ตอนที่3

2030 Words
“ทำแบบนี้ไม่กลัวมิสแคสแซนดร้าโกรธเหรอคะมิสเตอร์เพียร์สัน” เสียงของนักข่าวหญิงถามขึ้น หากเดเมียนไม่ยอมตอบคำถาม เขารีบคว้าโทรศัพท์ต่อสายภายในแล้วกดโทรหาพนักงานรักษาความปลอดภัยทันที “พวกแกทำงานกันยังไงถึงปล่อยให้นักข่าวบุกห้องฉันได้ รีบมาลากตัวไปเดี๋ยวนี้!” ชายหนุ่มตะโกนลั่น ท่ามกลางความโกลาหลของบรรดานักข่าวที่เอาแต่รัวชัดเตอร์อย่างไม่ยอมพลาดภาพตรงหน้าสักวินาที เดเมียนรับรู้ได้ถึงอาการสั่นเทาของหญิงสาวในอ้อมแขน และเมื่อมองดูใบหน้าของหล่อนเขาก็เห็นหญิงสาวกำลังร้องไห้ ใบหน้าของหล่อนซีดเผือดจนแทบไม่เห็นสีเลือด หากเดเมียนไม่ได้คิดสงสารหล่อนสักนิดในยามนี้...เริ่มรับรู้ได้ ณ วินาทีนี้เองว่าการมาของหล่อนในเวลานี้คืออะไร ไอ้คอร์นเนอร์! ต้องเป็นมันแน่ๆที่จัดฉากนี้ขึ้นมา! มันคิดจะใช้แผนปัญญาอ่อนดิสเครดิตเขา...แต่ฝันไปเถอะว่าเขาจะยอมแพ้มันง่ายๆ! เขาจะเล่นตามแผนของมันแล้วจะรอดูเหมือนกันว่าผู้หญิงในอ้อมแขนเขาในขณะนี้...หล่อนจะทนไปได้สักกี่น้ำ! กับอีแค่เงิน...ที่คงไม่เท่าไหร่ที่ไอ้คอร์นเนอร์จ้างหล่อนมาให้เล่นละครฉากนี้...เขาจะทำให้หล่อนได้รับรู้ว่า หล่อนคิดผิดเสียแล้วที่กล้ามาแหย่คนอย่างเดเมียน เพียร์สันคนนี้! เดเมียนไม่ยอมตอบคำถามอะไรทั้งสิ้น นอกจากบอกว่าพรุ่งนี้เขาจะแถลงข่าวตอบคำถามเรื่องนี้เท่านั้นบวกกับว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยได้ขึ้นมากันพวกนักข่าวลงไปเรียบร้อยนั่นแหละ เดเมียนก็ผละจากหญิงสาวอย่างว่องไว ราวกับหล่อนเป็นของร้อน หากก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นกอดเข่าตัวเองไว้ด้วยสายตาเย็นชา “ฉันออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่...เราคงมีเรื่องต้องพูดกันอีกเยอะ” เดเมียนว่าเสียงเย็น แล้วเดินเข้าห้องน้ำไม่สนใจหญิงสาวอีก ทิ้งให้ตะวันวาดนั่งตัวสั่น น้ำตาหยดเผาะลงมาด้วยความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อประตูห้องน้ำถูกเหวี่ยงปิดดังปัง เมื่อไม่มีเดเมียน ตะวันวาดค่อยมีกะจิตกะใจคิดอ่านอะไรมากขึ้น หญิงสาวกวาดตาไปรอบๆหวังจะหาเสื้อผ้าของตนเองแต่กลับไม่พบอะไร ตะวันวาดตัดสินใจค่อยๆก้าวลงจากเตียง หญิงสาวแทบทรุดเมื่อความเจ็บจากแก่นกายแล่นถาโถม ตะวันวาดดึงเอาผ้าห่มผืนหนามาพันกาย แล้วนั่นแหละทำให้ตรงจุดหนึ่งของเตียง บนผ้าปูสีอ่อนปรากฏรอยเลือดอย่างชัดเจน ใจของตะวันวาดเจ็บแปลบ...สิ้นแล้วสิ่งที่สงวนไว้สำหรับคนที่รัก...คนที่คิดว่าสักวันหนึ่งยามเมื่อหล่อนค้นหาเขาพบ ยามเมื่อเขาและหล่อนรักกันอย่างหมดหัวใจ สิ่งหวงแหนอันเป็นเครื่องหมายว่าหล่อนจะรักและมีเพียงเขาคนเดียวจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ได้หมดสิ้นแล้ว ภาพฝันอันแสนหวานพังทลายราบไม่มีเหลือเพราะผู้ชายที่หล่อนไม่เคยทำอะไรให้เขาเลย! ตะวันวาดหาชุดฟอร์มของพนักงานทำความสะอาดโรงแรมที่ตนเองสวมใส่ก่อนหน้านั้นไม่เจอ หญิงสาวจึงจำใจต้องสวมชุดคลุมเนื้อหนาของเดเมียนที่เห็นวางพาดไว้ตรงโซฟาตัวใหญ่ตั้งวางชิดผนังห้อง แล้วหญิงสาวก็รีบแอบหลบคนตรงมายังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของของพนักงาน แม้ร่างกายจะเจ็บแสนเจ็บเพียงไรตะวันวาดก็ทน หล่อนไม่สามารถทนอยู่จนเผชิญหน้ากับเดเมียนที่กำลังอยู่ในห้องน้ำได้อีกต่อไป ตะวันวาดรีบเปิดล็อกเกอร์เก็บของของตนเอง หญิงสาวพอมีชุดของเมื่อวานนี้ที่ใส่มาทำงานก่อนจะเปลี่ยนเป็นแบบฟอร์มสีเทาของพนักงานทำความสะอาด เป็นโชคดีของหญิงสาวที่ตลอดทางลงจากห้องของเดเมียนหล่อนไม่เจอเพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อจะออกจากโรงแรมตลอดทางแม้เพื่อนร่วมงานบางคนที่หล่อนหลบพวกเขาไม่พ้นทักทาย หญิงสาวก็ได้แต่ฝืนยิ้มแกนๆ ยิ่งผ่านพวกพนักงานรักษาความปลอดภัยที่วนเวียนอยู่แถวโถงใหญ่ หญิงสาวก็ยิ่งก้มหน้างุดแล้วรีบเดินหนีไปในที่สุด พอพ้นเขตโรงแรมได้ ตะวันวาดก็รีบจ้ำหนีอย่างรวดเร็ว...ตลอดทางกลับห้องพักของหล่อนหญิงสาวได้แต่คิดว่ามันเป็นเวรกรรมของหล่อนหรือไรตะวันวาดอยากจะรู้นัก...ยิ่งคิดหล่อนก็ยิ่งนึกชังโชคชะตาของตนเอง เกิดมาหล่อนก็กำพร้าพ่อ มีแม่ทำงานหนักส่งเสียหล่อนมาเพียงลำพัง จวบจนหล่อนเรียนจบชั้น ปวช.[1] แม้ใจอยากจะเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยแทบตายแต่เพราะสงสารแม่ หญิงสาวจึงได้แต่บอกท่านว่าไม่เอา ไม่อยากเรียนแล้ว หล่อนออกมาช่วยแม่ทำงานตอนอายุ18 เมื่อเรียนจบในเวลานั้น ดีที่หญิงสาวเป็นคนใฝ่รู้ จึงขยันเรียนภาษาที่สองอย่างภาษาอังกฤษเอาไว้ด้วย ทำให้หล่อนพอที่จะได้งานดีๆทำบ้าง จวบปีต่อมาแม่ไปรู้จักกับฝรั่งคนหนึ่ง คิดอย่างไรไม่รู้แม่แต่งงานกับเขาแล้วย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์ก อาศัยอยู่ในย่านฮาร์เล็ม (Harlem) ในแมนฮัตตัน(Manhattan) เพราะริคาร์โด้สามีใหม่ของแม่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-อิตาเลียน แต่แม่ก็อาศัยอยู่ที่แมนฮัตตันได้ไม่ถึงปี ก็มาป่วยแล้วเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ทำให้หญิงสาวต้องแยกออกมาอยู่คนเดียว เนื่องจากหล่อนไม่ไว้ใจริคาร์โด้ หลายครั้งที่ตาแก่นั่นเฝ้าแต่วนเวียนมองหล่อนด้วยสายตากรุ้มกริ่มตั้งแต่แม่ตาย หญิงสาวยังไม่นึกอยากมีสามีคนเดียวกันกับแม่และเมื่อหล่อนไม่ยอมเขาจึงไล่หล่อนออกมาจากบ้าน ตะวันวาดจึงย้ายตัวเองออกมาอยู่ห้องพักโทรมๆในย่านไชน่าทาวด์นั่นแหละเพราะหล่อนเคยได้งานในแถวนั้นมาก่อนจะได้งานที่โรงแรมเพียร์สัน แต่ไม่ว่าหล่อนจะย้ายไปอยู่แถวไหนริคาร์โด้ในยามที่ไม่มีเงินก็มาขอเงินหล่อนบ่อยๆ พอหล่อนไม่ให้ก็ชอบลำเลิกเบิกประจานว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา หล่อนกับแม่ที่ตายไปคงไม่มีโอกาสได้มาชูคออยู่ไกลถึงนิวยอร์ก ตะวันวาดได้แต่เก็บความขมขื่นของตนเองลงกับอก เมื่อคิดถึงชีวิตของตนเอง หากสิ่งที่หล่อนจะทำได้ในเวลานี้คงมีเพียง...ทำใจ +++++++++++++++++++++++++++ “เช็คกล้องวงจรปิดเดี๋ยวนี้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในห้องฉันออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่” ทันทีที่ออกจากห้องน้ำเมื่อไม่พบเห็นหญิงสาวเดเมียนรีบต่อสายตรงไปยังหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรม แล้วสั่งให้อีกฝ่ายเช็คดูว่าหล่อนหายตัวไปตั้งแต่ตอนไหน แล้วในระหว่างที่เขากำลังนั่งรอคำตอบ ที่เดินตรงไปยังปลายเตียงของตน เพราะคราวนี้ไม่มีผ้าห่มปิดบังอะไรทำให้อะไรบางอย่างบนเตียงนั้นโดดเด่นขึ้นมากระทบสายตา เดเมียนเอื้อมมือไปลูบรอยคล้ำสีเข้มนั้น ยามเมื่อดูใกล้ๆเขาถึงรู้ว่านั่นคือ...รอยเลือด...รอยพรหมจรรย์ ชายหนุ่มถึงกับนิ่งไปทันที ไม่คิดว่าไอ้คอร์นเนอร์จะกล้าใช้ผู้หญิงประเภทนี้มาเล่นงานเขา แต่ก่อนอื่นเขาต้องหาตัวหล่อนให้เจอให้จงได้ เขาจะไม่ยอมให้มันได้ตัวหล่อนไป แล้วใช้หล่อนเป็นเครื่องมือในการทำลายเขาได้ นึกถึงเหตุการณ์ในยามค่ำคืน วินาทีแรกที่เดเมียนเข้าไปในกายหล่อน...มิน่าตอนนั้นเขาถึงได้รู้สึกว่ามีปราการบางอย่างกีดขวางเขา แต่เพราะในยามนั้นความปรารถนามีมากกว่าเดเมียนจึงไม่คิดใส่ใจ ตอนนั้นคิดเพียงแต่จะปลดปล่อยตนเองจากความทรมานเท่านั้น ขบคิดกับตนเองไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น คราวนี้เดเมียนรีบลงไปข้างล่างเพื่อไปดูกล้องวงจรปิดตามที่พนักงานแจ้งเขาทันที เมื่อไปถึงที่หมายและเห็นภาพของหล่อนเรียบร้อยแล้วเดเมียนถึงกับนิ่งอึ้ง ที่แท้หล่อนเป็นพนักงานในโรงแรมเขาด้วยอย่างนั้นหรือเนี่ย...มิน่าถึงได้เรียกชื่อเขาถูกตั้งแต่แรก หากเมื่อยิ่งเห็นหล่อนตรงไปยังห้องพักของพนักงานแบบนี้แล้ว เดเมียนก็นึกอะไรได้ เขาเคยเจอหล่อนมาก่อน! ที่แม้หล่อนคือพนักงานคนนั้นที่เข้าลิฟต์พร้อมกันกับเขานั่นเอง! เดเมียนผุดลุกขึ้น แล้วรีบโทรหาอลันคนสนิทของตนเองทันที แล้วหลังจากสั่งให้อลันไปค้นหาประวัติและที่อยู่ของหญิงสาวแล้ว เดเมียนก็กลับขึ้นไปยังชั้นบนอีกครั้ง...เพื่อรอข้อมูลจากอลันและวางแผนการโต้ตอบไอ้คอร์นเนอร์กลับอย่างสาสม...พร้อมกับคิดแก้ปัญหาข่าวที่กำลังจะตามมาในวันนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด...เขาต้องได้ตัวผู้หญิงคนนั้นกลับมา! +++++++++++++++++++ แม้ผู้คนตลอดทางจากโรงแรมเพียร์สันที่ตั้งอยู่บนถนนฟิฟฟ์ อเวนิว (5th Avenue) ถึงห้องพักของหล่อนในย่านฮาร์เล็มจะมีบางคนมองสภาพโทรมสุดขีดและน้ำตาที่นองเต็มใบหน้าของหล่อนด้วยทีท่าสนใจ แต่เพราะที่นี่คือเมืองใหญ่ ชีวิตของทุกคนที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความเร่งรีบตามแบบฉบับของเมืองใหญ่ทุกเมืองในโลกใบนี้ ก็ทำให้คนส่วนมากได้แต่มองสภาพของหล่อนและเมินไปเท่านั้นเอง ตะวันวาดลนลานไขกุญแจจนมือสั่นซึ่งกว่าจะเปิดประตูได้หล่อนก็ใช้เวลาไปหลายนาที ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกล้าไปทั่วสรรพางค์กาย แรงทรงกายก็แทบจะไม่มีเหลืออีกแล้ว แต่ตะวันวาดก็ยังแข็งใจลากสังขารของตัวเองเข้าห้องน้ำ แล้วเมื่อได้สำรวนจางกายตนเองชัดๆตะวันวาดก็มีอันน้ำตาตกอีกรอบเพราะทั่วร่างของหล่อนนั้นเต็มไปด้วยรอยช้ำจากฝีมือของเดเมียน แล้วยิ่งบริเวณลำคอและทรวงอกมีแต่รอยคิสมาร์กเต็มไปหมด ตะวันวาดตัวสั่นเทา น้ำตาไหลปะปนกับสายน้ำอุ่นที่รินรดกาย ตอนนี้หล่อนจะร้องไห้ให้กับโชคชะตาอันเลวร้ายของตนเองให้พอเสียแต่วันนี้...แล้วนับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป หล่อนจะลืมเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ให้หมด...แล้วลบมันให้สิ้นไปจากใจ! +++++++++++++++++++++++ ตะวันวาดใช้เวลาในห้องน้ำไม่นานนัก หญิงสาวเดินตัวสั่นเทาราวกับลูกนกตกน้ำออกมาจากห้องน้ำ ตะวันวาดรีบสวมใส่ชุดนอนอย่างรวดเร็วแล้วรีบเดินตรงไปยังมุมครัวเล็กๆภายในห้องเพื่อค้นหายาพาราเซตามอลที่ตนเองจำได้ว่าเก็บไว้แถวๆนั้น หลังจากทานยาเสร็จหญิงสาวก็รีบเดินตรงไปยังเตียงนอนเล็กๆแล้วสอดกายเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวกระพริบมองเพดานห้องสีฟ้าซีดของตนเอง หล่อนรู้สึกได้ถึงกระบอกตาที่ร้อนผ่าว ซึ่งตะวันวาดสามารถบอกตนเองได้เลยว่าหล่อนกำลังจะมีไข้ ตะวันวาดหลับตาลง ก่อนจะปล่อยให้ตนเองจมดิ่งอยู่ในห้วงนิทราพร้อมกับภาวนาให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฝัน...ทั้งที่หล่อนรู้ดีว่ามันไม่มีวันเป็นเพียงภาพฝันได้ ++++++++++++++++++++++++++++ [1] ปวช. ย่อมาจาก ประกาศนียบัตรวิชาชีพ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD