ผู้ชายที่เกลียดที่สุดในโลก (2)

1076 Words
ไม่ใช่คนเดียวกัน แค่หน้าตาคล้ายกันก็เท่านั้น... พวงชมพูเท้ามือกับขอบอ่างในห้องน้ำภายหลังแยกจากเจ้านายคนใหม่ ไม่รู้เพราะความเงียบของบรรยากาศหรือหัวใจของเธอเต้นดังผิดปกติ พวงชมพูจึงได้ยินเสียงตึกตักชัดเจน มือบางกุมตำแหน่งตรงอกซ้ายขณะเงยมองสารรูปตัวเองในกระจกเงา หากไม่ได้สีลิปสติกช่วยเธอคงดูป่วยเหมือนคนเป็นโรค หัสวีร์ เขมนันทร์ ช่างคล้ายคลึงกับคนในอดีตของพวงชมพูราวกับคนเดียวกัน เหมือนกันแทบทุกอย่างไม่ว่าจะโครงหน้าหรือแววตา ยกเว้นรูปร่างที่สูงกว่าเดิม เรือนกายหนาขึ้นด้วยมัดกล้าม เวลาเพียงหกปีไม่ได้ทำให้พวงชมพูลืมได้อย่างหมดใจ เธอยังจำเขาได้ แต่ความรู้สึกทั้งหมดมันเปลี่ยนไป... จากขาวกลายเป็นดำ จากรักกลายเป็นเกลียด ธาม ธนนท์คือคนที่พวงชมพูเกลียดที่สุดในโลก ในเมื่อเวลายุ่งเหยิงตลอดหกปีที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้ลืมเลือน ดังนั้นเมื่อลืมยากนักเธอเลยใส่ความเกลียดลงไปจนเต็มหลุม มองหน้าลูกทีไรก็อดนึกถึงเขาไม่ได้ พวงชมพูเฝ้าภาวนาว่าขอให้ชาตินี้และชาติไหนๆ อย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย “ไม่มีทางเป็นคนเดียวกัน ไม่มีทาง” เขาชื่อหัสวีร์ เขมนันทร์ ชื่อเล่นวีร์ ในประวัติส่วนตัวบอกว่าสำเร็จการศึกษาทั้งปริญญาตรีและโทจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่นายธามเขาเรียนที่สหรัฐอเมริกา แต่เดี๋ยวนะ? ข้อมูลที่พวงชมพูได้รับเป็นของเด่นภูมินี่...ไม่สิๆ ตอนเขาแนะนำตัวในห้องประชุมก็พูดว่าจบจากสวิตเซอร์แลนด์ หรือธามคนนั้นหลอกเธอว่าเรียนอยู่ที่อเมริกา? เผลอๆ อาจหลอกหมดทุกอย่างทั้งชีวิตส่วนตัวและชื่อเสียงเรียงนาม หึ! ช่างสิ จะโกหกอะไรไว้ก็ถือเป็นเรื่องในอดีตหมดแล้ว เธอไม่รู้สึกเจ็บอะไรอีกแล้ว และถ้าสมมติว่าหัสวีร์คือคนเดียวกับธนนท์จริง เช่นนั้นเขาก็ควรค่าแก่ความเกลียดชังที่พวงชมพูมอบให้มาตลอดหลายปี เธอในวันนี้กับเมื่อหกปีก่อนไม่ได้ต่างกันนักเลย โครงหน้าเหมือนเดิมทุกประการ แม้แต่น้ำหนักส่วนสูงก็เท่าเดิม หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรอย่างไรก็อย่างนั้น เวลาเพียงหกปีไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมากเลย แม้แต่ชื่อ ‘พวงชมพู’ ที่เคยบอกว่าชอบก็ไม่สะกิดใจเขาเลยสักนิด หากสมมติว่าหัสวีร์คือคนเดียวกับธนนท์ แต่กลับจำเธอไม่ได้สักนิด ถ้าอย่างนั้นก็รับเอาความเกลียดเพิ่มไปอีกหนึ่งร้อยคะแนน! จริงสินะ เป็นแฟนกันเพียงสองอาทิตย์ เวลาไม่ถึงเดือนจะไปมีความหมายอะไร อย่าว่าแต่หน้าตาเลย แค่ชื่อเขาจะจำได้หรือเปล่าเถอะ “หยุดคิดวุ่นวายได้แล้วชมพู เขาไม่ใช่คนเดียวกัน!” พวงชมพูฮึ่มฮั่มสะบัดหัว พลางใช้น้ำเย็นแตะหน้าตาตัวเองให้หยุดงุ่นง่าน เลขาฯ สาวหมุนข้อมือดูเวลาและพบว่ายังไม่หมดเวลาทำงาน ทว่าจิตใจกลับไม่หลงเหลือเศษเสี้ยวอยู่ตรงนี้เลย อีกอย่างงานของเธอก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว นับตั้งแต่ผู้จัดการคนเก่าพ้นตำแหน่งไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนพวงชมพูก็ไม่ค่อยมีงานให้ยุ่งมากนัก ตั้งแต่เข้าสู่วัยทำงานเธอเป็นคนที่รับผิดชอบต่อหน้าที่เสมอ แม้มีลูกเล็กแต่ไม่เคยเข้างานสายสักครั้ง ทว่าวันนี้ขอออกนอกลู่นอกทางสักหนึ่งวัน ไหนๆ เจ้านายคนใหม่ก็ไม่มีแพลนเริ่มงานวันนี้แล้ว พวงชมพูออกไปจากห้องน้ำแล้วตรงดิ่งไปยังห้องทำงาน ปิดการทำงานของคอมพิวเตอร์ กวาดตามองความเรียบร้อยบนโต๊ะและรอบกายจากนั้นจึงคว้ากระเป๋าออกไป พวงชมพูสแกนนิ้วออกไปจากออฟฟิศ หากจะกลับบ้านเวลานี้ก็คงไม่มีใครว่างมารับ คงต้องขึ้นรถสองแถวหรือที่ชาวเชียงใหม่เรียกกันว่า ‘รถแดง’ กลับบ้าน ซึ่งปกติมักเป็นพ่อหรือพี่ชายที่ขับรถมารับส่งทุกเช้าเย็น โดยที่ตั้งของโรงแรมเดอะเฮสเปอร์อยู่ห่างจากบ้านของเธอราวห้ากิโลเมตร พวงชมพูจึงเดินเลาะไปตามฟุตบาทพร้อมปลายทางที่อยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมา ไม่รู้ว่านึกครึ้มอกครึ้มใจอะไร หรือเครียดจนทนไม่ไหวเธอเลยเกิดอยากเข้าร้านเสริมสวยขึ้นมา พวงชมพูยืนมองร้านซาลอนในตรอกเล็ก ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่ทำงานมากนัก นานเหลือเกินที่ไม่ได้เข้าร้านทำผม ก็คงตั้งแต่มีลูกเลยด้วยซ้ำ เรือนผมสีธรรมชาติคงเดิมเช่นนี้มาหลายปี หากยาวเกะกะมากไปก็อาศัยฝีมือช่างสมัครเล่นอย่างคุณยายสายน้ำผึ้ง พวงชมพูไม่คิดนานตัดสินใจได้ก็ผลักประตูเข้าไปในร้านที่กำลังปลอดลูกค้า “สวัสดีเจ้า วันนี้ทำหยังดีจ๊ะคนสวย” เจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวประเภทสองเอ่ยต้อนรับเสียงแจ๋ว “อยากดัดลอนดิจิตอลค่ะ แล้วก็ทำสีผมด้วยค่ะ” “ได้เลยค่ะ เชิญนั่งก่อนเลย” พวงชมพูกำลังจะวางกระเป๋าไว้ที่โซฟา แต่มีเหตุให้หันกลับไปสนใจอีกครั้งจากโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากแอปพลิเคชั่นไลน์ และภาพที่โชว์หราอยู่นั้นก็ทำเธอกัดริมฝีปากอย่างแอบกังวล “สวัสดีค่ะ” “คุณเลขาฯ พอดีผมอยากให้คุณพาทัวร์โรงแรมหน่อยน่ะครับ” “ตอนนี้เลยเหรอคะ” “ก็ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วผมจะโทร.หาทำไมครับ” “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันออกจากออฟฟิศแล้ว” “ไหนว่าเลิกงานห้าโมง” “พอดีนึกได้ว่ามีธุระต้องทำค่ะ” “งั้นถ้าคุณกลับแล้วก็ไม่เป็นไร ไว้พรุ่งนี้ก็ได้” “ค่ะ สวัสดีค่ะ” พวงชมพูไม่เคยเย็นชากับใคร...อาจมีบ้างที่โดนกริยาไร้มารยาทจากเธอ อย่างน้อยก็กระถินคนหนึ่งล่ะที่โดนพวงชมพูปฏิบัติใส่ราวกับสัมภเวสีเร่ร่อน วันแรกของการเป็นเลขาฯ ของหัสวีร์ เธอก็ทำผิดพลาดไม่มีอะไรให้เขาประทับใจตั้งแต่เข้าใจว่าเด่นภูมิคือผู้จัดการคนใหม่ รวมถึง ณ ขณะนี้ที่หนีงานก่อนเวลา ทั้งยังชิงวางสายอย่างเย็นชา ไหนจะน้ำเสียงที่แข็งขืนไปตามอารมณ์ สาธุ ขอให้พรุ่งนี้เขาปลดเธอจากตำแหน่งเลขาฯ ด้วยเถอะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD