“คุณ...” เสียงของเธอแผ่วเบา “คุณคือ...”
เขาไม่ตอบ เพียงถอดเสื้อสูทออกแล้วคลุมไหล่ให้เธอเบาๆ
“อย่ากลัว” เขาพูดเรียบ แต่แววตาอ่อนลงกว่าทุกครั้ง
“คุณปลอดภัยแล้ว”
เธอมองหน้าเขาทั้งน้ำตา ริมฝีปากสั่น
“ฉัน...ฉันอยากกลับบ้าน...ช่วยฉันด้วย”
“ผมจะพาคุณไปเอง”
เขาตอบทันที มือใหญ่ประคองเธอลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง ก่อนพาเธอออกจากห้องท่ามกลางความเงียบของทางเดินที่เหลือเพียงแสงไฟส่องสว่างแต่ไม่มีเงาร่างของกันตวีร์หลงเหลือให้เห็นอีกแล้ว
“บ้านคุณอยู่ที่ไหน...” เขาเอ่ยถาม พยายามไม่มองเรียวขานวลเนียนที่โผล่พ้นขอบกระโปรง อีกทั้งท่าทางทรมานของหญิงสาวที่พยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองราวกับว่าเธอรู้สึกร้อนจนแทบทนไม่ไหว
“ไม่...ฉันจำไม่ได้...คุณขา...ช่วยฉันที...ฉัน...ร้อน...ร้อนมาก...”
ชายหนุ่มมองอาการของเธออยู่ครู่หนึ่งก็เดาได้ทันทีว่าเธอไม่ได้เมาธรรมดา แต่น่าจะเกิดจากฤทธิ์ยาบางอย่าง เขาจึงได้เปลี่ยนทิศทางจากลิฟต์ที่จะพาเธอขึ้นสู่ชั้นบน เปลี่ยนเป็นทางออกด้านหลังที่ตรงไปยังลานจอดรถใต้ดินแทน เพราะหากปล่อยเธอไปสภาพนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
“ทนหน่อยนะคนสวย ผมจะช่วยคุณเอง...”
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนดีกว่าใคร แต่เพียงแค่คิดว่าจะมีใครได้แตะต้องร่างกายหอมกรุ่นนี้ เขาก็นึกอยากจะใช้ปืนจ่อขมับของมันแล้วลั่นไกในทันที
เช้าวันใหม่...แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านสีขาวในห้องนอนหรู เธอลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตายังพร่ามัวจากความเหนื่อยล้าและความสับสนที่กดทับอยู่ในอก กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของผู้ชายในห้องทำให้เธอขยับตัวด้วยความตกใจ
ความอบอุ่นข้างกายที่รับรู้ได้เพียงแผ่วเบาทำให้เธอชะงัก เธอหันขวับไปมอง และต้องนิ่งค้างในทันที
แผงอกกว้างและใบหน้าหล่อเหลานั้นกำลังหลับสบาย ใบหน้าคมเข้มที่เธอจำได้แม่นยำว่าเป็นคนเดียวกับคนที่รับร่างเธอไว้เมื่อตอนที่เดินชนกันในไนต์คลับเมื่อคืน
หัวใจของเธอเต้นแรงจนเจ็บหน้าอก มือสั่นขณะค่อยๆ ยกผ้าห่มขึ้นดูร่างกายของตัวเองที่เปลือยเปล่าไม่ต่างกัน ความจริงพุ่งเข้ามาอย่างโหดร้ายในวินาทีนั้น
เธอตกใจจนแทบหายใจไม่ออก น้ำตารื้นขึ้นทันที
ไม่จริง...นี่มันไม่จริง...
ลัลน์ลลิตยกมือขึ้นปิดปากเพราะกลัวว่าเสียงของเธอจะทำให้เขาตื่นและลุกมาทำอะไรเธออีก หญิงสาวพยายามตั้งสติแล้วรีบคว้าเสื้อผ้าที่กองอยู่ข้างเตียงมาสวมใส่อย่างเงียบเชียบที่สุด เธอก้าวลงจากเตียงอย่างลนลาน ความกลัวและความอับอายถาโถมจนขาแทบหมดแรง ก่อนคว้ากระเป๋าที่อยู่ปลายเตียงและรีบเปิดประตูออกจากห้องโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย เธอไม่มีเวลาคิดทบทวนด้วยซ้ำว่ามาอยู่บนเตียงกับผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร...และเมื่อคืนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรับรู้ได้ก็คือ...นับจากนี้ไปชีวิตเธอคงไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว...
แสงแดดอ่อนของยามเช้าสาดผ่านช่องหน้าต่างของรถแท็กซี่ที่แล่นไปตามถนนเงียบงัน ลัลน์ลลิตกอดกระเป๋าคลัทช์ไว้แน่นบนตัก มือเย็นเฉียบจนสั่น ความคิดในหัวพันกันยุ่งเหมือนเส้นด้ายพันปม เสียงหัวใจเต้นแรงจนได้ยินในความเงียบ รถแล่นไปเรื่อยๆ และทุกครั้งที่มองเงาสะท้อนของตัวเองบนกระจกใส เธอก็อยากจะลืมว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร
ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาบวมแดงจากการร้องไห้
นี่มันไม่ใช่เธอ...ไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จัก ไม่ใช่คุณหนูลัลน์ที่พ่อแม่เลี้ยงดูมาอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อมีเวลาอยู่กับตัวเอง เธอจึงได้นึกย้อนไปตั้งแต่ตอนอยู่ในงานวันเกิดของกันตวีร์และไวน์แก้วนั้น...
เธอผิดเองที่ไว้ใจเขามากเกินไป ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะกลายเป็นคนที่หยิบยื่นตราบาปมาให้เธอแบบนี้ และแน่นอนว่าระหว่างเธอกับเขานับจากนี้จะไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ส่วนเรื่องของเธอกับผู้ชายคนนั้น...เธอคงพูดได้ไม่เต็มปากว่าถูกเขาข่มเหง เพราะแม้เธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อถึงตอนนี้เธอก็จดจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี
จำได้ว่า...เป็นเธอเองที่คว้าเขาเอาไว้เป็นที่พึ่งพิงยามที่ร่างกายร้อนรนราวกับโดนไฟแผดเผาไปทั่วร่าง
เป็นเธอเองที่ร้องขอให้เขาช่วย
เป็นเธอเองที่เริ่มกอดเขา จูบเขา ลูบไล้เขา
และ...พูดกับเขาว่า “อย่าไป”
เธอจำได้ว่าชายคนนั้นอุ้มเธอวางบนเตียง แต่เขาไม่ได้ล่วงเกินเธอ หนำซ้ำเขายังมีน้ำใจหาน้ำเย็นมาให้ดื่ม แต่น้ำแก้วนั้นไม่อาจดับไฟในหัวใจของเธอได้ และเมื่อเธออ้อนวอนเขาว่าอย่าไป ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากห้อง คำถามของเขาก็เหมือนเชื้อไฟที่พร้อมจะแผดเผาทั้งเธอและเขาให้มอดไหม้อยู่บนเตียงนั้น
“แน่ใจเหรอว่าอยากให้ผมช่วย บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่คนอ่อนโยนอะไรนัก และผมก็ไม่ใช่คนดีขนาดนั้น”
“ฉันแน่ใจค่ะ ฉันทรมาน...ทรมานเหมือนจะตายแล้ว”
เพียงแค่นั้น...ทุกอย่างที่เสียไปก็ไม่อาจย้อนคืนมาได้อีก...
ตลอดทางที่รถเคลื่อนผ่าน เธอได้แต่ภาวนาขอให้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่ความฝันร้ายในค่ำคืนหนึ่ง
แต่เมื่อรถจอดหน้ารั้วคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่ ความจริงก็ยังอยู่ที่เดิมเหมือนเดิม เธอจ่ายค่าโดยสารด้วยมือสั่นเทา แล้วรีบผลักประตูเข้าไปในบ้านราวกับกำลังหนีความจริงที่น่าอดสู
กลิ่นดอกมะลิในสวนหน้าบ้านที่มารดาปลูกไว้เคยให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมอ แต่วันนี้กลิ่นนั้นกลับทำให้เธออยากอาเจียน หญิงสาวก้าวเท้าเร็วขึ้นจนแทบวิ่งขึ้นบันได เปิดประตูเข้าห้องแล้วปิดดังปัง!