บทที่ 09 อยากขอโอกาส

1742 Words
ความจริงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตผมยอมรับว่าผมนอกกายน้องจริงๆ ตอนนั้นผมยังไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองว่ารู้สึกยังไงกันแน่ ผมคิดว่าผมแค่รักเธอเหมือนกับน้องสาวคนหนึ่ง ผมเลยพูดแบบนั้นออกไป ผมผิดที่มีคนอื่นในระหว่างที่ผมก็คบกับน้องอยู่ แต่นั้นเป็นครั้งแรกของผม เพราะความเด็กและน่ารักสดใสของพะพายทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องอย่างว่ากับเธอ แต่ผมก็ผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อมีคนเข้ามาเสนอผมก็แค่สนองจนลืมนึกถึงความรู้สึกของน้อง แต่เมื่อได้เห็นน้ำตาเธอผมกลับรู้สึกเจ็บที่ทำให้เธอต้องร้องไห้เพราะผม หลังจากนั้นความรู้สึกผมเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ผมไม่ได้คิดกับเธอแค่น้องสาว เพราะความเคยชินที่อาจจะทำให้ผมคิดไปแบบนั้น แต่เมื่อเธอหายไปจากชีวิตมันกลับไม่ใช่ แต่สุดท้ายมันกลับไปแก้ไขไม่ทัน เพราะเธอหนีผมไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว แต่ผมก็ยังให้คนของผมตามเธออยู่ตลอด โดยที่เธอไม่รู้ตัวจนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นผมคิดว่ายังไงน้องก็ต้องกลับมา ถึงความรู้สึกของน้องที่มีต่อผมจะไม่เหมือนเดิมแต่ผมสัญญากับตัวเองว่ายังไงผมก็จะรอเธอ ผมอยากจะกลับไปแก้ไขอดีตที่ผมเคยทำผิดกับเธอ แล้วทำให้เธอกลับมารักผมใหม่ให้ได้ ผมจะไม่มีทางให้มันกลับไปในเส้นทางเดิมอีกแล้ว คราวนี้ผมรู้ใจตัวเอง ผมจะมีแค่เธอคนเดียวผมรับรอง พี่จะไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนอีกแน่... "นาย..." ความคิดของผมชะงักเมื่ออยู่ๆ เสียงไอนธีมือขวาของผมก็ดังขึ้น "มีอะไร?" จนผมปรายตามองมันก็รีบเดินมายืนตรงหน้า "มีคนกำลังตามอดีตแฟนนาย" ไม่ต้องแปลกใจทำไมมันถึงทำตัวสนิทกับผม เพราะเราถูกฝึกมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก มันเป็นลูกของอานพซึ่งเป็นมือขวาของพ่อผมอีกที เราอายุเท่ากัน ถ้าอยู่กันสองคนมันจะพูดเป็นกันเอง แต่สิ่งที่ผมต้องโฟกัสคือสิ่งที่มันบอกว่ากำลังมีคนตามพะพาย... "มันเป็นใคร" ผมวางปากกาแล้วมองหน้ามันจริงจัง "แก๊งเหนือเมฆ" "ไม่จบไม่สิ้น" เหนือเมฆคือตระกูลมาเฟียที่พยายามจะโค่นตระกูลไคเลอร์ที่เป็นตระกูลผม แต่ทุกครั้งพวกมันทำอะไรพวกผมไม่เคยสำเร็จ มันเลยหันเป้าหมายไปที่พะพายแทน คงให้คนตามผมตลอดสินะ ถึงรู้ว่าพะพายสำคัญกับผมแค่ไหน "นายจะเอาไง" "ให้ไอธรกลับมาจากมาเก๊าเดี๋ยวนี้ แล้วให้มันตามไปดูแลพะพาย" ธรคือน้องของไอนธี ตอนนี้มันกำลังดูแลคาสิโนของผมที่มาเก๊า มันฝีมือดีไม่แพ้ไอนธี ผมไว้ใจให้มันดูแลพะพายมากที่สุด "เป็นห่วงเขาก็ไปเฝ้าเองสิวะนาย" "ถ้ามึงจะวะก็ไม่ต้องแทนกูว่านายหรอกไอสัส" ผมตอบมัน ไอนี่มันชอบกวนตีน ตั้งแต่ที่มันใช้คำว่า 'อดีตแฟน' กับผมแล้ว "อะ…มึงพูดเองนะคีย์" "มึงรีบออกไปก่อนที่กูจะเดินไปถีบมึง" ผมกับมันยืนกันห่างพอสมควร อยู่กันสองคนก็จะปวดประสาทแบบนี้แหละ "ใครจะอยู่ให้โง่ล่ะ" ว่าจบแล้ววิ่งออกจากห้องทันที ผมก้มหน้ากลับมาคิดงานอีกครั้ง แต่ไอเหนือเมฆกำลังทำให้ผมไม่มีสมาธิทำงาน ตอนนี้ผมทำงานบริษัทที่ไทย จะบินไปๆ มาๆ กับมาเก๊าเวลาคาสิโนมีปัญหา นั้นคือเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ค่อยมีเวลาไปตามพะพายสักเท่าไหร่ ทั้งก่อนหน้านี้และตอนนี้ แต่คราวนี้ผมคงต้องอยู่ไทยไปก่อน คราวนี้มันคงไม่ปล่อยให้พวกผมหลุดมืออีกแน่ ตกเย็น "ไอธรกำลังมาครับ ส่วนคาสิโนมันให้คนที่ฝีมือดีดูแลอีกทีครับ" นธีพูดขึ้นหลังจากที่ผมเดินอออกจากห้องทำงาน ถ้าอยู่ต่อหน้าลูกน้องคนอื่นมันก็จะเป็นคนละคน พูดเพราะไม่กวนตีนเคารพผมเป็นเจ้านายมันจริงๆ "อืม กูจะไปคอนโด" ปกติผมจะนอนที่บ้านซะส่วนใหญ่เพราะมันสะดวกกว่า แต่ตอนนี้ผมเป็นห่วงพะพาย ไอเหนือเมฆมันเป็นประเภทหมาลอบกัด ผมเคยโดนมาหลายรอบแล้วแต่ไม่คิดจะตอบโต้เพราะยังไม่อยากฆ่าใคร แต่ตอนนี้ผมกลับไม่คิดแบบนั้นแล้ว ถ้ามันแตะต้องพะพายเมื่อไหร่ ผมก็จะไม่เว้นชีวิตพวกมันไว้สักคน "บ้านช่องไม่มีเหรอ?" ตอนนี้ผมอยู่ในรถกับมันสองคน กำลังขับมุ่งหน้ากลับคอนโดโดยมีไอนธีเป็นคนขับรถ "ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของกูเถอะ" "นายจะว่าผมเสือกเหรอ?" "กูไม่ได้พูด มึงคิดของมึงเอง" ผมตอบกวนตีนมันไป 'ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของกูเถอะ' คือรูปประโยคดีๆ ของคำว่าเสือกนั่นแหละ "นายอะ ผมงอนแล้วนะ" นธีพูดขึ้นแล้วเบะหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ ผมมองมันผ่านกระจก ไอห่านี่มันทำหน้าไม่เกรงใจหนวดกับชุดดำที่มันใส่ตอนนี้เลย ผมส่ายหัวเบือนหน้าหนีสิ่งที่กำลังอุจาดตา ยิ่งคุยกับมันก็ยิ่งปวดประสาท @คอนโดตระกูลไคเลอร์ "ถ้ามีอะไรรีบมารายงานกู" ผมสั่งไอนธีและลูกน้องให้เฝ้าทั้งห้องผมและพะพายอย่างไม่คลาดสายตา "ครับ" จนพวกมันก้มหัวเคารพ ผมก็เดินกลับเข้าไปในห้องตัวเอง อาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วจึงมานั่งคิดหาเหตุผลที่จะเข้าไปในห้องพะพาย จนความคิดแล่นเข้ามาในหัวผมก็รีบดีดตัวไปมองไฟที่ระเบียงห้องของคนตัวเล็ก และมันก็เข้าทางเมื่อหลอดไฟยังสว่างจ้าบ่งบอกว่าเจ้าของห้องยังไม่นอน ผมรีบเดินออกจากห้องแล้วตรงไปเคาะห้องพะพาย ยืนเคาะอยู่นานประตูห้องก็ไม่ถูกเปิดออก ผมจึงระรัวทุบจนเธอเริ่มรำคาญ "อะไรของพี่!" พะพายเปิดประตูแคบๆ โผล่แค่หน้าหน้าออกมา ทำหน้าเบื่อหน่ายกลอกตาใส่ผมแล้วพูดขึ้น "พี่ขอยืมไดร์เป่าผมหน่อย" ตอนนี้สมองผมมันคิดได้แค่นี้แหละ "ไม่มี" เธอตอบห้วนๆ หมายจะปิดประตูใส่หน้าแต่ผมกลับดันเข้าไปก่อน แรงน้อยแค่นี้สู้อะไรผมไม่ได้หรอก "พี่คีรินเข้าห้องพายอีกแล้วนะ" ร่างบางรีบมาเดินขวางท้าวเอวแล้วพูดกับผม ท่าทางเธอดูไม่น่ากลัวเลยสักนิดแต่กลับน่ารักราวกับลูกแมวที่กำลังขู่เจ้าของให้กลัว ผมทำเป็นไม่สนใจเดินผ่านหน้าเธอหน้าตาเฉย ความถนัดของผมคือตีหน้ามึนนั่งลงบนโซฟากว้างแล้วยิ้มให้เธอ "พี่คีริน!" "ว่า?" "ฟู่ววว..." พะพายถอนหายใจพร้อมกับเดินไปหาอะไรสักอย่าง จนเดินกลับมาพร้อมกับไดร์เป่าผมแล้วยื่นมาตรงหน้าผมใบหน้าบูดบึ้ง "เอาไปค่ะ ได้แล้วก็เชิญค่ะ" "ขอนั่งแป๊ปหนึ่ง" "ห้องตัวเองไม่มีเหรอคะ?" "จะนั่งที่นี่" "พี่คีรินพายบอกให้ออกปะ...อ๊ะ!" เธอว่าพร้อมกับดึงมือผมให้ลุกจากที่นั่ง แต่ด้วยแรงที่น้อยกว่าทำให้ผมเลือกที่จะกระตุกมือเธอเบาๆ จนเรือนร่างบางเซล้มลงมานั่งบนตัวผมโดยไม่ทันได้ตั้งตัว "พี่คีรินทำอะไรของพี่ ปล่อยนะ!" พะพายดิ้นขลุกขลักในขณะที่ผมโอบรอบเอวเธอแน่น "เป่าผมให้พี่หน่อย" ก่อนที่จะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขอร้อง แต่เธอก็ยังดิ้นโวยวายเหมือนเดิม "พี่คีรินปล่อยพาย" ยิ่งเธอดิ้นมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งกอดรัดแน่นขึ้น ผมโคตรจะคิดถึงอ้อมกอดนี้เลย อ้อมกอดที่ผมโหยหามาตลอดห้าปีที่ผ่านมา "หายใจไม่ออก" พะพายหยุดดิ้นแล้วจดจ้องหน้าผม ผมจึงคลายกอดออกแต่ก็ยังโอบเอวไม่ให้เธอหนีเหมือนเดิม "รับปากว่าจะเป่าผมให้พี่ก่อน แล้วจะปล่อย" "ไม่!" "พี่ไม่มีมือทำเองหรือไง" "พี่อยากให้เธอทำให้ เหมือนเมื่อก่อน" ประโยคหลังผมเอ่ยเบาๆ แต่เธอน่าจะได้ยินเพราะพูดจบเธอก็นิ่งไปเลย "พะพาย..." "พายบอกให้ปล่อย" ผมที่กำลังจะเอ่ยต้องชะงักเมื่อร่างเล็กพูดสวนขึ้น ดวงตากลมแข็งกร้าวเปลี่ยนไปทันทีที่ผมพูดถึงอดีต "ถ้าการที่พายรับปากแล้วพี่จะปล่อย ก็เอามาค่ะ พายทำเอง" มือบางเอื้อมไปหยิบไดร์เป่าผม เธอมองหน้าผมอย่างกดดันจนผมค่อยๆ คลายตัวเธอออก พะพายลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มเป่าผมเงียบๆ เธอไม่แม้แต่จะก้มมองหน้าผม ในขณะที่ผมจ้องหน้าเธอตลอดเวลา "พี่ขอโทษ..." สุดท้ายผมก็พูดในสิ่งที่ต้องการ มือบางที่กำลังเป่าผมให้ชะงัก ช้อนสายตามองผมแล้วปิดเครื่องทันที "เสร็จแล้วค่ะ พี่ออกไปได้แล้ว" ผมดกดำยังเปียกไม่แห้งเลยด้วยซ้ำ แต่ผมรู้ว่าเธอตั้งใจจะหนีไม่อยากคุยด้วย จนผมเอื้อมจะจับมือบาง แต่ก็โดนสะบัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดี "พะพายพี่อยากขอโอกาส..." "เชิญค่ะ" เธอไม่ฟังผมเลย เบือนหน้าหนีอีกทางแม้แต่หางตายังไม่เหลือบมอง "พาย" ผมเรียกเธออีกครั้ง "พายบอกให้ออกไปไงคะ!" "ถ้าพี่ไม่ออก พายจะออกไปเอง" ร่างบางว่าจบหมายจะเดินไป แต่ผมกลับดึงมือเธอไว้จนเจ้าของดวงตากลมโตปรายตามองด้วยใบหน้าที่เย็นชา "พี่ไปเอง..."
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD