บทที่ 2 เผชิญหน้าคนรักเก่าของเขา 1

908 Words
ใบหน้าสวยเรียบของขวัญรักมีแววเคร่งเครียด กำลังคิดไม่ตกอยู่หน้าประตูบ้านว่าควรเดินเข้าไปด้วยความรู้สึกไหน ปั้นหน้าวางตัวอย่างไรดี? เนตรกมลกลับมาแล้ว... เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำตัวเช่นไรจึงจะไม่กระอักกระอ่วนใจต่อกัน จะว่าเธอเข้าหน้าน้องไม่ถูกก็คงจะใช่ มีมือที่สามมาแย่งคนรักไปจากอก เป็นใครก็คงไม่ยินดีที่จะพบหน้าทั้งนั้น แม้จะเป็นเหตุสุดวิสัย เป็นความต้องการของผู้ใหญ่ฝ่ายไอศูรย์ก็ตาม แต่เธอไม่อาจปฏิเสธคำครหาตราหน้าได้เลย เมื่อเลือกตกลงแต่งงานกับเขา สร้างแผลใจให้กับเนตรกมล ที่สำคัญที่ทำให้เธอลังเล เป็นเพราะไม่อยากเห็นท่าทีของสามีที่แสดงออกต่อเธอ ขวัญรักไม่รู้จะทนกับความห่างเหินเย็นชาจากไอศูรย์ได้อีกไหมในวันที่คนรักของเขากลับมา ในใจของเขาคงจะยิ่งเกลียดชังเธอเพิ่มขึ้น... แค่คิดเธอก็ปวดจนใจสั่น ไม่กล้านึกถึงสายตาเหยียดหยามของเขาเลย มันเหมือนมีดที่แทงทะลุหัวใจ เจ็บจนแทบเป็นบ้า แต่ก็พยายามบังคับขาตัวเองให้ก้าวเข้าไปในบ้านอย่างลำบาก ยังไม่ทันเห็นคน ก็ได้ยินเสียงหัวเราะชื่นมื่นของแม่สามีดังขึ้นว่า “หนูเนตรไม่ต้องไปช่วยในครัวหรอกจ้ะ มานั่งคุยกับแม่ให้หายคิดถึงเถอะ” ชมโฉมเรียกแทนตัวเองราวกับน้องสาวเธอเป็นศรีสะใภ้ของนาง ส่วนภรรยาตัวจริงที่ยืนเป็นคนนอกอยู่ตรงนี้นางคงไม่เคยนับ ก็เหมือนกับลูกชายของนางที่ไม่เคยสนใจใยดีเธอนั่นละ ขวัญรักยืนมองภาพครอบครัวสุขสันต์ราวกับเป็นผู้ชม โลกตรงนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอทั้งสิ้น บนโซฟามีชายหนุ่มร่างสูงสง่านั่งอยู่ไม่ห่างจากหญิงสาวงดงามทันสมัย มือของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างสนิทชิดเชื้อในบางครั้ง สายตามองกันอย่างหวานซึ้ง ยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น มีแม่สามีคอยไถ่ถามด้วยความรักใคร่เอ็นดูและชื่นชม เธอมองด้วยดวงตาที่พร่ามัว ช่างเป็นภาพครอบครัวที่งดงามจริงๆ หากมีเด็กน้อยเพิ่มมาอีกสักคนสองคน ใครๆ คงคิดว่านี่คือครอบครัวที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ขนาดตัวเธอเองยังคิดแบบนั้นเลย... หญิงสาวข่มความปวดร้าวให้กดลึกลงไปที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้จะรับรู้ถึงรสฝาดขมอยู่เต็มปากก็ตาม เธอตั้งใจจะเดินเลี่ยงไปอย่างเงียบๆ ไม่อยู่เป็นส่วนเกินรบกวนพวกเขา แต่บังเอิญสายตาของชมโฉมหันมาทางนี้พอดี เห็นเธอปุ๊บ คำพูดประชดประชันก็ลอยมากระแทกหูทันที “กลับมาได้แล้วเร้อะ ไม่รู้รึไงว่าวันนี้มีแขก เสียมารยาท” ขวัญรักเม้มปาก อยากโต้กลับไปนักว่าไม่มีใครบอกเธอสักคนเรื่องที่เนตรกมลกลับมา แม้แต่ครอบครัวของเธอเอง เมื่อเช้าตอนนั่งกินข้าวก็ไม่เห็นไอศูรย์จะพูดอะไร แล้วเธอจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำตัวมีมารยาท อยู่ต้อนรับแขกคนสำคัญของพวกเขา “อย่าไปโทษขวัญเลยค่ะ เนตรกลับมากะทันหันไม่ได้บอกใคร เลยต้องรบกวนให้อิศย์มารับที่สนามบิน” ‘อิศย์’ เป็นชื่อเล่นของไอศูรย์ มีเฉพาะคนสนิทจริงๆ เท่านั้นจะได้รับอนุญาตจากเขาให้เรียกเช่นนี้ ตัวเธอเองยังไม่เคยได้รับเกียรติมาก่อน แต่เนตรกมลกลับเรียกชื่อเขาอย่างเต็มปาก บ่งบอกถึงความสำคัญของหล่อนในหัวใจของเขาได้ดีแล้ว “รบกงรบกวนอะไรกันจ้ะ แม่กับตาอิศย์เห็นหนูเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแท้ๆ” ปากพูดกับน้องสาวอย่างอบอุ่น แต่ปรายตามองเธออย่างเหยียดหยาม ทำให้เธออึดอัดใจได้แต่ก้มหน้างุด ถึงอย่างไรชมโฉมก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่สามี เธอจะไปทะเลาะแข็งข้อกับท่านก็ดูไม่ดีนัก ทำได้แค่เพียงอดทนและทน ไอศูรย์ที่นั่งเฉยชาอยู่นานกระแอมขึ้น เอ่ยเสียงไม่หนักไม่เบาว่า “กินข้าวเถอะ” เขาเดินนำไปที่โต๊ะอาหาร ชมโฉมควงแขนเนตรกมลเดินตามหลัง ทุกคนหย่อนกายลงนั่ง เหลือเพียงเธอที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เธอก้มสำรวจสภาพตัวเองแล้วรู้สึกว่าไม่เหมาะที่จะต้อนรับแขก เสื้อผ้าที่สวมใส่เปียกชื้น เส้นผมชุ่มไปด้วยน้ำฝนลู่ติดใบหน้า มีน้ำหยดลงบนพื้นบางจุด ดูไม่เรียบร้อยเลยสักนิด “ฉันขอขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหมคะ” “เรื่องมาก! เธอจะให้แขกมานั่งรอเธอคนเดียวรึไง” แม่สามีหาเรื่องต่อว่าเธอทันที ขณะที่ไอศูรย์เพียงแค่ขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “ให้เด็กไปหยิบผ้ามาเช็ดตัว แล้วมานั่งกินข้าวซะ” ขวัญรักหมดข้ออ้างจะหลีกหนี ทำได้เพียงรับผ้าขนหนูผืนใหญ่เช็ดหน้าและผมหมาดๆ แล้วห่มคลุมตัวเดินเข้าไปนั่งตามคำสั่งของเขา ชะงักนิดหนึ่งเมื่อพื้นที่ข้างๆ เขาถูกเนตรกมลและแม่ของเขาจับจองหมดแล้ว เหลือเพียงที่ว่างข้างตัวสองสาวต่างวัย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD