหน้าเกรียงไกรด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ที่คนเป็นพ่อ ไม่เคยแม้แต่จะสนใจใยดีเธอเลย " พ่อ ตั้งแต่หนูแต่งงานออกไป พ่อเคยถามหนูซักคำมั้ยว่าหนูอยู่ยังไง สบายดีรึป่าว มีความสุขดีมั้ย " " ฉันจะไปถามแกทำไม ผัวแกรวยขนาดนั้นมันก็ต้องมีความสุขอยู่แล้วสิ ใครๆก็ชอบเงินกันทั้งนั้น อยากได้อะไรก็ขอผัวแก แถมคุณหญิงใหญ่ท่านก็รักและเมตตาแกขนาดนั้น " " แต่เงินมันไม่ใช่ความสุขทั้งหมดในชีวิตหนูนะ หนูจะมีความสุขได้ยังไง ถ้ามีเงิน แต่คุณธามเค้าไม่เคยรักหนู " แพรมุกได้ยินแบบนั้นก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ' พี่ธามไม่เคยรักยัยขวัญพิชชางั้นเหรอ งั้นฉันก็มีโอกาสน่ะสิ ' แพรมุกจึงทำทีเข้าไปห้าม " คุณพ่อคะ แพรว่า ถ้าขวัญเค้าอยากจะหย่า ก็ปล่อยเค้าเถอะคะ " แกนี่มันโง่จริงๆเลย แต่งงานมาสี่ปีทำให้เค้ารักไม่ได้ " " ไม่รู้ล่ะ ยังไงหนูก็จะหย่า บอกคุณหญิงย่าไปแล้ว หนูจะกลับมาอยู่บ้าน สินสมรสหนูจะคืนเค้า หนูบอกคุณธามไปแล้ว คุณธามจะเซ็นหย่า ก็ต่อเมื่อได้สินสมรสคืนทั้งหมด " ทั้งเกรียงไกร อรจิรา และแพรมุก มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครกล้าพูด ขวัญพิชชามองอย่างผิดสังเกต เธอรู้สึกได้ว่ามันไม่ค่อยปกติ " สินสมรสหนูอยู่ไหนคะ " เงียบไปนาน เกรียงไกรจึงตัดสินใจพูดออกไป " ฉันเอาไปลงทุนหมดแล้ว " ขวัญพิชชาตกใจกับความจริงข้อนี้ เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย " อะไรนะ !!! พ่อเอาสินสมรสหนูไปลงทุนงั้นเหรอ ทำไมพ่อทำแบบนี้ " " แล้วใครจะไปคิดว่าแกจะหย่า ผัวรวยขนาดนี้ยังจะหย่า แก่นี่โง่จริงๆเลย " " แต่พ่อก็ไม่ควรเอาสินสมรสหนูไปผลาญแบบนี้ แล้วที่พ่อไปขอเงิน ขอที่ดิน ขอทรัพย์สินคุณธามโดยเอาชื่อหนูไปอ้าง เลิกซักทีนะคะ " " ฉันเป็นพ่อแก แกไม่ต้องมาสอน " " พ่อที่ไม่สนใจใยดี พ่อที่สร้างชื่อเสียงที่ไม่ดีไว้กับลูก ทำให้คนอื่นเข้าใจลูกตัวเองผิด เอาชื่อลูกไปหากิน มีพ่อแบบนี้ ไม่มีดีกว่า ... " " นังขวัญ " เสียงคำรามอย่างโกรธจัดที่ดังพร้อมๆกับฝ่ามือที่ฟาดลงไปบนใบหน้าของขวัญพิชชาอย่างแรง จนหญิงสาวเซถลาลงไปกองกับพื้น และโดยไม่มีใครคาดคิด " ขวัญ !!! " ร่างสูงใหญ่รีบเข้าไปประคองหญิงสาวขึ้นมา ธามธารามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ขวัญพิชชามองอย่างตกตะลึง " คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง " ธามธาราไม่ตอบ แต่หันไปเผชิญหน้ากับเกรียงไกร เกรียงไกรตกใจทำอะไรไม่ถูก ท่าทีดุดันเมื่อสักครู่ เปลี่ยนเป็นนอบน้อมทันที " เอ่อ ... คุณธามครับ ไม่มีอะไรครับ ผมแค่สั่งสอนลูกสาวผมนิดหน่อย " ธามธารามองอย่างโกรธจัด " สั่งสอนงั้นเหรอ ? " " เอ่อ .. ครับ " เกรียงไกรอึกอัก " ภรรยาผมทำอะไรผิดถึงต้องสั่งสอนงั้นเหรอ " ธามธารามองอย่างคาดคั้น สองมือกอดประคองขวัญพิชชาไว้แน่น ในขณะที่ขวัญพิชชาพยายามขัดขืนอยู่เงียบๆ ส่วนเกรียงไกรไม่กล้าตอบ .. แพรมุกมองท่าทีของทั้งคู่ด้วยความอิจฉา ' ท่าทางไม่เห็นเหมือนคนจะหย่ากันเลย ' อรจิราเห็นท่าไม่ดีจึงเข้ามาห้าม " ไม่มีอะไรหรอกคะคุณธาม แค่พี่น้องทะเลาะกันนิดหน่อย " เกรียงไกรเห็นเช่นนั้นจึงพยักหน้า และพยายามเปลี่ยนเรื่อง " อ่าๆ... ใช่ๆครับ คืออีกไม่กี่เดือน จะถึงวันเกิดแพรมุก พวกเราอยากขอให้คุณธามช่วยจัดงานวันเกิดให้เธอหน่อยในฐานะ ... "/" ในเมื่อแพรมุกก็ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของขวัญพิชชา จะให้ผมจัดงานวันเกิดให้เธอในฐานะอะไรครับ " ธามธาราพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เกรียงไกรจะพูดจบ ทำให้แพรมุกหน้าเสีย พูดออกมาอย่างตัดพ้อ " พี่ธามรังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอคะ " ธามธาราไม่สนใจคำพูดของแพรมุก ไม่มีใครพูดอะไรต่อ ธามธาราจึงหันไปพูดกับขวัญพิชชา " กลับบ้าน " พร้อมหันไปสั่งไกด์ " ยกกระเป๋าคุณขวัญขึ้นรถ " ไกด์ไม่รอช้า รีบทำตามทันที แล้วธามธาราก็เดินกอดเอวพาขวัญพิชชาออกไป ในขณะที่ขวัญพิชชาพยายามขัดขืน แกะมือเขาออก แต่เขาไม่ยอม ด้านธามธารา ..... ธามธาราตามขวัญพิชชามาที่บ้าน เพื่อพาเธอกลับ เขาบังเอิญเข้ามาได้ยินการสนทนาทั้งหมดของครอบครัวนี้ เขาเองก็พึ่งรู้ว่าหญิงสาวมีชีวิตเช่นไร ขวัญพิชชาไม่รู้เรื่องที่ครอบครัวมักมาขอเงินโดยใช้ชื่อของเธอ เธอไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องที่สินสมรสของเธอ ถูกเอาไปถลุงจนหมด ทำให้เขานึกถึงคำที่คุณย่าเคยบอกเขาก่อนแต่งงาน " น้องน่าสงสาร " ตอนนั้นเขาไม่รู้อะไรเลย เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณย่าถึงอยากให้เธอออกมาจากบ้านหลังนี้ ทำไมคุณย่าถึงสงสารเธอ ด้านขวัญพิชชาที่พยายามต่อต้านเขาจนมาถึงที่รถ " คุณปล่อยฉันได้แล้ว คุณมาที่นี่ทำไม " " เมียหนีมาเลยมาตามเมียกลับบ้าน " ขวัญพิชชามองหน้าเขากำลังอ้าปากจะเถียง ธามธาราก็พูดขึ้นมาก่อน " ตราบใดที่ทะเบียนสมรสยังทำงาน ฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง เธอไม่มีสิทธิ์ขนของออกจากบ้าน จนกว่าจะหย่า และถ้าอยากจะหย่า ก็เอาสินสรสทั้งหมดมาคืนให้ครบ " ธามธารามองหน้าขวัญพิชชาอย่างเป็นต่อ ในขณะที่ขวัญพิชชาทำอะไรไม่ได้ จำต้องยอมขึ้นรถกลับไปกับเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD