คนที่ทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุน 3

1162 Words
คนที่ทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุน  "ขอบคุณค่ะ" เธอหันไปยิ้มและขอบคุณพนักงานเช่นกัน ก่อนที่สายตาเธอจะเหลือบไปเห็นเค้กในตู้หน้าเคาน์เตอร์ เธอจึงหันมาบอกเขาว่าเธอจะไปดูเค้กและถามเขาว่ากินไหม พอเขาส่ายหน้าปฏิเสธเธอจึงลุกไปที่ตู้เค้กนั่นทันที ไม่นานก็เดินกลับมานั่งตามเดิมเมื่อสั่งเสร็จ "ชอบทานเค้กเหรอครับ" ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไปหลังจากเห็นท่าทีตื่นเต้นของเธอก่อนหน้านี้ "ชอบค่ะ เมื่อกี้ฉันสั่งมาหลายชิ้นเลย สั่งมาเผื่อคุณด้วย จะได้ช่วยกันชิมค่ะว่ารสไหนอร่อย คราวหน้าจะได้ระบุเลยว่าเอาอันไหน" อืม เชื่อแล้วว่าชอบจริง ๆ สีหน้าและแววตาเธอตอนพูดถึงเค้กที่เธอเพิ่งสั่งไปดูเป็นประกายมาก "ตอนทำงานเครียด ๆ นี่ช่วยได้มากเลยนะคะ" "คุณเป็นโปรแกรมเมอร์...? " เขามองป้ายที่เธอห้อยเอาไว้แล้วเอ่ยถาม ในนั้นบอกชื่อ-นามสกุล แล้วก็ตำแหน่งของเธอนั่นก็คือจูเนียร์โปรแกรมเมอร์ "ใช่ค่ะ งานหนักมากแล้วปวดหัวมาก แต่ทนได้เพราะเงินดี" เธอพยักหน้าตอบก่อนจะบ่นให้เขาฟังขำ ๆ ทำให้คนฟังยิ้มขำออกมาเล็กน้อย เพราะเพิ่งเคยมานั่งฟังพนักงานในบริษัทมานั่งบ่นอะไรแบบนี้ครั้งแรก "แล้วตำแหน่งคุณนี่ทำอะไรบ้าง เงินเดือนคุ้มกับค่าเหนื่อยหรือเปล่า" เขาถาม "ก็คุ้มนะคะ ที่นี่ถือว่าจ่ายเยอะกว่าที่อื่นมากเลย สำหรับคนที่มีประสบการณ์การทำงานน้อยอย่างฉัน ส่วนงานที่ฉันต้องทำนะคะ คือฉันทำตำแหน่งจูเนียร์ใช่ปะ ตอนแรกฉันก็ได้รับหน้าที่ดูแลพวกโปรแกรมต่าง ๆ พวกแอปพลิเคชัน พวกหน้าเว็บของบริษัทอะ เขียนโปรแกรมไรงี้" พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงตั้งใจฟังเธออย่างสนใจเธอจึงเล่าต่อ "แต่มันก็ไม่ได้มีแค่นั้นหรอกค่ะ ขึ้นชื่อว่าไอทีมันก็ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับคอมใช่ไหมล่ะ นั่นแหละค่ะฉันก็ได้ไปซ่อมคอมด้วย" ว่าจบเธอก็หัวเราะออกมา จริง ๆ ชื่อฝ่ายของเธอคือฝ่ายปฏิบัติการ แยกย่อยออกมาคือแผนกปฏิบัติการและบำรุงรักษาซึ่งเธออยู่ในแผนกนี้ ที่ทุกคนเรียกว่าแผนกไอที "แล้วคุณซ่อมได้เหรอครับ" ศรัณภัทรยังคงถามต่อ เขาค่อนข้างทึ่งอยู่นิด ๆ ที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ค่อนข้างบอบบางอย่างเธอจะไปซ่อมคอมหรืออะไรแบบนั้น "ซ่อมได้ค่ะ แต่ถ้าเคสไหนยาก ๆ ฉันก็จะให้คนอื่นไป" ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ พร้อมกับคิดว่าผู้หญิงคนนี้โคตรน่าสนใจต่างจากผู้หญิงคนอื่นมาก ที่สำคัญเธอทำให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดเลย ท่าทางการเล่าที่ดูเป็นธรรมชาติดูไม่ขัดเขินทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งจะเจอเธอเป็นครั้งที่สอง แต่เธอกลับทำตัวเหมือนเธอกับเขาสนิทกันมาเนิ่นนาน แล้วบทสนทนาของเธอกับเขาก็ต้องหยุดลงเมื่ออาหารที่สั่งไปถูกยกมาเสิร์ฟ เธอสั่งกับข้าวไปประมาณสี่อย่างรวมกับของเขาที่สั่งไปอีกสองอย่าง เป็นทั้งหมดหกอย่าง ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เขาอดรู้สึกทึ่งในตัวเธอไม่ได้ เพราะอาหารหกอย่างที่สั่งมาตอนแรกเขาคิดว่ายังไงก็ต้องเหลือแน่ ๆ แต่มันกลับไม่เหลือ อาหารตรงหน้าถูกเธอเก็บเรียบทุกอย่างไม่มีเหลือ เป็นผู้หญิงที่กินจุมากแต่กลับไม่อ้วนเลย หลังจากของคาวหมดไป ของหวานก็ถูกยกมาเสิร์ฟเลยทันที เธอหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายรูปเค้กหน้าต่าง ๆ เอาไว้ ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักชิม "อื้อหือ อันนี้อร่อยมาก คุณลองชิมดูสิคะ" เธอทำตาโตเมื่อได้ชิมเค้กมะพร้าวก่อนจะหยิบช้อนเล็ก ๆ อีกอันส่งมาให้เขา "ผมไม่ค่อยชอบทานของหวาน" เขาบอกเธอไปตามตรง "อ้าว แต่มันอร่อยจริง ๆ นะ ลองดูก่อน เผื่อจะติดใจ" เธอพูดแล้วตักขึ้นไปทานอีกคำเพื่อยืนยันว่าอร่อยจริง ๆ "ผมอิ่มแล้ว คุณยังไม่อิ่มเหรอ" เขาถามและยกแก้วน้ำขึ้นมาดูด "ข้าวน่ะอิ่มแล้ว แต่ของหวานน่ะยังไม่อิ่ม" เธอตักเค้กขึ้นทานอย่างเอร็ดอร่อย "กระเพาะของหวานกับของคาวมันแยกกันได้นะคะ" "อ๋อ" เขาพยักหน้ารับ พอจะเข้าใจแล้ว ผู้หญิงส่วนมากจะมีกระเพาะของคาวแยกกับของหวาน ต่อให้ทานของคาวมาเยอะแค่ไหนก็สามารถทานของหวานต่อได้อีก "แล้วคุณเป็นยังไงบ้าง ยังเจอคนท่าทางแปลก ๆ หรือยังโดนตามอยู่ไหม" ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอทานใกล้จะหมดแล้ว "ไม่แล้วล่ะ" เธอส่ายหน้าตอบ ก่อนจะพูดต่อ "อีกอย่างฉันก็ย้ายที่อยู่ใหม่แล้วด้วย" "ไปอยู่กับแฟนเหรอ" ไวเท่าความคิดชายหนุ่มก็หลุดถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ออกไป "ฮะ" เธอตกใจเล็กน้อยพร้อมกับทำหน้านึกไปด้วย ไม่นานเธอก็นึกออกว่าทำไมเขาถึงถามแบบนี้ "อ๋อ คนนั้นพี่ชายค่ะ ไม่ใช่แฟน ฉันไม่มีแฟนหรอกค่ะ" ที่เธอไม่ทักท้วงตอนที่พี่ชายเธอพูดไปแบบนั้น ก็เพราะว่าพี่ชายเธอเป็นแบบนี้ทุกครั้ง จนเธอชินแล้ว "พี่ชาย?" ชายหนุ่มถามพร้อมกับหัวใจที่อยู่ ๆ ก็เต้นรัวขึ้นมา "ค่ะ พี่ชายแท้ ๆ เลย" พอรับประทานอาหารเสร็จก็หมดเวลาพักเที่ยงของตวงรัตน์พอดี และเมื่อศรัณภัทรเอ่ยว่าจะเป็นคนจ่ายมื้อนี้เอง เธอจึงรีบชิ่งลุกไปเคลียร์ค่าอาหารที่เคาน์เตอร์ทันที ก่อนที่เธอจะขอตัวกลับไปทำงานอย่างรวดเร็ว ส่วนศรัณภัทรที่เห็นว่าเธอเดินเข้าลิฟต์ไปแล้ว เขาจึงเดินมายืนรอลิฟต์อีกตัวก่อนจะกดขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารอีกครั้ง "ไอ้เรน" "แม่มึงไม่สอนเหรอว่าก่อนเข้าห้องคนอื่นต้องเคาะประตูก่อน" คีรินภัทรว่าขึ้นด้วยสายตาดุ ๆ เมื่อศรัณภัทรเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาโดยโม่เคาะประตูก่อน "เออ ช่างเรื่องแม่กูก่อน กูมีเรื่องให้ช่วย" "ช่วยอะไร กูคิดว่ามึงกลับไปตั้งนานแล้ว" "ยังไม่กลับ กูไปกินข้าวมา" "เออ แล้วจะให้กูช่วยเรื่องอะไร พูดมาเร็ว ๆ เลย กูต้องเข้าประชุมแล้ว" คีรินภัทรขมวดคิ้วถามน้องชายงง ๆ พลางก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง ก่อนจะชะงักไปเมื่อได้ยินศรัณภัทรพูด "กูอยากทำงาน"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD