บทที่ 4 ลีออง

1792 Words
บทที่ 4 ลีออง มื้อกลางวันผ่านพ้นไปอย่างหวานชื่น ลีอองเอาอกเอาใจ เดี๋ยวป้อน เดี๋ยวเช็ดปาก เดี๋ยวซบ ชวนคุยเรื่องนั่นเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนกินเพื่อนคุยได้อย่างดีเยี่ยม ซ้ำยังควักเงินจ่ายค่าอาหารโดยไม่อิดออด เฮ้ย! มันดี ดีเสียจนขับรถออกมาแล้วหัวใจยังเต้นแรงอยู่เลย นานแค่ไหนที่อาการฟูฟ่อง ล่องลอย แบบนี้หายไป จำได้รางๆ ว่าเกิดขึ้นในช่วงที่ตกลงคบกับแฟนคนแรกตอนเรียนมัธยมปลาย แต่ค่อยๆ จางหายเมื่อขึ้นปีหนึ่ง จนสุดท้ายก็เลิกรา หลังจากนั้นก็เป็นความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน จะเรียกแฟนก็ได้หรือเรียกคนคุยก็ดี ไม่เคยมีใครทำให้ใจเต้นแรงกระชุ่มกระชวยได้ขนาดนี้ หากไม่ใช่เด็กเอนเตอร์เทน คงหลงเชื่อแปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าเขาคือคนที่ผูกดวงไว้กับเธอ ลีออง ก็คือ อักษร ล.ลิง ยังไงล่ะ เกิดตอนไหน เดือนอะไร ไว้ค่อยถามทีหลัง “พี่ยิปอายุยี่สิบเอ็ดป่ะ” เสียงทุ้มดึงความคิดของยิปโซให้กลับมา “ใช่” ตอบแต่สายตามองถนน ขับรถในความเร็วที่ช้ากว่าปกติ เพราะอยากอยู่กับเขานานๆ เป็นเอามากเหมือนกันนะยิปโซ “ห่างแค่ปีเดียว ผมขอเรียกยิปเฉยๆ ได้ไหมครับ” เป็นคนมือไวอย่างแท้จริงพ่อเอ๊ย..เพราะมันเกาะหนึบอยู่ที่หน้าขาของเธอ คราวนี้มีลูบวน ยิปโซจึงก้มมองในตอนที่รถติดไฟแดงพอดี “อย่าลามปาม” ยิปโซเสียงดุเงยหน้าจ้องตากับเขา “หมายถึงเรียกชื่อเฉยๆ อ่ะเหรอ” “มืออ่ะมือ” พยักพเยินหน้าหงึกๆ ตรงตำแหน่งที่เขาลูบไล้ขึ้นสูง “อ่า..ขอโทษครับผมเผลอ ขาพี่ยิปขาวมากเลยอดใจไม่ไหว” ลีอองก้มหน้าอมยิ้มแล้วถอนมือออก แต่ในจังหวะที่ยิปโซกำลังเหยียบคันเร่งตอนไฟเขียว เขาก็ชะโงกหน้าเข้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ “นี่นาย!” “ขอเป็นค่าตอบแทนที่ผมเลี้ยงข้าวแล้วกันครับ” คนน้องหน้าระรื่น ส่วนอีกคนก็หน้าแดงลามไปถึงใบหู ไม่ไหว..แบบนี้มันเกินไป ยิปโซรีบหักรถเข้าข้างทางแล้วจอดนิ่ง ตวัดสายตามองคนที่มองเธออยู่แล้วอย่างขุ่นเคือง ถึงหวั่นไหวกับรูปร่างหน้าตาของเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ทำรุ่มร่ามเกินขอบเขต เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับอียิปเนี่ยนะ คิดผิดแล้วไอ้น้อง! “ลงไปเดี๋ยวนี้!” ยิปโซปลดล็อกชี้นิ้วสั่งเสียงแข็ง ลีอองยังคงยิ้ม แววตาเต้นระริกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสียอย่างนั้น “อย่าโกรธง่ายสิครับ ไหนจ้างมาฟีลแฟน หอมแก้ม จับมือ ลูบขา ก็เป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างพี่บอกผมเองว่าบริการแบบไหนก็ได้ ผมก็ทำงานตามปกติไงครับ” เสียงทุ้มอธิบายอย่างใจเย็น ต่างจากอีกคนที่โกรธจนหน้าดำหน้าแดง หน้าอกของเธอกระเพื่อมตามแรงอารมณ์ “ถึงพี่พูดอย่างนั้น แต่นายก็ควรขออนุญาตก่อน ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำ พี่ไม่ชอบ!” ยิปโซตวาดลั่น อารมณ์ขึ้นจนไม่อยากมองหน้าคู่สนทนา เธอโกรธขนาดนี้เขายังทำหน้าระรื่นอยู่ได้ ถ้าเป็นคนอื่นคงเลิ่กลั่ก หรือไม่ก็ลงจากรถไปแล้ว แต่ลีอองกลับนั่งเฉยซ้ำยังไม่มีท่าทีตกใจแต่อย่างใด “ถ้าพี่ไม่ชอบผมจะไม่ทำอีก ดีกันนะครับคนสวย ผมผิดไปแล้ว” ลีอองยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้า กระดิกดิ๊กๆ ทำตาละห้อยสำนึกผิด “ลงไป!” ยิปโซชี้ไปที่ประตูรถแววตาฉุนจัด “ขอโทษครับ พี่จะให้ผมไถ่โทษยังไงก็ได้ แต่หายโกรธเถอะนะ” ลีอองจับมือหญิงสาวมากุมไว้ ยิบโซใช้หางตามองแล้วสะบัดจนหลุด “อย่าจับ” “ดีกันนะครับคนสวย อย่าโกรธนานดิ ผมสำนึกผิดแล้วครับ ดีกันนะ ดีกันนะ” ยื่นนิ้วก้อยง้ออีกครั้ง นัยน์ตาสีนิลหยาดเยิ้มเว้าวอน “อย่าให้ต้องไล่ซ้ำ พี่ไม่ชอบคนเซ้าซี้” ใบหน้าสวยยังคงฉาบด้วยโทสะ “...........” ลีอองดึงนิ้วกลับ ถอนหายใจพรืดยาว สบตากับคนโกรธเคืองโดยไม่พูด “ยังไม่ไปอีก ทำไมนายดื้อด้าน!” “พี่ยังไม่จ่ายเงินส่วนที่เหลือให้เลย ผมจะไปได้ยังไง” เพล้ง! ยับแม่ยับ หน้ากูเนี่ย.. ยิปโซชักสีหน้ากลบเกลื่อน รีบหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากดโอนเงินส่วนที่เหลือ โชว์สลิปให้เขาดูพร้อมกระแทกลมหายใจ “โอนครบแล้วก็ลงไปสิ” ลีอองจ้องตากับเธอคราวนี้ไม่มีแววขี้เล่น ยิปโซสัมผัสถึงความว่างเปล่า ฉับพลันหัวใจก็ไหววูบเริ่มเกิดความลังเล นี่ฉันเป็นบ้าอะไร? ก็แค่เด็กเอนเตอร์เทนคนหนึ่งป่ะวะ จะอะไรนักหนา ไม่ดีก็หาคนใหม่ เงินเยอะแยะจ้างใครก็ได้ “เอาจริงพี่เป็นคนสวยมาก ตอนไม่โกรธโคตรน่ารัก ตอนยิ้มก็มีเสน่ห์ ตอนหัวเราะก็สดใสน่ามอง แต่..” ลีอองหยุดพูดแล้วถอนหายใจ “คือ..” ยิปโซมีท่าทีอ่อนลง อึกอักอยากพูดแต่คู่สนทนาส่ายหน้าปฏิเสธทำท่าไม่อยากฟัง “แต่เวลาพี่โกรธโคตรงี่เง่าจนผมไม่อยากเจออีก” ยิปโซเห็นแววผิดหวังในตาคู่คม แต่เพียงชั่วครู่ลีอองก็ยิ้มน้อยๆ เขาเช็กยอดเงินก่อนก้มศีรษะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ขอบคุณที่ใช้บริการครับ” คนไล่นิ่งงันอยากรั้งแต่ปากหนัก มองร่างสูงเดินห่างออกไป ฉุกคิดได้ก็เปิดประตูรถวิ่งตามแต่ไม่ทัน ยิปโซยืนเคว้งมองท้ายรถแท๊กซี่จนลับตา เหงื่อเม็ดเล็กผุดบนหน้าผากเนื่องด้วยช่วงบ่ายแสงแดดเจิดจ้า ครุ่นคิดหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่หลายนาทีก็ตัดสินใจกลับขึ้นรถ ช่างเถอะ..จบงานก็แยกย้าย ต่างคนต่างไป ความคิดแข็งแกร่งดุจขุนเขา แต่หัวใจบางเบาราวปุยนุ่น ไม่นานยิปโซก็พิมพ์ข้อความไปหาคนที่เพิ่งไล่ ตาคู่สวยจ้องหน้าจอรอการตอบกลับใจจดใจจ่อ ปลายทางกลับเงียบ แม้แต่เปิดอ่านเขาก็ไม่ทำ “ทำไมรู้สึกแปลกๆ โดนของหรือเปล่าวะ?” บ่นพึมพำ กระวนกระวายใจ นึกย้อนกลับไปก็ได้แต่เสียดายที่เผลอใส่อารมณ์ รอแล้วรอเล่าเขาก็ยังเงียบ สุดท้ายก็ต้องหาตัวช่วย ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้.. “เจ๊” [ว่าไงคะลูกยิป น้องลีอองดีเยี่ยมสมคำร่ำลือหรือเปล่า รีวิวหน่อยสิ] “เจ๊ติดต่อน้องให้หนูหน่อย อยากจ้างต่อ” [อ้าว..ตกลงยังไง ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกเหรอ] “เคยอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้น้องหนีไปแล้ว” [ห๊ะ! หนี! ยังไงคะอียิป!] ออสก้าจะหลุดเรียกสรรพนามจริงของเธอเสมอถ้าตกใจหรือโมโห “อย่าถามมาก ติดต่อให้หนู..เดี๋ยวนี้!จ่ายเท่าไรไม่อั้น” [ทำไมไม่ติดต่อเอง ไลน์ก็มีแล้ว] “ถ้าติดต่อได้หนูคงไม่รบกวนเจ๊หรอก” [เออๆ รอหน่อยแล้วกัน จะให้ไปเจอที่ไหน] “บอกว่ารออยู่ที่เดิม” รออยู่ที่เดิมเกือบสองชั่วโมงก็ยังไร้วี่แวว ยิปโซรัวข้อความหาออสก้าเพื่อเร่งเร้า จนอีกฝ่ายโทรมาวีนและปิดท้ายบทสนทนาด้วยคำว่า “อีเหี้ยยิป! มึงควรพอ” เธอจึงไม่กล้าเซ้าซี้ต่อ มองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ หงุดหงิดจนต้องปรับลมหายใจเข้าออกให้สม่ำเสมอ ตั้งแต่เลิกรากับแฟนเก่า ก็ไม่เคยอดทนรอใครได้เกินสามสิบนาที สำหรับลีอองกลับแตกต่าง จะสองชั่วโมงแล้วเธอก็ยังรอเขาอยู่ “รอทำไม รอทำไม กลับบ้านดีกว่า” ฟุบหน้าลงบนพวงมาลัยรถ พูดซ้ำๆ ย้ำๆ แต่ก็ไม่ไปสักที ไม่ชอบตัวเองในเวอร์ชันนี้เลย มันดูแพ้ ดูอ่อนหัด ยังไงไม่รู้ ก็อก ก็อก เสียงเคาะกระจกจุดประกายความหวัง ยิปโซรีบเงยหน้ามอง ตาเบิกกว้างเมื่อคนที่ยืนอยู่นอกรถคือตำรวจจราจร ซวยแล้วยิปโซ! เลื่อนกระจกลง แจกยิ้มหวานจนฉีกถึงใบหู ไหว้อย่างชดช้อยสวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใจชื้นขึ้นหน่อยเมื่อได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมได้รับแจ้งว่ารถคุณจอดอยู่ตรงนี้นานแล้ว” “เอ่อ..ฉันมารอเพื่อนค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” “ไม่แนะนำให้จอดรถติดเครื่องยนต์เป็นเวลานานกลางแดดนะครับ เดี๋ยวจะเป็นอันตราย” “ค่ะ ๆ ฉันจะกลับแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาเตือน” ยิปโซยกมือไหว้ยิ้มแห้งให้คุณตำรวจ รอให้อีกฝ่ายถอยห่างเธอจึงเคลื่อนรถออกช้าๆ เกือบเบี่ยงเข้าเลนขวาถ้าไม่เห็นร่างสูงในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดรองเท้าแตะวิ่งตามมา เท้าเหยียบเบรกอัตโนมัติ รีบปลดล็อกประตูในทันที ร่างชุ่มเหงื่อเข้ามานั่งด้วยอาการหอบหนัก เขาเอียงหน้าหายใจทางปากมองเธอนิ่ง ไม่ยิ้ม ไม่มีท่าทีแพรวพราวเหมือนคราวแรกที่เจอกัน เสื้อยืดสีขาวมีจุดดวงกระจายไปทั่ว กลิ่นเหงื่อตลบอบอวล น่าแปลกที่มันสร้างความปั่นป่วนในช่องท้องได้ไม่ยาก ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลามีเหงื่อเกาะอยู่ มือเจ้ากรรมก็ดันเอื้อมไปเช็ดให้เสียนี่ กว่าจะรู้ตัวก็ถูกอีกฝ่ายคว้าข้อมือจับไว้แน่น คิ้วเข้มขมวดยุ่ง “ถามจริงนะ พี่เป็นไบโพล่าป่ะ” “เอ่อ..” อาการน้ำท่วมปากมาเยือน อยากดึงมือกลับแต่ทำไม่ได้ จ้องตาคมกริบที่มีแววลุ่มลึกไม่กล้าขยับตัว กลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก “ถ้าพี่ป่วยก็ไปหาหมอ ไม่ควรจ้างผู้ชายมารองรับอารมณ์” “พี่ไม่ได้ป่วย” คนมั่นใจเกิดอาการประหม่า เมื่อลีอองดูนิ่งและสุขุม แววขี้เล่นไม่มีให้เห็น สายตาแพรวพราวแปรเปลี่ยนเป็นดุดัน แต่มันโคตรกร้าวใจ..ไม่ว่าเขาจะอยู่โมทไหน อียิปก็ชอบ อยากได้! คนปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นไบโพล่า คิดในใจระริกระรี้ ความขุ่นเคืองหงุดหงิดหายเป็นปลิดทิ้ง ไบโพล่าอะไร ไม่มี๊ ไม่ได้เป็น “ไม่ป่วยจริงเหรอครับ หื้มม..” “อ่ะ!” ลีอองใช้ฝ่ามือล็อกใบหน้าของเธอเข้าใกล้ กลิ่นลูกอมรสมคาราเมลโชยเข้าจมูก ยิปโซกะพริบตาเมื่ออีกฝ่ายค่อยๆ เคลื่อนเข้ามา นัยน์ตาคมวาววับด้วยความพึงพอใจ “คราวนี้ถ้าไล่ผมอีก พี่เจอดีแน่” “ลงไป!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD