บทที่1-3 อาจารย์หมอวีรภัทร

1338 Words
“นี่เธอจะว่าฉันแก่ใช่ไหมยะคุณน้องดา” “ดาเปล่าพูดนะคะ” ชยุดาแสร้งทำสีหน้าเลิกลั่ก กันตาส่งค้อนวงใหญ่มาให้พลางถอนหายใจ ส่วนภัคร์พิมลนั้นกำลังหัวเราะร่วนหลังจากที่เจ้าตัวกลืนข้าวลงคอไปเรียบร้อยแล้ว “เออนี่ พี่ว่าหมออินเทิร์นปีหนึ่งคนนี้ก็เก่งอยู่นะ ตัดสินใจให้การรักษาได้เร็วและใส่ใจคนไข้ดี” “ใช่ค่ะ ดาเห็นด้วย” ชยุดาพยักหน้าอย่างมีส่วนร่วมก่อนจะหันมาหาภัคร์พิมลที่จัดการอาหารจนเกลี้ยงชามแล้ว “แล้วพายน์ล่ะ คิดว่าไง” “พายน์ก็ว่าหมอเค้าก็โอเคอยู่นะคะ ตัดสินใจได้เร็ว ไม่ลังเล และแผนการรักษาก็ดีต่อคนไข้ ได้หมอดีและเก่ง โอกาสรอดของคนไข้ก็สูงขึ้น แม้ว่าจะไม่อาจช่วยได้ทุกรายก็เถอะ” ภัคร์พิมลบอกออกไปตามความคิดของตัวเอง การที่คนไข้ได้เจอกับหมอเก่งๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ไม่ใช่ทุกรายที่จะรอด ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนไข้ด้วย นั่นคือความจริงที่ไม่อาจเลี่ยงได้ “ว่าแต่หมออินเทิร์นปีสองกับปีสามไปไหนกันหรือคะ ไม่เห็นมาช่วยหมอน้องเลย” หมอน้องที่ชยุดากล่าวถึงก็คือแพทย์ใช้ทุนปีหนึ่ง ที่พยาบาลมักจะเรียกแพทย์จบใหม่ซึ่งก็คือแพทย์อินเทิร์นปีหนึ่งว่าหมอน้อง และแพทย์ใช้ทุนปีสองและปีสามก็จะถูกเรียกว่าหมอพี่ โดยส่วนนี้อาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล “เห็นว่าลาไปทำธุระส่วนตัวน่ะ” กันตาบอก “ถ้างั้นวันนี้ถ้าคนไข้มีปัญหาแล้วหมอน้องจัดการไม่ได้เราก็ต้องโทร.โนทิไฟ*อาจารย์วีรภัทรใช่ไหมคะ” เป็นภัคร์พิมลที่ถามขึ้น กันตากับชยุดาถึงกับหรี่ตามองภัคร์พิมลคล้ายจับผิด ก่อนที่ชยุดาจะพูดขึ้นว่า “แหมพายน์ ถามแบบนี้คิดอะไรกับอาจารย์หมอวีรภัทรรึเปล่าน้า” “นั่นน่ะสิ พี่แอบเห็นนะว่าเราน่ะชอบโทร.ไปโนทิไฟอาจารย์หมอวีรภัทรอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่จริงน่ะต้องรายงานหมอน้องก่อนไม่ใช่หรอกเหรอ แต่ถ้าออร์เดอร์ของหมอน้องไม่เข้าท่าค่อยโทร.ปรึกษาอาจารย์” กันตาเสริม “แค่กๆ” ได้ยินแบบนั้นภัคร์พิมลที่กำลังดูดน้ำในขวดถึงกับเกิดอาการสำลักขึ้นมา หญิงสาวยกมือขึ้นทุบอกของตัวเองไปสองสามทีพอให้หายจุก “แหมถึงกับสำลักน้ำเชียวนะ” ชยุดาแซว “นั่นน่ะสิ อย่างนี่เขาเรียกว่ามีพิรุธนะพายน์” กันตาเสริม “แต่เผื่อใจไว้หน่อยก็ดีพี่ว่าอาจารย์หมอวีรภัทรน่ะเค้าไม่ได้ชอบผู้หญิงหรอก” “ทำไมล่ะคะ” ภัคร์พิมลถามอย่างใคร่รู้ กันตามองยิ้มๆ แล้วบอกว่า “ก็ตั้งแต่พี่รู้จักอาจารย์หมอวีรภัทรมานะ ยังไม่เคยเห็นอาจารย์หมอเค้ามีแฟนเลย ไม่มีเลยสักคน ที่เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดก็มีแต่อาจารย์หมอวินธัย” “พี่ตาหมายถึงอาจารย์หมอวินธัยที่เป็นหมอออร์โธน่ะหรือคะ” ภัคร์พิมลถาม “ใช่” กันตาตอบ “เค้าอาจจะเป็นแค่เพื่อนสนิทกันเฉยๆ ก็ได้นะคะ” ภัคร์พิมลบอกไม่เต็มเสียงนัก พอได้ยินกันตาบอกแบบนั้นเธอเองก็เริ่มไม่ค่อยมั่นใจแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ เพราะว่าเธอเองก็มักจะเห็นวีรภัทรกับวินธัยไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง “เพื่อนสนิทน่ะก็ใช่ แต่ตัวติดกันขนาดนั้นน่ะน่าคิดน้อยอยู่เสียเมื่อไหร่กันล่ะ” กันตาว่า ชยุดาที่ฟังอยู่นานก็ออกความเห็นบ้าง “แถมเมื่อก่อนมีอาจารย์หมอสหทรรศด้วยนะคะ ไปไหนมาไหนสามคนตลอด จนดาน่ะเผลอคิดอกุศลไปว่าพวกเขาน่ะเป็นแบบ…” “แบบอะไรคะ” ภัคร์พิมลถามอย่างใคร่รู้ “ก็แบบ…” ชยุดาเบาเสียงลงพลางมองซ้ายมองขวาเพราะเกรงว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า “สามพี (3P) ไง” “เดี๋ยวนะ อะไรคือสามพี” กันตาถามด้วยสีหน้างุนงง แต่ในฐานะคนที่อ่านนิยายอย่างภัคร์พิมลเข้าใจดีว่า 3P มาจากคำว่า Three people หญิงสาวไม่ทันได้อ้าปากอธิบาย ชยุดาก็ชิงอธิบายก่อน “สามพีก็คือแบบ...เราสามคนรักกันไงคะพี่ตา” “ถามจริง?” กันตาถามเสียงหลง “ใช่คะ” ชยุดาพยักหน้าหงึกๆ “พายน์เข้าใจใช่ไหม” “เข้าใจค่ะ” “เห็นไหมล่ะ เมื่อก่อนน่ะสามคนนั้นตัวติดกันตลอด พี่เจอข้างนอกอยู่บ่อยๆ เพราะอาจารย์หมอสหทรรศน่ะเป็นกุมารแพทย์อยู่โรงพยาบาลวรกุลอินเตอร์เนชั่นนอล เจอบ่อยสุดก็ที่คริสตัลไนต์คลับ สามหมอไปบ่อยมาก” “เจอบ่อยแสดงว่าดาก็ต้องไปบ่อยใช่ไหมล่ะ” กันตาถามยิ้มๆ “ไม่ปฏิเสธค่ะเพราะดาคือพยาบาลสายตื๊ด ตื๊ด ตื๊ดๆๆๆ ตื๊ดๆๆๆ” ชยุดาไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังทำท่าเต้นประกอบจังหวะ ทำเอากันตากับภัคร์พิมลหัวเราะร่วน ก่อนที่ชยุดาจะพูดขึ้นว่า “แต่ตอนนี้เรื่องสามพีตัดออกไปได้ละเพราะว่าอาจารย์หมอสหทรรศเพิ่งจะแต่งงานไปสี่เดือนก่อน” “งั้นก็แสดงว่าพวกเขาก็เป็นแค่เพื่อนกันแค่นั้นใช่ไหมคะ” ภัคร์พิมลถาม ประกายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวัง หวังว่าจะได้ยินคำตอบที่ตนเองอยากได้ยินทว่า “ไม่ได้สามพีก็สองพีไงจ๊ะ” “สองพีอะไรอีกล่ะ พี่ตามไม่ทัน” กันตาว่าพลางทำหน้าฉงน “ก็รักที่มีกันสองคนไงคะ รักแบบคู่รักทั่วไปนั่นแหละค่ะ คิกๆ” ชยุดาแสร้งปิดปากหัวเราะ “แต่ดาไม่รู้หรอกนะคะว่าใครรุกว่าใครรับ แต่ถ้าให้เดาคนที่รุกน่าจะเป็นอาจารย์หมอวีรภัทรนะคะ เพราะอาจารย์หมอวินธัยน่ะดูออกเนิร์ดๆ หน่อย” “พอเลยดาวิเคราะห์แบบถึงพริกถึงขิงเกินไปละ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า อาจารย์หมอเค้าจะเสียหาย” กันตาบอกพร้อมๆ กับตอนที่เหลือบสายตามองนาฬิกาแขวนผนัง ส่วนชยุดานั้นมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อยเพราะรู้ว่าตนสนุกปากมากไปหน่อย “หมดเวลาพักละพี่ออกไปก่อนนะ” “ค่ะ” ภัคร์พิมลรับคำ กันตาส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักที่เป็นทั้งห้องเก็บของของเจ้าหน้าที่และห้องกินข้าว “งั้นเราไปกันดีกว่าค่ะพี่ดา” “เดี๋ยวก่อน พี่ขอเมาธ์เรื่องอาจารย์หมอวีรภัทรอีกนิด” “เรื่องอะไรคะ” “พี่ได้ข่าวมาว่าคุณหญิงแม่ของอาจารย์หมอวีรภัทรน่ะกำลังจะนัดผู้หญิงมาให้ลูกชายดูตัว เพราะลูกชายไม่ยอมมีแฟนสักที” ชยุดาทิ้งจังหวะแล้วเหลือบสายตามองนาฬิกาแขวนผนังที่บอกว่าเวลาพักได้ล่วงเลยมาราวๆ ห้านาที “ไปละ เดี๋ยวพี่ตากินหัวเอา” ชยุดาหัวเราะคิกคักก่อนจะเดินออกไป ทิ้งภัคร์พิมลที่มีสีหน้ายุ่งเหยิงเอาไว้เบื้องหลัง ความสับสนและความกังวลใจก่อตัวขึ้นฉับพลัน นอกจากมีแนวโน้มว่าอาจารย์หมอวีรภัทรจะไม่ชอบผู้หญิงแล้ว คุณหญิงแม่ของเขาก็กำลังจะหาคู่ให้เขาอีก ภัคร์พิมลถอนหายใจก่อนจะก้าวออกจากห้องไป โดยคิ้วได้รูปที่เคยขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นปมถูกคลายออก กลับมาเป็นสีหน้าราบเรียบตามเดิม _______________________________ *notify(โนทิไฟ) แปลว่าแจ้ง การ notify แพทย์ก็คือการแจ้งให้แพทย์รับทราบ ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะแพทย์และพยาบาลมักจะใช้คำพูดทับศัพท์เวลาคุยกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD