บทที่ 08 มันเปลี่ยนไปแล้ว

1555 Words
ครืดดดดด! ฉันที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อัปเดตข่าวสารในโซเชี่ยลชะงักกับเสียงข้อความของแอปพลิเคชั่นที่เด้งขึ้น มือบางกดรีบกดเข้าไปอย่างไม่ต้องคิด ก่อนที่จะรัวตอบกลับใส่เจ้าของห้องสนทนาทันที LINE(PROMP) พร้อม : หมวยถึงคอนโดยัง? พะพาย : ถึงแล้ว ทำไมเฮียไม่บอกว่านี่มันคอนโดพี่คีริน พร้อม : เฮียลืมบอก เฮียหาคอนโดอื่นที่ปลอดภัยแล้วไว้ใจไม่ได้ ยกเว้นคอนโดของไอคีรินมัน แต่มันไม่ค่อยกลับคอนโดอยู่แล้วส่วนใหญ่มันจะอยู่แต่บ้าน ห้องมันก็อยู่ข้างๆ ห้องหมวยนั้นแหละ พะพาย : ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ งั้นหมวยไปนอนก่อนนะเฮีย ฝันดีค่ะ ฉันกดออกจากไลน์ของเฮีย ไม่ค่อยกลับคอนโดอะไรล่ะ เจ้าตัวโผล่มาอยู่นี่ไง แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน ครืดดดดด! แล้วเสียงสั่นเครือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เฮียแต่กลับเป็นกลุ่มสนทนาของเพื่อนฉันแทน LINE(4) เพียงขวัญ : พวกมึงพรุ่งนี้กูบินไปฝรั่งเศสนะ กูว่าจะไปประจำบริษัทที่นู้น ฉันขมวดคิ้วอ่านข้อความของยัยเพียงขวัญ รู้สึกได้ถึงความแปลกที่เป็นการไปแบบฉุกละหุกขอเพื่อน เท่าที่ฉันว่าเพียงขวัญต้องหนีใครสักคนนั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่ตัดสินใจปุบปับขนาดนี้หรอก ตอนเช้า ฉันตื่นมาตอนเช้าเพราะเสียงนาฬิกาปลุกบ่งบอกว่าถึงเวลาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ก็อกๆ แต่กลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ฉันที่กำลังจะเข้าอาบน้ำชะงัก เบือนมองทางประตูอย่างพิจารณา ใครมาเคาะประตูแต่เช้านะ นี่พึ่งจะหกโมงเช้าใครจะมาเช้าป่านนี้ คิดได้ดังนั้น ฉันก็คลายความสงสัยโดยการเดินไปส่องที่ตาแมวประตู "พี่คีริน..." เรียวปากบางเอ่ยถึงคนที่มายืนเคาะเบาๆ เขามาทำไม? ก็อก ๆ จนมันดังขึ้นอีกครั้งฉันก็รีบเดินไปหาชุดคลุม ยืนตัดสินใจชั่วครู่ก็ตัดสินใจเปิดประตู "พี่มีอะ..." ฉันไม่ทันจะถามจบ พี่คีรินก็ผลักประตูออกกว้าง ก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องฉันหน้าตาเฉย "อะไรของพี่ มีธุระอะไร" ฉันรีบหมุนตัวเดินไปดึงแขนคนที่หน้ามึนเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต จนเจ้าตัวหยุดชะงักแล้วยื่นอะไรบางอย่างให้ฉัน "พี่เอากุญแจรถมาให้" มันคือกุญแจรถหรูของฉันที่บอดี้การ์ดเขาขับมาส่ง ฉันจึงรีบคว้าแล้วผายมือทางประตูเชิญเขาออกไปทันที "หมดธุระแล้วก็ออกไปค่ะ" "พี่หิวอะ ทำอะไรให้กินหน่อยดิ" แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คาด เพราะคนคนเดิมเลือกที่จะเดินไปนั่งบนโซฟา แล้วเงยหน้าบอกฉันราวกับออกคำสั่ง "หิวก็ไปกินข้างนอก พายต้องไปทำงาน" ฉันยืนกรานไล่คนตรงหน้าที่หน้ามึนไม่เลิก "ก็ไปอาบน้ำ รีบไม่ใช่เหรอ?" ฉันหันไปดูนาฬิกาที่บ่งบอกว่าถ้าฉันยังเถียงกับเขาอยู่ฉันต้องไปทำงานสายแน่ๆ "พี่ก็รีบออกไปด้วย" จนตัดสินใจพูดไล่เขาทิ้งท้ายไว้ แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที เดี๋ยวก็กลับไปเองนั้นแหละ... จนเวลาผ่านไป ฉันแต่งตัวเสร็จออกมาก็ไม่เจอเขาตามคาด แต่เดินไม่กี่ก้าวดวงตากลมก็หยุดจดจ้องเมื่อเห็นข้าวต้มกุ้งพร้อมทาตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารแทน ฝีมือเขาเหรอ? คนสุดท้ายที่ออกจากห้องฉันก็เป็นเขา คงจะเป็นใครไปไม่ได้ ฉันยืนคิดอยู่นานก็เดินไปนั่ง ไอเกลียดก็เกลียดนั้นแหละ แต่ข้าวต้มกุ้งตรงหน้ามันชั่งยั่วยวนปากเหลือเกิน เป็นของโปรดฉันเลยนะ ถือว่าซื้อมาถูกใจ ทานหน่อยก็แล้วกัน การทำงานในหนึ่งวันผ่านไปอย่างราบรื่น ตกเย็นฉันเลือกที่จะไปทานร้านอาหารของพี่นนท์ ถูกเจ้าของร้านเชิญมาทุกวัน ฉันก็ไม่อยากปฏิเสธน้ำใจ กับข้าวก็อร่อยถูกปาก ร้านอยู่ใกล้ๆ ฉันเลยเลือกที่จะมาทานที่นี่ "สวัสดีครับคุณพะพาย วันนี้รับอะไรดีครับ" ฉันเดินเข้ามาในร้านแล้วนั่งที่โต๊ะก็มีพนักงานมารับออเดอร์ ไม่ต้องแปลกใจหรอกทำไมพวกเขาถึงรู้จักฉัน เพราะฉันมาบ่อยไงล่ะ อีกอย่างมาทุกครั้งก็จะมีเจ้าของร้านมานั่งแล้วสั่งอาหารให้ทุกครั้ง ราวกับเป็นแขกวีไอพียังไงออย่างนั้น "เอา....ค่ะ" ฉันสั่งอาหารกับพนักงานหนุ่ม สั่งเเสร็จเขาก็เดินหายไปหลังร้าน วันนี้พี่นนท์ไม่ได้มานั่งด้วย สงสัยไม่เข้าร้านมั้ง ฉันจึงก้มหน้าลงไถโทรศัพท์เล่นระหว่างรออาหาร จนกระทั่ง... ครืดดด มีเสียงลากเก้าอี้ตรงข้ามดังขึ้น ฉันก็เลยเงยหน้าขึ้นเพื่อดูคนที่มานั่งด้วย "ทำไมวะ..." คำพูดของฉันถูกกลืนเข้าไปในลำคอเมื่อคนตรงหน้าที่ฉันคิดว่าจะเป็นคนคนเดิมแต่วันนี้กลับไม่ใช่ เพราะเขาคือ...พี่คีริน "ใครอนุญาตให้พี่นั่ง" ฉันรีบเปลี่ยนสีหน้า ส่งตาขวางแล้วเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง "อยากนั่ง" พี่คีรินยักคิ้วตอบฉันหน้าตากวน ยิ่งทำให้ความโมโหของฉันพุ่งสูงกว่าเดิม "อยากนั่งก็นั่ง พายจะไปนั่งโต๊ะอื่นแทน" ฉันพูดจบแล้วลุกขึ้นจะไปนั่งโต๊ะอื่นที่อยู่อีกฝั่ง ห่างประมาณสี่ถึงห้าโต๊ะ ทันทีที่ก้นถึงเบาะเก้าอี้ อีกคนก็รีบเดินตามมานั่งตรงข้ามเช่นเดิม "จิ๊…พี่จะตามทำไม" ฉันจิ๊ปากเสียงดังโมโหคนตรงหน้าสุดฤทธิ์ อุตส่าห์เปลี่ยนโต๊ะแล้วยังตามกันมาอีก "พายนั่งตรงไหนพี่ก็จะนั่งตรงนั้นแหละ" พี่คีรินพูดขึ้น ฉันอยากจะบ้าตายกับความมึนของเขา อยากอยู่ก็อยู่ขี้เกียจเถียงแล้ว แล้วอาหารก็มาเสิรฟ์โดยพนักงานคนเดิม เขามองพี่คีรินแวบหนึ่งแล้วเดินออกไปทันที "ข้าวต้มเมื่อเช้าอร่อยไหม?" เรียวปากหนาเอ่ยถามในขณะที่ฉันกำลังจะก้มทานข้าว "ไม่รู้ พายเททิ้ง" ทานหมดถ้วยต่างหากล่ะ แต่ไม่อยากบอกหรอก บอกไปเขาก็คิดว่าฉันยังอาลัยเขาอยู่สิ "ของชอบไม่ใช่เหรอ?" ฉันช้อนสายตามองเจ้าของคำถาม จำได้ยังไงว่าเป็นของชอบของฉัน แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรสนใจ เขาอาจจะจำเกี่ยวกับฉันได้แค่นั้นล่ะมั้ง ฉันเลือกที่จะไม่ตอบ ก้มลงมาสนใจอาหารตรงหน้าอีกครั้ง จนดวงตากลมชะงักกับสิ่งที่อยู่ในจาน มีแต่ผักเต็มไปหมด ฉันเขียนไว้แล้วนี่นาว่าไม่ใส่ เพราะ... "พายไม่กินผักไม่ใช่เหรอ?" ใช่...เพราะฉันไม่ชอบทานผักเกือบทุกชนิด แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือเขายังจำได้อีกแล้วเหรอ?... พะพายเลิกสนใจ! "มันก็แค่อดีตค่ะ ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว" ฉันตอบไปเพื่อกลบความรู้สึกที่แท้จริง ตักผักในจานขึ้นมาทานทันทีที่พูดจบ จน งื้อ...ไม่น่าไปปากดีเลยพะพาย ไอผักบ้านี่ขมชิบหายเลย "อร่อยไหม?" จนเสียงทุ้มของคนตรงหน้าเลิกคิ้วถาม ฉันจึงพยายามเก็บสีหน้าไว้ จำใจเคี้ยวมันต่อไป ขนกายเริ่มลุกซู่ น้ำตาเริ่มคลอกับความขมของเจ้าผักที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะแตะมันเข้าสักวัน "น้ำ...ไม่ต้องฝืนขนาดนั้นก็ได้พาย" จนพี่คีรินยื่นน้ำดันมาให้ฉัน เขายกยิ้มมุมปากราวกับรู้อาการของฉันที่เป็นอยู่ต่อไป สีหน้าฉันมันบ่งบอกขนาดนั้นเลยเหรอ!? สุดท้ายความอดทนของฉันก็ขาดผึ่ง รีบคว้าน้ำยกขึ้นมาดื่ม ถ้าฉันยังฝืนไปมากกว่านี้บางทีฉันอาจจะได้อ้วกออกมากลางร้านก็ได้ "หึ" ร่างสูงเค้นเสียงขำในลำคอแล้วส่ายหัวเบาๆ แต่ฉันทำเป็นไม่สนใจแล้วรีบทานข้าวของฉันโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าเขา ข้าวก็ไม่ได้สั่งไม่รู้จะมาทำไม นั่งมองหน้าฉันอยู่นั้นแหละ "ตกลงพี่มาทำไม?" สุดท้ายฉันก็ทนต่อความอยากรู้ไม่ไหว เอ่ยถามพร้อมกับรวบช้อนที่ทานเสร็จหยิบกระเป๋าหมายจะเดินไปจ่ายเงิน "มาร้านอาหารก็มาทานข้าว" "พายไม่เห็นพี่สั่ง" "เปลี่ยนใจแล้ว" "เรื่องของพี่เถอะ" ฉันว่าจบก็ลุกหนีทันที คำพูดกลับไปกลับมาจนฉันงงเลิกสนใจ ฉันเดินไปจ่ายค่าอาหารแล้วเดินออกมาจากร้าน ชายชุดดำยืนอยู่หน้าร้านเต็มไปหมด พอฉันเดินผ่านทุกคนก็พร้อมใจก้มหัวให้ ฉันชะงักมองพวกเขาเกร็งๆ จนหันกลับไปถึงเห็นว่าพี่คีรินกำลังยืนซ้อนด้านหลัง คงไม่ได้ก้มหัวให้ฉันหรอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD