บทที่ 1 แสนชัง02

1247 Words
เสียงที่หลุดออกมาจากริมปากหยักได้รูป ทำให้ภาธรกระตุกยิ้มอย่างได้ใจ ไม่นานอาภรณ์ที่อยู่บนตัวของปวริศาก็ค่อยๆหลุดออกมาจากตัวทีละชิ้น แม้จะต่อต้าน ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เธอดันไหล่กว้างให้ออกห่าง กลับถูกแนบชิดมากกว่าเก่า เสียงจากริมฝีปากเล็กถูกปล่อยออกมาไม่หยุด ไม่ต่างจากภาธรที่หลุดคำรามออกมาเสียงต่ำเมื่อได้เข้าชิดจนเป็นหนึ่ง การแสดงออกของเขามันเร่าร้อนราวกับต้องการเผาร่างเล็กให้ไหม้เป็นจุณ สะโพกยังขยับเคลื่อนไหวอยู่ตลอด มันร้ายยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด หยาดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าของคนทั้งคู่ ถึงมันจะอบอวลด้วยความหอมหวานในบางขณะ แต่บางครั้งก็อยากจะร้องไห้ เนื่องจากบทรักของเขามันร้าย ที่สำคัญมันดึงศักดิ์ศรีของหล่อนให้พังพินาศลงไปหมด ในวินาทีนี้ความเสียใจจึงคืบคลานเข้าหาและปวริศาไม่รู้ว่าพายุลูกนี้จะจบลงอย่างไร กว่าเปลือกตาบางจะกะพริบถี่และเปิดขึ้นก็เป็นช่วงสายของเช้าวันใหม่ ในห้องนี้เหลือไว้แต่ความมืดเพราะม่านสีทึบยังถูกปิดและทิ้งกลิ่นจางๆของควันบุหรี่ ซึ่งคงมาจากเขา “ฮึก…” ปวริศาริมฝีปากสั่นระริกอย่างคนพ่ายแพ้ น้ำตาที่เหือดแห้งไปมันกลับมาอีกหน ครั้งนี้หนักกว่าเก่า เพราะในครั้งนี้เหมือนเขากำลังเอาใจของหล่อนมาเขย่าเล่นอย่างนึกสนุก ไม่ได้แคร์ความรู้สึกกันแม้สักนิด หญิงสาวพาใจที่ช้ำลงจากเตียงแล้วเข้าไปในห้องน้ำ สักยี่สิบนาทีก็ออกมาในชุดเดิมและมองหากระเป๋าใบย่อมที่ติดตัวมา ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ใด วินาทีที่ต้องพึ่งแสงสว่างก็ทำให้ใจชาหนึบ บางสิ่งที่ไม่อยากจะเห็นกลับปรากฏเด่นชัดในสายตาและความรู้สึก เพราะมันมีอยู่ทั่วมุมห้อง ความรู้สึกในวินาทีนี้ละม้ายคล้ายมีคนเอาเข็มมาตอกลงกลางใจ ในห้องนี้ล้วนมีรูปคนสำคัญของเขาความริษยาพุ่งขึ้นมาเป็นริ้วๆ น้ำตาอุ่นร้อนกำลังจะร่วงหล่น ทว่ามือนุ่มก็ปาดมันทิ้ง เนื่องจากร้องไห้ไปก็เปล่าประโยชน์ ปวริศาหลุดออกจากภวังค์เนื่องด้วยมีสายเรียกเข้าและปลายสายก็คือบุคคลสำคัญ “หนูหวาน ฝากบอกเจ้าธรหน่อย พ่อติดต่อเจ้าธรไม่ได้ พ่ออยากให้ธรกินข้าวด้วยกันเย็นนี้” ปลายสายเอ่ยบอก เพราะโทร.ไปก็ไม่มีการรับสายจากคนเป็นลูก ปวริศาเงียบไป ริมฝีปากเม้มแน่น เพราะอยากจะปฏิเสธ การเลี่ยงให้ท่านไม่เจอกับลูกชายในตอนนี้คงจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นหัวใจของท่านอาจจะระบมไม่ต่างจากเธอ แต่หล่อนจะปฏิเสธมันได้อย่างไร ในเมื่อพ่ออยากเจอหน้าลูกชาย หญิงสาวเศร้าละอายต่อบุญคุณที่ท่านมีให้ ความหวังเล็กๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้สรวิศมีชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข ที่ฝากให้ทำให้สำเร็จ แต่เธอกลับทำมันไม่ได้ แถมตอนนี้หล่อนก็ไม่กล้าจะทำร้ายจิตใจของสรวิศ “ไม่สะดวกหรือเปล่าหนูหวาน” “เปล่าค่ะ เดี๋ยวตอนเที่ยงหวานจะไปบอกคุณธรให้นะคะ” แย้งกลับเพราะไม่อยากให้คิดมาก “ขอบคุณจ้ะหนูหวาน” น้ำเสียงของสรวิศดีขึ้น เพราะเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอบุตรชาย เนื่องจากตนต้องไปอยู่ต่างประเทศ ด้วยสาเหตุหนึ่งที่ยังไม่คิดจะบอกให้คนใกล้ตัวได้ล่วงรู้ “ค่ะ” แม้จะตอบรับไป ปวริศาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ และคิดว่าเขาอาจจะมีข้อแลกเปลี่ยนที่ร้ายกาจ ซึ่งเธอคงจะปฏิเสธมันไม่ได้ หญิงสาวเร่งรีบออกไปแล้วกลับไปที่ห้องเช่าซึ่งย้ายมาอยู่ตั้งแต่สถานะสมรสกลายเป็นหย่าร้าง เพื่อเปลี่ยนชุดใหม่และไปเริ่มงาน “พี่ฝนคะหวานมาขอพบคุณธรค่ะ” ปวริศาแจ้งความประสงค์กับเลขาฯ สุดเก่งของภาธร พร้อมกับระบายยิ้มทักทายตามประสาคนร่วมงานกัน “สักครู่นะคะน้องหวาน” อรณิชาต่อสายเข้าไปแจ้งเจ้านายฉับไวและชั่วครู่ต่อมาก็ได้คำตอบ “คุณธรบอกให้น้องหวานนั่งรอก่อนค่ะ พอดีคุณธรคุยอยู่กับ...คนสำคัญ” ปวริศาถอยเท้ามานั่งรอที่หน้าห้อง โดยไม่ได้เอะใจกับคำว่าคนสำคัญ จนกระทั่งบานประตูห้องนั้นถูกเปิดออก คนที่ออกมากลับไม่ใช่ภาธร และนั่นทำให้ปวริศานิ่งงันไป ไม่ต่างจากใจที่เต้นช้าลงซึ่งมาพร้อมกับความเจ็บแปลบ คนที่ออกมาก็ชะงักไปเช่นกัน สุดท้ายก็เลือกจะเดินผ่านหน้าของปวริศาไป โดยที่ไม่ได้ทักทาย ส่วนปวริศาหลุบตาต่ำพร้อมกับความละอายในหัวใจ ต่อให้มีอะไรมากลบเกลื่อนก็ไม่สามารถสู้กับความรู้สึกนี้ได้ เพราะเธอคือตัวต้นเหตุที่ผลักไสใครคนนี้ให้ชีวิตดิ่งลงเหว เมื่อเสียงฝีเท้าพ้นผ่านไป หญิงสาวก็เหลือบไปมองหน้าเจ้าของห้องซึ่งเดินตามออกมา พบว่าภาธรกำลังมองมาเช่นกัน สีหน้าคมนั้นเจือไปด้วยความขุ่นเคือง ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าเธอไปยังทางหนีไฟ แม้ว่าหญิงสาวอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลก็ทำไม่ได้ เพราะความหวังที่สรวิศฝากไว้อยู่ในมือ ชายหนุ่มหยิบมวนบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาจุดไฟ ก่อนจะอัดมันเข้าปอดเพราะความเครียด ที่แห่งนี้คือที่ประจำของเขา สายตาคู่ขุ่นมัวมองออกไปนอกหน้าต่าง ปวริศาเห็นความตึงเครียดทั้งจากทางสีหน้าและแววตาของคนตรงหน้าแม้จะมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้ว หญิงสาวก็ยังเงียบเพราะกำลังรวบรวมความกล้า ก่อนจะเห็นว่าเขาพยายามจะกระชากเนกไทให้คลายออกมาแล้วปลดกระดุมเสื้อเล็กน้อย ราวกับเขาร้อน หล่อนว่าเขาคงร้อนรุ่มเพราะ…คนสำคัญ ชั่วอึดใจต่อมาก็ได้ยินชายหนุ่มเค้นเสียงเข้มออกมา “ธุระ” ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ได้ว่าอกเขาใกล้จะระเบิด เพียงไม่รู้ว่าเรื่องใด “คุณท่านให้มาชวนไปทานข้าวเย็นค่ะ ท่านติดต่อคุณธรไม่ได้เลยขอให้หวานมาบอก” “ทำหน้าที่เป็นตัวสื่อกลาง?” พอได้ฟังธุระที่ว่า ภาธรก็นึกขันกับความพยายามของคนด้านหลังที่ทำมาตลอดสองปี แม้ผลลัพธ์จะไม่เคยสำเร็จก็ตาม “ค่ะ ไปหาท่านหน่อยนะคะ หวานขอ” “ขอ?”ภาธรหันมาถาม วางสีหน้าเรียบ “คงให้ไม่ได้ มีอะไรมาแลกหรือเปล่า” “หัวใจหวานที่จะให้คุณเหยียบ” “ให้ขนาดนั้น?” ปวริศาพยักหน้า เพราะตอนนี้มันก็เหมือนโดนเหยียบย้ำที่หัวใจอยู่แล้ว เพิ่มไปอีกนิด ก็คงไม่ตายหรอก “อืม เอาสิ ฉันจะไป” “ค่ะ” ปวริศาหมุนตัวกลับ ประโยคถัดมาจากเขานั้นรั้งให้หญิงสาวต้องหยุด ซึ่งมาพร้อมกับใจที่ระบม “จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าป่านมาทำไม” ป่าน หรือมาติกา คนสำคัญคนเดียวที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจดวงร้ายๆของคนพูดได้ และเป็นเจ้าของภาพทุกภาพที่อยู่ในคอนโดฯ เขา คนพูดช่างใจมืดดำ เขาถามเพื่อให้เธอเจ็บ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD