bc

Time Capsule ที่...ระลึก

book_age16+
228
FOLLOW
1K
READ
family
HE
drama
bxg
childhood crush
like
intro-logo
Blurb

ต้นไม้แห่งรัก หากบำรุงด้วยใจมั่นคงและรอคอย ดอกผลที่ได้กลับคืนมา ย่อมหอมหวานเสมอ...

“แล้วแกล่ะ? แกวางอนาคตไว้ยังไง? แล้วคิดว่าอีกยี่สิบปีต่อจากนี้ เราจะยังคบกันอยู่อีกไหม?” คีรยาถามนายแบบของตนทั้งๆ ที่ยังคงก้มหน้า มุ่งมั่นฝนปลายดินสอลงในส่วนที่เป็นนัยน์ตาเขา ปลายผมม้าที่ขยับไหวยามเธอขยับตัว เหนี่ยวหัวใจของขุนเขาให้เอนเอียงตามไปด้วยอย่างเผลอไผล...

“ไม่รู้สิ...ยังไม่ได้วางอะไรไว้ทั้งนั้น เพราะนี่ยังไม่ได้คิดเลย ว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไร นอกเสียจาก...” การเว้นว่างในประโยคชวนให้อีกฝ่ายแหงนเงยขึ้นสบตา นาทีนั้นคล้ายทั้งโลกกำลังหยุดหมุน ทุกสรรพสิ่งรอบกายล้วนเงียบงัน มีเพียงสองหัวใจที่เต้นแรงจนทั้งคู่ได้แต่กลั้นหายใจเพื่อรอฟังในบางสิ่ง...

“ถ้ามีแก...ถ้าอนาคต แกไม่หนีเราไปไหน ต่อให้ทางข้างหน้าเป็นหุบเหว เราก็เชื่อว่าตัวเองต้องปีนลงไปได้ แล้วแกล่ะคิ้ม ในอนาคตของแกที่ว่านั่น แกวางเราเอาไว้ที่ตรงไหน...”

“ตรงไหนเหรอ?” คีรยาลดกระดานวาดรูปลงแล้วจ้องลึกลงไปในตาเขา…

“อาจจะเป็นตรงนี้…” เธอแตะปลายนิ้วชี้ลงไปที่ขมับขวาของอีกฝ่าย สายลมหนาวที่พัดโชยจากริมแม่น้ำและเสียงเพลงเบาๆ จากลานเบียร์ บ่มให้บรรยากาศรอบๆ คนทั้งสองอบอวลไปด้วยไอรัก…

“หรืออาจจะเป็นที่ตรงนี้…” เธอลากปลายนิ้วผ่านลำคอและลาดไหล่ก่อนจะหยุดตรงแผงอกด้านซ้ายของคนคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า สัมผัสได้ถึงจังหวะเต้นระรัวของหัวใจที่ทะลุความเงียบมาในโสตประสาท

ไวกว่าความคิด ขุนเขาฉวยจังหวะนั้นรั้งเอวบางเข้าไปจนประชิดตัว โชคดีที่จุดที่พวกเขานั่งวาดรูปกันอยู่มีผ้ากั้น อีกด้านหนึ่งก็เป็นกำแพงสูงของสวนหย่อม คนที่เดินผ่านไปมาจึงไม่ทันสังเกตเห็น

คราวนี้จึงกลายเป็นคีรยาที่หัวใจเต้นรุนแรง หญิงสาวได้แต่เกร็งกายเพราะทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ มองใบหน้าและริมฝีปากของเพื่อนสนิทที่คืบคลานเข้ามาใกล้ด้วยความตื่นเต้น ยิ่งเห็นว่าระยะห่างเหลือน้อยลงมากเท่าไหร่ คีรยาก็รู้สึกคล้ายหัวใจจะวายลงมากเท่านั้น…

“อย่าริเล่นกับไฟเชียวนะมึง ยิ่งจุดติดง่ายๆ อยู่…”

chap-preview
Free preview
งานเลี้ยงรุ่น
รถยนต์สีดำสนิทเคลื่อนตัวเข้ามาจอดภายใต้อาคารส่วนกลาง ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงรวมรุ่นของกลุ่มศิษย์เก่าคณะศิลปกรรมในรอบสิบปี โดยมีชายหนุ่มวัยกลางคนในเสื้อเชิ้ตลำลองสีเดียวกับรถ ก้าวลงมายืนอยู่ข้างราวบันไดพร้อมรอยยิ้มจางๆ คล้ายจะซึมซับบรรยากาศรอบข้างเอาไว้ให้มากที่สุด ก่อนขึ้นไปเผชิญหน้ากับคำทักทายของเหล่าเพื่อนฝูง “มาแล้วๆ ในที่สุดไอ้เสี่ยขุนก็มาสักที กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง มัวแต่เคลียร์คิวสาวๆ อยู่หรือไงวะ?” เพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขากล่าวทักทายทันทีที่ก้าวขาเข้าสู่ห้องจัดเลี้ยง บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะอาหารที่จัดแบบบุฟเฟ่ต์ และเวทีกิจกรรมที่ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ด้วยเอกลักษณ์ต่างๆ ของชาวคณะ เช่นเฟรมผ้าใบ หุ่นปูนปลาสเตอร์ พู่กันขนาดยักษ์ที่ประดิษฐ์มาจากโฟม รวมไปถึงหลอดสีน้ำมันจำลองที่สร้างขึ้นจากผ้าและกระดาษแข็ง ขุนเขา หรือเสี่ยขุนของเพื่อนๆ กล่าวทักทายทุกคนที่เดินผ่านตามมารยาท ก่อนจะกวาดสายตาเพื่อมองหาใครอีกคนตามที่คาดหวังเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ด้วยความที่เคยเป็นคนกว้างขวางในหมู่เพื่อนๆ เขาจึงถูกดึงตัวไปทักทายอีกหลายกลุ่ม กว่าจะได้กลับมานั่งที่โต๊ะตัวเองก็กินเวลาไปโขอยู่ “ตอนนี้มึงทำอะไรอยู่วะไอ้ขุน ได้ข่าวจากไอ้ธมว่ามึงไปเรียนเพิ่ม แถมยังขยันจนได้เป็นอัยการ นึกยังไงถึงเบนเข็มจากงานออกแบบไปเป็นนักกฎหมายได้ กูละไม่เข้าใจมึงเลยจริงๆ” แดน หรือดนัย เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของเขาเริ่มต้นถามไถ่เรื่องทุกข์สุข ซึ่งขุนเขาเองยังไม่ทันได้ตอบ เพราะมีเพื่อนอีกคนก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน ราวกับจะแกล้งกันเสียอย่างนั้น “ถ้ามึงรู้ว่าอดีตหวานใจของไอ้ขุนไปสอบเป็นทนายความ ก่อนที่มันจะไปลงเรียนนิติตามเขาบ้าง พวกมึงก็คงสิ้นสงสัย” เขาพูดดักคอขึ้นมาตรงๆ เรียกเสียงเฮฮาจากกลุ่มเพื่อนๆ ที่นั่งสังสรรค์บนโต๊ะเดียวกันได้ไม่น้อยเลย จนคนที่ถูกกล่าวถึงอย่างขุนเขา อดไม่ได้ที่จะทำหน้ากระอักกระอ่วน “น้องคิ้มดาวมหาลัยน่ะเหรอวะ ไปสอบเป็นทนายความ ไหนว่านางตกอับไม่ได้เรียนต่อ จบแค่ ปวช.แล้วจะไปเป็นทนายความได้ยังไงวะ พวกมึงต้องอำกูแน่ๆ” ดนัยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะซึ่งผมเองฟังแล้วก็ใช่ว่าจะพอใจนัก เพราะคำว่าดาวมหาวิทยาลัยของดนัยนั้น มีความหมายค่อนไปในทางลบ ทั้งนี้เพราะบุคคลที่ถูกกล่าวถึงเป็นเด็กสาวรูปร่างสูงโปร่ง มีเรือนผมยาวสีดำสนิทค่อนไปทางหยักศกมากกว่าที่จะตรงสลวย เครื่องหน้าของคีรยานั้นสวยคม แต่กลับมีประพิมพ์ประพายคล้ายสาวเหนือ มีตาชั้นเดียวที่กลมโตและแทรกไปด้วยแพขนตางอนยาวจนแทบไม่ต้องดัด สีผิวของเธอเนียนละเอียดและเจือสีน้ำผึ้งจางๆ ไปทั้งตัว แม้ไม่ถึงกับคล้ำมาก แต่ก็ไม่ใช่ผิวขาวลออแบบพิมพ์นิยมตามที่ผู้ชายหลายๆ คนชื่นชอบกัน และด้วยรูปร่างหน้าตาเช่นที่กล่าวมาของเธอ ทำให้หญิงสาวดูแตกต่างและโดดเด่นกว่าเด็กสาวทั่วๆ ไปในวัยเดียวกัน จนในที่สุดก็กลายเป็นๆ จุดเด่นให้หลายคนรุมบูลลี่ และประกาศห้ามคบเธอไปทั่วทั้งวิทยาลัยโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งแน่นอนว่าคนๆ เดียวที่คบหาและเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในช่วงเวลานั้นของเธอก็คือตัวขุนเขาเอง ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนดีหรอก หากแต่เป็นเพราะความอยากรู้และคึกคะนองต่างหาก ที่ผลักดันให้เขาพาตัวเองเข้าไปตีสนิท และเผลอคิดเกินเลยกับเธอในภายหลัง... ตอนนั้นขุนเขาแค่รับคำท้าจากกลุ่มเพื่อนๆ พร้อมกับเพื่อนผู้ชายต่างคณะอีกสองคน ให้เข้าไปชวนคุยและตีสนิทกับคีรยาเพียงเพราะเธอเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวแปลกๆ แถมยังตั้งรางวัลเอาไว้ด้วยว่าถ้าเขาจีบเธอได้เมื่อไหร่ เงินรางวัลที่เพื่อนๆ ร่วมลงขันกันทั้งหมดจะตกเป็นของชายผู้ชนะ ซึ่งเขาเองก็มีความสนใจในตัวเธออยู่แล้วจึงไม่ได้ปฏิเสธ ดังนั้น ภารกิจของเขาจึงเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันหนึ่ง ที่เห็นเธอนั่งอ่านหนังสืออยู่เพียงลำพังตรงม้านั่งยาวริมขอบสระ ใต้ต้นอินทนิลที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง คีรยาเป็นคนที่มาถึงวิทยาลัยก่อนคนอื่นๆ อยู่เสมอ บางคนบอกว่าเธอตั้งใจมาแต่เช้าเพื่อรอพบพี่กนก รุ่นพี่แผนกเดียวกันที่เขาเดาว่าคีรยากำลังแอบพึงพอใจ หญิงสาวดูตกใจเล็กน้อยเมื่อคนตัวสูงกว่าอย่างขุนเขามาหย่อนกายลงนั่งเคียงข้าง เธอค่อยๆ ขยับกายไปชิดอีกฝั่งอย่างแนบเนียนเพื่อไม่ให้เขารู้สึกแย่ คีรยามักเป็นแบบนี้เสมอ เธอมักใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้างและมีมารยาทที่ดี ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากการอบรมใดๆ และต้องใช้ชีวิตอย่างปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กๆ “ทำไมเธอมาเช้าจัง...” เขาเริ่มต้นการสนทนาด้วยประโยคที่พื้นฐานมากๆ จนเธอเผลอยิ้มออกมาจางๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่ยอมสบตากัน ได้แต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มที่ถืออยู่ในมือราวกับว่ามันคือตำราหายากระดับชาติ ขุนเขาเชื่อว่านั่นเป็นกิริยาที่เธอทำเพื่อบอกมากลายๆ ว่าไม่เคยไว้ใจและไม่มีความคิดในทางบวกใดๆ ที่จะร่วมสนทนากับเขาเลยในวันนั้น “เราชื่อขุนเขานะหรือเธอจะเรียกเราว่าขุนก็ได้” ในเมื่อเธอยังไม่ยอมตอบ เขาก็ต้องพยายามให้มากขึ้นเป็นสองเท่า แต่ยิ่งขุนเขาพยายามมากเท่าไหร่ คีรยาก็ยังคงนั่งนิ่งไม่โต้ตอบกลับมาแม้เพียงคำเดียว ไม่ต่างอะไรกับการนั่งพูดคุยกับรูปปั้นสลักหิน... “เธอชื่อคีรยาใช่ไหม? แปลกดีนะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราสองคนชื่อเหมือนกัน...” คราวนี้เขายิ่งเก้อ เพราะอีกฝ่ายเริ่มจับได้แล้วว่าคนที่มาตีสนิทด้วย น่าจะมีเจตนาที่ไม่ดีแอบแฝงอยู่... “แล้วยังไง?” เสียงของเธอกังวานใส แต่ก็เบาแผ่วจนห่างไกล ทั้งที่คนทั้งสองนั่งใกล้กันแค่เพียงคืบ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.7K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.5K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.6K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook