ตอนที่4

1706 Words
สองชั่วโมงต่อมา อลันเปิดประตูไม้เนื้อหนาของห้องพักชั้นบนสุดภายในโรงแรมเพียร์สันออกกว้าง ชายหนุ่มกวาดตามองรอบห้องพักสุดหรูของโรงแรมที่บัดนี้เป็นห้องพักส่วนตัวของประธานคนใหม่ในเครือเพียร์สันแทนที่อารอนซึ่งปลดระวางตัวเองไปเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ภาพของห้องพักที่แม้จะสวยงามและดูทันสมัยด้วยสไตล์โมเดิร์นมากมายเพียงไร หากบรรยากาศของมันกลับดูเย็นชายิ่งนัก แทบทุกอย่างภายในห้องไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำที่บ่งบอกว่ามีคนอาศัยอยู่ภายในห้องนี้มานาน ทั้งที่เดเมียน เพียร์สัน แทบจะกินนอนอยู่ภายในห้องนี้ ไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลาพอๆกับที่เขารับตำแหน่งประธานคนใหม่นั่นแหละ อลันหยุดเดินเมื่อตนเองเห็นคนที่ตนต้องมาหา ร่างของชายผู้นั้นหยุดยืนอยู่ตรงหน้าต่างกว้าง เห็นวิวของแมนฮัตตันอย่างชัดเจน ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าจางแทบจะเป็นสีขาว กางเกงสแลคสีดำและรองเท้าหนังมันเงาเป็นวับ ขาดแต่สูทเท่านั้นเจ้าตัวก็จะเป็นอย่างที่เขาเห็นจนชินตา อลันมองเบื้องหลังจากเจ้านายหนุ่มแล้วอดที่จะชื่นชมไม่ได้ ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรดูสง่า บ่ากว้างรับกับสะโพกสอบเพรียวหุ่นสมส่วนราวกับนายแบบ หากเหนือสิ่งอื่นใด เพราะใบหน้าราวกับเทพเจ้ารังสรรค์นั่นต่างหากทำให้เดเมียนเป็นที่น่าหลงใหล ทั้งที่ตัวตนที่แท้จริงของเดเมียนนั้นผิดจากใบหน้าหล่อเหลานั้นลิบลับ เดเมียนเหมือนเป็นคนสองบุคลิก ยามปกติชายหนุ่มจะใจร้อน ทุกอย่างต้องได้ตามที่เขาต้องการไม่มีคำว่าไม่ในพจนานุกรมของเดเมียน หากแต่ยามใจที่เขาต้องการเชือดศัตรู...ยามนั้นชายหนุ่มจะยิ่งเย็นราวกับภูเขาน้ำแข็ง และเมื่อไหร่ที่คนใจร้อนกลายเป็นคนใจเย็นนั่นแหละ...อันตรายที่สุด! ดังเช่นเวลานี้... “นายได้ในสิ่งที่ฉันสั่งหรือเปล่า...อลัน” เดเมียนทอดน้ำเสียงทุ้มนุ่มถามอลัน ทำเอาชายหนุ่มถึงกับชะงักตัวเล็กน้อย แล้วรีบปรับเปลี่ยนท่าทีให้เป็นจริงจังมากยิ่งขึ้น รับรู้ได้ว่า ณ เวลานี้เจ้านายของตนเองกำลัง ‘เดือด’ มากแค่ไหน นัยน์ตาสีเทาราวกับควันบุหรี่ของเดเมียนจับตามองร่างของมือขวาคนสนิทด้วยสายตาเย็นชา ที่ดูราวกับจะมากกว่าปกติที่ถ้าไม่สังเกตคงไม่สามารถรับรู้ได้ “ได้ครับ...คุณจะอ่านเองหรือคุณจะให้ผมรายงานให้ฟังเลยครับ” “นายบอกมาเลย” เดเมียนบอก แล้วจับจ้องคนรายงานด้วยดวงตาเป็นประกายเมื่อคิดอะไรตามไปด้วย ในขณะที่อลันก็รายงานต่อเจ้านายด้วยความตั้งใจ “เธอชื่อตะวันวาดครับ เป็นชาวไทย เพิ่งมาทำงานที่โรงแรมเราได้แค่สามเดือน ก่อนหน้านั้นทำงานรับจ้างไปเรื่อย” “ต่อสิ” “เธอย้ายมาอยู่แมนฮัตตันเมื่อปีที่แล้ว เมื่อก่อนอาศัยอยู่ที่บ้านของนายริคาร์โด้พ่อเลี้ยง แต่พอแม่ตายเธอก็ย้ายออกมาครับ แต่ปัจจุบันยังโดนนายริคาร์โด้รีดไถอยู่” อลันหยุดพูดเมื่อสิ่งที่ตนเองต้องการรายงานมีเท่านี้ ทำให้เดเมียนนิ่วหน้าอย่างไม่ชอบใจนัก เมื่อสิ่งที่อยากจะรู้อลันไม่ได้บอก “แล้วหล่อนมีอะไรที่เกี่ยวกับไอ้ชาร์ลบ้างไหม” “ส่วนนี้ยังไม่ทราบครับ เนื่องจากเวลาไม่พอ” อลันรายงานเสียงเบารับรู้ว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่เพราะรายงานสิ่งที่เจ้านายต้องการได้ไม่ครบ เดเมียนถอนหายใจยาว ไม่คิดตำหนิอลันแม้จะไม่พอใจก็ตาม “นายรู้ที่อยู่หล่อนหรือไม่” เขาถามคิดว่าไปคาดคั้นหล่อนเองกับตัวคงง่ายกว่าให้คนไปตามไอ้คอร์นเนอร์เสียอีก กว่าจะถึงเวลานั้นนานเกินไปไม่ทันใจเขา “ครับ...มีในรายงานที่ผมหาได้ครับ” “ดี...” เดเมียนคลี่ยิ้ม หากดวงตากลับเย็นเสียจนอลันที่แม้จะคุ้นเคยยังอดเสียวสันหลังวาบไม่ได้ “พาฉันไปหาหล่อน" “เย็นนี้ดีไหมครับ” อลันเสนอ เดเมียนส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่! ฉันต้องการไป...เดี๋ยวนี้!” +++++++++++++++++++++++ ภาพของตึกเก่าโทรมตรงหน้าและสภาพแวดล้อมอันคุ้นตาทำให้เดเมียนพูดไม่ออก ชายหนุ่มระลึกได้ทันทีว่าทำไมตลอดทางที่ผ่านมาเขาออกจะคุ้นเส้นทางนี้ชอบกล เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อนเดเมียนจำได้ว่าตนเองมาแถบนี้บ่อยเพียงไร จวบจนเมื่อปีที่ผ่านมา ครอบครัวของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือการที่พ่อของเขาและอรนลิน น้องสาวต่างมารดาของเขายอมปรับความเข้าใจกันได้เสียทีและปัจจุบันก็ยังคงแวะเวียนมาอยู่บ้างเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยเพื่อมาเยี่ยมเยียนอัมพา มารดาของอรนลิน ตึกสีฟ้าซีดจางตรงหน้ามีความสูงประมาณสิบกว่าชั้น เดเมียนเงยหน้ามองมันด้วยสีหน้าครุ่นคิดนับตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากรถคาดิแลคคันหรูลงมา ภาพของชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาหากแฝงความเย็นชา และการแต่งตัวที่ไม่เข้ากับสถานที่เท่าใดนักทำให้เขาเป็นที่จับตามอง...ดังเช่นทุกครั้งที่เขามาแวะเวียนหาอรนลินในสมัยก่อน “เธออยู่ชั้นเจ็ด ห้องเจ็ดหนึ่งสองครับ” อลันเห็นเจ้านายของตนมองภาพตึกเก่าโทรมตรงหน้านิ่งก็เดินเข้ามารายงานชั้นที่อยู่ของหญิงสาวใกล้ๆ เดเมียนพยักหน้าหงึกรับคำแต่ไม่มีคำพูดอื่นใดหลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบของเขา ดวงตาสีเทายังคงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอ่านออกว่าคนอย่างเดเมียนคิดจะทำอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นในยามเช้านั้น อลันออกจะตกใจอยู่เหมือนกันและกำลังคิดว่าตนเองต้องถูกพายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำแน่ๆเนื่องจากถือเป็นความผิดพลาดของเขาโดยตรงที่ปล่อยให้บรรดานักข่าวพวกนั้นบุกขึ้นไปถึงห้องพักของเดเมียนได้ ทั้งที่ชั้นสูงสุดนั้นถือว่ามีระบบความรักษาปลอดภัยที่ดีเยี่ยม หากประมวลจากสิ่งที่รับรู้มา แม้เดเมียนจะยังไม่เอ่ยปากบอกอะไรแต่เขาก็พอจะเดาได้ว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้และชาร์ล คอร์นเนอร์ หากน่าแปลก...นับตั้งแต่เกิดเรื่องเดเมียนกลับไม่ได้จัดการอะไรเลยทั้งสิ้น หนำซ้ำยังคิดจะแถลงข่าวในวันรุ่งขึ้นเสียอีก ทั้งที่ด้วยอิทธิพลของตระกูลเพียร์สันเดเมียนสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายราวกับกำจัดเศษฝุ่นผงที่มาเกาะรองเท้าของเขาเสียด้วยซ้ำ “เดินนำขึ้นไป” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้อลันยุติภวังค์ความคิดของตนเองแค่นั้น ชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าสดใสผงกศีรษะลงแล้วเดินนำเจ้านายหนุ่มของตนเองทันที แล้วอลันก็นึกขึ้นได้ว่าทำไมจึงคุ้นตาไอ้ตึกนี้นัก! มันเป็นสถานที่ที่หลายครั้งเดเมียนหลบมาอยู่ที่นี่ แล้วเขาก็เห็นชายหนุ่มคุยกับผู้หญิงผมดำตัวเล็กคนหนึ่งอยู่เสมอ และแม้เขาจะเป็นมือขวา เป็นคนสนิท แต่ในยามที่เดเมียนมา ณ ที่แห่งนี้ อลันไม่ได้รับอนุญาติให้อยู่ด้วย หรืออย่างมากก็รออยู่ในรถเท่านั้น เสียงลิฟต์เก่าๆส่งเสียงน่ากลัวในทุกคราวที่ความสูงเพิ่มขึ้น จนในที่สุดมันก็มาหยุดอยู่ชั้นเจ็ดที่หมายของสองหนุ่มจนได้ แล้วเดเมียนก็เป็นฝ่ายเดินนำอลันออกจากลิฟต์เสียเอง คราวนี้ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าห้องเจ็ดหนึ่งสอง เดเมียนยกมือขึ้นเคาะประตูช้าๆ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เงียบ...ไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างใน เดเมียนขมวดคิ้ว ชักไม่มั่นใจว่าตอนนี้หล่อนจะอยู่ภายในห้องหรือเปล่า แต่กระนั้นมือหนาก็เคาะประตูห้องสีซีดจางจนเห็นสีหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นๆอยู่ดีแล้วคราวนี้เดเมียนเพิ่มแรงเคาะมากขึ้นด้วย แต่...ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับจากหล่อนอยู่ดี เดเมียนเม้มริมฝีปากแน่น ชักหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อคิดว่าหญิงสาวยังมาไม่ถึงห้องพัก แต่มันจะเป็นไปได้หรือในเมื่อกว่าที่เขาจะตามหล่อนมามันก็ผ่านมาตั้งสองสามชั่วโมงเข้าไปแล้ว เดเมียนหันไปมองอลันที่หยุดยืนอยู่เบื้องหลังแล้วถามว่า “นายแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าหล่อนพักอยู่ห้องนี้” “แน่ใจครับ ผมเอารายละเอียดนี้มาจากใบสมัครที่เธอกรอก” “งั้นเหรอ?” เดเมียนตอบรับพลางหยุดคิดไปไม่กี่วินาที ก่อนชายหนุ่มจะถอยหลังห่างจากประตูนั้นไปสองสามก้าวจนมายืนเคียงข้างกับอลันแล้วบอกลูกน้องคนสนิทของตนเองว่า “ถ้าอย่างนั้น...” เขามองหน้าอลัน ดวงตาสีเทาราวกับม่านหมอกฉายชัดถึงร่องรอยของความไม่พอใจ หากริมฝีปากบางราวกับอิสตรีกลับบิดโค้งเป็นรอยยิ้ม...ที่ทำให้เดเมียนดูน่ากลัวและน่าหลงใหลไปพร้อมกัน “นายพังประตูเข้าไป...เดี๋ยวนี้!” “เอาจริงเหรอครับนาย” อลันถามอย่างไม่แน่ใจนัก ซึ่งเดเมียนก็พยักหน้ารับทันทีกับสิ่งที่ตนเองตัดสินใจ “จริงสิ ฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนที่ฉันต้องการตัวแล้วบังอาจหลบหน้าฉันไปได้อย่างเด็ดขาด ต่อให้ต้องตามไปลากตัวที่นรกหรือสวรรค์ฉันก็จะทำ!” “ครับ” อลันไม่ซักถามต่อ ได้แต่ก้มศีรษะลงน้อมรับบัญชาเท่านั้น แล้วชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก็เดินตรงไปยังประตูไม้สีซีดนั้น จะด้วยความเก่าหรืออะไรก็ตามแต่ อลันใช้เวลาไม่นานเลยในการที่จะกระแทกตัวแล้วพังประตูเข้าไปตามบัญชาที่ได้รับก็กระทำมันสำเร็จ ปัง! โครม!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD