2
[DENIS]
ต้นเรื่อง
เดมี่หยิบมือถือออกมาเล่น เธอง่วนพิมพ์เร็วๆอยู่คนเดียว ฉันฟังเสียงแป้นพิมพ์และเสียงถอนหายใจของเธอก็รู้แล้ว ตอนนี้คงกำลังฟ้องใครสักคนอยู่ ไม่คุณพ่อ ก็คุณแม่ หรืออาจจะเป็นคุณปู่คนที่สปอยล์เธอสุดๆ
แต่ฉันไม่สนใจหรอก จะใครก็เข้ามาได้เลย เพราะฉันทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นสิ่งที่พี่ควรจะทำเพื่อปกป้องน้อง
•••
-ตึกไลออน-
"เดนิสไม่ควรมีเรื่องในที่สาธารณะ" ใช่... เธอฟ้องคุณพ่อ และตอนนี้ท่านก็ขึ้นมาถึงห้องเพนท์เฮาส์เพื่อตักเตือนฉัน
"หนูรู้ดีค่ะว่าไม่ควร แต่คุณพ่อต้องสอนลูกสาวคนเล็กของคุณพ่อให้หยุดทำตัวทดสอบชีวิตสักที"
เดมี่เกาะแขนคุณพ่อและเดินไปแอบอยู่ด้านหลัง เธอโผล่แค่ตาออกมาให้ฉันเห็นเท่านั้น
"เดมี่แค่อยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง เดมี่อยากมีชีวิตของตัวเอง"
"ถ้างั้นก็ให้บอดี้การ์ดติดตาม" ฉันเอ่ยอย่างเด็ดขาด จนยัยเด็กนั่นทำตาโต
"นะ นั่น... ไม่ต่างอะไรกับขังคุกนะคะเจเจ้"
ฉันตวัดตามองน้องสาวด้วยสายตาราบเรียบ พูดไม่ฟัง เตือนไม่จำ ถ้าไม่ใช่น้องสาวฉัน ฉันจับโยนลงจากตึกไปแล้ว
"เอาล่ะ หยุดทะเลาะกัน ต่อไปนี้เดมี่ต้องให้บอดี้การ์ดติดตาม ส่วนเดนิสต้องมีความอดทนมากกว่านี้"
ฉันก้มคำนับเล็กน้อยรับฟังคำเตือนของคุณพ่อ แต่เดมี่หน้างอ และที่สำคัญรีบหันหลังเดินเข้าห้องทันที ซึ่งนั่นทำให้คุณพ่อนวดหว่างคิ้วกลุ้มใจ
ท่านคงเหนื่อยที่รีบมาเคลียร์ปัญหาให้ เพราะไม่ได้อยู่ที่นี่ พอฉันโตช่วยเหลือตัวเองได้ก็ออกไปสร้างบ้านอยู่กับคุณแม่ข้างนอก ยกเพนท์เฮาส์ให้ฉันกับเดมี่อยู่ด้วยกัน
"เดนิสพ่อมีอะไรจะคุยกับลูก"
"ได้ค่ะคุณพ่อ"
ฉันเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วรินวิสกี้ให้ท่าน จากนั้นรินให้ตัวเอง มือใหญ่ของเจ้าพ่อมาเฟียคลึงวิสกี้กับก้อนน้ำแข็งช้าๆ ขณะที่สายตาจ้องมองไปที่ของเหลวสีชาราวกับใช้ความคิด
"คุณพ่อมีธุระอะไรจะคุยกับหนูคะ" ฉันเข้าเรื่อง
"พ่อจะพาแม่ไปอยู่ที่จันทบุรีสักสองเดือน"
คุณแม่เป็นคนจังหวัดจันทบุรี ท่านจะกลับไปเยี่ยมคุณยายบ่อยแทบจะทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ฉันแปลกใจทำไมไปอยู่ตั้งสองเดือน
"ที่จันทบุรีมีอะไรรึเปล่าคะ"
"ยายของลูกไม่ค่อยสบาย ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงแต่แม่เราไม่สบายใจอยากไปดูแลด้วยตัวเอง ซึ่งพ่อไม่อยากขัดใจ ไม่อยากให้แม่คิดมาก ก็เลยจะไปอยู่ที่นั่นจนกว่าคุณยายจะหายดี"
เข้าใจแล้ว...
"ไปเถอะค่ะ คุณพ่อไม่ต้องห่วงทางนี้ หนูจัดการได้"
"ตอนแรกพ่อก็คิดแบบนั้น แต่วันนี้ลูกกับเดมี่มีปัญหากัน ถ้าพ่อไม่อยู่จะไม่มีปัญหากันอีกใช่ไหม?"
ฉันยิ้มที่มุมปากแล้วยกวิสกี้ออนเดอะร็อคดื่ม เรื่องฉันกับเดมี่ถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าขืนเธอยังไม่ฟังฉันต้องบังคับเธอเหมือนวันนี้อยู่แล้ว
"สบายมากค่ะ แค่เดมี่หนูคุมได้"
"ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี พ่อจะได้สบายใจ"
หลังจากนั้นฉันก็นั่งดื่มกับคุณพ่อคุยเรื่องธุรกิจที่กำลังรับผิดชอบอยู่ กลุ่มไลออนเป็นมาเฟียที่รักความถูกต้อง สายขาว ทำแค่ธุรกิจถูกกฎหมายเท่านั้น เราทำโลจิสติกส์ และทำอสังหาริมทรัพย์ซื้อตึกปล่อยเช่า ทำโครงการบ้าน นอกจากนั้นยังมีธุรกิจร้านอาหารของคุณพ่อคุณแม่หลายสาขา รวมถึงการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัย LDZ ที่เดมี่กำลังเรียนอยู่ด้วย
คุณพ่อมีน้องอีกสองคน นอกจากท่านจะเป็นคนโต ยังมีอาแทนขวัญที่ไปแต่งงานกับมาเฟียดรากอนที่ตอนนี้เป็นพันธมิตรกันอยู่ ส่วนอาแทนทิวคนเล็กสุดนอกจากจะเอาดีเรื่องธุรกิจรถนำเข้ายักษ์ใหญ่ ยังให้ลูกชายคนโตอย่างเท็กซัสมาช่วยฉันบริหารไลออนด้วย
จริงๆญาติฉันเยอะกว่านี้ ให้พูดถึงคงสิบหน้ากระดาษ
'ก๊อก ก๊อก ก๊อก'
"คุณเดมี่คะ ออกมาทานมื้อค่ำได้แล้วค่ะ"
'ก๊อก ก๊อก ก๊อก'
"คุณเดมี่ คุณเดนิสรอแล้วนะคะ"
ฉันหยิบส้อมกับช้อนขึ้นมาแล้วมองไปที่แม่บ้านที่เคาะประตูห้องเดมี่อยู่
"ไม่ต้องเรียก อยากอดให้อดไป"
"แต่ว่า..."
"ไม่ฟังที่ฉันพูดรึไง?"
"ค่ะๆ"
แม่บ้านก้มหน้าลงทันที ก่อนที่จะรีบถอยออกไปห่างๆจากประตูห้องเดมี่ การอดข้าวประท้วงไม่ใช่ครั้งแรก ฉันล่ะเบื่อยัยเด็กนี่จริงๆ เอาแต่ใจชะมัด ถ้าเป็นลูกฉันนะจะตีให้ตายคามือ
•••
ช่วงบ่ายวันต่อมา...
"เรือเข้าท่าแล้วครับคุณเดนิส ตอนนี้กำลังเช็คความเรียบร้อยก่อนนำส่งลูกค้าครับ" ฉันรับเอกสารจากมือขวามาดู
"ไม่เจออะไรผิดปกติใช่ไหม"
"ไม่มีครับ และไม่เจอยาเสพติดที่ซุกซ่อนเข้ามา ทางเราใช้สุนัขดมกลิ่นดมสำรวจทุกพื้นที่แล้วครับ"
ฉันพยักหน้าแล้วอ่านเอกสารอย่างละเอียด เรื่องนี้พลาดไม่ได้ ถึงฉันจะเป็นมาเฟียที่ทำธุรกิจถูกกฎหมาย แต่บางครั้งความสำเร็จก็ชอบไปขัดขาคนอื่น เรื่องของผิดกฎหมายจึงต้องระวังเป็นพิเศษ พวกไม่หวังดีอาจจะนำมาซุกไว้และแจ้งตำรวจตรวจค้นเมื่อไหร่ก็ได้
"นอกจากตู้คอนเทนเนอร์ ให้สุนัขดมกลิ่นลงไปใต้ท้องเรือ เช็คห้องพักคนงาน ห้องน้ำอย่างละเอียด และต่อไปนี้ต้องมีขั้นตอนนี้ทุกครั้งที่เรือเข้า"
"เอ่อ... ผะ ผมเกรงว่าจะทำให้เรือที่รอเข้าท่าเกิดการล่าช้าครับ" ฉันมองหน้ามือขวาตัวเองทันที
"ช้ากับชัวร์ควรเลือกอะไร? ฉันต้องการให้ทุกคนรอบคอบที่สุด นี่คือคำสั่ง"
"ครับคุณเดนิส"
ฉันไม่เซ็นเอกสารส่งคืนให้มือขวา เพราะต้องการออกไปกำชับที่ท่าเรือด้วยตัวเอง จึงหยิบปืนในลิ้นชักออกมาเช็คกระสุนแล้วซ่อนเก็บไว้ที่สายรัดตรงขาอ่อนเหมือนเคย ก่อนจะเดินนำออกไปจากห้องทำงานไปที่ลิฟต์
"เดมี่ออกไปเรียนรึยัง" ฉันถามระหว่างที่ลิฟต์เคลื่อนลง
"ออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วครับ มีบอดี้การ์ดติดตามสองคนครับ"
"ดี บอกบอดี้การ์ดเว้นระยะห่างด้วย เดี๋ยวอึดอัดแล้วมาโวยวายอีก"
"ได้ครับคุณเดนิส"
'ติ๊ง~'
ลิฟต์เปิดที่ชั้นหนึ่ง แต่เมื่อฉันก้าวออกไปก็เห็นเดมี่อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกัน แต่การแต่งตัวแตกต่างกับน้องสาวฉัน กระโปรงทรงเอสั้นเสมอหู ผมสีฉูดฉาด ริมฝีปากทาลิปสติกสีแดงแต่งหน้าจัดจ้าน
ฉันไม่ตัดสินคนที่ภายนอก เดินไปหาน้องสาวตัวเองที่ทำหน้างออยู่
"ทำไมวันนี้กลับมาเร็ว" ฉันถาม
"ก็เดมี่โดนสั่งห้ามไม่ให้ทำอะไรตามอำเภอใจนี่คะ"
"แล้วนี่ใคร?" ผู้หญิงคนนั้นยกมือไหว้ฉันแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"สวัสดีค่ะหนูชื่ออ้อแอ้ เป็นเพื่อนเดมี่ค่ะ" เพื่อน? นี่น้องสาวฉันคบเพื่อนที่แซ่บขนาดนี้เลยเหรอ
"เจเจ้วันนี้มีงานเลี้ยงสายรหัส หนูขอไปงานเลี้ยงนะคะ เจเจ้จะให้บอดี้การ์ดทั้งไลออนตามติดก็ได้"
"จะไปเมื่อไหร่ กลับตอนไหน?"
"ไปหนึ่งทุ่มกลับไม่เกินสี่ทุ่มค่ะ แต่เป็นที่ผับนะคะ"
ฉันหันไปพยักหน้ากับมือขวาของตัวเอง ซึ่งแค่นั้นมือขวาของฉันก็กดที่หลังใบหูเตรียมบอดี้การ์ดชุดใหญ่ทันที
"ฉันไม่ห้าม แต่บอดี้การ์ดต้องตามคุ้มกันทุกมุมผับ" เดมี่จับกระโปรงพลีทของเธอและถอนสายบัวอย่างประชดประชัน
"ขอบพระคุณค่ะคุณพี่สาว"
ฉันไม่ตอบอะไรเดินออกไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ แต่เมื่อบอดี้การ์ดปิดประตูรถ ฉันหยุดมองน้องสาวกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เลย ผู้หญิงคนนั้นดูสอดรู้หันมองรอบๆล็อบบี้ แถมเห็นบอดี้การ์ดเดินผ่านยังปัดผมเผ้าตัวเองหว่านเสน่ห์ยั่วยวน
"ธณิน" ฉันเรียกมือขวาที่นั่งอยู่ที่เบาะหน้า
"ครับคุณเดนิส"
"สืบประวัติผู้หญิงที่มากับเดมี่ให้ฉัน"
"ได้ครับ ผมขอเวลาสามสิบนาทีแล้วคุณเดนิสจะรู้ทุกอย่าง"
รถเคลื่อนออกจากตึกไลออนระหว่างที่มือขวาจัดการสืบเรื่องผู้หญิงคนนั้นไปด้วย หวังว่าเดมี่จะไม่หาเรื่องมาให้ฉันปวดหัวอีกนะ ความสดใสไร้เดียงสาที่ไม่ทันคนของเธอ ต่อให้เป็นทายาทมาเฟียก็เถอะ ยังไงก็อันตรายอยู่ดี ฉันกลัวว่าใครจะมาหาผลประโยชน์จากน้องฉัน และเธอก็กางแขนปกป้องเต็มที่
ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันนี่แหละจะฝังมันด้วยมือฉันเอง
•••
-TT LOGISTIC-
"เรือเข้าท่าเยอะและของเต็มทุกรอบเลยครับคุณเดนิส เพราะตอนนี้มีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นมาลงทุนในไทย"
ฉันหันมองตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกยกขึ้นจากเรือ
"ทั้งหมดนี้เป็นของนักธุรกิจญี่ปุ่นกี่คน?"
"คนเดียวครับ แถมมีเรืออีกสามลำกำลังเข้าท่าด้วย เอ่อ... ผะ ผมได้ข่าวว่าเป็นยากูซ่าครับคุณเดนิส"
คิ้วฉันขมวดชนกัน
ยากูซ่า?
ให้ตาย... ขึ้นชื่อว่ายากูซ่าฉันมองไม่เห็นเรื่องดีเลย เพราะคนพวกนี้ทำธุรกิจมืดกันทุกกลุ่ม เก็บส่วย คลับบาร์ เงินกู้ โสเภณี เข้ามาทำธุรกิจในไทยจะพ้นเรื่องพวกนี้ไปได้เหรอ?