ตอนที่ 6 เพื่อนร่วมงาน

2548 Words
ตอนที่ 6 เพื่อนร่วมงาน “กวี” เสียงหวานร้องทัก ขณะผมกำลังมุ่งหน้าเข้าไปภายในช้อปขายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดัง “อ้าว เอม พี่เอิร์น มาเดินซื้อของกันเหรอครับ” ผมมารู้เมื่อตอนเที่ยงว่าสองสาวเขาเป็นพี่น้องกัน เพราะเมื่อช่วงกลางวัน ตอนลงไปนั่งกินขนมจีนบุฟเฟต์ สาวประชาสัมพันธ์คนสวยทั้งสองไม่มีโต๊ะนั่ง เลยขอมานั่งเบียดรวมโต๊ะกับหนุ่มๆ ไอทีอย่างพวกผม “มาช้อปปิ้งน่ะ แล้วกวีล่ะจะซื้ออะไรเหรอ” “มาซื้อโทรศัพท์น่ะ พอดีเครื่องเก่ามัน...เอ่อ...โดนน้ำเมื่อคืน” “โชคดีจังเลย เอมกำลังคิดอยากจะเปลี่ยนเครื่องใหม่พอดี กวีมีรุ่นไหนดีๆ พอจะแนะนำเอมได้หรือเปล่า” “เอ่อ...ได้สิ” ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน กวาดสายตามองหารุ่นที่ชอบ แน่นอนว่ามันต้องเป็นรุ่นท้อปที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุด แต่พอเห็นป้ายราคาแล้วชักเริ่มลังเลว่าไอ้บัตรเครดิตของผัวนี่มันจะรูดซื้อได้จริงๆ หรือเปล่า ผมมี 2 สาวเดินตามเป็นเงา คอยถามนั่นถามนี่เหมือนหาเรื่องชวนคุย มากกว่าอยากรู้ข้อมูลจริงๆ ผมถ่ายรูปป้ายราคาพร้อมโทรศัพท์รุ่นที่อยากได้ส่งกลับไปให้คุณปานัทดู จากนั้นไม่เกิน 30 วินาที ก็มีข้อความตอบกลับมาว่าให้ซื้อได้เลยตามที่ผมชอบ “กวีเอารุ่นนี้เหรอ...ดีจัง เห็นมีคนรู้จักหลายคนบอกว่าใช้ดีมาก” “อืม มันทนดีน่ะ ซื้อทีนึงก็ใช้งานไปได้หลายปี ไม่ต้องซื้อบ่อย” ผมยื่นบัตรเครดิตสีเงินส่งให้พนักงาน โดยมีสายตาสองพี่น้องสาวสวยมองตามตาโต “WISDOM เชียวเหรอ ไม่คิดว่าพนักงานบริษัทเราจะถือบัตรนี้” “บัตรนี้เหรอ...” ผมเอียงคอมองบัตรที่พนักงานขายโทรศัพท์ถือไปรูดกับเครื่องรูดบัตรเครดิต ผมรู้แค่มันคงเป็นบัตรเครดิตที่ดีกว่าบัตรทั่วไป แต่รายละเอียดอย่างอื่นนั้นผมไม่รู้จริงๆ สลิปสีขาวหางยาวไหลปรื้ดออกมาพร้อมราคาโทรศัพท์มือถือบวกกับอุปกรณ์เสริมครบชุดรวมมูลค่าเกือบหนึ่งแสนบาท สรุปว่าไอ้บัตรนี่ใช้งานได้จริงไม่จกตา ผมไม่ได้เสียเวลาเดินเลือกซื้อหรือเดินเล่นต่อ เพราะตั้งใจจะกลับห้องเพื่อเอาโทรศัพท์ไปอวดผัว จึงขอแยกตัวออกมาจาก 2 สาว แล้วโบกแท็กซี่กลับมายังคอนโด นอนไถโทรศัพท์เครื่องใหม่เหมือนคนขี้เห่อทั่วๆ ไป คืนนี้ผมให้รางวัลคุณแฟนแสนดีด้วยการวิดีโอคอลแบบจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบวิบๆ เรียกว่าเสียงร้อง เสียงครางไม่ต่างจากเวลาที่เราเอากันจริงๆ ผมสลบคาหน้าจอ แบบกระดอยังไม่ทันล้างเพราะหมดแรง มาสะดุ้งตื่นตอนที่มีโจรหื่นบุกเข้าห้องมาปล้ำ “ไอ้....คุณกลับมาได้ยังไงเนี่ย” เมื่อ 3-4 ชั่วโมงก่อนเรายังนั่งถอกท่อนเนื้อ อวดกันผ่านหน้าจอ แล้วนี่อยู่ๆ มาโผล่อยู่กลางเตียงใครบ้างจะไม่ตกใจ “ก็เธอเรียกหา อยากให้ฉันกลับมาไม่ใช่เหรอ ยั่วกันขนาดนั้นใครจะไปทนไหว” "ไม่คิดว่าจะกลับมาจริงๆ นี่" "เมียเรียกหาผัวเสียงสั่นขนาดนั้น ผัวอย่างฉันจะปล่อยให้เมียช่วยตัวเองต่อไปยังไงไหว มาสิ...ฉันทำให้" ผมแทบไม่ได้หยุดพักหายใจเพราะโดนอัดใส่เต็มแรง จุกจนพูดไม่ออก มีแต่น้ำกระฉอกออกมาจนเปรอะไปทั้งตัวและง่ามขา กว่าผัวหื่นจะยอมล้มตัวลงมานอนดีๆ ผมนี่แทบพูดไม่เป็นภาษาคน ลิ้นเปลี้ย ขาเสีย ขาสั่นไปหมด “กลับมาได้ยังไงครับเนี่ย” เอากันมาเป็นชั่วโมงเพิ่งจะได้คุยกันเป็นภาษามนุษย์ เพราะก่อนหน้านั้นมีแต่เสียงครางซี๊ดอ่าส์ อิ๊ๆ อ๊ะๆ กับเสียงเตียงลั่นโครมๆ เท่านั้น “ก็มันอดใจไม่ไหว คิดถึงเลยซื้อตั๋วเครื่องบินตรงดิ่งมาเลย” “แล้ว...พรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานเหรอครับ” “ทำสิ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ามืดค่อยบินกลับไปใหม่” “นี่เครื่องบินหรือรถเมล์ครับ บินไป บินกลับ เหมือนเราอยู่กันแค่รังสิต กับดอนเมือง” “แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ เธอเล่นยั่วฉันทุกคืนแบบนี้ ฉันจะลงแดงตายอยู่แล้วเพราะไม่ได้เอาเมีย คิดถึงมากรู้หรือเปล่า” ท่อนแขน ท่อนขายาวเกี่ยวรัดตวัดกอดผมจนแทบไม่มีช่องว่างให้อากาศรอดผ่านไปได้ “รู้ครับ เพราะผมก็คิดถึงคุณมากเหมือนกัน” ผมถูกลากขึ้นมาจากฝัน ตอนประมาณตี 3 กว่า เนื่องจากถูกผัวก่อกวน คนที่จำเป็นต้องไปเช็คอินขึ้นเครื่องบินตอนตี 5 บอกลาผมด้วยบทรักเร่าร้อน จนเกือบทำผมตื่นสายไปทำงานไม่ทัน ทั้งที่ออฟฟิศอยู่ห่างไปแค่ร้อยเมตรเท่านั้น “อ้าว กวี...ตื่นสายเหรอ” เอมเดินยิ้มหวานมาทักขณะที่ผมวิ่งหน้าตั้งเข้ามายืนรอลิฟต์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ “อืม” “นอนเล่นโทรศัพท์ใหม่ล่ะสิ” “ก็...ทำนองนั้น” ไอ้ครั้นจะตอบว่านอนเล่นกับผัวผมก็กลัวว่ามันจะหยาบคายเกินไป “ตื่นสายแบบนี้คงยังไม่ได้กินอะไรมาใช่มั้ย เอมมีแซนด์วิชนะวีเอาไปกินสิ” แซนด์วิชชิ้นใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้าพอดีกับลิฟต์เคลื่อนตัวลงมาเปิดประตูอ้าออก อารามความกลัวว่าจะเข้าไปไม่ทัน ผมจึงคว้าแซนด์วิชชิ้นนั้นติดมือมาด้วย แล้วหันขอบคุณสั้นๆ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในลิฟต์ก่อนประตูจะปิดลง “ไอ้วี เย็นนี้ไปไหนมั้ยเนี่ย” รุ่นพี่ในแผนกเดินมาตบไหล่ในช่วงบ่ายแก่ๆ “หึ ไม่ได้ไปไหน พี่มีไรป่าวครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งกำลังเข้าไปค้นหาข้อมูลว่าไอ้บัตร WISDOM ที่ผัวให้มา มันเอาไปทำอะไรได้บ้าง จนเมื่อเห็นเงื่อนไขของผู้ถือบัตร ผมนี่หน้าเชิดคอแข็งขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าผัวจะรวยขนาดนี้ แถมยังใจป๋าโคตรๆ เพราะไอ้บัตรสีเงินนี้ มันมีวงเงินสามารถใช้จ่ายได้สูงถึงครั้งละเป็นหลักสิบล้านบาท แถมผู้ถือบัตรยังต้องมีเงินฝากในบัญชีไม่ต่ำกว่า 150 ล้าน ฉิบหายแล้วไอ้วีมึงเป็นหนูที่หลุดเข้าไปในโกดังข้าวสารแท้ๆ ไม่ใช่แค่หนูตกถังข้าวสารไก่กาอาราเร่ แม่แก้วกูต้องภูมิใจสิ่งนี้ “น้องเอิร์น ฝ่ายประชาสัมพันธ์ชวนไปกินชาบู แล้วก็ไปต่อร้านเหล้า” “แล้ว....” ผมนั่งคิดตามแล้วกำลังพยายามเชื่อมหาความสัมพันธ์ของประโยคนั้นว่ามันเเกี่ยวอะไรกับผม “แล้วกูก็มาชวนมึงนี่ไง” “หมายถึงเขาชวนพี่...แล้วพี่มาชวนผม” “เขาชวนพวกเราแผนกไอทีทุกคน บอกว่ากินฉลองต้อนรับที่น้องเอม น้องสาวสุดสวยของเขาได้เข้ามาทำงานที่นี่” “อ๋อ...เอมนะเหรอ” “เออ นั่นแหละ...ตกลงยังไงไปหรือเปล่า” “ไม่ไปหรอก เดี๋ยวผมก็เมาอย่างหมาอีก คราวนี้ไม่มีคนพากลับบ้านด้วย” ผมยังจำสภาพตัวเองเมาครั้งก่อนได้ โชคดีที่ตอนนั้นพรหมลิขิตส่งผัวมาให้ แต่ถ้าคืนนี้เมาอีกไม่รู้ผมจะได้อะไรกลับไป “งั้นก็....ไปกินคอนโดมึงไง” “หือออออออ....คอนโดผม” “เออ คอนโดมึงใกล้ที่สุดจะได้ไม่ต้องไปไหนไกล ใกล้ๆ นี่ก็มีซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของไปทำกินกันในห้อง เผื่อเมาก็นอนห้องมึงเลย” "แล้ว...พี่รู้ได้ไงว่าคอนโดผมอยู่ใกล้" "น้องเอิร์นบอก ตึกนั้นใช่มั้ยล่ะ" รุ่นพี่ชี้นิ้วผ่านหน้าต่างกระจกใสไปยังตึกสูงซึ่งอยู่ห่างไปไม่มาก “หา...” “ไม่หาแล้ว ตกลงตามนี้” “เอ้า...” ผมรู้ว่าหัวหน้ากับรุ่นพี่หลายคนชอบสาวๆ ในแผนกประชาสัมพันธ์เพราะทั้งสวย ทั้งน่ารัก แต่ไม่คิดว่าจะมาลำบากถึงผมด้วย ในเมื่อมันเป็นมติ “ฉันทานุมัดมือชก” ผมจึงรีบยกหูโทรศัพท์โทรกลับไปขออนุญาตผัวทันที กวี : คุณ...คืนนี้พี่ที่แผนกจะพากันไปกินเหล้า ปานัท : เดี๋ยวก็โดนพวกนั้นมอมกลับมาอีกหรอก ฉันไม่อยู่นะ วันนี้ไม่ได้กลับไปหาเพราะว่างานทางนี้ยุ่งมาก กวี : ก็นั่นแหละ ผมไม่อยากออกไปกินที่อื่น อืม...ผมพาพวกเขามากินเหล้าที่ห้องได้มั้ย คุณหวงหรือเปล่า // ผมพูดเข้าประเด็นทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการอ้อมค้อมเสียเวลา ปานัท : ถ้าอย่างนั้นก็โอเค กวี : ไม่โกรธแน่นะครับ ปานัท : อย่างน้อยเธอก็ยังอยู่ห้อง อย่าดื่มจนเมาก็แล้วกันเข้าใจมั้ย... กวี : ครับ เอาไว้ถ้าผมไม่เมาหลับไปซะก่อน ผมจะวิดีโอคอลไปหานะ ปานัท : ถ้าไม่คอลมา กลับไปโดนดีแน่ๆ ตกเย็นหลังเลิกงานผมกับรุ่นพี่ 2-3คน พ่วงด้วยสาวๆ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชวนกันมาเดินเลือกซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้คอนโด ความขี้เกียจผสมกลัวว่าจะทำจานชามราคาแพงของคุณปานัทแตกฉิบหายหมด เพราะยังไม่รู้ว่าแต่ละคนเมาแล้วจะอยู่กันในสภาพไหน ผมจึงออกความเห็นให้ซื้อถ้วยชามแบบใช้แล้วทิ้งแทน ส่วนอาหารส่วนมากไม่มีอะไรเพราะเน้นเหล้าเบียร์เป็นหลัก ที่เหลือลงความเห็นว่าสั่งเดลิเวอร์รี่ง่ายที่สุดเพราะขี้เกียจทำ ขี้เกียจล้าง ไม่ใช่คนอื่นหรอกที่เกียจแต่ผมเนี่ยแหละที่ขี้เกียจเอง “ไอ้วี...มึงเป็นใครปลอมตัวมาทำงานเนี่ย ไอ้เหี้ยคอนโดหรูฉิบหาย เห็นข้างนอกว่าเจ๋งแล้วข้างในแม่งอย่างกับโรงแรม” หัวหน้าแผนกผมพร่ำพรรณนาความหรูหราของที่นี่ตั้งแต่หักรถเลี้ยวเข้ามา “จอดรถแล้วก็รีบเข้าห้องดิพี่ ผมปวดเยี่ยว” ผมหันไปคว้าข้อมือหัวหน้างานแล้วพาเดินออกจากลานจอดรถส่วนตัวของผัวทันที รถสปอร์ตของจอดอยู่ 2 คัน ดึงดูดสายตาเพื่อนร่วมงาน 5-6 คนที่จะมาสังสรรค์กันในคืนนี้ ส่วนอีกคันเท่าที่รู้คือคุณปานัทขับไปจอดทิ้งไว้ที่สนามบิน หลังจากแตะคีย์การ์ดเปิดประตูให้ทุกคนเดินเข้ามาผมกระโจนวิ่งเข้าห้องนอนไปปลดปล่อยทุกข์โศกโรคภัยจากการอั้นเยี่ยวนานเกินไปจนมันแทบเล็ดเกือบไหล แล้วค่อยเดินกลับออกมาทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี “วีอยู่คนเดียวเหรอ” เอมนั่งลงมองไปรอบห้อง มือช่วยแกะถุงนำของกินออกมาวางเรียงลงบนโต๊ะใหญ่ที่พวกผู้ชายช่วยกันยกออกมาตั้งตรงระเบียง “อืม” ผมคว้าลูกชิ้นปิ้งได้ไม้หนึ่งจากถถุงที่เอมถือ แล้วปลีกตัวเดินไปรวมกลุ่มกับรุ่นพี่ที่เริ่มต้นผสมเหล้ากันแบบไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า ผมแอบถ่ายรูปวงเหล้าแล้วส่งกลับไปรายงานให้เจ้าของห้องดู 2-3 ภาพ จากนั้นก็นั่งเมากันยาวจนเกือบเที่ยงคืน แล้ววงเหล้าต่างแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนตัวเองโทรไปหาแฟน แต่จำไม่ได้ว่าคุยอะไรไปบ้าง จนกระทั่งเช้ามีเสียงกดออดดังอยู่หน้าประตู “หือ เอม....มีอะไรหรือเปล่า” ผมที่เพิ่งสร่างเมา แล้วยังตั้งสติไม่ได้ยืนงงจนทำอะไรไม่ถูก “พอดี...เอมลืมโทรศัพท์เอาไว้น่ะ วีเห็นมันบ้างหรือเปล่า” “หา ลืมโทรศัพท์เหรอ...ไม่รู้สิ วีเพิ่งตื่น เอม...ลืมไว้ตรงไหนล่ะ” ผมยืนเกาหัวแกรกๆ หันหลังมองกลับเข้าไปในห้องที่สภาพเหมือนมีระเบิดปรมาณูถูกทิ้งบอมบ์ลงมา เพราะยังไม่ได้เก็บกวาดอะไรสักอย่าง “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเอมหาเองก็ได้ แล้วนี่วียังไม่เก็บกวาดอะไรเลยนี่นา ถ้าอย่างนั้นเอมช่วยวีเก็บห้องก่อนดีกว่า” สาวสวยหน้าตาน่ารักเดินเข้ามาช่วยหยิบจับเศษซากจานชามกระดาษที่ถูกทิ้งขว้างวางเกลื่อนบนโต๊ะ “ไม่เป็นไรหรอก เอามันไว้อย่างนั้นแหละ” “ไม่เป็นไร วันนี้เอมว่าง ไม่ได้ไปไหน เดี๋ยวเอมช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดห้องให้วีนะ” ทีแรกผมตั้งใจจะห้าม แต่ระหว่างนั้นข้าศึกโจมตีหนัก จึงเพียงแค่พยักหน้า แล้วปลีกตัวเดินกลับไปขี้ในห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนใหญ่ ต่อด้วยอาบน้ำแปรงฟันให้สบายเนื้อสบายตัว จนเผลอลืมไปเลยว่าผมทิ้งเพื่อนร่วมงานให้เก็บกวาดจานชามอยู่คนเดียว “เฮ้ย เอม...ตกใจหมด” ผมตกใจจนเกือบหงายท้องเพราะขาข้างหนึ่งยังยกค้างอยู่ในอากาศเตรียมจะสอดมันเข้าไปในขากางเกง “ขอโทษ เอม...เห็นวีหายเข้ามานานน่ะ เลยนึกว่าหลับ” “อาบน้ำน่ะ” ผมตลบชายผ้าเช็ดตัวไม่ให้มันเปิดโป๊จนเกินไป จากนั้นยัดขาใส่เข้าไปในกางเกงแล้วรีบดึงมันขึ้นมาสวมให้เสร็จๆ “ห้องนอนวี...น่านอนจังเลยนะ ถ้าเอมมีห้องสวยๆ วิวดีแบบนี้คงหลับสนิททั้งคืนเลยล่ะ” “อืม เอมก็ลองถามตรงชั้นล่างดูสิเผื่อว่าเขายังมีห้องว่าง” ผมโยนผ้าเช็ดตัวลงไปในตะกร้าแล้วเดินไปยืนส่องเงาหัวตัวเองในกระจก หยิบหวีมาปัดๆ 2-3 ที แล้วยืนเลือกน้ำหอมขวดสวยๆ ของคุณปานัทมาฉีดๆ 2-3 ฟื้ด ไม่ได้ใส่ใจเพื่อนที่ยืนมองอยู่ด้านหลัง “เอมคงไม่มีปัญญาซื้อหรอกห้องแพงขนาดนี้ เงินเดือนเอมกับพี่เอิร์นรวมกัน 2 คนยังไม่พอผ่อนเลย” “อ๋อ แล้วเอมหาโทรศัพท์เจอหรือยัง” “ยังเลย ไม่รู้ว่าไปลืมเอาไว้ตรงไหน ขอยืมโทรศัพท์วีโทรเข้าหน่อยได้หรือเปล่า” “แล้วก่อนหน้านี้เอมได้ลองโทรเข้าหรือยัง...” “โทรแล้วนะ” “แต่วีนอนในห้องนั้นทั้งคืน ไม่เห็นได้ยินเสียงอะไรเลยนะ เอมลืมไว้ที่นี่จริงหรือเปล่า ไม่ได้ทำตกในแท็กซี่ หรือว่าลืมเอาไว้ที่ออฟฟิศนะ ใช้งานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ลองนึกดูอีกทีสิ หรือว่า....เปิดโหมดค้นหาตำแหน่งเอาไว้มั้ย” “เอ่อ...” “วีว่าเอมลองนึกดูดีๆ อีกที ดีกว่า” ผมเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วดึงเสื้อยืดตัวหนึ่งออกมาจากไม้แขวน สวมมันใส่หัวไปพร้อมๆ กับขาที่ก้าวยาวๆ ออกมาจากห้อง เมื่อออกมาเห็นว่าข้าวของระเกะระกะส่วนใหญ่ถูกเก็บกวาดทิ้งไปบางส่วนแล้ว “วี....” “หือ....!” แขนเรียวสอดเข้ามากอดเอว มือเล็กนุ่มนิ่มแปะลงบนแผงอกตำแหน่งเต้านมแบนๆ ของผม “เอม ทำอะไร!” “เอม...ชอบวีนะ” หน้าสวยจิ้มลิ้มเลื่อนเข้ามาประชิดในระยะใกล้ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเผยอยิ้มอย่างยั่วยวน ติ๊ด แกร๊ก เสียงระบบปลดล็อกประตูดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง ก่อนบานประตูหนักจะถูกผลักเปิดเข้ามา “...!...!...!...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD