“แฟนแกไม่ชอบเลขาของแกเหรอ” ผู้ชายด้วยกันยังดูออก แล้วพชิราจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน
“ไม่ใช่แฟนหรอก ก็แค่คุยๆ กันอยู่”
เขาตอบกลับน้ำเสียงเบาไม่แพ้กัน กษิดิศยิ้มอ่อน อย่างรู้กันว่าเพื่อนของเขานั้นเป็นเสือผู้หญิง และดูเหมือนเสือตัวนี้จะไม่มีนายพรานหน้าไหนจับได้เสียด้วย
“แล้วนี่แกกลับมาอยู่ไทยถาวรเลยหรือจะกลับไปอเมริกาอีก”
“คงกลับมาอยู่ไทยถาวรเลย พ่อฉันแก่มากแล้วอยากให้มาดูแลกิจการต่อน่ะ ใจจริงก็ไม่ได้อยากกลับหรอก แต่ก็นะ... เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งเราทุกคนก็ต้องกลับบ้าน” คนฟังพยักหน้า เหมือนเขาที่ไม่ได้อยากกลับ แต่ด้วยเหตุและผลหลายๆอย่างทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้
“ดีใจกับแกด้วยนะ ธุรกิจของแกมันเจ๋งมากเลยว่ะ ฉันกับพวกเพื่อนที่โน่นชื่นชมแกจริงๆ ว่ะ”
กฤษกรพยักหน้า เขาไม่ได้ยินดีกับคำชม เพราะยิ่งเขาเก่งเขาก้าวหน้ามากเท่าไหร่ ความเป็นส่วนของเขายิ่งหมดลงไปเรื่อยๆ ปีสองปีแรกเขาก็รู้สึกสนุก ตื่นเต้น ท้าทาย แต่นานวันเข้ามันเหมือนเข็มนาฬิกาที่ต้องเดินต่อไปในทุกๆ วัน หยุดเมื่อไหร่ก็จบเมื่อนั้น
“ขอบใจว่ะ ฉันไม่ได้ไปเยี่ยมพ่อของแกเลย”
“ไม่ใช่เรื่องแปลก นักธุรกิจใหญ่โตมีเวลาไปเยี่ยมพ่อฉันสิเรื่องแปลก” กษิดิศก็ยังคงเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเสมอ
“แล้วกิจการแกที่อเมริกาล่ะใครจะดูแล” นอกจากร้านอาหารหลายสาขาจำนวนมากในเมืองไทยแล้ว ที่อเมริกาก็ไม่น้อยหน้า
“คุณแม่แหละที่ดูแลต่อจากฉัน ฉันก็คงต้องบินไปบินมา”
คนเล่าหน้าเครียด กฤษกรรู้เรื่องในครอบครัวของเขาดีว่าพ่อแม่เขาแยกทางกัน และต่างก็อยากได้บุตรชายมาดูแลกิจการเช่นเดียวกัน แต่เพื่อนของเขาติดแม่มากจึงอยู่กับแม่เสียนานหลายปี จนตอนนี้สุขภาพของพ่อเริ่มไม่ดีจึงต้องกลับเมืองไทย ทั้งคู่ยังคงพูดคุยสัพเพเหระกันต่อด้วยเรื่องราวอีกมากมาย แต่ก็ต้องเป็นอันสะดุดเพราะเสียงแหวดังขึ้น
“น้ำอะไรของเธอกันเนี่ย กินไม่ได้เลย ทุเรศที่สุด!”
ดาหวันวางแก้วน้ำผลไม้กระทบกับโต๊ะเสียงดัง ในขณะที่พชิรายืนมองด้วยท่าทีนิ่งสงบราวกับน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ ทว่าใจของเธอนั้นรุ่มร้อนยิ่งกว่านั่งในน้ำเดือนร้อยองศา
“น้ำผลไม้ที่คุณดาหวันอยากดื่มยังไงล่ะคะ”
“นี่! อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ”
“เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนให้ใหม่ค่ะ”
สุดท้ายพชิราก็ตัดปัญหา แต่มันไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะทันทีที่เธอก้มลงจะหยิบแก้ว มือบางของคนเจ้ายศเจ้าอย่างก็ปัดมันทิ้งอย่างตั้งใจ จนหกเปื้อนกระโปรงและรองเท้าของพชิรา
“ตายแล้ว! ทำไมซุ่มซ่ามอย่างนี้”
ดาหวันโวยวายพร้อมกับลุกขึ้นยืน ทำให้กษิดิศต้องลุกจากเก้าอี้เพื่อมาดูคนทั้งสอง ในขณะที่กฤษกรยังคงนั่งนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับคุณพิ้งค์”
เจ้านายหนุ่มสะดุดหูกับสรรพนามที่ทั้งคู่พูดคุยกัน ไปสนิทสนมกันตอนไหนเขาไม่เห็นจะรู้ กฤษกรลุกจากเก้าอี้มายังที่เกิดเหตุบ้าง
“คุณเก้าคะ เลขาของคุณไม่ได้เรื่องเลยนะคะ ดาเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ”
หญิงสาวรีบเข้าไปฟ้องคนที่เดินมา สองเต้าอวบอิ่มกำลังเบียดต้นแขนของเขาอย่างจงใจ เธอยิ้มเยาะเย้ยอย่างสะใจจนพชิราที่มองดูอยู่ต้องเมินหน้าไปทางอื่น เธอฝืนเก็บอาการไม่พอใจเอาไว้ให้ลึกที่สุด
ท่องไว้... นั่นคือผู้หญิงของเจ้านาย ส่วนเธอก็แค่ลูกน้องธรรมดาคนหนึ่ง
“ไม่เป็นอะไรค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้กับแขกของเจ้านาย
“น้ำผลไม้ไม่อร่อยเหรอครับคุณดา” กฤษกรลองหยิบแก้วของเธอที่เหลืออยู่น้อยนิดขึ้นจิบ แล้วกลอกตามองบนอย่างครุ่นคิด
“อืม ไม่อร่อยจริงๆ ด้วย” ดาหวันยิ่งได้ใจเบียดตัวเอาใจชายหนุ่ม จนลืมไปว่าในห้องไม่ได้มีกันแค่สองคน
“ร้านแกมีน้ำผลไม้อร่อยๆ ไหมวะ” กฤษกรหันไปถามกับเพื่อนสนิท
“เยอะแยะ แกจะเอาน้ำอะไรว่ามา” กษิดิศยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย
“เดี๋ยวฉันให้จัดซื้อติดต่อไปก็แล้วกัน ฝากคุณพิ้งค์บอกกับจัดซื้อด้วยให้เปลี่ยนยี่ห้อไปเป็นของเพื่อนฉัน”
เขาออกคำสั่ง พชิราก้มหน้ารับคำ เธอขอตัวเดินออกมาเงียบๆ เพื่อล้างตัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาหวันทำกับเธอ แต่กฤษกรก็คงไม่เห็นพนักงานต๊อกต๋อยดีไปกว่าผู้หญิงของเขา ทิชชูจุ่มน้ำถูกนำเข้าไปในห้องน้ำ ฝาชักโครกถูกปิดลง ร่างบางค่อยๆ ถลกกระโปรงขึ้นเช็ดขาด้านในยาวไปถึงหลังเท้าและด้านในของรองเท้า เธอถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายในหน้าที่ที่ทำอยู่ แต่จะมีที่ไหนจะให้ค่าตอบแทนที่มากโขเท่าที่นี่ เธอถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนสวมรองเท้าแล้วเปิดประตูออกมา แต่ก็ต้องผงะเมื่อเจอกับสายตาคมกริบจ้องอยู่ พชิราเหงื่อแตกซิกเมื่อหันมองไปรอบๆ เธอเข้าห้องน้ำผิด นี่มันห้องน้ำของผู้บริหาร
“ขะ... ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรีบเดินเร็วรี่ไปที่หน้าประตู แต่ก็ยังช้ากว่ามือใหญ่ที่คว้าร่างของเธอมาปะทะแผงอกกว้างเต็มแรง
“คุณเก้า”
“จะรีบไปไหน ไปหาไอ้ดิศเหรอ มันกลับไปแล้ว”
เขารู้ว่าพชิราคงเป็นที่สนใจของเพื่อนไม่น้อย ก็แน่ละ... ใครไปใครมาหรือแม้กระทั่งลูกค้า ต่างก็ให้ความสนใจในตัวหญิงสาวแทบทั้งนั้น
“คุณเก้าปล่อยค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ใครจะมาห้องน้ำของผู้บริหาร... นอกจากเธอ” เขากดน้ำเสียงต่ำมองสำรวจใบหน้าหวานนั้น และเพิ่งรู้สึกว่าตัวเธอยังอุ่นๆ อยู่