ตอนที่ 5

1483 Words
“เฮ้ย !! น้องสาวเดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ” น้ำหนึ่งที่กำลังเดินกลับบ้านก็ชะงักเท้าของตัวเองเมื่อเห็นชายร่างสูงใหญ่ของชาย 2 คนก้าวมาขวางทางตัวเองไว้ “มีอะไร” แม้จะรู้สึกกลัวแต่เธอก็พยายามที่จะไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่ดูเหมือนคนพวกนี้จะไม่ใช่คนแถวนี้เพราะเธอไม่คุ้นหน้าเลย “พอดีพวกพี่มีปัญหาเรื่องเงินกับนารีคู่ใจเวลาดื่ม น้องสาวมีไหมพี่ขอยืมหน่อยสิ” ชายคนที่กำลังพูดแบมือขอเงินจากคนตัวเล็กตรงหน้า “ไม่มีแล้วก็หลีกไปไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” พอได้ยินคำพูดของคนตรงหน้าก็ทำให้ชายที่เข้ามาขวางไว้ถึงกับหัวเราะเยาะออกมา “ฮ่า ๆ โธ่ ~ น้องสาวตัวเล็กแบบนี้จะมาเตือนอะไรพวกพี่” ชายคนนั้นไม่พูดเปล่ายังเอื้อมมือจะไปจับอีกฝ่ายด้วยแต่ไม่ทันที่จะได้จับ หญิงสาวที่พวกตัวเองกำลังดูถูกก็เบี่ยงตัวหลบก่อนจะสวนกลับด้วยหมัด ผลัวะ !! “โอ๊ยยยยยย” หมัดของหญิงสาวเข้าหน้าชายคนนั้นเต็ม ๆ ทำให้อีกฝ่ายเซถอยหลังไป 1 ก้าวด้วยความเจ็บปวด สถานการณ์ตรงหน้าทำให้ชายอีกคนพุงเข้าหาน้ำหนึ่ง แต่เธอก็ใช้ทักษะการต่อสู้ที่เรียนรู้และฝึกฝนมาอย่างหนัก หลบหลีกการโจมตีของพวกเขาได้อย่างคล่องแคล่วและสวนกลับไปในทันที “เฮ้ย !! หยุดนะโว้ย” เสียงจากด้านหลังทำให้น้ำหนึ่งเสียสมาธิ เลยหันไปมองตามเสียงเรียก แต่กลายเป็นว่าจังหวะนั้นทำให้คนที่เข้ามาหาเรื่องได้โอกาสสวนกลับต่อยเข้าที่ท้องของเธอจนล้มไปอยู่ที่พื้น ยังไม่ทันที่ชายทั้งสองจะเข้ามาจับตัวของเธอ ก็มีคนร่างสูงใหญ่โผล่เข้ามาขวางไว้ก่อนจะตะลุมบอนกันอยู่สักพัก และคนพวกนั้นก็ยอมล่าถอยไปอย่างเจ็บใจ โดยไม่ลืมเตือนน้ำหนึ่งด้วยความโกรธอีกด้วย “น้องเป็นยังไงบ้างครับ” น้ำหนึ่งมองคนที่เข้าช่วยประคองตัวเองอย่างสงสัย ผู้ชายตรงหน้าเขาหน้าตาดี… ไม่สิต้องบอกว่าหล่อมาก บอกว่าดาราเธอก็เชื่อ ใบหน้าคมสัน จมูกโด่ง คิ้วดกดำ ผิวแทนแต่ดูดีเหมือนได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ร่างสูงโปร่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม “มองพอหรือยังครับ น้องโอเคใช่ไหม” มือใหญ่ของคนที่ยืนยิ้มยื่นออกไปตรงหน้าของคนที่นั่งอยู่กับพื้น น้ำไม่ปฏิเสธที่จะยื่นมือตัวเองออกไปจับมือเขาไว้แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นด้วยความเจ็บระบมที่หน้าท้อง “ขอบคุณที่มาช่วยนะคะ” “ทำไมน้องถึงถูกคนพวกนั้นรุมทำร้ายล่ะ” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัยก่อนจะช่วยปัดดินที่ติดตามเสื้อผ้าเธอออกอย่างอ่อนโยน “ไม่รู้สิคะ เห็นพวกมันบอกอยากได้เงินกับผู้หญิงไปนั่งดื่มด้วย สงสัยจะเมายา… ยังไงก็ขอบคุณมากที่มาช่วยนะคะ” น้ำหนึ่งพูดขอโทษก่อนจะเดินปลีกตัวออกไปทันที แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่าย “เดี๋ยวก่อนน้องจะรีบไปไหน… โอ๊ยยยย !!” เสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดของคนที่เพิ่งช่วยเธอไว้ทำให้เธอหันกลับไปมองอีกฝ่ายอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ “เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” “พอดีเจ็บตรงท้องนะ คงโดนพวกนั้นต่อยไม่ทันตั้งตัว ตอนช่วยน้องเมื่อกี้” คำว่าช่วยของอีกฝ่ายที่เอ่ยออกมาทำเหมือนทำให้น้ำหนึ่งรู้ว่าตัวเองต้องรับผิดชอบคนตรงหน้า ถึงแม้เธอจะไม่ต้องการก็ตามถ้าไม่ใช่เพราะเสียงเรียกของอีกฝ่ายทำให้เธอเสียสมาธิ เธอคงไม่แพ้ผู้ชาย 2 คนไร้อาวุธแบบนั้นหรอก ถ้ามีอาวุธก็ว่าไปอีกแบบ เฮ้อ ! คงต้องดูแลสินะ “งั้นเดี๋ยวฉันพาไปหาหมอ” ดูจากหน้าตาแล้วอีกฝ่ายคงจะอายุเยอะกว่าเธอเพราะเห็นเรียกเธอน้องอย่างนั้นอย่างนี้เหมือนสนิทสนมกันมาเป็นชาติ “ไม่เป็นไรแค่ทายาแก้ฟกช้ำก็พอ ถ้าน้องไม่รังเกียจพี่ขอไปทำแผลที่บ้านได้ไหม” “เอ่อ…” ถ้าไปบ้านเธอตอนนี้ลุงกับป้าเจอมีหวังอาละวาดด่ากราดแน่ ๆ พวกท่านยิ่งไม่ชอบให้เธอพาเพื่อนเข้าบ้านอยู่ แต่ที่เขาเจ็บแบบนี้ก็เป็นเพราะมาช่วยตัวเอง จะปล่อยผ่านก็คงไม่ได้ “ไม่สะดวกใจไม่เป็นไรนะครับ” น้ำหนึ่งลังเลเล็กน้อย หน้าตาเขาก็ดูดีคงจะไม่ใช่โจรหรือคนร้าย อีกอย่างบ้านเธอก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ปล้นหรอก “ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ตามมา” เธอตัดสินใจที่จะพาอีกฝ่ายไปที่บ้าน หวังว่าคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง… “ขอบใจนะว่าแต่น้องชื่ออะไรครับ พี่ชื่อพายุนะ” “เอ่อ... ฉันชื่อน้ำหนึ่งค่ะ” “งั้นเหรอ… ท่าทางพี่จะอายุมากกว่า น้ำเรียกว่าพี่พายุก็ได้นะ” น้ำหนึ่งมองคนที่ถือวิสาสะเรียกชื่อตัวเองห้วน ๆ เธอรู้สึกไปเองหรือเปล่านะว่าอีกฝ่ายพยายามที่จะเข้ามาตีสนิทเธอ แต่คงไม่หรอก “ค่ะ คุณพายุ” พายุเดินตามหลังน้ำเงียบ ๆ แววตาที่สดใสและดูหวังดีเมื่อกี้แปรเปลี่ยนไปเป็นความเกลียดชัง เด็กคนนี้ต้องรับผลกรรมที่ตัวเองก่อไว้ถึงจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม “ที่นี่บ้านน้องน้ำเหรอ” “ใช่ค่ะ เข้ามาก่อนเถอะทำแผลเสร็จแล้วคุณจะได้กลับ” “ทำไมรีบไล่กันจัง ไม่ชอบพี่เหรอ” พายุก้าวขายาว ๆ ของตัวเองประชิดตัวทำให้น้ำหนึ่งรีบก้าวขาถอยหลังออกด้วยความตกใจ “คุณไม่ควรทำแบบนี้ค่ะ ถึงจะเป็นคนที่เข้ามาช่วยฉันแต่เราก็ไม่ได้รู้จักกัน” น้ำหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแม้ในใจตอนนี้จะเต้นแรงมาก เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เธอใจเต้นหรือเพราะเธอไม่เคยเจอผู้ชายหล่อและดูดีขนาดนี้มาก่อน “พี่ขอโทษที่เสียมารยาท อย่ากลัวพี่เลยนะครับ” น้ำเสียงและรอยยิ้มที่อ่อนโยนอีกทั้งใบหน้าของพายุทำให้น้ำหนึ่งถึงกับต้องถอนหายใจยาว ๆ วันนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยจนไม่อยากคิดเรื่องอะไรอีกแล้ว “เข้ามาก่อนเถอะค่ะ” พอเดินเข้ามาด้านในของตัวบ้านก็ไม่เห็นใครอยู่ สงสัยลุงกับป้าคงจะไปตามหาลูกสาวสุดที่รักแน่ ๆ ดีเลยจะได้ไม่ต้องมีปัญหา “เจ็บตรงไหนบ้างคะ ?” หลังจากที่เธอถามอีกฝ่ายก็พยายามที่จะชี้บอกจุดเจ็บตัว “ตรงนี้… แล้วก็…” “เดี๋ยว !! นั่นคุณจะทำอะไร” มือของน้ำหนึ่งรีบคว้ามือหนาของพายุที่กำลังจะปลดกระดุมเสื้อไว้อย่างตกใจ “พี่แค่จะให้ดูแผลข้างในมีอะไรแปลกหรือเปล่า” พายุมองน้ำอย่างขำขัน เขาทำแค่นี้คนตรงหน้าก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทำอย่างกับผู้หญิงไม่เคยผ่านมือชาย ทั้งที่ประวัติออกจะโชกโชนขนาดนั้น “ปะ… เปล่าไม่มีอะไรแปลกหรอก” บ้าจริงยัยน้ำหนึ่งทำเป็นผู้หญิงอินโนเซนส์ไปได้ ยิ่งกว่าถอดเสื้อแกก็เคยเห็นมาแล้ว… พรึ่บ !! แต่ถึงจะคิดแบบนั้นพอเห็นอีกฝ่ายถอดเสื้อจริงเธอก็อดใจเต้นไม่ได้ ก็ดูหุ่นของเขาบวกกับหน้าตาใครมันจะไปอดไม่ให้ใจเต้นได้ล่ะ “ตรงนี้ของพี่มันเจ็บน่ะ” พายุชี้ไปที่แผ่นอกข้างขวาของตัวเอง น้ำหนึ่งมองแผ่นอกกว้างที่มีรอยสักรูปมังกร 9 เล็บไว้ นอกจากที่คอสักรูปปีกนกแล้วยังสักตรงหน้าอกด้วยเหรอ เธอมองอย่างแปลกใจ แม้ตอนนี้ใบหน้าของเขาจะยิ้มแย้มแต่ในใจกลับคิดว่าการทำให้คนตรงหน้าเจ็บปวดและทรมานแบบที่เขาสูญเสียคนที่รักมันคงสนุกกว่าการฆ่าให้ตายเลย “ตรงนี้เหรอคะ” นิ้วเรียวสวยแต่หยาบกร้านของน้ำหนึ่งที่บีบยาแก้ฟกช้ำเอาไว้แตะลงบนแผ่นอกกว้างตรงรอยสักเบา ๆ เพราะแต่ก่อนเธอเคยต่อยมวยหาเงินบวกกับโดนลุงกับป้าตบตีบ่อย ๆ เลยมียาพวกนี้ติดห้องไว้ “มือเบาจัง” เสียงที่ดังอยู่ใกล้หูมากกว่าปกติทำให้น้ำหนึ่งที่กำลังก้มหน้าก้มตาทายาอย่างตั้งใจเงยหน้าขึ้นมอง เป็นจังหวะเดียวกับปลายจมูกของเธอชนกับปลายจมูกของคนที่ก้มลงมา นัยน์ตาดำสนิทที่จ้องมองมาทำให้เธอรู้สึกใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดมาก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD