ตอนที่ 4

1354 Words
อุรัสยาง่วนทำงานอยู่อีกพักใหญ่ กระทั่งลูกค้ากลุ่มสุดท้ายได้ออกไปจากร้าน พนักงานคนอื่นของร้านก็ช่วยกันเก็บร้านอย่างรวดเร็ว จนแล้วเสร็จสามทุ่มเป็นเวลาปิดร้านแล้ว หญิงสาวจึงเดินเข้าไปยังส่วนที่เป็นห้องพักผ่อนส่วนตัวของเจ้าของร้าน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นห้องนั่งเล่นของเธอซึ่งอาศัยอยู่ที่ตึกนี้ ตีรณาซึ่งอาสาช่วยดูแลเด็กหญิงอนามิกาให้ในทุกช่วงเวลาเย็นก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอทันทีที่อุรัสยาแวะเข้าไปในห้องนั้น “พี่อุ้ม น้องอิ๊งพออาบน้ำเสร็จไม่นานก็หลับไปเลยค่ะ น่าจะสองชั่วโมงได้แล้ว” ตีรณาเอ่ยเสียงเบา มือเล็กลูกศีรษะของเด็กหญิงอนามิกาซึ่งเล่นซนอยู่รอบตัวเธอจนเหนื่อยแล้วหลับไป อาจจะเพราะวันนี้เป็นวันหยุดไม่ต้องไปโรงเรียน เด็กหญิงที่เล่นมาทั้งวันสุดท้ายก็หมดแรงไปจนได้ ดีที่ว่าอุรัสยาได้อาบน้ำให้ลูกสาวไปก่อนแล้วตั้งแต่ตอนหนึ่งทุ่ม “ค่ะคุณตี้” อุรัสยาเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างๆ ลูกสาว มองใบหน้าเล็กที่ซุกศีรษะกับหมอนใบนุ่มแล้วก็อดยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ “งั้นเดี๋ยวตี้กลับเลย พี่อุ้มกับน้องอิ๊งจะได้พักผ่อนกัน” ตีรณาเอ่ยเมื่อเห็นว่านี่เป็นเวลาปิดร้านแล้ว ตัวเธอเองระหว่างอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับเด็กหญิงอนามิกาจนเด็กหญิงหลับก็เลยนั่งทำบัญชีประจำวัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเธอในฐานะเจ้าของร้านอยู่แล้ว พรุ่งนี้เธอถึงจะมาเตรียมทำขนมชุดใหม่กับอุรัสยา ตีรณาชอบรุ่นพี่คนนี้ที่บังเอิญรู้จักกันและสนิทสนมกันมาได้สี่ปีแล้ว เธอได้มีส่วนร่วมในการดูแลอุรัสยานับตั้งแต่ตั้งครรภ์จนคลอดน้องอิ๊งออกมา อุรัสยาไม่เคยเอารัดเอาเปรียบเธอสักครั้ง มิหนำซ้ำยังทุ่มเทให้กันมากกว่าเสียอีก อย่างการทำร้านนี้เป็นต้น เอาจริงเธอน่ะรู้อยู่แล้วว่าอุรัสยามีเงินมากพอจะไปทำของตัวเอง หรือจะหุ้นกับเธอก็ได้ แต่รุ่นพี่สาวกลับไม่ทำอย่างนั้น ยินดีจะมาช่วยเธอทำร้านตั้งแต่ยังไม่มีคนช่วย จนทุกวันนี้ร้านเธอดังขึ้นมา ลูกค้าเข้ามามากมาย แต่อุรัสยาซึ่งเป็นกำลังหลักของร้านก็ยังคงอยู่ด้วยกันเสมอ ตีรณาได้แต่หวังว่าตนเองจะช่วยเหลืออะไรอีกฝ่ายได้บ้าง อย่างการดูแลน้องอิ๊งที่เธอเอ็นดูมาตั้งแต่แกเกิด ประกอบกับเธอเป็นคนรักเด็ก จึงได้มาช่วยดูแลลูกสาวของอุรัสยาในช่วงที่อีกฝ่ายทำงาน แทนที่จะยอมให้อีกฝ่ายจ้างพี่เลี้ยงอย่างที่เคยคิดจะทำแต่แรกเพราะเกรงใจเธอมากกว่า และน้องอิ๊งก็น่ารักมากๆ แกแทบไม่ดื้อไม่ซน ซ้ำยังเรียนรู้ได้ไว แถมยังฉลาดมากๆ ก็ยิ่งทำให้ตีรณาหลงรักแกมากขึ้น จนคิดภาพที่เธอกับสองแม่ลูกแยกกันกันไปไม่ออกเลย ไม่ใช่ลูกตีรณาก็รักเหมือนลูกตัวเอง อยากเห็นน้องอิ๊งโตเป็นสาวและมีชีวิตที่ดีตลอดไป ๐๐๐๐ วันอาทิตย์นี้ตีรณาตัดสินใจเข้าร้านเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ตอนแรกกะว่าจะไม่มาแล้ว เพราะว่าท้ายที่สุดแฟนหนุ่มซึ่งนัดกันเอาไว้ก็บอกว่าเขาไม่ว่างมาหาเธอแล้ว หญิงสาวเลยเลือกจะเข้าร้านแทนที่จะหยุดเหมือนที่เคยบอกอุรัสยาตั้งแต่แรก ปกติแล้ววันอาทิตย์เป็นวันที่เธอเปิดร้านถึงแค่หนึ่งทุ่มเท่านั้น ในขณะที่ใกล้เวลาปิดร้าน เธอกับอุรัสยากำลังตรวจเช็กไปรอบๆ ร้านเป็นครั้งสุดท้าย เพราะลูกค้าก็ไม่มีแล้ว หญิงสาวก็ต้องเปลี่ยนเป็นตกใจแกมตื่นตะลึงแทนเมื่อแฟนหนุ่มที่บอกว่ามาหากันไม่ได้ กลับโผล่มาในช่วงเวลาที่ไม่มีคนอย่างนี้ ชายหนุ่มร่างสูงเผยรอยยิ้มขี้เล่นที่ขับให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขานั้นยิ่งดูดีมากขึ้นยืนส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับดอกไม้โปรดของเธอช่อใหญ่ พอเธอเห็นเขาหยุดยืนตรงหน้าประตูอย่างนั้นก็ลุกขึ้นไปหาอย่างรวดเร็ว “เซอร์ไพรส์ครับคุณตี้” ปกป้องมองแฟนสาวซึ่งสูงเลยปลายคางของเขามาไม่เท่าไรด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูอย่างที่สุด เขากับตีรณาแม้จะอยู่ห่างกันไกล เพราะเขาอยู่ภาคเหนือ ส่วนหญิงสาวอยู่กรุงเทพฯ และมีธุรกิจอยู่ทางนี้ ตัวเขานั้นต้องไปๆ มาๆ ดูแลงานทั้งทางโน้นและทางนี้ไปพร้อมกับ จึงไม่ค่อยได้ดูแลหญิงสาวเท่าไรนัก อันที่จริงเขาติดงานวันนี้จนไม่คิดว่าจะมีเวลามาหาตีรณาได้ด้วยซ้ำ แต่ปรากฏว่าช่วงบ่ายลูกค้าแคนเซิลนัดเขา ชายหนุ่มก็รีบจองเที่ยวบินมากรุงเทพฯ เพื่อมาหาตีรณาทันทีโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย เมื่อมาถึงคนของเขาก็มารอรับ พร้อมกับช่อดอกไม้ที่เขาสั่งให้เลขาฯ จัดการเตรียมไว้แล้วให้คนขับรถกลับไป ส่วนเขามาหาตีรณาที่ร้านนี้เอง โชคดีที่มาทัน และโชคดีที่คิดถูกที่ทำอย่างนี้ รอยยิ้มหวานของตีรณาเป็นอะไรที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจริงๆ “คุณป้อง” คนตัวเล็กกว่าเรียกเขาอย่างตื่นเต้น ใบหน้าหวานแหงนเงยมองเขา ดวงตากลมโตคู่นั้นทั้งแปลกใจแล้วก็ดีใจระคนกัน “มาได้ยังไงคะนี่ ไหนว่าติดงานมาไม่ได้ไงคะ” หญิงสาวถามเสียงสั่น ปกปิดความตื่นเต้นและความดีใจไว้ไม่มิด ดวงตาของเธอเป็นประกายพร่างพราวเต็มไปด้วยความสุข นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีมากที่ได้เห็นแววตาดีใจของคนรัก “วันนี้วันครบรอบหนึ่งปีของเราสองคน ผมก็อยากมาเซอร์ไพรส์คุณตี้สิครับ” ปกป้องตอบเสียงนุ่ม เขายื่นดอกกุหลาบขาวช่อโตให้กับหญิงสาว ซึ่งยอมรับมาด้วยสีหน้าดีใจเป็นอย่างยิ่ง ตีรณาเขินกับสายตาของชายหนุ่มเสียจนใบหน้าเล็กๆ นั้นแดงก่ำไปหมด เธอไม่คิดว่าจู่ๆ ปกป้องจะโผล่มาอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เขาติดงานสำคัญ แต่สุดท้ายก็ยังมาหาเธอจนได้ หัวใจของเธอพองฟูไปหมด เต็มไปด้วยความสุขเสียจนไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ก่อนจะแก้เขินด้วยการย้อนถามกลับไป “ยังไม่หมดโปรฯ อีกเหรอคะคุณป้อง” ปกป้องได้แต่ทำตาโตใส่คนรักของตนเอง แล้วตัดพ้อเสียงกลั้วหัวเราะ เนื่องจากรู้ว่าหญิงสาวไม่ได้จริงจัง เพียงแต่พูดไปอย่างนั้นแก้เขินเท่านั้น “หมดโปรฯ อะไรกัน ผมเสมอต้นเสมอปลายออก” ตีรณาเลยได้แต่กอดช่อดอกไม้หัวเราะจนตัวสั่นเพราะท่าทางปฏิเสธอย่างแข็งขันของชายหนุ่ม “ค่ะๆ ตี้จะเชื่อ” เธอรีบบอกออกไป เกรงว่าคนตัวโตจะเล่นใหญ่อะไรมากไปกว่านี้ ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริงก็ตาม ก็ตั้งแต่คบกันมาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ถึงจะอยู่ห่างกันไกล แต่เธอก็เห็นความพยายามของปกป้องที่จะสานสัมพันธ์และรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันเอาไว้ นั่นทำให้เธอไว้วางใจเขาอย่างเต็มหัวใจแม้จะอยู่ห่างกันไกลก็ตาม ทว่าก่อนที่ทั้งคู่จะได้เอ่ยอะไรต่อ ตีรณากับปกป้องก็ชะงักเพราะเสียงเล็กๆ ของเด็กหญิงอนามิกาซึ่งเดินตามตีรณามาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงงุ้งงิ้งออดอ้อน พร้อมกับดึงชายเสื้อของหญิงสาวเพื่อเรียกร้องความสนใจไปในตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD