กฤษกรผุดลุกผุดนั่ง เขานอนไม่หลับ ทุกอย่างรบกวนทั้งคำพูดของหญิงสาวที่คุยกับมารดา แล้วไหนจะเสียงน้ำที่ดังผ่านหูอย่างต่อเนื่อง ภายในห้องนอนนั้นมืดสนิทเพราะเธอไล่ปิดไฟทุกดวง และมันยิ่งทำให้ห้องน้ำสว่างมาก จนพาเขาจินตนาการไปถึงไหนต่อถึงไหน
“คิดจะจับฉันเหรอ” เขาลูบปลายคาง นึกถึงคำพูดของหญิงสาวกับคนในสายแล้วขบกรามแน่น
“ไม่ง่ายหรอก”
เขาลุกไปที่ประตูห้องน้ำ ความอดทนมันขาดผึงตั้งแต่ที่หญิงสาวเปิดน้ำไหลผ่านร่างกายแล้ว มือหนาผลักประตูเข้าไปด้านใน ก่อนจะพบเจ้าของผิวกายขาวๆ กำลังสนุกกับฟองนุ่มๆ บนเนื้อตัว
“คะ... คุณเก้า”
พชิราหันกลับมาก็ตกใจเมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มกำลังยืนกอดอกมองเธออยู่ หญิงสาวรีบนั่งลงใช้มือปิดบังส่วนที่ล่อตาล่อใจเขา แต่มันช้าเสียแล้วเพราะเขาเห็นหมดทุกสัดส่วน กฤษกรลอบกลืนน้ำลายขณะย่างเท้าเข้าหา
“คุณเก้า... คุณจะทำอะไร”
“ทำอย่างที่เธอต้องการยังไงล่ะ”
“ทะ... ทำอะไร”
เธอพูดได้เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มก็เข้าถึงตัว เขาคว้าเธอให้ลุกขึ้นยืนแล้วโอบกอดเธอไว้ แม้มือบางจะทั้งผลักไสและทุบตี แต่มันไม่สะเทือนถึงคนที่กำลังต้องการ น้ำอุ่นราดรดเนื้อตัวคนทั้งสองยิ่งกระตุ้นอารมณ์กระสันของคนทั้งคู่ให้เตลิดเปิดเปิง
“ไม่ค่ะ... ไม่”
“เธออยากได้เงินสองล้านไม่ใช่เหรอ”
“คุณเก้า” หญิงสาวเบิกตากว้าง ในขณะที่ชายหนุ่มไม่ได้สะทกสะท้าน
“ถ้าฉันถูกใจ ฉันจะให้เธอสองล้าน” เขาบรรจงจูบบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นอย่างไม่ปรานี ก่อนที่เธอจะอ่อนระทวยไปกับสัมผัสแปลกใหม่
“คะ... คุณเก้า”
เธอเรียกเขาน้ำเสียงแหบแห้ง เมื่อแผ่นหลังบอบบางแตะที่เบาะโซฟาเนื้อนุ่ม กฤษกรถอดเสื้อนอนที่เปียกชุ่มโยนทิ้งลงข้างเตียง สายตาเขาจับจ้องมองร่างระทวยบนเตียงอย่างถวิลหา
วันนี้เขาจะลองฝืนกฎของตัวเอง...
“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ”
พชิราแตะปลายนิ้วลงบนใบหน้าคมสันที่กำลังโถมลงมาหาเธออีกครั้งเป็นเชิงห้าม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะเขากลับรวบมือบางไว้เหนือศีรษะทั้งสองข้าง แล้วซุกใบหน้าลงสูดกลิ่นซอกคอหอมอย่างตะกรุมตะกราม
“คุณเก้า...”
เสียงร้องห้ามก่อนหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงครางอย่างพึงใจจนเขาลอบยิ้ม และรู้สึกพอใจไม่น้อยที่เลขาสาวไม่ได้ร้อนแรงอย่างที่นึกกลัว เขาไม่ชอบผู้หญิงเก่งบนเตียง มันดูไม่มีอะไรตื่นเต้น เขาชอบผู้หญิงไร้เดียงสาแบบเธอ แม้จะเป็นการแสดงก็ตาม
‘ถ้าฉันถูกใจฉันจะให้เธอสองล้าน’
... นี่กระมังที่ทำให้เธอสยบ
กฤษกรสำรวจเรือนกายขาวผ่องทุกจุด ฝากรอยแดงไปทั่วทั้งเรือนกายบอบบาง จนกระทั่งใบหน้าหยุดอยู่ที่กลีบดอกไม้งาม เขาอยากลิ้มชิมรสชาติของมัน ปลายลิ้นใหญ่แหวกร่องลึกสัมผัสกับน้ำหวานที่ทะลักล้น ร่างบางถึงกับสะดุ้งยกสะโพกขึ้นสูง
“อา...”
เสียงรัญจวนใจยิ่งทำให้เขาต้องเร่งความเร็ว ร่างบางอ่อนระทวยบิดไปมาบนเตียงกว้าง เธอคงพร้อมที่จะเป็นของเขา มือหนาเอื้อมหยิบถุงยางอนามัยที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ เขาไม่รอช้าอีกต่อไปเพราะร่างกายก็ปวดร้าวทรมานไม่ต่างกาย
“จะ... เจ็บ... พิ้งค์เจ็บ”
ชายหนุ่มต้องชะงักเมื่อท่อนกายแข็งแกร่งกำลังผ่านช่องทางรักที่แสนคับแน่น คนใต้ร่างผลักเขาออกเต็มแรง ส่ายหน้าไปมาผมเผ้ากระจาย น้ำตากำลังไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย
“พิ้งค์เจ็บ!” ความรัญจวนก่อนหน้ามลายหายไป หลงเหลือเพียงความเจ็บปวดจนแทบทำให้ร่างกายเธอขาดเป็นส่วนๆ
“มันจะไม่เจ็บ... เชื่อฉัน”
เขาอดทนรอคอยให้ร่างกายเธอปรับสภาพจนคุ้นชินกับสิ่งรุกล้ำ ก่อนจะค่อยๆ ขยับเขยื้อนกายจากเนิบช้า และค่อยๆ เร่งความเร็วทีละน้อย เรียกร้องให้เธอซ่านสยิวไปทั้งกาย กฤษกรถึงกับคลี่ยิ้มเมื่อกายเธอโอนแอ่นรับสัมผัส เสียงครวญหวานหูผลักดันให้เขากระทั้นกระแทกเต็มกำลัง จนกระทั่งเขาและเธอกรีดร้องด้วยความสุขพร้อมกัน ใบหน้าคมเข้มฟุบลงที่อกหยุ่น จนเสียงหายใจหอบค่อยๆ เข้าสู่สภาวะปกติ กฤษกรจึงพลิกตัวถอดถอนอาวุธร้ายออกจากร่างของเธอ พชิรายังคงหลับตานิ่ง เขารู้ว่าเธอไม่ได้หลับ แต่คงทำหน้าไม่ถูกยามต้องสบตากัน
ชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เขาเอะใจตั้งแต่เห็นเลือดติดอยู่ปลายเครื่องป้องกัน ก่อนจะฉุกคิดถึงทีท่าและอาการหวาดกลัวราวกับไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่า และความคับแน่นจนเกือบทำให้ลูกชายของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนรอยยิ้มที่มุมปากจะผุดขึ้นเล็กน้อย
พชิราแสร้งทำเป็นหลับ เธอปล่อยให้เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงกว่าจะลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ แม้จะรู้สึกรวดร้าวไปทั้งตัวแต่ก็ยังไม่ร้าวรานเท่ากับหัวใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ หญิงสาวออกมามองคนบนเตียงที่หลับอุตุอย่างสบายใจ ก่อนจะไปนอนลงที่โซฟาอย่างที่ตั้งใจตั้งแต่แรก โดยที่ไม่รู้ว่าคนบนเตียงนั้นยังไม่หลับ เขาไม่ได้ฝืนใจเธอ ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความเต็มใจของคนทั้งสอง ก็จริงอยู่ที่เขาเริ่มก่อนและเอาใจ แต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์คือต่างก็มีความสุข
“พิ้งค์... พิ้งค์” หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นตามเสียงเรียก เจ้านายหนุ่มในชุดเรียบร้อยนั่งอยู่ปลายเตียง สายตาจ้องมองเธอเขม็ง
“คุณจองตั๋วไว้กี่โมง” เขาถามน้ำเสียงเรียบ ทว่าพชิราต้องรีบกลืนน้ำลาย เมื่อสายตาไล่มองนาฬิกาที่ผนังห้อง
“สะ... สิบโมงค่ะ” เมื่อเธอตอบเขาจึงยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลา