บทที่ 6
เริ่มรู้สึก
1 เดือนต่อมา
“ไปกินไอติมกันม่ะ?” มัดหมี่เอ่ยชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มขณะเดินออกมาหน้าโรงเรียน
“เราต้องรีบกลับ..พ่อมารับแล้ว..ไปก่อนนะ บ๊าย” พอใจปฏิเสธก่อนโบกมือลาเพื่อนอีกสามคนแล้วเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่
“ฉันไปได้ ไม่มีปัญหา..แล้วบัวล่ะว่าไง”
ไตเติ้ลผู้ชายเพียงคนเดียวในกลุ่มหันมาถามสมาชิกใหม่ของกลุ่มที่ยืนนิ่งอย่างใช้ความคิด
“บัวคงไปไม่ได้..วันนี้มีนัด”
ใบบัวตอบอย่างลังเล สายตาคอยมองถนนฝั่งตรงข้ามที่เจคอปมักจอดรถเป็นประจำเวลามารับ
“นัดกับคนขับรถหรูๆหน้าตาหล่อๆ อ่ะเหรอ”
มัดหมี่ถาม รู้ว่าใบบัวมีแฟนแต่เพื่อนก็ไม่ได้เล่าเรื่องความรักให้เธอฟังมากนัก กลับกันเหมือนใบบัวพยายามปกปิดมากกว่าที่จะเปิดเผย
“.......” คำพูดของมัดหมี่ทำให้ไตเติ้ลสนใจขึ้นมาทันที เขาขยับเข้าใกล้ใบบัวแล้วก้มมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่งุดหน้าเมินหนี
“คนนั้นเป็นแฟนบัวใช่ป่ะ? ..ทำไมไม่พามาแนะนำบ้างล่ะ” มัดหมี่ยังคงถามต่อโดยที่ใบบัวมีท่าทีอึกอัก
“เอ่อ..พี่เขาไม่ค่อยว่าง..ไว้ถ้ามีโอกาสเราพามาแนะนำแน่นอน มัดหมี่รอก่อนนะ” ใบบัวยิ้มแห้งสีหน้าไม่สู้ดีตอบกลับ
“เฮ้ย..อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ดิ..ยิ่งแกเป็นแบบนี้ฉันยิ่งคิดว่าแกไม่มีความสุขที่มีแฟนนะเว้ย”
มัดหมี่เข้าไปกอดคอใบบัวที่ทำหน้าเจื่อน เมื่อถูกมองด้วยสายตาคาดคั้นจากเธอและไตเติ้ล มัดหมี่เป็นผู้หญิงห้าวๆ เลยพูดจาค่อนข้างโผงผางเสียงดัง เลยทำให้เธอเปรียบเสมือนหัวหน้ากลุ่ม
“......”
“อ้าว..เงียบเลย ตกลงมันยังไงวะบัว”
“บัวมีความสุขดี..มัดหมี่ไม่ต้องห่วง”
ใบบัวฝืนยิ้ม จะให้พูดได้ยังไงว่ากำลังคิดมากเรื่องที่แอบเห็นแฟนหนุ่มแชทกับผู้หญิงคนอื่นในเชิงชู้สาวเรท18+ อยากถามเขาแต่ไม่กล้าเลยเก็บมาคิดจนเครียดอย่างที่เห็น
“พี่เขาดีกับแกใช่มั้ย? ทำไมสองสามวันมานี่ดูซึมๆ ”
“ดีสิ..ดีมากมัดหมี่ไม่ต้องห่วงนะ”
อันนี้คือเรื่องจริง เพราะนอกจากเรื่องแชทเจคอปก็ดีกับเธอทุกอย่าง มารับตามที่นัดไว้ไม่เคยผิดนัด ทุกวันเสาร์ก็พาไปดูหนัง ไปคาเฟ่ หรือพาไปทานของอร่อยๆ เขาซื้อชุดนักเรียนซื้อของใช้ส่วนตัวให้เธอเยอะแยะจนแม่สงสัย แต่ใบบัวมักจะโกหกว่าเพื่อนห้องเดียวกันที่มีฐานะให้มา โชคดีที่แม่ไม่ได้เป็นคนชอบจับผิด ไม่งั้นคงไม่รอดมาจนทุกวันนี้ ส่วนโทรศัพท์เครื่องใหม่เธอก็โกหกว่าได้รางวัลจากการส่งชิงโชค
"ก็น่าจะดีนะ เห็นเปย์แกเยอะมาก"
"แหะๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก"
"ขนาดนั้นแหละ..ซื้อให้แต่ละอย่างแพงๆทั้งนั้น รูปหล่อสายเปย์ นี่มันแฟนในฝันของสาวๆ มัธยมอย่างพวกเราชัดๆ"
"มัดหมี่ก็พูดเกินไป.." ใบบัวลูบต้นคอแก้เก้อ สิ่งที่มัดหมี่พูดมาไม่เกินจริง เพราะเจคอปซื้อทุกอย่างให้เธอใหม่หมด ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยของแบรนด์เนมไม่เว้นแม้แต่ชุดชั้นใน ที่เขาประโคมหาซื้อมาให้จนเธอต้องบอกให้หยุด
ดีที่แม่ของเธอดูไม่ออกว่าอะไรของจริงของปลอมไม่งั้นคงยุ่งกว่านี้ อย่าว่าแต่ของใช้เลย เงินเขาก็โอนให้เธอไม่เคยขาด ตอนนี้ในบัญชีของใบบัวมีเงินของเจคอปเกือบห้าหมื่นเข้าไปแล้ว
“นั้น..รถพี่เขาหรือเปล่า?” มัดหมี่ชี้ไปยังรถสปอร์ตคันหรูสีดำ ที่วิ่งมาจอดเทียบฟุตบาท
“ใช่ๆ ..งั้นบัวไปก่อนนะ..ไว้เจอกันพรุ่งนี้”
ใบบัวลาเพื่อน และในจังหวะที่หมุนตัวเดินเธอก็สะดุดฟุตบาทที่พื้นไม่เรียบ ทำให้เสียหลักเกือบล้มถ้าไม่ได้ไตเติ้ลช่วยดึงไว้
“บัว..ระวัง !!”
หมับ..
ตุบ...
“อ่ะ..!!” ใบหน้าของใบบัวกระแทกอกไตเติ้ลอย่างแรง
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ไตเติ้ลดันร่างเล็กออกห่างจากนั้นก็มองเธออย่างสำรวจด้วยความเป็นห่วง
“มะ..ไม่เป็นไร? ขอบใจเติ้ลนะ..”
ใบบัวเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของเพื่อนชาย เพราะเจคอปลดกระจกลงแล้วมองเขม็งมายังพวกเธออย่างไม่พอใจ เด็กสาวหน้าเจื่อนเมื่อคิดว่าหากเขาโมโหเธอจะเจอกับอะไรบ้าง เพราะชายหนุ่มมักหาเรื่องลงโทษเธออยู่เป็นประจำ เขาชอบลงโทษเธอด้วยการกอดจูบลูบคลำไปทั่ว แต่ยังดีที่ยังรักษาสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรจนกว่าจะคบกันสามเดือน
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว บัวรีบไปเถอะ พี่เขามองตาขวางแล้ว” มัดหมี่พูดขัดขึ้น
“จ๊ะ..บัวไปนะ”
ร่างบางวิ่งไปยังรถของคนรักอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันเห็นสายตาวูบไหวของไตเติ้ลที่มองตาม
“ชอบเขาก็บอกเขาไปดิวะ..” มัดหมี่พูดลอยๆ ทำให้ไตเติ้ลหันมอง
“ไปกินไอติมกัน..อย่าพูดไร้สาระ..ป่ะๆ ”
“ชิ..ไอ้คนปากแข็ง เห็นมั้ยหมาคาบไปแดกจนได้” มัดหมี่พูดทิ้งท้ายก่อนวิ่งหนีเมื่อไตเติ้ลที่ทำท่าจะดีดหน้าผากของเธอ
“ยัยตัวแสบ..มานี่เลยนะ” ไตเติ้ลวิ่งตามมัดหมี่ไปอย่างคาดโทษ ที่เพื่อนตัวน้อยชักทำตัวรู้เยอะ
ภายในรถ
“ผู้ชายคนเมื่อกี้ใคร?”
เจคอปถามเสียงเข้ม ทำให้ใบบัวที่นั่งเหม่อลอยหันมองชายหนุ่มขณะที่สายตาคมจดจ่อกับถนนข้างหน้า
“เพื่อนค่ะ”
“หึ..เพื่อน?” เจคอปยิ้มเยาะ มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าไอ้เด็กนั่นชอบใบบัวมองตาเยิ้มขนาดนั้น ภาพที่คนตัวเล็กอยู่ในอ้อมกอดคนอื่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
“คุณเจถามทำไมคะ”
น้ำเสียงแข็งกระด้างของใบบัวทำให้เจคอปขมวดคิ้วยุ่ง ปกติเธอขี้อ้อนจะตาย แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มีอาการแปลกๆ อย่าบอกนะว่า...
“เป็นอะไร โกรธที่ฉันมารับเร็ว เลยอดอยู่กับไอ้นั่นนานๆ งั้นสิ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
“หรืออยากอยู่กับเพื่อนมากกว่าอยู่กับฉัน..”
คำพูดของเขาทำให้ใบบัวปรายตามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขาอย่างตัดพ้อน้อยใจ
“คุณเจ..อย่าหาเรื่องบัว”
“เป็นอะไรก็บอกมาดิวะบัว..แบบนี้ไม่ชอบเลย”
เจคอปหันหน้ามองเด็กสาวขณะที่จอดติดไฟแดง มือหนายื่นมาจับปลายคางมนทำให้ใบหน้าของเธอเชิดขึ้น ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นอัตโนมัติ
“ไม่ได้เป็น..”
“เดี๋ยวนี้ดื้อเหรอ หื้ม”
เจคอปดึงใบหน้าเล็กเข้ามาใกล้แล้วกดจูบลงอย่างดูดดื่ม ใบบัวทำเพียงเผยปากให้เขาได้สอดลิ้นเข้ามาแต่ไม่ได้จูบตอบเหมือนทุกครั้ง จนเจคอปต้องถอนจูบออกแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของเธออย่างตั้งคำถาม
ยิ่งนับวันใบบัวก็ยิ่งมีผลต่อความรู้สึก เขาไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ว่าทำไมต้องสนใจท่าทีแง่งอนของเธอ ทั้งที่ก็เป็นเพียงเด็กที่เตาะไว้เอาแก้เหงาแค่นั้น
“เราสองคนมีเรื่องต้องเคลียร์กันแล้วล่ะ..”
เจคอปพูดก่อนออกรถขับตรงไปยังคอนโดของตัวเอง ทั้งที่ตั้งใจพาใบบัวไปทานข้าวร้านประจำ แต่เมื่อเธอมีอาการบึ้งตึงคอนโดของเขาคงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การคุยมากที่สุด
เขารู้สึกร้อนใจกับท่าทีหมางเมินของเด็กสาว อยากคุยให้รู้เรื่องดีกว่าปล่อยให้ปัญหาสะสม มันใช่ความรู้สึกของคนที่คบกันจริงๆ จังๆ ป่ะวะ เจคอปได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง
. พรึ่บ..
“อื้ม..ปล่อยบัวก่อนค่ะ” ใบบัวดิ้นขลุกขลักอยู่บนตักของเจคอปในตอนที่ทั้งคู่อยู่ในห้องสุดหรูของเขา
“บอกมาก่อนว่าเป็นอะไร..”
เจคอปตีมึนซุกหน้าลงซอกคอหอมกรุ่น อ่า..เขาติดกลิ่นกายเธออย่างหนัก อยู่ใกล้ทีไรไม่อยากทำอะไรเลยนอกจากนัวเนียกับเธอ
“ตอนนี้คุณเจคบกับบัวคนเดียวหรือเปล่าคะ”
น้ำเสียงจริงจังทำให้เจคอปต้องเงยหน้าสบตากับใบบัว ชายหนุ่มยิ้มมุมปากน้อยๆ พร้อมกับลูบสะโพกกลมกลึงบนตักไปมา
“อะไรทำให้เธอถามฉันแบบนี้?”
“บัวอยากได้คำตอบไม่ใช่ให้คุณเจมาถามกลับ..”
ใบบัวหน้างอทำให้คนตัวโตหัวเราะขบขัน สงสัยคงเจออะไรมาถึงได้มีท่าทีหมางเมินเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ไปเจออะไรมาก็พูดดิ..”
“.......”
“ว่าไงบัว..จะพูดมั้ย?”
“วันก่อนบัวเห็น เอ่อ..คุณเจแชทกับผู้หญิงคนอื่นค่ะ”
“แค่นี้อ่ะเหรอ..ที่ทำให้เธองอนฉัน ฮ่าๆ เด็กว่ะ” เจคอปหยิกแก้มใบบัวอย่างมันเขี้ยว จากนั้นก็ใช้ฟันขบริมฝีปากล่างของเธออย่างหยอกเย้า
“มันไม่ใช่เรื่องเล็กนะคะ..คุณเจตอบบัวมาสิ”
“ตายๆ ..เรื่องแค่นี้ก็เอามาเป็นประเด็น”
“เอ๊ะ! ทำไมคุณเจไม่ตอบบัวล่ะคะ” คนบนตักที่รอคำตอบฮึดฮัดใส่อย่างลืมตัว จนเจคอปชักสีหน้าไม่พอใจใส่
“ใบบัว..อย่าเป็นแบบนี้นะ”
“บะ..บัวขอโทษค่ะ”
ใบบัวเสียงอ่อนลงเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าเผลอใส่อารมณ์ เพราะถูกเขาตามใจเธอเลยเผลอเอาแต่ใจอยู่บ่อยๆ จนบางครั้งเจคอปต้องคอยเตือน พออยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นอาการประหม่าเคอะเขินก็หายไป แต่ถึงกระนั้นใบบัวก็ยังคงเกรงใจเจคอปอยู่มาก
“ตอนนี้ฉันคบกับเธอคนเดียว”
แต่เอาหลายคน..จะโทษเขาไม่ได้เพราะใบบัวไม่ยอมให้เขาเอานี่นา เชื่อเถอะถ้าหากได้เปิดซิงเธอเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละเขาจะไม่มาเสียเวลาอธิบายเรื่องไร้สาระแน่นอน
“แต่คุณเจนัดเจอผู้หญิงคนนั้น”
หึ..คงแอบอ่านไปเยอะสิท่า
“เพื่อนที่มหาลัย..สนิทกันมากเลยคุยไปเรื่อย อย่าใส่ใจนักเลย”
“เพื่อนจริงเหรอคะ”
ใบบัวคล้องแขนรอบคอของเขา ถามย้ำอย่างกล้าๆ กลัวๆ ถึงอยากคาดคั้นเอาคำตอบให้มากกว่านี้ แต่พอเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของเขา ใบบัวก็จำใจต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้
“จริงทุกเรื่อง..ฉันจะโกหกทำไม เอางี้มั้ยวันไหนเธอว่างฉันจะพาไปรู้จักเพื่อนๆ ของฉัน”
“ค่ะ” คำพูดเพียงไม่กี่คำของเจคอปทำให้ใบบัวฉีกยิ้มกว้าง เพราะคิดว่าชายหนุ่มจะพาเธอไปเปิดตัวในฐานะแฟนสาว
“หายงอนยัง?” เจคอปเขี่ยแก้มใสที่แดงระเรื่อ
“........”
“ฉันมีเพื่อนผู้หญิงเยอะ บางทีก็คุยเรื่อยเปื่อยไม่ได้มีอะไรพิเศษ เป็นปกติมากของเด็กมหาลัย ไว้เธอเข้ามหาลัยเมื่อไหร่จะรู้เอง” เจคอปอธิบายเมื่อใบบัวยังคงเงียบ
“ค่ะ..บัวจะพยายามเข้าใจ”
ใบบัวหน้าหงอยเมื่อใจนึกไปถึงคำพูดของแม่เมื่อวานที่บอกว่า หากเธอทำตัวไม่ดีจะไม่ได้เรียนต่อ กลัวเหลือเกินว่าเรื่องคบกับเจคอปจะทำให้ความตั้งใจอยากเรียนต่อในระดับมหาลัยจะพังลง
“เป็นอะไร หื้ม? ”
ก้านนิ้วยาวไล้ไปตามกรอบหน้าของเด็กสาว สายตาคมจับจ้องไปยังริมฝีปากสีสวยที่เจ้าของเม้มไว้แน่นเหมือนกำลังกังวลอะไรบางอย่าง
“บัวกลัวแม่รู้เรื่องของเราจัง..ถ้าเป็นแบบนั้นบัวไม่ได้เรียนต่อแน่ๆ ”
“ไม่ต้องกลัว รู้ก็รู้ไปสิ..ถ้าแม่เธอไม่ส่งเรียน ฉันนี่แหละจะส่งเธอเรียนเอง”
พูดไปแล้วเจคอปก็ตกใจในคำพูดของตัวเอง หากเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่าใบบัวจะยังอยู่ในชีวิตเขาไปอีกหลายปี ทั้งที่ตั้งใจว่าหากมีอะไรกันเขาจะตีตัวออกห่างแบบเนียนๆ แล้วเงียบหายไป ไม่ได้คิดจริงจังถึงขั้นส่งเสียเลี้ยงดูเป็นจริงเป็นจัง
“คุณเจ..” ใบบัวสบตากับเจคอปด้วยความขอบคุณ เขาดีกับเธอจริงๆ ดีจนเธอรู้สึกว่าชาตินี้จะหาแฟนแบบเขาได้จากที่ไหน
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว..เรามาหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีกว่า” ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวบทสนทนาจะเตลิดไปไกล พักนี้เขาเริ่มรู้สึกกับใบบัวเกินไปแล้ว
“สนุก? ”
“ก็..แบบว่า..”
พรึ่บ..
“อ่ะ..คุณเจ !”
ใบบัวถูกจับให้นอนลงบนโซฟาจากนั้นร่างสูงในชุดนักศึกษาก็ขึ้นทาบทับ ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ระดับเดียวกับใบหน้าของเธอ กลิ่นน้ำหอมของเขาทำให้ใบบัวรู้สึกเคลิ้ม สายตาหวานเชื่อมทำให้เธอยอมเผยอปากรับจูบจากเขาอย่างเต็มใจ
“อื้ม..” ชายหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากเข้าหาอย่างหนักหน่วง ลิ้นสากร้อนชอนไชไปทั่วโพรงปากนุ่ม รสสัมผัสที่คุ้นชินกระตุ้นความต้องการขึ้นทุกวัน ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาไม่อยากมีอะไรกับเธอ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะอดใจไหวเมื่ออยู่ใกล้ มันเป็นความรู้สึกที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิด
จุ๊บ..
เจคอปกดจูบหนักๆ ลงบนริมฝีปากอวบอิ่มแล้วถอนจูบออก เขาจ้องตาเธอในระยะใกล้ ดวงตากลมโตของคนใต้ร่างทำให้หัวใจแข็งกระด้างอ่อนยวบ เธอช่างไร้เดียงสาและดูเหมือนว่าจะตกหลุมรักเขาเข้าเสียแล้วสินะ
“ไม่อยากให้กลับเลยอ่ะ..”
เจคอปคลอเคลียริมฝีปากกับแก้มเนียนใส ฝ่ามือหนาบีบเคล้นหน้าอกอวบผ่านชุดนักเรียนอย่างปลุกเร้า ใบบัวได้แต่นอนนิ่งๆ ให้เขาเล่นกับร่างกายเพราะเริ่มชินกับสัมผัสของอีกฝ่าย
“ไม่ได้ค่ะ..ยังไงบัวก็ต้องกลับ”
“รู้แล้วๆ ..อื้ม..”
เจคอปกดจูบเข้าหาใบบัวอีกครั้ง ลิ้นลากร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่มเพื่อดูดดุนลิ้นเล็กที่ตวัดเกี่ยวกับลิ้นของเขาอย่างจำยอม นับวันใบบัวก็ยิ่งจูบเก่งขึ้น ทุกครั้งที่เธอตอบสนองสัมผัสของเขาเจคอปก็แทบหักห้ามใจตัวเองไม่ได้
“อื้อ..” เสียงครางในลำคอของเด็กสาวดังขึ้นเมื่อฝ่ามือใหญ่สอดเข้ามาในเสื้อนักเรียน กอบกุมเต้างามแล้วบีบเคล้นอย่างรุนแรง แก่นกายที่ดันหน้าขาของเธอบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังมีอารมณ์
“อ่า..ฉันอึดอัดเป็นบ้าเลย..บัว”
เจคอปผละปากออกแล้วพูดชิดริมฝีปากอวบอิ่ม น้ำลายสีใสเคลือบปากของทั้งสองจนมันวาบ ใบบัวเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเขามองเธอด้วยสายตาร้อนแรงกว่าทุกครั้ง ฝ่ามือที่ฟ่อนเฟ้นหน้าอกอวบก็ไม่ยอมละไปไหน ส่งผลให้เธอหน้าแดงจนต้องงุดหน้าเมินหนีเขา
“....”
“อยากเอา..ได้มั้ยครับ? ”