"ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว รอบแรกจะเป็นนักแข่งของโซน A มีนักแข่งทั้งหมด 13 คนจากสังกัด MBM 2 คน RT 2 คน NNG 4 คน RAM 5 คน"
"แรมคิดจะเอาจำนวนคนเข้าสู้หรือไงกันนะ"
"ก็แบบนี้แหละสนามใหม่ หวังแค่เอาตำแหน่งถ้าได้สักรางวัลก็จะมีหน้าตา" ผู้ชมที่ต่างเริ่มวิพากษ์วิจารย์
"Ready go!!"
ปริ้นนนน~ ทันทีที่เสียงสัญญาณดังขึ้นรถยนต์ของนักแข่งก็ต่างเร่งความเร็วเพื่อจะเข้าเส้นชัย การแข่งขันผ่านไปเรื่อยๆ จนมาถึงเวลาที่ทุกคนต่างรอคอยมือหนึ่งของสนามในแต่ละสังกัดลงไปเตรียมตัว โดยมีช่างมือดีไปลองเครื่องรอ
"เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็มาถึงเวลาทุกคนต่างรอคอยแล้ว...แต่ก่อนที่นักแข่งจะลงสนามวันนี้มีเดิมพันที่สวยงามให้ทุกคนชื่นชมจากฝั่ง NNG น้องนานาครับ"
ภาพหญิงสาวหน้าตาสะสวยถูกฉายขึ้นบนจอใหญ่นานมากแล้วที่ไม่มีการเปิดของเดิมพันแบบนี้ ทุกคนต่างสนอกสนใจคงจะมีแค่ทอฝันที่ได้แต่เบิกตากว้างขึ้น หัวใจเต้นเร็ว ตอนนี้สิ่งที่เธอเพิ่งภาวนาไปเมื่อกี้ว่าอยากให้ฝั่งตรงข้ามแพ้หายไปจนหมดสิ้น
[นานา! ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นของเดิมพันอีก]
"และสาวน้อยคนสวยจากฝั่ง MMB น้องดรีมครับ"
หลังจากนั้นหน้าจอของอีกฝั่งก็ฉายขึ้นบนหน้าจอใหญ่ แม้ว่าสีหน้าของคนในจอจะดูไม่ค่อยสู้ดีแต่ก็ยังสวยจนหลายคนยังต้องตะลึง ไม่แปลกใจที่เป็นของเดิมพันจากคิงจะงามงดย้อยยิ่งกว่านางฟ้า อาการของทุกคนเต็มไปด้วยความชื่นชม ยกเว้นก็เพียงแต่คนที่ถูกบอกว่าเป็นเจ้าของเดิมพันนี้ นอกจากจะไม่ชื่นชมยังหงุดหงิดด้วย
"ทำไมเป็นยัยนี่?" ไคที่กำลังจะสวมถุงมือก็ต้องหยุดชะงักมือไว้
"มึงรู้จักเหรอ" ธามถามอย่างสงสัย แม้เพื่อนจะชอบทำตัวสำส่อนแต่มันก็ไม่เคยยุ่งกับเด็กที่ทำงานอยู่ในสังกัด อีกอย่างหญิงสาวคนนี้เพิ่งเข้ามาใหม่แน่
"ไม่! ช่างเถอะกูไปก่อน" พูดจบเขาก็เดินออกไปทันที
ปรืนๆ ปรืนๆ
เป็นอีกครั้งที่เสียงเครื่องยนต์คำรามดังก้องสนามแข่ง แสงจากไฟด้านหน้ารถสาดส่องลงยังพื้นถนน ไม่นานร่างสูงใหญ่ของไคมือหนึ่งใน เจ้าของสนามแห่งนี้เดินตรงไปที่รถอย่างมุ่งมั่นเขาสวมชุดแข่งรัดรูปสีดำสนิท ส่วนคู่แข่งที่เขาต้องสู้ด้วยวันนี้อยู่ในชุดสีน้ำเงินเข้ม ก่อนที่เขาจะก้าวขาเข้าไปในรถดูเหมือนอีกฝ่ายจะทำหน้าตาเยาะเย้ยใส่เขาดูมั่นอกมั่นใจมากว่าจะชนะ
[เอาเถอะจงภูมิใจในความชนะที่พี่ชายมึงที่ได้มาเพราะการโกงไว้เยอะๆ กูจะทำให้พวกมึงสองพี่น้องรู้จักคำว่านรกเอง]
ทันทีที่พวกเขาก้าวขาเข้าไปในรถก็พวงมาลัยแน่น มือของแม้ว่าจะไม่ได้จับรถมานานแต่ก็ไม่ได้สั่นแม้แต่น้อยนิด แววตาของเขากลับมุ่งมั่นแน่วแน่ เขาพร้อมที่จะปลดปล่อยพลังความเร็วที่ซ่อนอยู่ภายใน นักแข่งคนอื่นๆที่เข้าซื้อวันนี้ก็เช่นกัน
“ขอรับผู้หญิงของน้องมึงไปก่อนแล้วกัน ส่วนมึงแค้นที่ผ่านมากูชำระคืนแน่”
ไคพูดอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเหยียบคันเร่งของรถจนดังกระหึ่มและในที่สุดธงสีเขียวโบกสะบัด เป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน เขาเหยียบคันเร่งอย่างเต็มแรง รถสปอร์ตสีแดงสดที่วิทย์เตรียมไว้ให้ก็พุ่งทะยานออกไปจากจุดสตาร์ททันที ทั้งเร็วและแรงทิ้งคู่แข่งไว้เบื้องหลัง เขาขับรถด้วยทักษะที่เฉียบคมแม้จะไม่ได้ขับนาน แต่มันก็ยังจำทุกอย่างได้ เขาควบคุมรถได้อย่างคล่องแคล่ว หลบหลีกคู่แข่งบนโค้งอันตรายอย่างว่องไว เสียงเครื่องยนต์คำรามดังสนั่นไปทั่วสนาม ใบหน้าไคตอนนี้เต็มไปด้วยสมาธิ เขาจดจ่ออยู่กับเส้นทางเบื้องหน้า มุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะให้จงได้
“เชี้ยเอ้ย!! มึงนี่เล่นสกปรกไม่ต่างจากพี่ชายจริงๆ”
พอคู่แข่งเบียดจนเกือบจะตกถนน ไคก็ตอบโต้กลับด้วยความโมโหที่ถูกเบียดจากรถอีกสองคนทำให้ตอนนี้เขาแทบจะสติแตก แต่การแข่งขันดำเนินไปอย่างดุเดือด ไคขับรถแซงคู่แข่งทีละคันที่แซงตัวเองไปก่อน ขยับเข้าใกล้เส้นชัยทีละนิด ในที่สุดธงที่อยู่เส้นชัยก็โบกไปมา สัญญาณว่าการแข่งขันสิ้นสุดลง เขาขับรถเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ในที่สุดคว้าก็คว้าชัยชนะได้สำเร็จ
พอคนที่เพิ่งแข่งชนะเดินลงมาจากรถ ถอดหมวกนิรภัย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสะใจเมื่อรถคู่แข่งที่คิดว่าจะชนะเขาขับตามเข้ามาในนาทีต่อมา เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วสนาม ผู้คนต่างโห่ร้องชื่นชมในฝีมือการขับรถของเขา
"ความภูมิใจมึงกูทำลายแล้ว ส่วนผู้หญิงกูก็ขอรับไว้นะ" ไคก้าวขาเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มก่อนจะตบมือลงบ่าเบาๆราวกับปลอบใจ แต่มันไม่ใช่การปลอบใจ มันคือการเยาะเย้ย
"ไอ้เชี้ย!!"
พายุตอนนี้ทั้งอับอายและก็กลัวเพราะสิ่งที่ตัวเองกำลังจะเสียมันไม่ใช่แค่สิ่งของแต่รวมถึงคู่หมั้น ถ้าพ่อของนานารู้ทั้งสปอนเซอร์สนามแข่งและการขยายพื้นที่คงจบลงแน่ ไม่สิบางทีอาจจะถูกปิดเลยก็ได้
"จะทำอะไร แพ้แล้วพาลเหรอ" เนย์เดินเข้ามาเมื่อเห็นเหตุการณ์ไม่สู้ดี
"มึงพวก!"
"ไอ้พายุใจเย็น ไปตั้งหลักกันก่อน" เพื่อนของพายุรีบมาพาเพื่อนออกไป ถ้าเกิดมีเรื่องตอนนี้แย่แน่
"ไอ้เนย์กูฝากจัดการหน่อย"
"ได้"
ไครีบก้าวขาเดินออกจากตรงนั้นและตรงไปที่ห้องพักกระจกทันที เมื่อกี้ระหว่างการแข่งแว็บหนึ่งเขารู้สึกไม่อยากจะแพ้ เพียงแค่คิดว่าต้องยกบางให้ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนั้น
ตลอดเวลาหลายปีมานี้เขามีความคิดเดียวคือตัวเองชนะเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าต้องไม่แพ้
ปัง!!
ทอฝันมองประตูที่ถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่กำยำเดินเข้ามาด้านใน
[ใช่เขาจริงๆด้วย]
ตอนที่เห็นอยู่ในสนามเธอไม่ค่อยมั่นใจว่าเป็นเขาหรือเปล่า ผู้ชายที่บังเอิญเจอถึงสองครั้ง ตอนนี้เขากลายเป็นคนที่กุมชีวิตของเพื่อนสนิทเธอ
"น่าตกใจเหมือนกันนะว่าเธอเป็นพริตตี้ของที่นี่...ทำอะไรนะ" จู่ ๆ ร่างเล็กก็คุกเข่าลงกับพื้นทำเอาเขาตกใจจะยื่นมือไปพยุงแต่ก็ชะงักและดึงกลับไป "คิดจะทำอะไร"
"ฉันขอร้องได้ไหมคะคุณไค คุณช่วยปล่อยผู้หญิงที่เดิมพันครั้งไปได้หรือเปล่า...ถ้าต้องการผู้หญิงไว้เป็นของเล่นสักคนเลือกฉันก็ได้ รับรองฉันจะทำให้ดีที่สุด"
ทอฝันหน้าขึ้นอ้อนวอนเขา แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว สักพักเขาก็เดินไปนั่งไขว้ห่างอยู่บนโซฟา แววตาของเขาตอนนี้มันต่างจากตอนแรก มันเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
"สาวน้อย เธอมีดีอะไรขนาดนั้นฉันถึงต้องยอมปล่อยสิ่งที่ตัวเองแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ"
"ฉัน..." มีดีอะไรงั้นเหรอ ถ้าเทียบนานาที่ทั้งสวย ชาติตระกูล ฐานะ หน้าตาทางสังคมเธอเทียบอะไรไม่ติดเลย สิ่งที่เธอมีก็คือ "ความซื่อสัตย์ ฉันจะซื่อสัตย์กับคุณคนเดียว ถ้าวันหนึ่งฉันผิดคำพูดขอใช้ชีวิตนี้ทดแทนให้"
"ทำไม...ทำไมเธอต้องปกป้องผู้หญิงคนนั้นขนาดนี้ แม้แต่เอาชีวิตตัวเองมาเดิมพัน"
"เธอคือเพื่อนสนิทของฉัน ความจริงเธอไม่ใช่คนที่จะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้เป็นของเล่นของใครได้...ส่วนเรื่องที่เอาชีวิตมาเดิมพันเพราะฉันคิดว่าไม่มีทางที่ตัวเองจะผิดคำพูด"
ไคนึกถึงใบหน้าผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง เหมือนเขาจะจำได้ลางๆแล้วว่าเธอคือคนที่อยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวกับคนตรงหน้าหรือเธอจะถูกหลอกมา
"เฮ้อ~ เธอบอกว่าจะปรนิบัติฉันนิ แต่ฉันไม่รู้ว่ามันจะดีแค่ไหน...แบบนี้ต้องทดลองก่อนไหม ขนาดลิปสติกยังต้องมีหลอดทดลองเลย"
คนที่ฟังรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินตรงไปหาเขา ที่กำลังจ้องมองเธอเหมือนเป็นกระต่ายรอถูกเชือด