ตอนที่ 3
สัมผัสที่ตรึงใจ
....สัมผัสที่ฮ่องกง เมื่อสองเดือนที่แล้ว
“คนของWS ใช่มั้ย เชิญทางนี้ครับ”
ชายคนหนึ่งบอกเป็นภาษาอังกฤษ ทันที่ที่จินตนา เดินทางไปถึงสนามบินเช็กล้าปก๊อกที่ฮ่องกง เพื่อไปดีลงานกับเฟินเซิ้นแทนนายใหญ่
“ใช่ค่ะ ฉันชื่อจินเป็นตัวแทนของคุณเรช”
หญิงสาวโค้งตัวเล็กน้อยและแตะมือชายคนต้อนรับ ที่คาดว่าน่าจะเป็นคนของเฟินเซิ้น ตามที่เจ้านายบอกว่าจะเดินทางมารับเธอถึงสนามบินทันทีที่เช็คเอ๊าท์
“เชิญครับคุณผู้หญิง”
ชายในชุดสูทสีดำผายมือเพื่อนำพาเธอไปยังรถที่จอดรับไว้บริเวณด้านหน้าและดึงกระเป๋าล้อลากจากเธอมาถือไว้เอง จินตนาจำต้องเดินตามอย่างว่าง่าย ใจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยกับการมาดีลงานสัญญาใหม่แทนเจ้านายที่ติดภารกิจสำคัญ
“คุณจางรอที่ออฟฟิศแล้วใช่มั้ยคะ”
“ครับ เชิญครับ”
หญิงสาวขยับกายขึ้นรถมินิแวนสีดำที่เปิดประตูไว้แล้วด้วยความรวดเร็ว เมื่อสังเกตว่าสายฝนด้านนอกเริ่มจะโปรยปรายลงมา และไม่อยากให้คู่ค้าสำคัญต้องรอเธอนาน
ประตูรถปิดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชายทั้งสองจะเปิดประตูเข้ามาในรถและพารถออกอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองคุยกันต่อเป็นภาษาจีนกลาง ที่จินตนาฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ไม่แน่ใจว่ากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์บนท้องถนนในตอนนี้หรือเปล่า เธอจึงส่งข้อความไปบอกคุณเรชและคุณจางว่าตอนนี้อยู่บนรถของเฟินเซิ้นทีมีคนมารับเรียบร้อยแล้ว
ไลน์กลุ่มพันธมิตรของเธอเงียบไปเพียงครู่
ก่อนที่คุณจางจะให้เธอส่งทะเบียนรถไปทางไลน์
“ทำไมเหรอคะ รถคันนี้ไม่ใช่เฟินเซิ่นเหรอ”
จินตนาถามไปในไลน์ และได้รับคำตอบว่าไม่ใช่
ขนอ่อนในกายของหญิงสาวเริ่มขนลุกชูชัน เหล่มองชายสองคนด้านหน้าและพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ก่อนจะแชร์โลเคชั่นปัจจุบันในกลุ่ม
หญิงสาวพอทราบว่าการสร้างฐานตลาดที่นี่ ต้องงัดข้อกับเจ้าหลักในพื้นที่พอควร แต่เธอไม่คาดว่าทางฝ่ายคู่แข่งนั้นจะเล็งเป้าหมายยังลูกกระจ๊อกในWS ที่เป็นแค่พนักงานธรรมดาอย่างเธอ
“อีกนานมั้ยคะ กว่าเราจะถึงเฟิ่นเซิ้น”
จินตนาถามอย่างใจเย็น ประสบการณ์หลายอย่างที่ทำงานกับเจ้านายคนเก่ง สอนให้เธอเรียนรู้ที่จะใช้ไหวพริบในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
“ประมาณสิบห้านาทีครับคุณผู้หญิง”
ชายคนขับตอบเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะเร่งแอร์ด้านหลังให้แรงขึ้น และจินตนานก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือยาสลบที่หยดไว้ทางช่องแอร์ มือเรียวสวยของเธอขยับหยิบผ้าเช็ดหน้ามาอังจมูกไว้ ก่อนจะลดกระจกลง
“โทษทีนะคะ ฉันเป็นคนเมารถง่ายมาก ขอสูดอากาศข้างนอกซะหน่อย”
เธอบอกเสียงหวาน แต่เหมือนคนขับจะไม่ค่อยพอใจนัก
เอี๊ยด!!
พลัน! มีรถมินิแวนสีดำคันหรู วิ่งมาอย่างรวดเร็วและปราดรถคันที่นั่งและขวางล็อคไว้
“ซีเหนี่ยแป๋!”
ชายคนขับสบถออกมาเป็นภาษาจีน และหยิบปืนสั้นที่เหน็บไว้ข้างเอวออกมา และแง้มกระจกเพื่อยิงไปยังล้อรถคันนั้น
เปรี้ยง!!
เหมือนกระสุนที่มาจากรถคันนั้นจะเร็วกว่า และฝังยังแขนของชายคนขับเมื่อเขายื่นมือออกไปจะวิ่งฝ่ายนั้นจนร้องเสียงหลง
“อ้าก!!”
จินตนาตกใจกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า พยายามหอบลงกับพื้นรถเมื่อได้ยินเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด ใจคิดถึงหมาแมวที่บ้านที่ฝากให้เพื่อนมาดูแลช่วงเธอไม่อยู่
บ๊อบบี้เอ้ย ขอให้เราได้เจอกันอีกครั้งนะลูก ...หญิงสาวภาวนากับตัวเองในใจ มือทั้งสองอุดหูและหลับตาไว้
“พาผู้หญิงออกมา”
เสียงชายคนหนึ่งพูด ก่อนที่ประตูรถจะถูกเปิดออก และมีชายสามคนยืนอยู่นอกรอ
“เราคือคนของเฟิงเซิ้น มากับเราที่รถคันนี้”
ชายผู้นั้นบอกเสียงเข้ม จินตนาพยายามจะมองหน้าที่ปิดหน้ากากและแว่นตาสีดำจนแทบจะมองไม่เห็นรูปลักษณ์นั้น แต่สัณชาตญานก็บอกให้รู้ว่านี่คือ คนของเฟินเซิ้นจริงๆ
ซู่ๆๆซ่าๆๆ
สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนัก หญิงสาวรีบพาร่างตัวเองไปยังรถที่จอดไว้ไม่ไกลมาก แล้วเปิดประตูเข้าไปด้วยร่างกายที่เปียกโชก ก่อนที่ชายผู้นั้นจะก้าวตามขึ้นมาบนรถ
“ฮะ ฮีก”
ไม่แน่ใจว่าเธอได้สูดยาสลบในรถคันนั้นไปมากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อขึ้นมาในรถ จินตนารู้สึกผะอืดผะอม จนเหมือนจะอาเจียน และไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อคลุมตัวเองออกมาอังหน้าไว้ เผื่อว่าอาเจียนจะได้ไม่เลอะเปรอะเปรื้อน
“เป็นอย่างไงบ้างครับ”
ชายหนุ่มข้างๆถามเป็นภาษาอังกฤษ จินตนาพยายามจะสบตาผ่านแวนตาสีดำและหน้ากากปิดปากกับจมุกนั้น แต่เหมือนเธอจะไม่สามารถมองเห็นแววตาเขาได้เลย
“ชะ..ชั้นเวียนหัวมาก”
จินตนาบอกเสียงสั่น ใจเริ่มจะเบาหวิวเหมือนโลกรอบตัวหมุนคว้าง
“เอนตัวลงซบบนตักผมซิครับ จะได้ไม่เวียนหัว”
มือหนาที่โผล่พ้นแขนเสื้อสูทสีดำ เอื้อมมาจับบ่าเธอและให้เอนกายลงบนตักของเขา แก้มเนียนใสของจินตนาแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย เมื่อสัมผัสกับต้นขาแข็งเครียดภายใต้กางเกงสแล็กเนื้อดี
“หือ คุณหอมจัง”
ไม่แน่ใจว่าเพราะอาการเวียนหัว หรือสาเหตุใดไม่อาจทราบ ทำให้เธอเอ่ยคำนี้ออกไป ชายหนุ่มเจ้าของตักเหมือนจะเกร็งตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็เอ่ยต่อด้วยภาษาอังกฤษว่า
“คุณก็ตัวหอมนะครับ ผิวก็นิ่ม”
ไม่พูดเปล่า มือหนาของเขายังไล้ยังไหล่เนียนของเธอที่ตอนนี้เสื้อคลุมที่เปียกหล่นลงไปกองยังพื้นรถที่วางเท้าแล้ว
“หือ นะ...หนาวจัง”
เธอเผลอครางออกมาเป็นภาษาไทย ด้วยหนาวสั่นตอนนี้เสื้อผ้าเปียกโชกและแอร์ในรถก็แสนเย็นเฉียบ ผสมกับอาการวิงเวียนในตอนนี้ “ตัวคุณอุ่นจัง”
มือเธอเกาะกุมแผ่นหลังเขาไว้แน่น หูเริ่มอื้อตาลายจึงพยายามหลับตาไม่ให้มองด้านนอก เพื่อไม่ให้รู้สึกวิงเวียนไปมากกว่านี้
กลิ่นหอมอ่อนๆจากต้นขาของเขา และสัมผัสจากมือหนาที่จับบนหัวไหล่ เหมือนจะถ่ายเทความอุ่นร้อนให้เธอรู้สึกดีขึ้น หน้าสวยของจินตนา จึงซุกลงยังระหว่างขาของเขาอย่างเผลอตัว
“อะ...คุณครับ”
ชายหนุ่มอุทานเบาๆ อย่างตื่นเต้น มือหนารีบดึงฉากด้านหน้าลงมาเล็กน้อย เมื่อหน้าเนียนใสตรงตัก คลุกอยู่กับแก่นกลางกายของเขาที่เริ่มจะแข็งชูชันขึ้นมา
“ขะ..ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
จินตนาตกใจเล็กน้อย เมื่อท่อนแข็งภายใต้กางเกงสแล็กเหมือนจะดุนดันขึ้นมาเบียดแก้มของเธอ หญิงสาวจึงพยายามเบี่ยงหน้าหลบและจะยันกายลุกขึ้น
น่าอายชะมัด...
“ไม่เป็นไรนี่ครับ”
มือหนาของเขาเอื้อมมาดึงเธอไว้ และกดท้ายทอยให้หน้าสวยของหญิงสาวซุกลงไปที่เดิม
“ฉะ...ฉันแค่รู้สึกเวียนหัว ได้เอนหลังแล้วดีขึ้น”
จินตนารีบบอกรัวเร็วเป็นภาษาอังกฤษ แต่มือของเขาก็ยังกดหน้าเธอไว้นิ่ง จนจมูกเธอเบียดชิดกับท่อนเอ็นภายใต้กางเกงของเขา
“รู้สึกดีก็เอนต่อซิครับ”
เขาตอบกลับเธอเบาๆ ปลดตะขอกางเกงตัวเองออกและรูดซิบลงไปอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่สีนิลเข้มมองหน้าหญิงสาวตรงระหว่างขาภายใต้แว่นสีดำ
ก่อนจะเอ่ยต่อว่า
“ผมเองก็รู้สึกดีมากเลยครับ”
*******************************