ตอนที่ 6
กฎของหมาตัวใหม่
“พี่สาวทำอะไรให้ผมกินก่อนได้มั้ยครับ”
โรมทำเสียงออดอ้อน มองสบตาเจ้าของบ้านคนสวยที่กำลังจะก้าวเท้าขึ้นบันไดด้วยสายตาเว้าวอน
“หิวข้าวเหรอ”
จินตนา ขมวดคิ้วเรียวสวยเล็กน้อยเมื่อนึกได้ว่าเจ้าเด็กหนุ่มนีน่าจะยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน ร่างสวยชะงักเพียงเล็กน้อยแต่ยอมหันหลังเดินจากบันใดขั้นที่สาม แล้วปรีไปยังครัว
“กินอาหารไทย พวกผัดกระเพราเป็นมั้ย”
หญิงสาวเอ่ยถาม เมื่อเปิดตู้เย็นเห็นวัตถุดิบไม่กี่อย่าง ครั้นจะชงมาม่าให้กิน ก็เกรงว่าเจ้าหมาเด็กหัวแดงจะไม่อิ่ม
“ได้ครับของโปรดผมเลย ผมกินอาหารไทยได้ทุกอย่างแม่ทำให้กินประจำ” หน้าหล่อเหลายิ้มอย่างตื่นเต้น เมื่อเดินตามเธอเข้ามาในครัว
ท่าทางก้มๆเงยๆ หยิบของตู้เย็นในชั้นล่าง เผยให้เห็นบั้นท้ายงามงอนที่แนบกับกางเกมวอร์มเนื้อดี ทำให้ชายหนุ่มชะงักเพียงครู่
“อะ! นะ..นี่นายจะทำอะไร”
จินตนาสะดุ้งโหยงและเงยหน้าขึ้นมาแทบจะทันที เมื่อถูกมือของเจ้าหมาเด็กจับที่แก้มสะโพก
“เปล่าครับพี่”
โรมชะงักมือกลับอย่างรวดเร็ว กัดปากตัวเองไว้แน่นเหมือนกำลังสกัดกั้นอารมณ์อย่างเต็มที่ “ผมแค่จะให้พี่เขยิบตัว อยากรู้ว่าในตู้เย็นมีอะไรกินบ้าง”
“แปปนึงๆ ไปนั่งตรงนั้นก่อนหิวมากใช่มั้ย”
“ครับ”
“อะ กินน้ำส้มกับโยเกิตไปก่อน เดี๋ยวผัดกระเพราให้กิน”
น้ำสัมค้นสำเร็จรูปและโยเกิตวางบนโต๊ะริมห้อง กับผลไม้อีกสองสามอย่าง ก่อนที่จินตนาจะหันไปยังมุมเตา
“อ้อ กฎอีกข้อ ห้ามแตะต้องตัวและรุ่มร่ามกับชั้น โดยไม่มีเหตุอันควร”
กฎอีกข้อโผล่ขึ้นมา ขณะพริกกระเทียมถูกผัดในกระทะ
“ทำไมละครับ ทีกับเจ้าสามตัวนั้นผมยังเห็นพี่ทั้งกอดทั้งหอมมันเลย” หมาเด็กเอ่ยอย่างตัดพ้อระคนน้อยใจ
“นี่! มันไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกันอย่างไง ผมก็เป็นเพื่อนเจ้าบ๊อบบี้”
“นายเป็นกรณีพิเศษ”
กระเพราไก่ราดข้าวหอมๆ พร้อมใข่ดาวถูกวางบนโต๊ะในเวลาต่อมา โรมตาวาวโรจน์เล็กน้อยแต่ยอมจัดการกับอาหารตรงหน้าแต่โดยดี
“อร่อยมากๆ พี่สาวไม่กินด้วยกันเหรอครับ”
“ไม่อะ ชั้นไม่กินข้าวเย็น”
“ทำไมละครับ รึว่าไดเอท”
เจ้าหมาเด็กถามต่อ
“กินไปเถอะเดี๋ยวชั้นจะขึ้นนอนละ”
“ผมว่าพี่หุ่นแบบนี้ดีแล้ว เอวกิ่วคอดอกเอวอวบอิ่ม ผมชอบแบบนี้ จับแล้วเต็มไม้เต็มมือดี”
โรม เอ่ยด้วยสายตาแวววาว เงยหน้าสบตากับคนตรงหน้าที่เหมือนจะตระหนกเล็กน้อยกับคำพูดของเขา
“พูดอะไรของนาย”
“อะ..ครับ ผมแค่อยากบอกว่าหุ่นพี่แบบนี้ดีอยู่แล้ว”
หมาเด็กหลบสายตาคู่สวยนั้น รีบจัดการอาหารในจานให้หมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน
“ฝากล้างจานด้วยนะเดี๋ยวชั้นไปหาเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูและของใช้ให้”
เจ้าของบ้านคนสวยเดินออกจากห้องเพื่อเดินขึ้นบันใดไป ก่อนจะกลับมาพร้อมเสื้อยืดย้วย ที่ดูแล้วเขาน่าจะใส่ได้แบบพอดีตัวและน่าจะอึดอัดพอสมควร
“หาได้แค่นี้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมใส่ได้”
โรมบอกอย่างนั้นเอง แต่เมื่อเจ้าของบ้านเดินขึ้นไปพักผ่อนยังชั้นบนแล้ว เขาก็เปิดประตูห้องที่อยู่ติดกับกรงของเจ้าบ๊อบบี้และเอากระเป๋าสะพายมาไว้ข้างใน หยิบของที่อยู่ในนั้นออกมาสองสามอย่าง
บัตรเครดิตจำนวนหลายใบ มีดเล็กและปืนสั้น
“แน่ใจนะครับคุณโรอันว่าจะพักที่นั่น”
ปลายสายถามเป็นภาษาจีนทันที ที่รับสายของเขา
“มีอะไรมั้ย”
โรมถามกลับเสียงเข้ม แตกต่างจากเสียงสองสามที่คุยกับเจ้าของบ้านและบ๊อบบี้อย่างสิ้นเชิง
“คุณจางทราบคงไม่ยอมแน่ครับ”
“เดี๋ยวชั้นคุยกับพ่อเอง”
“แล้ว พรุ่งนี้จะให้พวกผมไปรับหน้าบ้านเลยมั้ยครับ” ปลายสายถาม
“ไม่ต้อง รออยู่หน้าหมู่บ้านชั้นจะเดินออกไปเอง ห้ามยกขบวนมาป้วนเปี้ยนแถวบ้านหลังนี้เด็ดขาด โดยชั้นไม่อนุญาต!”
“รับทราบครับ”
โรมตัดสายโทรศัพท์โยนไปกลางเตียงนอนเล็กขนาดสามฟุดครึ่งของห้อง ก่อนจะยืนขึ้นและถอดเสื้อผ้าเปียกชื้นออก เผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมวลเนื้อแข็งเครียด และรอยสักมังกรสามตัวสามตัวที่พันกันจากต้นแขนขวาถึงกลางแขน
ในที่สุดเขาก็หาตัวเธอเจอจนได้
สาวสวยผิวสีน้ำผึ้งที่กลืนกินตัวตนของเขาจนอารมณ์คุกรุ่นแทบคลั่งในวันนั้น แล้วเธอก็หายหนีกลับไทยก่อนที่รถของเขาจะมารับในเวลาต่อมา
เธอจำเขาไม่ได้ แถมยังมองเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กๆ
“ดีเหมือนกัน”
ปากหยักได้รูปของโรมยกยิ้มเล็กน้อย หยิบเสื้อยืดสีขาวที่ย้วยของเธอขึ้นมาจรดจมูก
กลิ่นของแม่เสือสาว ....หอมหวานและรัญจวนใจดีจริง
.
.
“โรมตื่นได้แล้ว”
กลิ่นอาหารหอมน่ากินโชยมาจากในครัว พร้อมเสียงหวานของเจ้าของบ้านสลับกับเสียงหมาแมวที่เดินขวักใขว่กันอยู่หน้าห้อง ทำให้โรมจำต้องลุกขึ้นและเปิดประตูออกมาดู
“อะ..บอกแล้วใช่มั้ยว่าต้องใส่เสื้อ”
แม่เสือสาวชะโงกหน้าจากห้องครัว ตะโกนมาบอกเขา เมื่อเขาโผล่ท่อนบนที่เปล่าเปลือยออกมา
“เสื้อยืดของพี่ตัวเล็กไปหน่อยผมใส่ไม่ได้ครับ และเสื้อผ้าผมก็ยังไม่แห้ง” เจ้าหมาเด็กตะโกนออกมาจากในห้อง
“ผมขอเริ่มกฎพรุ่งนี้ได้มั้ยครับ”
เสียงต่อรองดังแว่วมา
“งั้นให้ชั้นออกไปทำงานก่อน นายค่อยเดินออกมากินข้าว” หญิงสาวตะโกนบอก วางอาหารที่ทำเสร็จเรียบร้อยบนโต๊ะ
ที่เธอต้องตั้งกฎแบบนี้ กับเจ้าหมาเด็กหุ่นล่ำนี้ ไม่ใช่เพราะเธออินโนเซนส์จนไม่สามารถมองร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายได้หรอกนะ
แต่เธอกลัวใจของตัวเองมากกว่า ที่เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ยามเมื่อมองมวลเนื้อที่มีแผงอกแน่นเครียดนั้น
กลัวจะอดใจไม่ได้ที่ต้องไปสัมผัสและลูบไล้ แต่ความรู้สึกก็แสนจะแตกต่างจากกับการลูบหัวเจ้าบ๊อบบี้ยิ่งนัก
จินตนารีบวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและลงมาข้างล่างด้วยเวลาที่ไม่นานนัก เพราะเธอเริ่มงานเก้าโมง แม้ทางเจ้านายทั้งสองจะค่อนข้างให้อิสระกับเวลางานของเธอพอสมควร
แต่ความไว้วางใจที่WSให้นั้น ทำให้เธอจำต้องรับผิดชอบและรักษาเวลาอย่างดียิ่ง โดยทุกสิ่งต้องสอดคล้องกัน ทั้งเวลาที่ให้กับงานและเวลาที่ให้หมาแมว
“จะไปแล้วเหรอครับพี่”
โรมตะโกนจากห้องครัว เมื่อเห็นร่างสวยในชุดบอดี้สูทเดินออกไปนอกบ้าน
“ไปละ ยังไงฝากป้อนเกลือแร่กับอาหารบ๊อบบี้ด้วยนะ”
“ครับผม”
หมาเด็กยิ้มละไม เดินออกมานอกห้องครัว เหมือนต้องการมาส่งเจ้าของบ้านสาวที่รถ ...ดีจริงๆ ได้นอนบ้านเดียวกัน ตื่นมาก็มีอาหารเช้าแสนอร่อย แถมยังได้เดินไปส่งที่รถอีกด้วย
“นะ ..นี่ ไม่ใส่เสื้อแค่วันนี้วันเดียวนะ วันนี้ไปหามาใส่ให้เรียบร้อย” หน้าสวยหันมาดุ ก้มหน้าลงหยิบรองเท้าส้นสูงจนกระดุมเสื้อสองเม็ดบนคลายออก เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่ม
น่าดูดเม้มและฝังรอยไว้ชะมัด...
“มองอะไรของนาย”
“พี่ใส่ชุดนี้แล้วสวยครับ” โรมตอบตาวาววับ ใบหน้าหล่อเหลาเนียนใสนั้น ฉายแววทะเล้น
“หือ”
จินตนาชะงักเล็กน้อย เมื่อกวาดสายตาไปพบรอยสักมังกรสามตัวที่พันกันบนต้นแขนข้างขวาของเจ้าหมาเด็ก
ทำไมเหมือนกับเขาคนนั้นเหมือนรอยเดียวกัน
“ทำไมเหรอครับ”
ตาคู่สีนิลหลุบต่ำลงเล็กน้อย เมื่อเห็นคนตรงหน้าจ้องมองท่อนบนที่เปล่าเปลือยของเขาไม่วางตา
“รึพี่ชอบที่ผมไม่ใส่เสื้อแบบนี้มากกว่า”
**************************